ประสบการณ์ที่ค่ายอาสา สระบุรี

กระทู้สนทนา
เรื่องอาจจะไม่น่ากลัวเท่าไร อยากแชร์ให้อ่านกัน จริงๆแล้วขอบอกก่อนนะครับ ผมเป็นคนที่ไม่ได้มีเซ้นส์ หรือเห็นผีบ่อยอะไรเลย แต่ไปออกค่ายอาสา 2 ครั้ง เป็นต้องเจทั้ง 2 ครั้ง แต่เรื่องที่จะเล่านี้เป็นค่ายอาสาที่ จ.สระบุรี นี่คือครั้งแรกที่ ตอนเรียนปี 3 ที่ มหาลัยแห่งหนึ่ง
                     .......................................
    เรื่องประมาณ 5-6 ปีมาแล้ว ตอนนั้นผมเรียนปี 3 รัฐศาสตร์ ปกครองท้องถิ่น จึงมีโครงการจากอาจารย์ให้ไปทำค่ายอาสาที่ จ.สระบุรี เป็นการไปทำห้องสมุดให้กับโรงเรียนวัดแห่งหนึ่งไปกันประมาณ 40 คน เมื่อเตรียมการต่างๆ เสร็จเรียบร้อยเราจึงออกเดินทางกัน

     กลุ่มแรกจะไปก่อน 10 คน รวมตัวผมด้วย ล่วงหน้า 2 วัน เป็นการไปเตรียมสถานที่ไปด้วยรถไฟฟรี นั่งกันไปจากหัวลำโพงประมาณ 4 ชม. ก็ถึง มีชาวบ้านมารับเพื่อจะเข้าไปที่วัดนั้น เมื่อถึงวัดก็ประมาณบ่ายโมง เราก็ตกลงกันว่าจะนอนที่วัดบนศาลาการเปรียญ

    ศาลาการเปรียญของที่นี่จะมี 2 ชั้นเหมือนทั่วๆ ไป พวกผมก็จะนอนชั้นบน ด้านหลังศาลาจะเป็นระเบียง และห้องน้ำจะอยู่ตรงระเบียงนี้ และชั้นล่างก็มีห้องน้ำเช่นกันแต่ไม่มีใครลงไปเข้า ด้านซ้ายมือของระเบียงชั้นบนเป็นเมรุ เป็นเมรุจริงๆ โอ้วติดกันเลยครับ พวกผมเห็นก็สตั๊นกันไป 3 วิ คงไม่มีไรมั๊ง ก็ปลอบใจตัวเองอย่างผู้กล้าหาญกันไป

    เราก็ไปไหว้พระที่จำวัดฝากเนื้อฝากตัว แล้วเริ่มงานกันเราก็สั่งน้ำดื่มที่เป็นถังๆ ให้เขามาส่ง พอมาส่งเสร็จ คนที่มาส่งก็ถามพวกผมว่าจะนอนที่นี่กันจริงๆ หรอ แล้วก็ยิ้มๆ  อืมขอบคุณในคำเตือนและความหวังดี น้ำตาจะไหล พอกินข้าวปลาอาหารกันเสร็จ ก็ถึงเวลาที่พระอาทิตย์ตกดิน เวลาแห่งความบันเทิงเลยทีเดียว

    6 โมงเย็นยังสว่างอยู่ ชาบ้าก็เอามุ้งกับผ้าห่มแล้วก็พัดลมตัวใหญ่ๆ ของวัดอ่ะครับขึ้นมาให้พวกเรา แล้วก็จัดแจงกางมุ้ง พอเสร็จเรียบร้อย เราก็นั่งรวมกลุ่มกันเพื่อคุยงาน แล้วก็มีเสียง แสก แสก แสก แสก เสียงไรฟระไม่เคยได้ยิน ก็ออกไปดูตรงระเบียงกันด้วยความสงสัย ส่องไฟฉายไปบนหลังคาเมรุ อ๋อเสียงนกแสก 3 ตัว มาเกาะอยู่บนหลังคาเมรุ สบายใจจัง เดี๋ยวนะเดี๋ยวๆ นกแสก บนหลังคาเมรุ หลอนสิครับ ตั้งแต่ยังไม่ถึงสองทุ่มดี เอ้าอยู่หลายคนกลัวไร กลับๆ เข้าไปคุยงานต่อ

    ช่วงเวลา  3-4 ทุ่ม ด้วยความที่เรายังวัยรุ่นกันก็ทำสิ่งที่ไม่ดีคือนำเครื่องดื่มนั่นแหละเข้ามาดื่มด้วย มิกซ์พร้อม ขอบอกเพื่อนๆ เลยนะครับว่าเป็นสิ่งไม่ดี อย่าทำ แต่ผมทำกันไปแล้ว ก็มีเสียงดังกันแน่นอนล่ะครับ ระหว่างที่นั่งกินกัน เพื่อนในกลุ่มได้ยินเสียงสวดมนต์แว่วๆ มา ขนลุกสิครับ แล้วก็มีเสียงเอี๊ยดๆ ดังตามมา แทบจะสร่างกันเลย นั่งกันซักพักพวกเพื่อนผู้หญิงก็ขอแยกไปนอนก่อน มุ้งที่กางไว้ก็กระจายกันอยู่ เปิดพัดลมของวัด โอ้ว นี่มันพายุชัดๆ เราจึงจำเป็นตั้ง เอาชายมุ้งตวัดไว้ด้านบนมุ้งเพราะเจอแรงลม กางไว้ก็ไม่ช่วยอะไร

    เพื่อนผม 3 คน ออกไปสูบบุหรี่ที่ระเบียงด้านหน้าศาลา อยู่ดีๆ พวกมันวิ่งเข้ามาหน้าตาตื่น ผมยังไม่หลับก็ถามพวกมัน " เป็นไร เมิงจะรีบไปไหนกัน วิ่งซะ"
มันก็บอกมา "ตะกี้ออกไปสูบบุหรี่ พวกกรูได้ยินเสียงดนตรีไทยว่ะ" 5 ทุ่มครับ คงไม่มีใครมาเล่นดนตรีไทยกันตอนนั้น ด้วยความที่ผมไม่ได้ยิน เพราะนอนอยู่ข้างในก็ปลอบใจมันไป "พวกเมิงคิดกันไปเอง ไม่มีอะไรหรอก นอนเหอะ" แต่พวกมันยังไม่กล้านอนนั่งรวมกลุ่มกัน แต่ปิดไฟแล้ว (เออเมิงกลัวกันจริงป่าวเนี่ย) ผมก็นอนใกล้ๆ ที่มันนั่งนั่นแหละ มันนั่งหันหลังให้ ปมนอนติดกับเสาและมีเพื่อนนอนอยู่ถัดไป ใต้มุ้งที่ตวัดชายมุ้งขึ้นไป พร้อมเปิดพัดลมวัด ประหนึ่งนอนท่ามกลางพายุ

    หลับตาไปได้ ซัก 5 นาที ผมรู้สึกมีน้ำหยดลงมาตรงหน้าผาก 2 หยด แหมะ แหมะ สกิดเพื่อสิครับ ไม่กล้าลืมตา "เมิงๆ ส่องไฟดูดิ๊ น้ำไรหยดใส่หน้ากรู" พอส่องดูมันก็อุทานออกมาอย่างไพเราะ "เมิงดูเองเลย" ผมก็เลยเอานิ้วแตะดูแล้วส่องไฟดูบ้าง มันเป็นเลือด เดี๋ยวนะเดี๋ยวๆ เลือดนะเฮ้ย ผมก็เอานิ้วเช็ด เลือดออก ลุกขึ้นมานั่งรวมกลุ่มกับพวกนั้นซะ ไม่นงไม่นอนมันแล้ว นกแสกก็ร้องรับอีก โถ...ชีวิต นั่งได้ซักพักผมก็เห็นเงาดำๆ ขึ้นมาจากบันได ซึ่งเป็นบันไดที่สามารถลงไปชั้นล่างได้ เดินเข้ามาตามมุ้ง แล้วก็หายไป เราก็นั่งกันอยู่ถึงตีสองเห็นจะได้ ก็ไม่มีอะไารมากกว่านั้น ก็นอนกัน เฮ้อ โชคดี ไม่มีอะไรต่อจากนั้น เฮ้อ...

    เช้าวันต่อมาก็ไม่มีอะไรมาก พวกผมก็ทำกิจกรรมกันปกติ พอตกเย็นก็กลับเข้ามาที่ศาลาการเปรียญ ห้องน้ำไม่พอซะแล้ว เพื่อนผมมันก็จะลงไปอาบน้ำด้านล่าง ลงไปเปิดไฟ ไฟติด เดินหันหลังมาจะเข้าห้องน้ำ ซักพักได้ยินเสียง แป๊ก ไฟดับ โอเค ไม่อาบข้างล่างกะได้ วิ่งขึ้นมารออาบข้างบนเหมือนคนอื่นๆ มันก็เล่าให้ฟัง อืมๆ ดีๆ ที่เมิงบอก ขอบใจ พวกกรูอาบข้างบนนี่แหละ 555 วันนี้ไม่มีอะไร พอแล้วเหอะ เราอยู่กันแบบเรียบร้อยเหมือนผ้าพับไว้ มีเพียงเสียงนกแสก ที่ดังมาเป็นระยะ

    วันต่อมาพวกเราจึงไปถามเจ้าอาวาส ว่ามันเป็นไงมาไงหรอ หือ หือ เราก็เล่าให้ท่านฟังตามที่เจอมา เจ้าอาวาสบอก เสาในศาลาการเปรียญน่ะ เป็นเสาตกน้ำมันนะ พวกโยมทำไรกันไว้ไม่ดีป่าวล่ะ (ม่ายบอก) ถ้าทำก็ไปขอขมาซะ ส่วนข้างล่างท่านเล่าว่า ไม่นานมานี้มีคนโดนยิงตาย เหมือนยิงผิดคนอ่ะครับ เขาเป็นคนดี แล้วเขาก็น่าจะยังอยู่ข้างล่างนั่น คงมาทักทาย หือ พวกผมก็เลยไปไหว้พระขอขมาที่โบสถ์ เพื่อความเป็นศิริมงคล และพอเพื่อนๆ ที่เหลือตามมาก็ไม่มีอะไรนะครับ สงบดี จ้ะ เอาที่สบายใจ

เรื่องทั้งหมดก็มีประมาณนี้นะครับ ผิดพลาดประการใดก็ขออภัยด้วยครับ ขอบคุณที่อ่านนะครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่