ไม่เมาเหล้า แต่เมาควันและเมาคน ที่ บางกระเจ้า

ปกติทุกทริปจะมีแอลกอฮอล์เป็นส่วนประกอบ แต่ทริปนี้แค่เจอคนกับครัวรถเข้าไปก็เมาแล้ว เหล้าเบียร์ไม่ต้อง

++++++


เล่าเรื่องก่อนยาวๆ แล้วลงภาพรัวๆ ขี้เกียจอ่านก็ข้ามไปดูรูปเลยจ้า


เห็นใครๆเขาก็ไปกัน ใกล้บ้านแค่นี้ไม่ไปได้ไง >>> บางกระเจ้า
เสาร์อาทิตย์นอนอืดๆอยู่บ้านก็เสียดายเวลา เปิดดูพันทิพไปมา >>> เห้ย มีแต่คนไปปั่นจักรยานที่บางกระเจ้า ไปเดินหาไรกินที่ตลาดบางน้ำผึ้ง แต่อยู่ไหนหว่ะ เสิร์ชๆหาไปเรื่อยๆ เอ้าเห้ย ใกล้บ้านแค่นี้เอง หยิบหมวก หยิบกระเป๋าแล้วออกเดินทางกัน

ทริปนี้เริ่มจากลาซาล - ก็บ้านเค้าอยู่ลาซาลนี่ นั่งรถสองแถวแดงออกจากซอย ( 7 บาท) ไปรอสองแถวส้มที่บีทีเอส ลงป้ายสี่แยกบางนา (8 บาท) เดินไปรอรถสองแถวแดงที่ตลาดฝั่งสรรมพาวุธ รถจอดไม่ไกลจากสี่แยกเท่าไหร่ เดินไปถึงรถออกพอดี นั่งไปแปปเดียวก็สุดสายที่วัดบางนานอก ( 8 บาท) เกือบทุกคนบนรถไปที่เดียวกัน ไม่ต้องกลัวหลงเลย เดินตามๆกันไปที่ท่าน้ำ สักพักเรือก็มาจอด พร้อมขบวนรถมอไซ ควันตลบอบอวล อืมมมมม ดีจริงๆ แดดก็ร้อนควันก็เยอะ ไหนบอกไปฟอกปอดไง คนเริ่มทยอยลงเรือจนเต็ม ทั้งคน ทั้งมอไซแน่นกำลังดี ผ่านไปชั่วหลายพริบตาก็ถึงฝั่งบางกระเจ้า (4 บาท) ออกมากก็เจอร้านเช่าจักรยานเลย ชั่วโมงเดียว 30 , 2 ชั่วโมง 50 หรือหลังจากนั้นเหมาทั้งวัน 80 บาท (ราคาประมาณนี้แหละ หรือถ้าจำผิดก็ยกโทษให้เก๊าด้วยนะ ก็คนมันสมองปลาทอง) หลังจากตกลงเช่าแล้ว ก็ฝากบัตรประชาชนไว้ที่ร้าน เดินไปเลือกรถที่ถูกใจ แนะนำอย่าเอาอิคันที่ล้อเล็กๆ วงล้อมันเล็ก หมุนได้ระยะทางสั้น และต้องใช้กำลังขากว่ารถที่ล้อใหญ่ (อย่าคิดได้เมื่อสายไปเหมือนเก๊า เก๊าเหนื่อย เก๊าเมื่อยมาก) หลังจากเลือกรถได้แล้ว อย่าลืมขอแผนที่มานะ เอาจริงๆ แทบไม่ได้ใช้ แผนที่หอยอะไรไม่รู้ ดูไม่รู้เรื่อง (เอ๊ะ หรือเราจินตนาการไม่ถึง สะกดไงหว่ะ อย่าด่าเก๊าเรื่องภาษาไทย แค่นี้เพื่อนที่ทำงานก็จะรวมเงินกันให้ไปลงคอร์สเรียนภาษาไทยแล้ว) ปั่นไปมั่วๆ ยิ้มหลงด้วย แผนที่ไม่ช่วยอะไรพับใส่กระเป๋าไปเถอะ แล้วคือจักรยานมันไม่มีกระจกมองหลังไง หูก็ไม่ค่อยดี ทั้งมอไซ ทั้งรถยนต์ ไหนจะกองทัพจักรยานด้วยกันอีก บอกเลย แทบไม่รอด แต่พอปั่นเลยเขตที่เที่ยว คนก็จะน้อยลง บ้านชาวบ้านจะเยอะขึ้น ความเงียบก็เยอะตาม บรรยากาศเหมือนแถวบ้าน ที่ ตจว. คิดถึงตอนเด็กสมัยแฟนฉันกำลังดัง ปั่นมันทั่วหมู่กับกับแก็งเพื่อนสาว ชีวิตดวี๊ๆ เจ็บสุดก็แค่ค้ำจักรยานไม่ถึง (ก็ขาสั้นเนอะ) เครียดสุดก็แค่ตังไม่พอซื้อขนมที่มีของเล่นแถม

หลังจากหลงอยู่เกือบชั่วโมง เราก็เจอป้ายไปสวนศรีอะไรสักอย่าง ที่มันเป็นสวนสาธารณะ ปั่นไปสิ 4 โลกว่า แต่พอถึงแล้วก็คือดีงามที่สุดบนเกาะแห่งนี้ ได้ปั่นจักรยานแบบไม่ต้องหลบรถมอไว หลบรถยนต์ แต่ๆ ฝูงคนนี้สิ วันที่ไปดันป๊ะกับนักเรียนโรงเรียนนึงที่มาทัศนศึกษากัน อิหนูเอ๊ย กะอีแค่ป้าบีบกระดิ่งกุ้งกิ้งให้หนูหลบทางให้ ถึงกับต้องมองแรง เดี๋ยวเถอะๆ เรื่องนี้จะถึงหูครูอังคณา พอหลุดพ้นมา ก็โอเคหน่อย ร้อนรื่น เงียบสงบ ต้นไม้เยอะนะ แต่มันก็ยังไม่สดชื่นปอดเท่าการไปเขาใหญ่ (หวังสูงไปป๊าววววว ข้างกรุงเทพแค่นี้ได้เท่านี้ก็ดีแล้ว)

หลังจากชื่นชมธรรมชาติกันพอหอมปากหอมคอแล้ว เที่ยงกว่าแล้ว หิวแล้ว ปั่นกลับมาอีก 4 โล++ (หลงอีกแล้วไง) มาถึงตลาดบางน้ำผึ้ง คนเยอะ คนแน่น คนเบียด ก็กินก็เช่นกัน แต่ละร้านไม่มีที่นั่งว่างๆให้ชะนีขาสั้นก็นี้เลย หัวใจผู้ชายก็เช่นกัน (เกี่ยวหรอ?) เดินจนทั่ว ได้ยาสระ หมัก ผมมะกรูด (70 บาท) เรียกไงดี แต่แนะนำ ซื้อเถอะของป้าเค้าดีจริง ขายอยู่ตรงที่มีนวดแผนไทยในตลาดอ่ะ ป้าเค้าทำเอง ถูกด้วย ถูกกว่าเจ้าที่ขายข้างหน้าตลาด ใช้แล้วดี๊ดี กลิ่นมะกูดฟุ้งทั้งห้อง เดินไปไหนไม่ต้องกลัวคนไม่รู้ ผมก็นิ๊มนิ่ม ชอบมาก ถ้าซื้อมาแล้วก็แช่ตู้เย็นไว้นะ มันเก็บไว้ใช้ได้ 3 เดือน แต่ถ้าไม่ไว้ในตู้เย็นใช้ได้เดือนเดียว ขวนเบ่อเร้อ เบ่อร่ามาก เดินจนรอบตลาดก็มาป๊ะกับร้านนึง ชื่อปริ้นอะไรสักอย่าง ลักษณะเป็นบ้านอยู่กลางตลาด มีโต๊ะนั่งกินแกร๋ๆอยู่ ขายตั้งแต่ก๋วยเตี๋ยว ขนมจีน ข้าว ของหวาน ยันสบู่ ครีมอาบน้ำ (ออแกนิคมั่งนะ ถามดูก่อนอันนี้คิดเองเออเอง) เราสั่งข้าว+เกาเหลาอะไรสักอย่าง และน้ำเปล่า 2 ขวด (ุ60 บาท) รสชาติใช้ได้ ไม่ได้ย่ำแย่ แต่ก็ไม่ถึงต้องโหยหามากินนะ (ลิ้นใครลิ้นมัน อันนี้ลิ้นเรา เราว่าโอเค) อิ่มแล้วก็เดินต่อ แล้วก็ยังไม่ได้อะไรเพิ่ม ตั้งใจว่าจะกลับบ้านแล้ว ร้อนมาก ไมเกรนจะขึ้น (***ใครเป็นโรคนี้มั่ง ขอคำแนะนำหน่อย นี้ก็พยายามไม่เครียดแล้วนะ แต่พออากาศร้อนละเป็นทุกที)

ใครที่ไปปั่นในบางกระเจ้าคงคุ้นๆกับป้าย พบรัก เลี้ยวซ้าย เลี้ยวขวาเนอะ เราก็เหมือนกัน สงสัยว่ามันคือไร เห็นว่าอยู่ใกล้ท่าเรือกลับบางนา แวะสักหน่อยละกัน หลังจากปั่นตามป้ายมาเรื่อยๆ จนถึงท่าเรือ อิป้ายมันก็หายไป ถามพี่ที่ร้านเช่า เค้าก็บอกทางให้ปั่นไปบนสะพานแคบๆ คือจักรยานปั่นคู่กันสองคันไม่ได้อ่ะ ไม่งั้นคันนึงคงลงไปอยู่ในคู แต่ถ้าสามารถก็ลองดูนะ ปั่นตามทางที่พี่เค้าบอกก็มาเจอละจ้า อ๋อ! มันคือบ้านพี่หมาก ปริณของน้องคิมมี่นี้เอง บ้านไม่มีทีวีไง ไม่มีจริงๆ (จนตอนแม่ขึ้นมาจากใต้ เห็นชีวิตลูกรันทด เลยซื้อให้ แต่ไม่มีกล่องทีวีดิจิตอลอีก ดูได้ 3 ช่อง การ์ตูน 1, รัสเซีย 1, ญี่ปุ่นอีก 1) แล้วจะดูพี่หมากได้ไงล่ะ แต่เรายังอิ่มอยู่เลย จุกด้วย กินเสร็จละปั่นต่อ ไม่แนะนำอย่างแรงเลยหนิ! เหลือบเห็นร้านข้าง Bangkok Tree สักอย่าง ชื่อนี้ป่าวน่า? ไม่แน่ใจ มันน่าจะมีขนมและชาให้กิน ใช้ชีวิตสโลว์ไลฟ์ดูมั่ง กะว่าจะนั่งสวยๆ ดูวิวเจ้าพระยาและเรือดูดทราย แกล้มไปกับขนมซะหน่อย เปิดเมนูปั๊ป ลมจับปุ๊ป อิเห้! น้ำอัญชันมะนาวแก้วละ 70 บราวนี่ชิ้นเท่าหอยมด บวกไอตินรถชาติไม่ต่างจากไอติมวอล์ลสกู๊ปเล็กๆ สิริรวมมื้อนี้ 187 บาท อิน้องคนนี้คงสโลว์ไลฟ์ไม่ไหวจีจี แพงมาก คืออย่าอ้างวัตถุดิบนะ อิน้องเรียนอาหารมา ทำขนมขายเองเป็นครั้งคราวด้วย มันแพงไปค่า หรือขายวิว? เอิ่มมมม นี้นึกว่ากินอยู่พารากอน ตอนสั่งก็ไม่คิดว่า บราวนี่จะชิ้นหอยมดขนาดนี้ เซ็งจิต กลับบ้านดีกว่า ร้อนก็ร้อน แทนที่จะได้ชิวให้หน่อยเครียด เครียดกว่าเดิมอีก ตังหมด

ออกจากร้านก็เอาจักรยานไปคืนแล้วจ่ายค่าเช่า (80 บาท) พี่เค้ามีบริการฟรีน้ำดื่มและผ้าเย็นด้วยน่า น่าร็อคอ่ะ (เลียนเสียงมาดามมดแล้วจะได้อรรถรสขึ้น) จ่ายค่าเรือ (4 บาท) ค่ารถสองแถวแดง (8 บาท) ต่อบีทีเอส (10 บาท) ต่อสองแถวแดงอีก (8 บาท) ถึงบ้าน จบทริป พร้อมไมเกรนจ้า ร้อนมาก หมวกที่เอาไปไม่ชวนอะไร ปวดหนักไปสองสามวันจนหาหมอ ใครเป็นโรคนี้เหมือนเราก็ดูแลตัวเองดีๆนะ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่