สองแมวเมี๋ยว (แมวผู้น่าสงสาร)

กระทู้สนทนา
สองแมวเมี๋ยว (แมวผู้น่าสงสาร)
ทักษภณ

    เมี้ยวววๆๆ
เสียงแมวร้อง ถี่ๆ ค่อนข้างดัง ในตอนสายของวันหนึ่ง มันร้องนานพอสมควรจนกระทั่งเจ้าของบ้านทนไม่ไหว
“ลูกลงไปดูหน่อยแมวตัวไหนมันร้องที่ไหน”

เจ้าของบ้านผู้เป็นแม่บอกลูกชายให้ไปดูหลังจากได้ยินเสียงร้องของแมว ซึ่งบ้านหลังนี้มีแมวอยู่หลายตัว
“ไอ้สองครับแม่”

ลูกชายตะโกนขึ้นไปบนบ้าน หลังจากพบแมวตัวที่ส่งเสียงร้องอยู่ที่เชิงบันได ไอ้สองเป็นชื่อของแมวลายเหลืองขาวตัวผู้อายุประมาณ 1 ปี ขณะนี้มันยืนด้วยสองขาหน้า ส่วนสองขาหลังหันพับไปทางด้านซ้ายขนานไปกับพื้นแนบไปกับพื้นปูนซีเมนต์ ในลักษณะไม่สามารถทรงตัวด้วยขาหลังได้   

ไอ้สองเป็นแมวหนึ่งในหลายตัวที่มีอยู่ในบ้านหลังนี้ บ้านหลังนี้อยู่ห่างจากบ้านหลังอื่นๆ ตามลักษณะบ้านในชนบทแถบนี้บ้านบางหลังจะปลูกอยู่ห่างจากหลังอื่น
“เมี้ยววววๆๆ”

เสียงไอ้สองยังร้องดังถี่ๆ ไม่หยุด ตาทั้งสองของมันยังมีน้ำตาไหลออกมา บางส่วนแห้งกรังติดที่ขอบตาด้านล่างเป็นทางยาว เมื่อลองจับมันยกนิดเดียว ในขณะที่ตัวมันยังไม่พ้นจากพื้น มันส่งเสียงร้องดังกว่าเดิม ขาหลังอยู่ในสภาพควบคุมไม่ได้ดูเหมือนว่าหลังมันหัก หรือไม่ก็ขาหัก

“ไอ้สองหลังมันน่าจะหักหรือไม่ก็ขาหลังหักครับแม่”
“เป็นอะไรถึงได้หัก”
เป็นคำถามกึ่งบ่นตามความเคยชิน ของผู้ถามดังมาจากในบ้าน คนถูกถามก็ไม่รู้จะตอบอย่างไรเช่นกัน

“ไม่รู้เหมือนกัน แม่ลงมาดูหน่อยมันร้องน่าสงสาร สงสัยคงเจ็บ ดูซิมันร้องไห้จนตาแฉะเลย”
ผู้เป็นแม่มาถึงก็นั่งลงที่บันไดขั้นสุดท้ายซึ่งติดกับแมวที่นอนอยู่ เริ่มดูอาการของแมว
“ไหน ดูซิเป็นยังไงมั่ง”

หลังจากตรวจดูด้วยสายตา รวมกับการคลำดูจุดที่น่าสงสัยแล้วก็พบว่า กระดูสันหลังในจุดติดกับบั้นท้ายที่เชื่อมติดกับขาหลังของแมวคล้ายกับหลุดออกจากกัน ดูเหมือนห้อยร่องแร่ง สิ่งนี้น่าจะเป็นสาเหตุทำให้ขาหลังของแมวใช้งานไม่ได้ รวมไปถึงระบบขับถ่ายของมันก็ควบคุมไม่ได้ มองไปบริเวณที่แมวนอนอยู่ในขณะนี้เปรอะเปื้อนไปด้วยอุจจาระของมันเองส่งกลิ่นเหม็นคลุ้ง

“โถๆๆๆ...ดูซิน่าสงสารจัง กระดูกหลังหักเดินไม่ ได้เมื่อวานยังดีอยู่แท้ๆ เราอุตส่าห์เลี้ยงอย่างดี เมื่อวานก็คลุกปลาป่นอย่างดีให้กิน กำลังอ้วนน่ารักเชียว ไปโดนอะไรมารถชนหรือเปล่า”

ผู้เป็นแม่พูดพร้อมกับยังคลำตามตัวของแมวเพื่อตรวจดูจุดอื่นๆ ของแมวว่าเป็นอย่างไรบ้างมีจุดอื่นหักอีกหรือเปล่า ก็พบว่ามีกระดูกหักเพียงจุดเดียวเท่านั้น

“ไม่น่าจะโดนรถชน ถ้าโดนรถชนน่าจะมีแผลตามตัวด้วย ดูแล้วไม่เห็นมีแผล”
จากคำพูดของบุตรชายทำให้ผู้เป็นแม่พยายามหาบาดแผลอื่นๆ ตามลำตัวของแมวไปมาหลายรอบ แต่ไม่พบบาดแผลใดๆ ขณะที่คลำตามลำตัวมันแสดงความเจ็บปวด ด้วยเสียงร้องที่ดังกว่าเดิม เมื่อคลำไปโดนจุดที่มันบาดเจ็บ

“มันโดนชาวบ้านตีแน่ๆ แม่”
บุตรชายเสนอความคิดเห็น

“ชาวบ้านจะตีทำไม แม่ว่ามันโดนรถชนโดยไม่มีแผลก็มีโอกาสเป็นไปได้”
ผู้เป็นแม่ถามหาเหตุผล มือยังคงลูบคลำไปตามลำตัวของแมว
“ถนนหน้าบ้านเราถึงจะมีรถผ่านไปมาเยอะ แต่มันจะไปที่ถนนให้รถชนทำไม ตอนนี้แมวมันเป็นหนุ่มแล้ว มันคงไปเที่ยวจีบแมวสาวๆ บ้านอื่นแถวๆ นี้ ชาวบ้านคงรำคาญก็หวดเข้าให้”

“แค่แมวจีบแมวเฉยๆ ทำไมเค้าต้องตีด้วย ไม่มีความเป็นไปได้”
“ไม่เคยได้ยินแมวมันจีบกันหรือแม่ โดยเฉพาะตอนกลางคืนเสียงมันร้องขู่กัน หง่าวๆๆ ดังชะมัดเลย ยิ่งถ้ามีแมวตัวผู้หลายตัวแย่งตัวเมียด้วยยิ่งหนวกหู บางทีร้องขู่เหมือนจะกัดกันก็ไม่กัดซักที หง่าวๆไปมาอยู่นั่นแหละหรือไม่มันก็แอบไปขโมยกินปลาชาวบ้าน เขาเห็นก็ตีเอาซะหลังหัก”

จากนั้นลูกชายก็ทำเสียงร้องเลียนแบบแมวเป็นเสียงสูงต่ำลากยาว ตามลักษณะที่เคยได้ยินมันขู่กันให้ผู้เป็นแม่ฟัง
“พอแล้วรำคาญ มันจะไปขโมยปลาทำไม เมื่อคืนแม่ก็คลุกปลาป่นกับข้าวให้กิน มันกินจนท้องเกือบแตก”

“ถ้าอย่างนั้นมันต้องไปแย่งตัวเมียแน่ๆ ชาวบ้านก็รำคาญเหมือนที่แม่รำคาญนี่แหละ ทนไม่ได้ก็เลยตีเข้าอาจจะกะกลางลำตัวแต่กะพลาดไป หรือไม่ก็กะจะตีที่หัวแต่ด้วยความเร็วในการหลบหนีของไอ้สองทำให้โดนบั้นท้ายจนบิดเบี้ยวเดินไม่ได้ เป็นแมวพิการ กลายเป็นแมวลากขาหลังอย่างที่แม่เห็นนี่แหละ”
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่