สวัสดีจ้า ชาวpantip
และแล้วก็ถึงเวลาที่จะต้องรีวิวกับเค้าบ้าง จากการที่เราไปเที่ยวมาก็หลายที่ แต่ไม่ได้รีวิวเลย
เริ่มจากทริปนี้ก่อนละกัน ผิดพลาดประการใดขออภัย ณ ที่นี้นะจ๊ะ ^^
เมื่อวันเวลามาถึงไม่ว่าจะเป็นโปรโมชั่น บวกกับความอยากไปเที่ยวลงเล่นน้ำจากการชักชวน
บวกกับเห็นหลายๆคนเริ่มรีวิวการไปเที่ยวเขาสกกันเต็มไปหมด เอาซะหน่อย เราไปกันมั้งตาเราแล้ว เย้!
เราเริ่มจากการจองตั๋วของสายการบินนกแอร์ไปกัน 7 คน ไปทั้งหมด 3 วัน 5-7 กันยายน 2015
ขอบอกเลยว่า ทริปนี้ต้องไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน
เราเริ่มออกเดินทางวันที่ 5 ช่วงเวลา 6 โมงเช้าโดยสายการบินนกแอร์ นัดเจอกันที่สนามบินเวลาตี 4 ขุ่นพระ
บินเช้ามาก เราเลยต้องมาถึงสนามบินกันอย่างเช้าเผื่อโหลดกระเป๋า ถึงเวลาก็ GOGOGO!
ถึงสนามบินสุราษฎร์ธานี เวลา 7 โมงกว่าๆ
ก่อนการมาทริปนี้ เราได้จองที่พักของ คีรีวาริน เชี่ยวหลาน รีสอร์ท (Keeree Warin Chiewlarn Resort)
ในงานท่องเที่ยวไทยตั้งแต่ต้นปี พอเราไปถึง พี่ของที่พักก็เอารถตู้มารับเราที่สนามบินเลยจ้า
จากสนามบินก่อนไปท่าเรือพี่คนขับพาเรามาที่ร้านอาหารใต้ กินมื้อเที่ยงกันก่อน แล้วต่อจากนั้นก็พาไป
สันเขื่อนเชี่ยวหลาน ชมความงามบนนั้น ที่แน่ๆๆ ถ่ายรูปดิ้ครัช รออะไรละ ^^

เมื่อถึงเวลาเราก็เดินทางต่อไปที่ท่าเรือเพื่อเตรียมขึ้นเรือไปที่พัก ก่อนเราจะขึ้นเรือนั้น
พี่คนขับและเพื่อนที่เคยมาแล้ว บอกกับเราว่าไม่มีสัญญาณละนะแกรรร !!!!!!!!!!
เอาละทริปนี้ธรรมชาติโอบกอดล้วนๆอย่างแน่นอน ไม่ต้องสืบ
เมื่อถึงเวลาขึ้นเรือแน่นอนละว่าของทั้งหมดเราต้องเอาไปไว้ในเรือ โดยส่วนใหญ่เจ้ากระเป๋า
ทั้งหลายก็จะอยู่หัวเรือ แหมม อยากจะไปยืนหัวเรือซะจริงๆเลย

เอาง่ายๆว่า พระเจ้านี้สวรรค์ของเมืองไทยชัดๆ มันงดงามมากน้ำสีเขียวใสกับท้องฟ้าสีคราม ก้อนเมฆสีฟ้า
คิดแล้วมันฟินมากจริงๆที่ได้มา ใช้เวลานั่งเรือนานพอสมควรเกือบๆ 2 ชม ถ่ายรูปกันเพลินเลยทีเดียว

จนมาถึงจุดที่เรียกว่า เขาสามเกลอ เท่าที่สังเกต จากความคิดส่วนตัวว่ามันคือ เขา 3 ก้อน เรียงๆกัน
ต่อจากนั้นก็เข้าที่พักกันเลยจ้า
ที่พักเป็นเหมือนบ้านไม้หลังใหญ่มี 2 ชั้น ชั้นที่ 2 เป็นเหมือนห้องใต้หลังคามีประตูหน้าต่างพร้อม
อ๋อที่สำคัญเลย ที่นี้เค้าค่อนข้างจำกัดเรื่องการใช้ไฟไม่มีปลั้กไฟอะไรทั้งนั้น
ไดร์เป่าผมที่หนีบผมหมดสิทธิ์จ้าสาวๆ เค้าจะมีไฟให้ชาร์จเป็นเวลาบริเวณที่กินข้าวเท่านั้นเอง
นั่งเล่นถ่ายรูปชื่นชมธรรมชาติก็ได้เวลาทานอาหารกันแล้วว อาหารที่นี่เป็นแบบกับข้าว ข้าวโถ
ประมาณ 5 - 6 เมนูได้เติมได้ตลอดไม่ว่าจะเป็นข้าวหรือว่ากับข้าว ทานเสร็จก็แยกย้ายพักผ่อน
ตามอัธยาศัยไปโดดลงเล่นน้ำ อ๋อ ลืมบอกเลยว่าที่นี่จะมีเหมือนเป็น ซิกเนเจอร์อันล้ำเลิศในการเล่นน้ำ
นั่นคือจะมีเหมือนต้นไม้โผล่ขึ้นมาเหนือน้ำและมีขอนไม้ให้เราเล่นกันอย่างซะใจ
ใครจะรู้ว่าเจ้าขอนไม้นี้โคตรสนุกเลยแหละ และยังมีเรือคายัคที่จะมีให้ทุกบ้านอยู่แล้ว

และแล้วก็หมดวันพร้อนนอน ^^ ต่อกันที่พรุ่งนี้เช้า
วันที่ 2 เราต้องตื่นเช้า 6 โมงกว่าเราก็เริ่มไปทานอาหารเช้าละ
เนื่องจากเราต้องออกล่องเรือไปส่องสัตว์อาหารเช้าที่ครัวเค้ายังทำไม่เสร็จ เราเลยได้กิน
โอวัลตินขนมปังรองท้องไปก่อน จากนั้นเราก็ไปส่องสัตว์กัน ระหว่างทางขุ่นพระ
มีหมอกล่องลอยให้ชื่นใจสวยงามตามท้องเรื่อง
พอถึงจุดที่ เราจะแอบดูสัตว์ ออกหากิน เงียบ เงียบ เงียบมาก .... คือไม่งั้นสัตว์ต่างๆ
ก็จะไม่กล้าออกมา แต่เป็นที่น่าเศร้าใจที่วันนั้นไม่เห็นอะไรเลย T_T แต่ระหว่างทางนั้น ฟิน..แล้ว
เมฆหมอกอากาศดีสูดอากาศเต็มปอดมว๊ากกก
เราก็กลับมาที่พักอีกครั้งเพื่อมาทานอาหารเช้าเรามีโปรแกรมต้องไปต่อที่น้ำตก
(ไม่รู้ชื่ออะไร ฮ่าๆ) เป็นน้ำตกที่สวยงามเห็นว่ามีหมีป่าด้วย(ไม่รู้โดนหลอกไหมนะ) ปีนขึ้นน้ำตก
ไปเจอต้นไม้ ใหญ่มว๊ากกกกก เป็นที่ที่น่ามาเที่ยวจริมๆ

พักถ่ายวิว มาถ่ายของเล่นซะหน่อย

ต้นไม้สูงใหญ่ สวยงามมาก ที่น้ำตกแห่งนี้
หลังจากน้ำตกเราก็ไปลุยต่อที่ ถ้ำปะการังกันต่อเลย นั่งเรือไปต่อแพแล้วก็เดินต่อ
อีกซักหน่อยภายในถ้ำอากาศเย็นมีหินรูปแบบต่างๆมากมาย ในถ้ำมีความมืดมาก
ไม่ค่อยได้ถ่ายรูปซักเท่าไหร่ เลย T_T
เดินทางกลับที่พักกันเช่นเดิมคราวนี้เราเล่นน้ำกันเต็มที่กับธรรมชาติอีกเล่นเดิม แต่ว่าเริ่มเย็นแล้ว
เรายังคงแช่น้ำกันอยู่ เมื่อหันหลังไปมองทางพระอาทิตย์กำลังตก โอ้ยยยยย!!!!! อยากให้ทุกคนได้พบเจอ
แบบนี้มันสวยมากกก แสงสีส้มอาบไปทั่วท้องฟ้าพร้อมหมู่เมฆถ่ายรูปรัวๆ แสงอาทิตย์ตกกระทบน้ำที่เรากำลังเล่น
บร๊ะ ฟิน และแล้วพระอาทิตย์ก็จากเราไปอย่างรวดเร็ว

เล่นน้ำเสร็จเราก็ขึ้นไปทานอาหารเย็น แล้วก็ถ่ายมวลหมู่ดาวนอนหลับฝันดี
วันสุดท้ายวันนี้เราต้องกลับกันแล้ว ตื่นเช้ามาก็เช่นเดิมกินอาหารเช้า แล้วก็เล่นน้ำ พายเรือคายัค
จนถึงเวลาก็นั่งเรือกลับสู่ท่าเรือ
ไปสนามบิน กลับสู่ กทม จ้า
จบรีวิวเพียงเท่านี้อาจจะใช้ภาษาที่ฟังดู มันมึนงงๆไปนิด กราบขออภัยมา ณ ที่นี้ นะจ๊ะ
ใครที่อยากลองไปก็ลองจับจองที่พักแล้วมากระโดดโลดเต้นว่ายน้ำพายเรือ ฟินๆ ดู จ้า
ฝากเพจในอ้อมใจ นะจ๊ะ
https://www.facebook.com/FonnokjaPhotographer
[CR] เขาสก สุราษฎร์ธานี น้ำนิ่ง ใจสงบ พบธรรมชาติ กระโดดน้ำตูมๆ
สวัสดีจ้า ชาวpantip
และแล้วก็ถึงเวลาที่จะต้องรีวิวกับเค้าบ้าง จากการที่เราไปเที่ยวมาก็หลายที่ แต่ไม่ได้รีวิวเลย
เริ่มจากทริปนี้ก่อนละกัน ผิดพลาดประการใดขออภัย ณ ที่นี้นะจ๊ะ ^^
เมื่อวันเวลามาถึงไม่ว่าจะเป็นโปรโมชั่น บวกกับความอยากไปเที่ยวลงเล่นน้ำจากการชักชวน
บวกกับเห็นหลายๆคนเริ่มรีวิวการไปเที่ยวเขาสกกันเต็มไปหมด เอาซะหน่อย เราไปกันมั้งตาเราแล้ว เย้!
เราเริ่มจากการจองตั๋วของสายการบินนกแอร์ไปกัน 7 คน ไปทั้งหมด 3 วัน 5-7 กันยายน 2015
ขอบอกเลยว่า ทริปนี้ต้องไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน
เราเริ่มออกเดินทางวันที่ 5 ช่วงเวลา 6 โมงเช้าโดยสายการบินนกแอร์ นัดเจอกันที่สนามบินเวลาตี 4 ขุ่นพระ
บินเช้ามาก เราเลยต้องมาถึงสนามบินกันอย่างเช้าเผื่อโหลดกระเป๋า ถึงเวลาก็ GOGOGO!
ถึงสนามบินสุราษฎร์ธานี เวลา 7 โมงกว่าๆ
ก่อนการมาทริปนี้ เราได้จองที่พักของ คีรีวาริน เชี่ยวหลาน รีสอร์ท (Keeree Warin Chiewlarn Resort)
ในงานท่องเที่ยวไทยตั้งแต่ต้นปี พอเราไปถึง พี่ของที่พักก็เอารถตู้มารับเราที่สนามบินเลยจ้า
จากสนามบินก่อนไปท่าเรือพี่คนขับพาเรามาที่ร้านอาหารใต้ กินมื้อเที่ยงกันก่อน แล้วต่อจากนั้นก็พาไป
สันเขื่อนเชี่ยวหลาน ชมความงามบนนั้น ที่แน่ๆๆ ถ่ายรูปดิ้ครัช รออะไรละ ^^
เมื่อถึงเวลาเราก็เดินทางต่อไปที่ท่าเรือเพื่อเตรียมขึ้นเรือไปที่พัก ก่อนเราจะขึ้นเรือนั้น
พี่คนขับและเพื่อนที่เคยมาแล้ว บอกกับเราว่าไม่มีสัญญาณละนะแกรรร !!!!!!!!!!
เอาละทริปนี้ธรรมชาติโอบกอดล้วนๆอย่างแน่นอน ไม่ต้องสืบ
เมื่อถึงเวลาขึ้นเรือแน่นอนละว่าของทั้งหมดเราต้องเอาไปไว้ในเรือ โดยส่วนใหญ่เจ้ากระเป๋า
ทั้งหลายก็จะอยู่หัวเรือ แหมม อยากจะไปยืนหัวเรือซะจริงๆเลย
เอาง่ายๆว่า พระเจ้านี้สวรรค์ของเมืองไทยชัดๆ มันงดงามมากน้ำสีเขียวใสกับท้องฟ้าสีคราม ก้อนเมฆสีฟ้า
คิดแล้วมันฟินมากจริงๆที่ได้มา ใช้เวลานั่งเรือนานพอสมควรเกือบๆ 2 ชม ถ่ายรูปกันเพลินเลยทีเดียว
จนมาถึงจุดที่เรียกว่า เขาสามเกลอ เท่าที่สังเกต จากความคิดส่วนตัวว่ามันคือ เขา 3 ก้อน เรียงๆกัน
ต่อจากนั้นก็เข้าที่พักกันเลยจ้า
ที่พักเป็นเหมือนบ้านไม้หลังใหญ่มี 2 ชั้น ชั้นที่ 2 เป็นเหมือนห้องใต้หลังคามีประตูหน้าต่างพร้อม
อ๋อที่สำคัญเลย ที่นี้เค้าค่อนข้างจำกัดเรื่องการใช้ไฟไม่มีปลั้กไฟอะไรทั้งนั้น
ไดร์เป่าผมที่หนีบผมหมดสิทธิ์จ้าสาวๆ เค้าจะมีไฟให้ชาร์จเป็นเวลาบริเวณที่กินข้าวเท่านั้นเอง
นั่งเล่นถ่ายรูปชื่นชมธรรมชาติก็ได้เวลาทานอาหารกันแล้วว อาหารที่นี่เป็นแบบกับข้าว ข้าวโถ
ประมาณ 5 - 6 เมนูได้เติมได้ตลอดไม่ว่าจะเป็นข้าวหรือว่ากับข้าว ทานเสร็จก็แยกย้ายพักผ่อน
ตามอัธยาศัยไปโดดลงเล่นน้ำ อ๋อ ลืมบอกเลยว่าที่นี่จะมีเหมือนเป็น ซิกเนเจอร์อันล้ำเลิศในการเล่นน้ำ
นั่นคือจะมีเหมือนต้นไม้โผล่ขึ้นมาเหนือน้ำและมีขอนไม้ให้เราเล่นกันอย่างซะใจ
ใครจะรู้ว่าเจ้าขอนไม้นี้โคตรสนุกเลยแหละ และยังมีเรือคายัคที่จะมีให้ทุกบ้านอยู่แล้ว
และแล้วก็หมดวันพร้อนนอน ^^ ต่อกันที่พรุ่งนี้เช้า
วันที่ 2 เราต้องตื่นเช้า 6 โมงกว่าเราก็เริ่มไปทานอาหารเช้าละ
เนื่องจากเราต้องออกล่องเรือไปส่องสัตว์อาหารเช้าที่ครัวเค้ายังทำไม่เสร็จ เราเลยได้กิน
โอวัลตินขนมปังรองท้องไปก่อน จากนั้นเราก็ไปส่องสัตว์กัน ระหว่างทางขุ่นพระ
มีหมอกล่องลอยให้ชื่นใจสวยงามตามท้องเรื่อง
พอถึงจุดที่ เราจะแอบดูสัตว์ ออกหากิน เงียบ เงียบ เงียบมาก .... คือไม่งั้นสัตว์ต่างๆ
ก็จะไม่กล้าออกมา แต่เป็นที่น่าเศร้าใจที่วันนั้นไม่เห็นอะไรเลย T_T แต่ระหว่างทางนั้น ฟิน..แล้ว
เมฆหมอกอากาศดีสูดอากาศเต็มปอดมว๊ากกก
เราก็กลับมาที่พักอีกครั้งเพื่อมาทานอาหารเช้าเรามีโปรแกรมต้องไปต่อที่น้ำตก
(ไม่รู้ชื่ออะไร ฮ่าๆ) เป็นน้ำตกที่สวยงามเห็นว่ามีหมีป่าด้วย(ไม่รู้โดนหลอกไหมนะ) ปีนขึ้นน้ำตก
ไปเจอต้นไม้ ใหญ่มว๊ากกกกก เป็นที่ที่น่ามาเที่ยวจริมๆ
พักถ่ายวิว มาถ่ายของเล่นซะหน่อย
ต้นไม้สูงใหญ่ สวยงามมาก ที่น้ำตกแห่งนี้
หลังจากน้ำตกเราก็ไปลุยต่อที่ ถ้ำปะการังกันต่อเลย นั่งเรือไปต่อแพแล้วก็เดินต่อ
อีกซักหน่อยภายในถ้ำอากาศเย็นมีหินรูปแบบต่างๆมากมาย ในถ้ำมีความมืดมาก
ไม่ค่อยได้ถ่ายรูปซักเท่าไหร่ เลย T_T
เดินทางกลับที่พักกันเช่นเดิมคราวนี้เราเล่นน้ำกันเต็มที่กับธรรมชาติอีกเล่นเดิม แต่ว่าเริ่มเย็นแล้ว
เรายังคงแช่น้ำกันอยู่ เมื่อหันหลังไปมองทางพระอาทิตย์กำลังตก โอ้ยยยยย!!!!! อยากให้ทุกคนได้พบเจอ
แบบนี้มันสวยมากกก แสงสีส้มอาบไปทั่วท้องฟ้าพร้อมหมู่เมฆถ่ายรูปรัวๆ แสงอาทิตย์ตกกระทบน้ำที่เรากำลังเล่น
บร๊ะ ฟิน และแล้วพระอาทิตย์ก็จากเราไปอย่างรวดเร็ว
เล่นน้ำเสร็จเราก็ขึ้นไปทานอาหารเย็น แล้วก็ถ่ายมวลหมู่ดาวนอนหลับฝันดี
วันสุดท้ายวันนี้เราต้องกลับกันแล้ว ตื่นเช้ามาก็เช่นเดิมกินอาหารเช้า แล้วก็เล่นน้ำ พายเรือคายัค
จนถึงเวลาก็นั่งเรือกลับสู่ท่าเรือ
ไปสนามบิน กลับสู่ กทม จ้า
จบรีวิวเพียงเท่านี้อาจจะใช้ภาษาที่ฟังดู มันมึนงงๆไปนิด กราบขออภัยมา ณ ที่นี้ นะจ๊ะ
ใครที่อยากลองไปก็ลองจับจองที่พักแล้วมากระโดดโลดเต้นว่ายน้ำพายเรือ ฟินๆ ดู จ้า
ฝากเพจในอ้อมใจ นะจ๊ะ
https://www.facebook.com/FonnokjaPhotographer