ตามหัวข้อเลยนะค่ะ เราชื่อ จ๋า นะค่ะ(เพื่อนที่ทำงานตั้งให้) เราเป็นสาวประเภทสองค่ะ ตอนนี้อายุ 22 ปีแล้วค่ะ น่าตาออกแนวสวยน่ารักเลยแหละค่ะ555(ชมตัวเองก็เป็นแฮะ) เราเป็นคนตัวเล็กมาก สูงแค่ 160 น้ำหนัก 47 เท่านั้นเอง ถ้าคนที่ไม่รู้จักเราจิงๆ จะไม่มีใครดูออกเลยว่าเราไม่ใช่ผู้หญิงจิงๆ ดังนั้นจึงเป็นเหตุให้มีผู้ชายหลายๆคนเข้ามาจีบเรา เรามีแฟนเยอะนะค่ะ คบนานสุดก็ 3 ปี นั้นแหละค่ะ คือรักที่เปลี่ยนชีวิตเรา
เริ่มเข้าเรื่องเลยนะคะ ตอนนั้นเราอายุ 18 ปี ทำงานพาร์ทไทม์ 7-11 พร้อมกับส่งตัวเองเรียนไปด้วย จนได้มีโอกาศได้เจอกับผู้ชายคนนึงที่เป็นเพื่อนร่วมงาน 7-11 ด้วยกัน แต่ต่างสาขา เค้าจะมาแลกเปลี่ยนของที่ร้านเราบ่อยๆ และเราก็จะไปแลกของที่ร้านเค้าบ่อยๆเหมือนกัน แต่เราไม่ได้คิดอะไรกับเค้านะค่ะ คิดแค่ว่าเค้าคือเพื่อนร่วมงาน แต่ทุกครั้งที่เค้ามาที่ร้านสาขาเรา เวลาเค้าเหนจ๋า เค้าจะชอบแอบมองเราบางทีก้อแอบเขินเค้านะค่ะ แต่เราก็ไม่ได้คิดไร คิดว่าเค้าคงมองที่เราเป็นของแปลกมั่งค่ะ555
จนเวลาผ่านไปสักประมาณ 2 อาทิตน่าจะได้ที่เราได้เจอเค้า พี่ที่ร้านของ"เอ็ม"ก้อโทมา ขอเรียกชื่อเค้าเลยแล้วกันนะค่ะ พี่คนนั้นก็บอกเอ็มชอบ ขอจีบเราได้มั้ย ซึ่งตอนนั้นถามว่าเราดีใจมั้ยที่มีคนมาจีบ ดีใจมากๆนะค่ะ เพราะตอนนั้นก็ไม่มีแฟนเหมือนกัน แต่ด้วยเป็นคนที่ไม่ชอบให้ใครมาจีบก่อน ถ้าชอบจะจีบเอง จีบติดไม่ติดก็ไม่เป็นไร(ส่วนใหญ่ไม่ติด555) ที่คิดอย่างนั้นก็เพราะว่า เราไม่อยากให้ใครมองว่าสาวประเภทสองสมัยนี้ง่ายๆเสมอไป เราเลือกที่จะเป็นผู้หญิงไม่ใช่เลือกที่จะเป็นกระเทยให้ใครมองว่า เราไม่ใช่ผู้หญิงแล้วยังจีบได้ง่ายๆอีก(ความคิดส่วนตัวค่ะ อิอิ) เพราะเราไม่รู้ว่าเค้าเข้ามาหาเราเพื่อเหตุผลอะไรประมาณนี้ และอีกอย่างเค้าน่าจะได้เจอคนที่ดีกว่าเราอีกตั้งเยอะแยะ
และตอนนั้นพอได้รู้ว่าเอ็มเค้าชอบเรา เราเลยตัดสินใจปฏิเสธไปตรงนั้นเลย ว่าเราคิดกับเค้าแค่เพื่อนแล้วไม่ต้องจีบอีกเพราะต้องทำงานด้วยกันอีกนาน ถึงแม้จะยุคนล่ะสาขา แต่ก็ต้องแลกของที่ร้านกันบ่อยๆ ไม่อยากอึดอัด พอเราพูดไปแบบนั้น เราก็คิดว่ามันคงจบตั้งแต่วันนั้นแล้ว แต่ไม่ใช่เลยค่ะ เค้ากลับพยายามที่จีบเรามากขึ้นกว่าเดิม ทั้งให้พี่ที่ร้านเค้าช่วยเชียร์ ให้พี่ที่ร้านเราช่วยเชียร์ ให้เราใจอ่อน ถามว่าหวั่นๆไหวมั้ย หวั่นไหวมากๆค่ะ ก็แม้เราไม่ใช่ผู้หญิงจิงๆแล้วมีคนมาจีบขนาดนี้ แทนที่เค้าจะเลือกจีบเราตั้งแต่ที่เราปฏิเสธไป แต่กลับพยายามเพื่อที่จะคบกับเรามากขึ้นทำให้เริ่มใจอ่อนเลยค่ะ
เค้าใช้เวลาจีบเราตั้งแต่ตอนนั้นก็เกือบ 2 เดือนเลยค่ะ สุดท้ายเราเลยใจอ่อนในความพยายามของเค้า สาเหตุจากน้องชายของเค้าบุกมาหาเราที่ร้านแล้วบอกว่า "พี่คับ พี่ผมขอเบอร์ ตกลงจะให้ป่ะ" ด้วยอารมตอนนั้นเรามึนเลยบอกกับน้องเค้าไปว่า "ได้เด๊วโทรไปเคลียกับเอ็มเอง จะได้เลิกจีบสักที" เลยให้เบอร์น้องชายของเค้าไป
แล้วในคืนนั้นเราก็ได้คุยกัน ตอนแรกก็ถามก็คุยกันไปเรื่อยเปลื่อย พอคุยกันได้สักพักเราเลยตัดสินใจเข้าเรื่องเลย เราถามเค้าว่า "ทำไมเทอถึงมาจีบเรา รู้ใช่มั้ยว่าเราไม่ใช่ผู้หญิงจิงๆ" คำตอบที่เราได้คือ "เพราะผู้หญิงจิงๆทำให้เค้าเสียใจมาตลอด เลยคิดว่าสาวประเภทสองคงจิงใจกับได้" แล้วเค้าก็เล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับตัวเค้า ให้เล่าฟังไปเรื่อยๆ จนเราเปลี่ยนใจจากระหว่างกลายเป็นสงสารเค้า แล้วอยากเติมเต็มสิ่งที่ต้องการ สิ่งที่เค้าขาดหาย นั้นคือ ความรัก
และหลังจากนั้น เราก็ตัดสินใจคบกันเป็นแฟนอย่างเปิดเผย ทั้งเพื่อนพ่อแม่พี่น้องทั้งของเราและเค้าก็รับรู้เรื่องของเรา มันช่วงเวลาสั้นๆนะค่ะ แต่มันมีความสุขมากๆ เราคบกันเกือบเดือนแล้วค่ะ ทุกอย่างราบรื่นหมด จนเหตุการณ์ที่ไม่น่าจะเกิดก็เกิดขึ้น เราไม่รู้ว่ามันเริ่มขึ้นตอนไหน แล้วมันขึ้นขึ้นได้ยังไง วันที่ 21 กันยา เราโทรคุยกันปกติ แต่ที่ไม่ปกติคือเค้าพูดน้อยลง ถามคำตอบคำ แล้วอยู่ๆเค้าก็พูดขึ้นว่า "เราอยากอยู่คนเดียวว่ะ เราว่าเรายังไม่พร้อมที่จะมีใคร" พอได้ยินแบบนั้นก็อึ้งสิค่ะ พูดอะไรก็ไม่ออก ไบ้รับประทานไปพักนึงเลยค่ะ แล้วน้ำตาก็ค่อยๆไหล ในหัวก็มีแต่คำแถามว่า ทำไม ทำไม และทำไม เพราะทุกอย่างมันดีไปหมด แล้วทำไมมันเกิดอะไรขึ้น พอเราถามคำก็ตอบแค่ว่ายังไม่พร้อมมีใครแค่นั้น แล้วเวลาที่เค้าอุตส่าลงทุนมาจีบเราเกือบ 2 เดือนมันคืออะไรกัน ถ้าจะคบกับเราเพียงแค่เดือนเดียว (21 สิงหา-21 กันยา จำได้แม่น) คุนยอมเสียเวลาขนาดนั้นเลยหรอ เทอจีบเรามายากๆ น่าจะรักษาเราให้ได้ดีกว่านี้ เราพูดอะไรไม่ออก แม้แต่แรงจะอ้าปากก็ไม่มีไปแต่ตัดสายแล้วร้องไห้คนเดียว จนถึง6 โมงเช้าของอีกวัน แล้วทำงานต่อตอน 8 โมงเช้า นั้นคือความเจ็บปวดครั้งแรก ที่ทำให้เรารู้จักคำว่าความสุขและความทุกข์ไปพร้อมกัน และคอยเตือนเสมอว่า เราจะไม่กลับไปเจ็บปวดแบบนั้นอีก แต่ความเจ็บปวดมันยังไม่จบเพี่ยงเท่านี้ นั้นมันแค่จุดเริ่มต้นของคำว่า เสียใจที่สุด เจ็บปวดที่สุด เท่านั้นเอง ไว้เด๊วมาเล่าให้ฟังต่อนะค่ะ
https://scontent-kul1-1.xx.fbcdn.net/hphotos-xap1/v/t1.0-9/12108932_761918063937890_7627649941811808831_n.jpg?oh=9d9d52fe32213535cc5928c43898341f&oe=56ECA12A
https://scontent-kul1-1.xx.fbcdn.net/hphotos-xfa1/v/t1.0-9/11813492_727959610667069_4378489639871740882_n.jpg?oh=42d18ec3c30e6fe67dbaf9c49b7260b7&oe=56EF4AE8
https://scontent-kul1-1.xx.fbcdn.net/hphotos-xaf1/v/t1.0-9/11813418_727959607333736_5084756595964058232_n.jpg?oh=4dad6036cc04adbdb9b2d80026e431d6&oe=56AC7C75
อันนี้รูปเรานะค่ะ อิอิ ไว้เด๊วมาเล่าให้ฟังต่อค่ะ
อกหักซ้ำๆเพราะแค่คำว่าไม่ใช่ผู้หญิงจิงๆ จะมีมั้ยค่ะคนที่จะยอมรับเราได้จิงๆจากตัวตนที่เป็น?
เริ่มเข้าเรื่องเลยนะคะ ตอนนั้นเราอายุ 18 ปี ทำงานพาร์ทไทม์ 7-11 พร้อมกับส่งตัวเองเรียนไปด้วย จนได้มีโอกาศได้เจอกับผู้ชายคนนึงที่เป็นเพื่อนร่วมงาน 7-11 ด้วยกัน แต่ต่างสาขา เค้าจะมาแลกเปลี่ยนของที่ร้านเราบ่อยๆ และเราก็จะไปแลกของที่ร้านเค้าบ่อยๆเหมือนกัน แต่เราไม่ได้คิดอะไรกับเค้านะค่ะ คิดแค่ว่าเค้าคือเพื่อนร่วมงาน แต่ทุกครั้งที่เค้ามาที่ร้านสาขาเรา เวลาเค้าเหนจ๋า เค้าจะชอบแอบมองเราบางทีก้อแอบเขินเค้านะค่ะ แต่เราก็ไม่ได้คิดไร คิดว่าเค้าคงมองที่เราเป็นของแปลกมั่งค่ะ555
จนเวลาผ่านไปสักประมาณ 2 อาทิตน่าจะได้ที่เราได้เจอเค้า พี่ที่ร้านของ"เอ็ม"ก้อโทมา ขอเรียกชื่อเค้าเลยแล้วกันนะค่ะ พี่คนนั้นก็บอกเอ็มชอบ ขอจีบเราได้มั้ย ซึ่งตอนนั้นถามว่าเราดีใจมั้ยที่มีคนมาจีบ ดีใจมากๆนะค่ะ เพราะตอนนั้นก็ไม่มีแฟนเหมือนกัน แต่ด้วยเป็นคนที่ไม่ชอบให้ใครมาจีบก่อน ถ้าชอบจะจีบเอง จีบติดไม่ติดก็ไม่เป็นไร(ส่วนใหญ่ไม่ติด555) ที่คิดอย่างนั้นก็เพราะว่า เราไม่อยากให้ใครมองว่าสาวประเภทสองสมัยนี้ง่ายๆเสมอไป เราเลือกที่จะเป็นผู้หญิงไม่ใช่เลือกที่จะเป็นกระเทยให้ใครมองว่า เราไม่ใช่ผู้หญิงแล้วยังจีบได้ง่ายๆอีก(ความคิดส่วนตัวค่ะ อิอิ) เพราะเราไม่รู้ว่าเค้าเข้ามาหาเราเพื่อเหตุผลอะไรประมาณนี้ และอีกอย่างเค้าน่าจะได้เจอคนที่ดีกว่าเราอีกตั้งเยอะแยะ
และตอนนั้นพอได้รู้ว่าเอ็มเค้าชอบเรา เราเลยตัดสินใจปฏิเสธไปตรงนั้นเลย ว่าเราคิดกับเค้าแค่เพื่อนแล้วไม่ต้องจีบอีกเพราะต้องทำงานด้วยกันอีกนาน ถึงแม้จะยุคนล่ะสาขา แต่ก็ต้องแลกของที่ร้านกันบ่อยๆ ไม่อยากอึดอัด พอเราพูดไปแบบนั้น เราก็คิดว่ามันคงจบตั้งแต่วันนั้นแล้ว แต่ไม่ใช่เลยค่ะ เค้ากลับพยายามที่จีบเรามากขึ้นกว่าเดิม ทั้งให้พี่ที่ร้านเค้าช่วยเชียร์ ให้พี่ที่ร้านเราช่วยเชียร์ ให้เราใจอ่อน ถามว่าหวั่นๆไหวมั้ย หวั่นไหวมากๆค่ะ ก็แม้เราไม่ใช่ผู้หญิงจิงๆแล้วมีคนมาจีบขนาดนี้ แทนที่เค้าจะเลือกจีบเราตั้งแต่ที่เราปฏิเสธไป แต่กลับพยายามเพื่อที่จะคบกับเรามากขึ้นทำให้เริ่มใจอ่อนเลยค่ะ
เค้าใช้เวลาจีบเราตั้งแต่ตอนนั้นก็เกือบ 2 เดือนเลยค่ะ สุดท้ายเราเลยใจอ่อนในความพยายามของเค้า สาเหตุจากน้องชายของเค้าบุกมาหาเราที่ร้านแล้วบอกว่า "พี่คับ พี่ผมขอเบอร์ ตกลงจะให้ป่ะ" ด้วยอารมตอนนั้นเรามึนเลยบอกกับน้องเค้าไปว่า "ได้เด๊วโทรไปเคลียกับเอ็มเอง จะได้เลิกจีบสักที" เลยให้เบอร์น้องชายของเค้าไป
แล้วในคืนนั้นเราก็ได้คุยกัน ตอนแรกก็ถามก็คุยกันไปเรื่อยเปลื่อย พอคุยกันได้สักพักเราเลยตัดสินใจเข้าเรื่องเลย เราถามเค้าว่า "ทำไมเทอถึงมาจีบเรา รู้ใช่มั้ยว่าเราไม่ใช่ผู้หญิงจิงๆ" คำตอบที่เราได้คือ "เพราะผู้หญิงจิงๆทำให้เค้าเสียใจมาตลอด เลยคิดว่าสาวประเภทสองคงจิงใจกับได้" แล้วเค้าก็เล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับตัวเค้า ให้เล่าฟังไปเรื่อยๆ จนเราเปลี่ยนใจจากระหว่างกลายเป็นสงสารเค้า แล้วอยากเติมเต็มสิ่งที่ต้องการ สิ่งที่เค้าขาดหาย นั้นคือ ความรัก
และหลังจากนั้น เราก็ตัดสินใจคบกันเป็นแฟนอย่างเปิดเผย ทั้งเพื่อนพ่อแม่พี่น้องทั้งของเราและเค้าก็รับรู้เรื่องของเรา มันช่วงเวลาสั้นๆนะค่ะ แต่มันมีความสุขมากๆ เราคบกันเกือบเดือนแล้วค่ะ ทุกอย่างราบรื่นหมด จนเหตุการณ์ที่ไม่น่าจะเกิดก็เกิดขึ้น เราไม่รู้ว่ามันเริ่มขึ้นตอนไหน แล้วมันขึ้นขึ้นได้ยังไง วันที่ 21 กันยา เราโทรคุยกันปกติ แต่ที่ไม่ปกติคือเค้าพูดน้อยลง ถามคำตอบคำ แล้วอยู่ๆเค้าก็พูดขึ้นว่า "เราอยากอยู่คนเดียวว่ะ เราว่าเรายังไม่พร้อมที่จะมีใคร" พอได้ยินแบบนั้นก็อึ้งสิค่ะ พูดอะไรก็ไม่ออก ไบ้รับประทานไปพักนึงเลยค่ะ แล้วน้ำตาก็ค่อยๆไหล ในหัวก็มีแต่คำแถามว่า ทำไม ทำไม และทำไม เพราะทุกอย่างมันดีไปหมด แล้วทำไมมันเกิดอะไรขึ้น พอเราถามคำก็ตอบแค่ว่ายังไม่พร้อมมีใครแค่นั้น แล้วเวลาที่เค้าอุตส่าลงทุนมาจีบเราเกือบ 2 เดือนมันคืออะไรกัน ถ้าจะคบกับเราเพียงแค่เดือนเดียว (21 สิงหา-21 กันยา จำได้แม่น) คุนยอมเสียเวลาขนาดนั้นเลยหรอ เทอจีบเรามายากๆ น่าจะรักษาเราให้ได้ดีกว่านี้ เราพูดอะไรไม่ออก แม้แต่แรงจะอ้าปากก็ไม่มีไปแต่ตัดสายแล้วร้องไห้คนเดียว จนถึง6 โมงเช้าของอีกวัน แล้วทำงานต่อตอน 8 โมงเช้า นั้นคือความเจ็บปวดครั้งแรก ที่ทำให้เรารู้จักคำว่าความสุขและความทุกข์ไปพร้อมกัน และคอยเตือนเสมอว่า เราจะไม่กลับไปเจ็บปวดแบบนั้นอีก แต่ความเจ็บปวดมันยังไม่จบเพี่ยงเท่านี้ นั้นมันแค่จุดเริ่มต้นของคำว่า เสียใจที่สุด เจ็บปวดที่สุด เท่านั้นเอง ไว้เด๊วมาเล่าให้ฟังต่อนะค่ะ
https://scontent-kul1-1.xx.fbcdn.net/hphotos-xap1/v/t1.0-9/12108932_761918063937890_7627649941811808831_n.jpg?oh=9d9d52fe32213535cc5928c43898341f&oe=56ECA12A
https://scontent-kul1-1.xx.fbcdn.net/hphotos-xfa1/v/t1.0-9/11813492_727959610667069_4378489639871740882_n.jpg?oh=42d18ec3c30e6fe67dbaf9c49b7260b7&oe=56EF4AE8
https://scontent-kul1-1.xx.fbcdn.net/hphotos-xaf1/v/t1.0-9/11813418_727959607333736_5084756595964058232_n.jpg?oh=4dad6036cc04adbdb9b2d80026e431d6&oe=56AC7C75
อันนี้รูปเรานะค่ะ อิอิ ไว้เด๊วมาเล่าให้ฟังต่อค่ะ