[SR] Low Carbon Holiday 2015 ตะลุย 5 เกาะทะเลตราด กูด หมาก ขาม หวาย ช้าง เที่ยวไปอย่างหัวใจสีเขียว



เที่ยวไปแบบหัวใจสีเขียว เที่ยวแบบรักษ์โลก เที่ยวแบบ Low Carbon Holiday

ตะลุย 5 เกาะทะเลตราด

ยิงลูกไม้ ปล่อยปู ปลา เต่า กลับลงทะเล แถมปลูกปะการัง งานนี้เที่ยวจนหัวใจอิ่มเอิ่บ

อพท. หรือองค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (องค์การมหาชน) ได้สร้างสรรค์การท่องเที่ยวรูปแบบใหม่ ไปแบบโลวคาร์บอน เพื่อสร้างประสบการณ์ท่องเที่ยวที่นักท่องเที่ยวจะได้เที่ยวท่องไปแบบมีส่วนร่วม เที่ยวแบบช่วยกันลดการปลดปล่อยคาร์บอนให้น้อยลงเมื่อเทียบกับการท่องเที่ยวแบบปกติ โดยยังคงความสะดวกสบายและได้รับความสุขจากการท่องเที่ยว

มาท่องเที่ยวเท่ๆ แบบ Low Carbon กันดีกว่า

เมื่อวันที่ 13-15 พย. ที่ผ่านมา อพท. จัดกิจกรรม Low Carbon Holiday พานักท่องเที่ยวหลายสิบชีวิตมาเปิดประสบการณ์ใหม่ และผมนายน้ำฟ้าก็ได้มีโอกาสรับเชิญร่วมสังเกตการและนำมาบอกเล่า

เส้นทางสุดชิล แพ็คเกจนี้ขายประมาณ 5-6 พันบาทต่อคน พาเที่ยวทะเลตราดถึง 5 เกาะ มีเกาะกูด เกาะหมาก เกาะขาม เกาะหวาย เกาะช้าง ผูกเป็นเส้นทางกิจกรรมคร่าวๆ ดังนี้

ออกเดินทางจากกทม. สู่ แหลมศอกจังหวัดตราด นั่งเรือเฟอร์รี่ขนาดใหญ่ไปทำกิจกรรมรักษ์ธรรมชาติบนเกาะกูด ค้างคืนแบบ slow life บนเกาะหมาก ปล่อยเต่าบนเกาะขาม ร่วมปลูกปะการังบนเกาะหวาย ข้ามไปเกาะช้างทำ workshop Spa แล้วไปปาร์ตี้ชายหาด กลับเข้าฝั่งชมเกษตรอินทรีย์@บ้านปูรีสอร์ท และกลับกทม.กันด้วยความอิ่มเอมใจ


มามากัน ตื่นก่อนไก่โห่ ทิ้งรถส่วนตัวไว้กับบ้าน มาใช้รถคันเดียวกัน ด้วยการร่วมเดินทางไปคันเดียวกัน เพียงแค่เริ่มก็มีส่วนช่วยลดโลกร้อนแล้ว นี่คือหลักการว่าทำอย่างไรในยุคนี้ที่ผู้คนนิยมเดินทางท่องเที่ยวกันมากกว่ายุคไหนๆ จะไม่กลายเป็นปัจจัยซ้ำเติมที่เพิ่มคาร์บอนไดอ๊อกไซด์ไปในอากาศ

การเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัว 1.6CC จากนักท่องเที่ยว 100 คน คิดเป็น 70 คัน ระยะทาง 315 กม. ไป-กลับ (70x315x2) = 44,100 กม. เทียบกับการเดินทางโดยรถบัสจำนวน 2 คัน (2x315x2) = 1,260 กม. ลดการปลดปล่อยก๊าซคาร์บอนไปได้ถึง 81.6%


มามากัน ตื่นก่อนไก่โห่ ทิ้งรถส่วนตัวไว้กับบ้าน มาใช้รถคันเดียวกัน ด้วยการร่วมเดินทางไปคันเดียวกัน เพียงแค่เริ่มก็มีส่วนช่วยลดโลกร้อนแล้ว นี่คือหลักการว่าทำอย่างไรในยุคนี้ที่ผู้คนนิยมเดินทางท่องเที่ยวกันมากกว่ายุคไหนๆ จะไม่กลายเป็นปัจจัยซ้ำเติมที่เพิ่มคาร์บอนไดอ๊อกไซด์ไปในอากาศ

การเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัว 1.6CC จากนักท่องเที่ยว 100 คน คิดเป็น 70 คัน ระยะทาง 315 กม. ไป-กลับ (70x315x2) = 44,100 กม. เทียบกับการเดินทางโดยรถบัสจำนวน 2 คัน (2x315x2) = 1,260 กม. ลดการปลดปล่อยก๊าซคาร์บอนไปได้ถึง 81.6%


แจกอาหารกล่องเป็นมื้อเช้ากินกันในรถ เสริฟมาในภาชนะที่ผลิตจากเยื่อพืชและสีธรรมชาติ Natural plant fiber & colour


สายๆ เราก็มาถึงท่าเทียบเรือแหลมศอก เรือสุดยอดมาก สองชั้น มีทั้งโซน Open air และ ห้องโดยสารติด Airconditioner ใช้เวลาเดินทางมุ่งหน้าทิศใต้ เฉียงไปที่เจ็ดนาฬิกา ระยะทาง 45 กิโลเมตรสู่ท่าเทียบเรืออ่าวพร้าวบนเกาะกูด ใช้เวลาอยู่บนเรือหนึ่งชั่วโมงครึ่ง

ลั่ลล้าท้าแดดบนดาดฟ้าเรือหน่อย ทริปนี้ได้น้องโมมาเป็นอาสาเพื่อนร่วมทริปและเป็นแบบให้ถ่ายภาพครับ


ยิงลูกไม้ @ เกาะกูด

แหม่ อยากจะกรี๊ดให้ลั่นฟ้า น้ำทะเลที่เห็นสวยมากกก เรือเราเข้าเทียบเกาะกูดที่ท่าเรือน้ำลึกอ่าวพร้าว ผมงี้เพิ่งเคยมาเกาะกูดครั้งแรก ก็ตื่นเต้นสิครับเมื่อเจอน้ำทะเลและชายหาดที่สวยแบบนี้ นี่ขนาดแค่ท่าเทียบเรือ!


สองแถวแท็กซี่ประจำเกาะกูดมารอรับขบวนนักท่องเที่ยวหัวใจสีเขียว แยกเป็น 3 สาย แยกกันทานมื้อเที่ยง และแยกกันทำกิจกรรมตามความชอบ มีให้เลือก 3 กิจกรรม คือ ไปปล่อยปู ปล่อยปลา และไปยิงลูกไม้ปลูกป่า ผมเลือกยิงลูกไม้ เพราะว่าอยากจะเห็นน้ำตกคลองเจ้าด้วย ทริปนี้จะได้ไม่มีแต่ภาพทะเล


แต่ละกลุ่มแยกไปนั่งกินกันคนละร้าน แบบนี้ก็ดีนะ จะได้โปร่งๆ ตาหน่อย สำหรับทีมปลูกป่ากลุ่มเราได้ที่นั่งร้านนี้ครับ

Mangrove Bungalow แมงโกรฟ บังกะโล

N11° 38.024' E102° 32.946'

เป็นร้านอาหารและที่พักริมคลองเจ้า ปลายน้ำของน้ำตกคลองเจ้าล่ะ กินเสร็จแล้วค่อยย้อนน้ำขึ้นไปปลูกป่า บรรยากาศเย็นตามากกับสายน้ำสีเขียวของคลองเจ้า


มื้ออาหารสไตล์โลว์คาร์บอนครับ คือพึ่งพาวัตถุดิบจากท้องถิ่นให้มากที่สุด ลดการนำเข้าจากฝั่งให้มากที่สุด เพราะการขนส่งย่อมเพิ่มคาร์บอน  //อร่อยจนจับภาพแทบไม่ทัน

การรับประทานอาหารเมนู Low Carbon จำนวน 2 มื้อ และเมนูอาหารทั่วไป จำนวน 4 มื้อ จากนักท่องเที่ยว 100 คน เทียบกับเมนู Low Carbon จำนวน 6 มื้อ ลดการปลดปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซค์ ไปได้ถึง 16.7%



ยิงลูกไม้ปลูกป่า ที่น้ำตกคลองเจ้า

ถ่ายภาพเป็นที่ระลึกก่อนเริ่มเดินเทรลสั้นๆ เข้าไปน้ำตกคลองเจ้าเพื่อชื่นชมความงามของน้ำตกและทำกิจกรรมยิงลูกไม้เข้าป่า

มือปืนหนังสติ๊กพร้อมแล้ว ได้รับแจกหนังสติ๊กกันคนละด้าม



น้ำตกคลองเจ้า

N11° 38.827' E102° 33.382'

ความงามของน้ำตกคลองเจ้า กับกิจกรรมโลดโผนโหนเชือกม้วนตัวตีลังกาลงน้ำ

ได้เวลายิงลูกไม้ปลูกป่า วิธีนี้ลูกไม้ที่ถูกยิงไปจะตกกระจัดกระจายกันสะเปะสะปะในป่าแบบไร้ทิศทาง เติบโตขึ้นอย่างหลากหลายไม่ต้องเป็นระเบียบ ไม่ต้องกลายเป็นป่าปลูกที่ต้นไม้เรียงกันจนไม่เหมือนป่า สำหรับเมล็ดพันธุ์ที่เราส่งลอยอากาศเข้าไปตกในป่าคือเมล็ดพันธุ์ลูกสำรอง



ถ่ายภาพนางแบบกับสายน้ำตกคลองเจ้าหน่อย

ตากล้องขอมีรูปกับเค้ามั่ง แต่ใครจะถ่ายให้เราเนี่ย! ว่าแล้วก็ก้มหน้าถ่ายเท้าตัวเองเนี่ยแหละ 555 ให้รู้ว่านายน้ำฟ้ามาเหยียบสายน้ำคลองเจ้าแห่งเกาะกูดละ



สโลว์ไลฟ์ @ เกาะหมาก

เป็นครั้งแรกที่ผมได้มาเกาะกูด เค้าว่าเกาะกูดน้ำทะเลสวย หาดสวย แต่สำหรับผมคงต้องรอครั้งต่อๆไป ครั้งนี้ชมน้ำทะเลแถวท่าเรือกันไปก่อน และก็ได้เวลาเดินทางสู่เกาะที่สอง นั่นคือเกาะหมาก

มาเกาะหมากเหมือนมาบ้านอีกหลัง เคยมาครั้งหนึ่งเมื่อสองสามเดือนที่แล้ว ครั้งนี้ได้กลับมาอีกรู้สึกดีใจมั่กๆ ภาพคุ้นตาเริ่ม recall กลับมาทันที



แบ่งนักท่องเที่ยวกระจายเป็น 3 กลุ่มเช่นเดิม แยกพัก 3 ที่ กลุ่มนึงไปพักเกาะหมากรีสอร์ท อีกกลุ่มพักชินนาม่อน เสียดายผมไม่ได้พักชินนาม่อน เพราะหนที่แล้วไปพักที่นั่นยังติดใจสะพานยาวๆ กับเรืออับปางอยู่เลย แต่มาคราวนี้ก็ได้พักที่ใหม่ เก็บสกอร์ไป ที่นี่ครับ มากะธานี รีสอร์ท วิวก็สวยไปอีกแบบนะครับ หน้าหาดได้ชมเกาะระยั้งใน เกาะกระยั้งนอก ถ้ามาถูกวันเวลา เช้าๆ น้ำลงล่ะก็หน้าเกาะระยั้งในจะกลายเป็นทะเลแหวก สันดอนทรายโผล่มาจรดฝั่งให้ได้เดินข้ามกันไปเลย ที่เกาะหมากถือเป็นต้นแบบการพัฒนา Low Carbon Destination ของอพท.  เป็นเกาะเล็กๆ ที่ไม่ถูกตามใจ Unspoiled Island ไม่มีร้านสะดวกซื้อ ไม่มีสกู๊ตเตอร์ ไม่มีช้อปปิ้งมอลล์ มีแต่ร้านรวงเล็กๆ ที่คุณจะได้รับเงินทอนไปพร้อมกับรอยยิ้มแถมท้ายเสมอ

กิจกรรมพายคายัคหน้าหาด


วิวหน้าหาดที่มากะธานี ทิวมะพร้าวเยอะ หน้าหาดมีทั้งชายหาด โขดหิน และวิวเกาะ มองเห็นทั้งระยั้งใน ระยั้งนอก และมองไกลไปถึงหมู่เกาะรัง

แถ่นแท้น ใช่ใครที่ไหน เราได้พบกันอีกแล้ว กับมิตรภาพที่เกิดขึ้นคราวมาเกาะหมากครั้งแรก ในครั้งนั้นได้คุณสุ มักคุเทศก์แห่งเกาะหมากคนนี้ มาอาสาพาเที่ยวจนหลงเสน่ห์ความเป็นเกาะหมาก มาครั้งนี้เมื่อเธอได้ข่าวว่าผมกลับมาเยือน ก็ตามมาเซอร์ไพร๊ เยี่ยมเยือนทักทาย ดีใจๆ



วิวยามเช้าหน้าหาด มากะธานี สวยมั้ยครับ หมู่เกาะทะเลตราดเริ่มเข้าสู่ high season แล้ว ฟ้าสวยทะเลใส มองไปทางไหนยามนี้ช่างสวยสบายตาไปหมด


ยุคนี้ต้องมีพร๊อพ ว่ามะ


เช้านี้กิจกรรมบนเกาะหมากคือนั่งรถรางพาชมแปลงผักปลอดสาร นาข้าวบนเกาะสำหรับชาวนักท่องเที่ยวหัวใจสีเขียวทั้งหลายได้สัมผัสแหล่งวัตถุดิบพื้นถิ่น ที่เป็นกระบวนการสำคัญที่ช่วยลดมลพิษ ลดคาร์บอน

ผมถ่ายให้แลดูเป็นรถรางซิ่งไปงั้นเองครับ แฮะๆ จริงๆ แล้วรถรางเค้าไปอย่างสโลว์มาก



แปลงผักปลอดสารของเกาะหมากรีสอร์ท ที่ดำเนินงานโดย คุณจักรพรรดิ ตะเวทีกุล  ที่นี้มีแมงมุมพันธุ์พิเศษคอยกำจัดแมลงศัตรูพืชที่หลุดรอดเข้ามาจ้องทำลายผักในมุ้งด้วย


จากนั้นนักท่องเที่ยวที่กระจัดกระจายกันอยู่คนละรีสอร์ทก็มารวมตัวกันอีกครั้งที่นี่ เกาะหมากรีสอร์ท เพื่อทำกิจกรรมยังเกาะอื่นต่อไปพร้อมอำลาเกาะหมาก


ที่หน้าหาด เกาะหมากรีสอร์ท วิวสวยมาก ทิวมะพร้าวสูงชะลูดทิ้งตัวโค้งๆ ที่เห็นกันแทบทุกหาดบนเกาะหมากก็ไม่เว้นที่หาดนี้เช่นกัน แถมมีชิงช้าโรแมนติกให้นั่งเล่นด้วย ถ่ายภาพโล้ชิงช้าเล่นซะหน่อย

และมีกิจกรรมพายคายัคเช่นกัน





เอาล่ะครับ ได้เวลาอำลาเกาะหมาก สู่เกาะต่อไป เกาะขาม กับกิจกรรม ปล่อยเต่าทะเล ลงสู่ท้องทะเลกว้าง
ชื่อสินค้า:   Low Carbon Destination by อพท.
คะแนน:     
**SR - Sponsored Review : ผู้เขียนรีวิวนี้ไม่ได้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง แต่มีผู้สนับสนุนสินค้าหรือบริการนี้ให้แก่ผู้เขียนรีวิว โดยที่ผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนอื่นใดในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่