.
.

ออกตัวไว้ก่อนว่า .. ปกติถ้าเป็นเรื่อง นาฬิกา ผมจะวนเวียนและหาข้อมูลจากบอร์ด Siamnaliga เป็นหลัก
แต่ไหนๆ ก็ทำรีวิวขึ้นมาทั้งทีแล้ว ก็เลยอยากแชร์ข้อมูลกับเพื่อนๆ สมาชิกใน pantip ด้วยครับ เผื่อจะเป็นข้อมูลที่เป็นประโยชน์
สำหรับผู้ที่สนใจ นาฬิการุ่นนี้อยู่บ้าง  ^^

สำหรับ Seiko Sumo นั้นถือเป็น นาฬืกาของ Seiko อีกรุ่นนึง ที่ค่อนข้างเป็นที่นิยมสำหรับคนชอบนาฬิกา
และด้วยความที่เป็นที่นิยมนี้เอง ทำให้ผมได้เห็นภาพถ่าย ของเจ้า Sumo รุ่นนี้ บ่อยๆ ในบอร์ดสยามนาฬิกา
แต่ขอสารภาพว่า ผมกลับรู้สึก เฉยๆ มาตลอด ..

จนกระทั่งวันนึง ได้มีโอกาสไปเห็นตัวจริง ผมกลับหยุดมองนานมาก แล้วก็รู้สึกว่ามันดึงดูดอย่างบอกไม่ถูก ตามความรู้สึกของผม
Sumo เป็นนาฬิกาที่ออกแบบหน้าตา ออกมาแล้ว รู้สึกถึงความเป็นญี่ปุ่นมาก มันมีอะไรบางอย่างที่ดูแล้วรู้สึกแบบนั้น
มันดูลงตัว ในตัวของมันเอง ไม่มากไป น้อยไป อาจจะไม่ถึงกับหล่อเลิศเมื่อเทียบกับรุ่นพี่อย่าง MM300
แต่ก็ให้ความรู้สึก ดูดี ดูหล่อ ๆ แบบกำลังพอดี

สำหรับราคาในบ้านเรา ราคาอย่างเป็นทางการตามห้างทั่วไป  ( เครือ Central,The Mall ) ราคาตั้งอยู่ที่  24,000  บาท
แต่ราคาขายจริงๆ จะแตกต่างกันไปตาม ส่วนลด หรือ แหล่งที่ซื้อ  
ซึ่งแน่นอนว่า ที่ญี่ปุ่น รุ่นนี้ราคาค่อนข้างดี (คือถูกกว่าบ้านเราพอสมควร)

พอมีโอกาสเหมาะๆ ได้เดินทางไปญี่ปุ่น เมื่อเดือนที่แล้ว ด้วยความชอบ + กับราคาที่ดีกว่าบ้านเรา ผมก็เลยสอยกลับมาทันทีครับ
ได้มาจากร้าน biccamera ที่ ชินจูกุ

เกริ่นมาซะเยอะ ... เข้าเรื่องกันเลยดีกว่า

วันนี้จะมาแกะกล่อง Seiko Sumo หน้าน้ำเงิน กันครับ หรือชื่ออย่างเป็นทางการคือ

Seiko Prospex Scuba SBDC003





รุ่นนี้ เริ่มผลิตมาตั้งแต่ปี 2007 แล้วก็ได้รับความนิยม มายาวนานเลยทีเดียว
สมัยก่อนกล่องจะเป็นสีเหลืองครับ แต่ถ้าใครซื้อช่วงหลังๆ มานี้ น่าจะได้กล่องสีดำแบบนี้เหมือนกันหมด

Spec คร่าวๆ .. จาก หลังคู่มือครับ

Cal. : 6R15
Function : 3 Hands : Time display (Hour, minute and second), date display
Vibrations per hour : 21,600
Loss/gain (daily rate) : +25 -15 seconds at normal temperature range (5c - 35c)
Jewels : 23 jewels
Duration : Approx. 50 hour

นอกนั้น ขอเน้น รีวิว ด้วยภาพนะครับ ^^


จากการใช้งานที่ผ่านๆ มา .. สำรองพลังงานได้จริง ประมาณ 56 ชม. ครับ ส่วนความเที่ยงตรง
ของกลไก 6R15  ถือว่าดีเลยทีเดียวครับ
ถ้าขึ้นลานเต็ม แล้ววางทิ้งไว้เฉยๆ อยู่ที่ประมาณ +10 วินาทีต่อวัน
แต่ถ้าวันไหนใส่ขึ้นข้อด้วย สัก 5 ชั่วโมงขึ้นไป จะเที่ยงตรงกว่านี้ึครับ ประมาณ +5 (ไม่เกินนี้)


ได้มาถึงก็ตัดสายก่อนเลยครับ ..





เทียบกับ Monster ส่วนตัวผมว่า Sumo ดูผู้ใหญ่ ดูหล่อเนี๊ยบว่า Monster ในขณะที่เจ้า Monster จะดูวัยรุ่นกว่า ดูลุยๆ เซอร์ๆ กว่าหน่อย





สำหรับ สีน้ำเงินของ Sumo จะมีมิติที่เปลี่ยนไป ตามแสงสว่างครับ
ถ้าโดนแดดจ้าๆ จะสีออกน้ำเงินสดๆ หน่อย แต่ถ้าอยู่ในที่ร่ม จะออกน้ำเงินเข้มๆ ไปทางกรมท่า
หรือบางมุม ถ้าอยู่ในที่แสงน้อยๆหน่อย ก็จะเข้มจนดูผ่านๆ เหมือนสีดำเลยก็มีครับ

สำหรับรูปของผม ผ่านการ process ตามความชอบส่วนตัว .. บางรูปสีอาจจะออกเข้มๆ กว่าความเป็นจริงไปสักนิดครับ








เม็ดมะยม สลักตัว S  สำหรับงานโดยรวม ผมค่อนข้างประทับใจนะครับ เมื่อเทียบกับช่วงราคาประมาณนี้
ผิวขัดด้าน สลับเงา ทำให้ดูมีมิติ และสวยมาก แต่ตอนเลือกซื้อ ต้องดูดีๆ หน่อยครับ บางเรือน อาจจะเหลี่ยมมุม 2 ด้าน ไม่เท่ากันเท่าไหร่





งานขัดสาย




Bezel ขอบฟิล์ม ต้องระวังรอยกันนิดนึง





ฝาหลังครับ ..





.
.







ขอปิดด้วยภาพพรายน้ำนะครับ ... สำหรับเรื่องความสว่าง ด้วยความรู้สึก ผมให้เท่าๆ กันกับ Monster (Fang) ครับ

.
.





.
.


สำหรับเป้าหมายต่อไปของผม คงเป็น  Longines Hydroconquest  ครับ  ขอเก็บตังค์สักพักก่อน
ถ้าได้มาแล้ว คงมีโอกาสได้มา รีวิวกันอีกสักที

ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมชมครับผม

^^


.
.
.