[CR] รีวิว ครีมรักษาสเตียรอยด์ช่วยชีวิต ฟื้นจากปัญหาสิวรุมเร้า TT^TT

กระทู้รีวิว
ใครที่มีปัญหาผิวบาง หน้าแดง แพ้ง่าย เป็นผื่น เคยใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของสเตียรอยด์ติดต่อกันเป็นเวลานาน พอหยุดใช้แล้วสิวขึ้น หน้าพังฟังทางนี้ค่ะ เราเป็นหนึ่งในคนที่เคยมีปัญหาแบบนี้เช่นกัน หูยยย เราเป็นมาหลายปีมาก รักษาไม่หายขาดซักที จนมาวันหนึ่งได้ไปเจอกับผลิตภัณฑ์ตัวนึงเข้า ใช้แล้วผิวหน้าดีขึ้นมากๆ ถึงจะยังไม่หายขาดซะทีเดียว แต่ก็รู้สึกว่าได้เอาสารพิษออกไปจากใบหน้าค่ะ เราใช้เองจริงๆ แล้วมันดีจริงๆ จึงอยากบอกต่อค่ะ (hard sell กันตรงๆ นี่แหละไม่ต้องอ้อมค้อม5555) ถ้าไม่ดีจริงเราไม่เขียนยาวขนาดนี้นะ อยากให้ลองเก็บไว้เป็นทางเลือกดู เราเข้าใจความทรมานของการเป็นสิวไม่หายสักทีดีค่ะ TT นี่เป็นการเขียนรีวิวครั้งแรก อาจจะมีผิดพลาดอะไรบ้าง (เช่น รูปน้อยมาก แถมไม่ชัดอีก55555) แต่จะพยายามเขียนถ่ายทอดจากประสบการณ์จริงให้ได้มากที่สุดนะคะ

         ก่อนอื่นขออธิบายสภาพผิวโดยรวมของเราคร่าวๆ ก่อนค่ะเราเป็นคนที่ผิวแพ้ง่าย ม า ก เอาเป็นว่าตั้งแต่รู้จักใครมายังไม่เคยเจอใครที่ผิวแพ้ง่าย แพ้ได้แพ้ดี แพ้ไปหมดทุกอย่างหนักขนาดหน้าเราเลย ถ้าใครคิดว่าผิวแพ้ง่ายแล้ว มาไฟท์กับเราได้5555555
ผิวหน้าเราแพ้อากาศ (ถ้าไปเมืองนอก หรือเวลาอากาศเปลี่ยนผื่นก็จะเริ่มมาละ) แพ้ไรฝุ่น แพ้น้ำประปาบางที่ แพ้น้ำยาซักผ้าแรงๆ แพ้เครื่องสำอางค์ แพ้อาหารบางชนิด (เช่นทุเรียน กินเยอะๆ แล้วหน้าจะแดง/ร้อน ผื่นขึ้นเลยล่ะ) แพ้แอลกอฮอล์ แพ้แชมพู/ ยาสีฟัน (ทุกวันนี้ต้องใช้แชมพู/ ยาสีฟัน Kodomo ของเด็กจ้า TT) ใช้ครีมนวดผมก็ไม่ได้ ใช้แล้วอุดตันทั่วหน้าผากเลยค่ะ

                                      

          เรื่องมันเริ่มจากตอนเราจะรับปริญญาค่ะ อย่างว่า.. นี่มันคือหนึ่งในอีเว้นท์สำคัญในชีวิตลูกผู้หญิงอย่างเรารองจากงานแต่งงานเลยเนอะ! 55555 เพราะต้องพบเจอผู้คนมากมาย เพื่อนเก่าสมัยเด็กๆ ครอบครัว ญาติ กิ๊ก แฟนเก่า แฟนใหม่ โอ้ยสารพัด และถ่ายรูปรัวๆๆๆๆๆๆ ครั้งนึงในชีวิตทั้งทีเราก็อยากให้คนที่มาหาเราเจอเราแบบสวยๆ ใช่มะ

           เราก็เริ่มหาวิธีเลย ตอนนั้นจำได้ว่ามีเวลาประมาณ 1 เดือนครึ่งก่อนวันซ้อมใหญ่ ซึ่งเป็นวันที่ต้องถ่ายรูปและเจอคนเยอะพอๆ กับวันรับจริง เราเลยลองไปปรึกษาหมอแผนโบราณดู เนื่องจากเคยหาแผนปัจจุบันแล้วไม่ค่อยเวิร์ค หมอซักถามประวัติเสร็จก็วิเคราะห์ว่า “แบบนี้ผิวหนูติดสเตียรอยด์แล้วนะ ที่ผิวบาง หน้าแดง เป็นผดผื่นแบบนี้ เพราะหนูใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของสารพวกนี้ติดต่อกันเป็นเวลานาน เวลาเลิกใช้แล้วก็จะเกิดอาการอย่างที่เห็น ต้องรักษาจากภายใน” เราก็ อ่อ โอเคค่ะ รับยาสมุนไพรกลับมาต้มกินชุดหนึ่ง ระยะแรก เหมือนยามันจะไปขับของเสียค่ะ ทุกอย่างประทุออกมาหมดเลย ทั้งผื่น ทั้งสิวเม็ดใหญ่ๆ เราได้แต่ปลอบใจตัวเองว่า เดี๋ยวมันก็ดีๆ TT  

            ไปๆ มาๆ เวลา 1 เดือนครึ่ง หมดลงแล้วค่า.. สิวก็ยังไม่หยุดประทุ เราอาจจะแพ้สมุนไพรตัวนี้หรือเปล่า อันนี้ก็ไม่แน่ใจ เราเชื่อว่าวิธีนี้อาจจะดีสำหรับคนที่ใจเย็นๆ และมีเวลาหน่อย แต่ของเรากระชั้นชิดมาก จู่ๆ เราก็มานั่งระลึก กับตัวเองว่า เห้ยอีก 3 วันจะซ้อมใหญ่แล้ว จำได้ว่าวันนั้นเป็นวันพฤหัส เราซ้อมใหญ่วันอาทิตย์ รู้สึกว่ามันไม่ทันแล้วอ่ะ เอาว่ะ! เป็นไงเป็นกัน เอาทางลัดก็ได้! คิดปุ๊บก็เดินเลี้ยวเข้าคลินิครักษาสิวชื่อดังแห่งนึงในห้างแถวบ้านเลยค่ะ เสียเงินไป 1600 กว่าบาท สบายใจมาก ได้เซตยาสเตียรอยด์ทั้งแบบกินและแบบทามาทั้งหมด 1 เซตถ้วน TT ในใจนึกขอโทษผิวหน้าตัวเอง บอกกับตัวเองว่า นี่คือครั้งสุดท้ายแล้วนะที่ชั้นจะให้แกมาทำร้ายผิวชั้น สเตียรอยด์ !! ภายในเวลา 2 วันกว่าๆ เราก็ประโคมๆ เข้าไป อัดแน่นมากค่ะ ทั้งกินทั้งทา เช้า-เย็น กะว่าโอเค พอพ้นวันซ้อมใหญ่แล้วเราค่อยมารักษากันอีกที หน้าก็ดีขึ้นนะคะ เร็วมากๆ ด้วย อย่างว่าเนอะก็มันเป็นสารเคมีอันตราย

            แต่ข้อเสียของการใช้ยารักษาสิวคือทำให้ “แต่งหน้าไม่ติด” เพราะมันจะทำให้ผิวขาดความชุ่มชื้น ถึงจะลง moisturizing cream ยังไงก็ตาม เมคอัพก็ยังจะไหลอยู่ดี ใช้ primer ดีแค่ไหนก็เอาไม่อยู่วันซ้อมรับปริญญาช่างแต่งหน้าเลยต้องประโคมกดๆๆ รองพื้น โบ๊ะแป้งไป 3-4 ชั้น เพื่อที่จะให้เมคอัพอยู่บนหน้าเราให้นานที่สุด (8 โมงเช้าถึง  2 ทุ่ม TT) ผลคือ หน้าวอกเป็นลิงเลยค่ะ  และพ้นช่วงเที่ยงๆ ไปหน่อย หน้าเยิ้มแล้วค่ะ แต่พาร์ทที่แย่ที่สุดไม่ใช่จุดนั้น มันคือ 2-3 วัน หลังจากวันนั้น ที่เราพักหน้า หยุดใช้ครีม ยา และเมคอัพทุกอย่าง สิวและผื่นก็ทยอยๆ มา จนวันนึงตื่นมาเห็นหน้าตัวเองในกระจกแล้วแทบช้อค

            คาดว่าเป็นเพราะแต่งหน้าแบบจัดเต็มทั้งวันในวันนั้น และ หยุดใช้ยาทาสิว และครีมต่างๆ ด้วย ผื่น ผด สิว เลยทยอยมารุมหน้าเราหมดเลยค่ะ

            ทาด๊าาาา…


                                        


              อย่าตกใจนะ เราถ่ายเองยังตกใจเองเลย คือสภาพหน้าตอนนั้นแย่ แบบพีคสุดๆ ในชีวิต แค่ลูบหน้าตัวเองน้ำตาก็จะไหลแล้วค่ะ TT ขอโทษที่รูปอาจจะไม่ค่อยชัดนะคะ อันนี้ถ่ายในไลน์ส่งไปบ่นกับเพื่อนเฉยๆ 5555

              ตอนนั้นคิดอะไรไม่ออกคิดอยู่อย่างเดียวว่าเอาวะ! ชั้นจะต้องไปซื้อยาทาสิว ตอนนั้นออกไปธนาคารที่ the walk เกษตร- นวมินทร์พอดี แวะเข้า Watson กะจะไปซื้อยาทาสิวนี่แหละแต่ไม่รู้อะไรดลใจ เหลือบไปเห็นป้ายสีชมพูขาว มีโลโก้ Repleo แล้วสะดุดตาคำว่า
“เวชสำอางค์สำหรับผิวแพ้ง่าย ฟื้นบำรุงผิวบาง ผิวแพ้ง่าย ผิวติดสเตียรอยด์”


               ตอนนั้นในใจคือไม่อยากทายาสิวแล้ว ไม่อยากหน้าบาง อยากลองรักษาแบบอ่อนโยนดู แล้วเรามีเวลาอีกประมาณเกือบ 1 เดือนก่อนจะรับปริญญาจริง เริ่มสนใจผลิตภัณฑ์ตัวนี้ เลยเดินเข้าไปหยิบกล่องมาดูอ่านๆ รายละเอียด พอ search google ปุ๊บ รีวิวเยอะ ใช้ได้ ผลิตภัณฑ์ปลอดภัยมีอย. โอเค จบ ซื้อค่ะ!



               กลับมาคืนแรกก็ลองใช้เลยค่ะ พอแกะกล่องปริซึมสามเหลี่ยมสีชมพูอ่อนออกมา เจอเป็นขวดทรงกระบอกหน้าตาแบบนี้ค่ะ มีหัวปั๊ม 2 ฝั่ง
                                      


         ด้านนึงเป็นตัว Repair ส่วนอีกด้าน เป็นตัว Protect สีครีมแตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด
ถ้าจำสีได้ไม่มีทางใช้ผิดแน่นอนค่ะ แต่ทางบริษัทก็น่ารักค่ะ ใส่ใจลูกค้า มีคำอธิบายเขียนไว้ชัดเจนฝั่ง Repair ว่า Step 1  ส่วนฝั่ง Protect เขียนว่า Step 2
                                      

ด้าน Repair (step1) เนื้อเซรั่มจะออกเหลืองๆ หน่อย texture เบาซึมเข้าผิวเร็วดีค่ะ
ด้าน Protect (step2) เนื้อเซรั่มจะมีสีขาว texture เบาเช่นกัน แต่ใช้แล้วผิวหน้าชุ่มชื้นมาก


เนื้อเซรั่มทั้งสองด้านมีกลิ่นอ่อนมากๆ สีครีมก็น่าไว้ใจ (มันมีด้วยหรอ สีครีมน่าไว้ใจ555)  
เข้าไปอ่านในเวป และ search ข้อมูลเพิ่มเติมมาได้ความรู้มาเช่นนี้ค่ะ

*ถ้าใครขี้เกียจอ่านจะข้ามพาร์ทนี้ไปก็ได้ค่ะเราเข้าใจ เพราะเวลาเราอ่านรีวิวบางทีเราก็ขี้เกียจอ่านศัพท์ยากๆ ชื่อส่วนประกอบยาวๆ  แค่อยากรู้ว่าผลิตภัณฑ์มันใช้ดีหรือไม่ดีก็พอ เอาเป็นว่าเราพิสูจน์มาแล้วว่าปลอดภัยหายห่วงจริงๆ*


STEP 1 ฟื้นฟูผิวที่บางเสีย แพ้อักเสบ สิวผด

ในขั้นตอนการฟื้นฟูผิวแพ้ง่าย จะเป็นการลดอาการแพ้อักเสบ (Skin-inframmatory) อาการแพ้ สิวผด ลดเลือนรอยแดง  ฟื้นฟูผิวที่บางเสีย จากการระคายเคืองในแต่ละวันด้วย Allantoin , Chamomile & green tea extract ,Nicotinamide (Vitamin B3)

Allantoin - มีคุณสมบัติในการกระตุ้นการเพิ่มจำนวนเซลล์ และเสริมสร้างการสร้างใหม่ของเนื้อเยื่อหยาบ (granulation tissue) ช่วยปกป้องผิวหนังจากอาการแพ้ และช่วยรักษาแผลอักเสบที่หายช้าค่ะ

Chamomile& green tea extract - มีคุณสมบัติในการต้านอนุมูลอิสระ ปกป้องผิวจากมลภาวะ เพิ่มความแข็งแรง เนียนนุ่ม ชุ่มชื่นให้กับเซลล์ผิว ลดการระคายเคืองและการอักเสบของปัญหาสิวและผิวพรรณ
ช่วยปรับสภาพผิว เพิ่มความขาวเรียบเนียน และลดรอยแผลเป็นด้วยค่ะ

Vitamin B3 - ช่วยฟื้นฟูผิวที่โดนสิวทำร้าย ช่วยทำให้ผิวกักเก็บความชุ่มชื้นได้ดีดีขึ้น เป็นเหมือนเกราะป้องกันผิวชั้นดี สามารถช่วยให้ริ้วรอย จุดด่างดำ ร่องลึกดูจากลง ยับยั้งการเคลื่อตัวของเมลานิน ทำให้ผิวเรียบเนียนแลดูขาวขึ้นได้


STEP 2 เติมความนุ่ม และชุ่มชื้น

ผิวบอบบางแพ้ง่ายนั้น เกิดจากความเสียหายที่ผิวด้านนอก (กำแพงชั้นปกป้องผิวหนัง) ทำให้ผิวบอบบาง และอ่อนแอ นำมาซึ่งการเสียความชุ่มชื้นและแห้งลอกได้
สาเหตุมักเกิดจากการใช้ยารักษาผิวหนังผิดประเภท (ยาสิว ยาผลัดผิวบาง AHA BHA Retinol) อาหารการกิน และแสงแดด เราจะช่วยคุณสร้าง ฟื้นฟูชั้นผิวหนังซึ่งอ่อนแอของคุณ ให้กลับมาแข็งแรงอีกครั้ง และเก็บกักความชุ่มชื้นได้ดีขึ้น จาก Jojoba oil , CeramideIII, Hyarulonic acid

Jojoba oil - มีสารคุณสมบัติเป็น Collagen ชนิดเดียวกับผิว ช่วยขจัดน้ำมันบนใบหน้าและสิวเสี้ยน และยังช่วยลดรอยแผลเป็นให้จางลงได้ค่ะ

Ceramide III - ทำให้ผิวหนังมีความยืดหยุ่น ชุ่มชื้น ยับยั้งการเกิดฝ้า กระ จุดด่างดำ ทำให้แลดูกระจ่างใส ช่วยป้องกันการสูญเสียนำ้ในร่างกายมีส่วนช่วยลดการสังเคราะห์เมลานินผิวหนัง และช่วยฟื้นฟูผิวจากปัญหาผิวแห้งเสียรุนแรงและเพิ่มความเนียนนุ่มให้กับผิวหนังชั้นนอกค่ะ

Hyarulonic acid -  ช่วยให้ผิวหนังสามารถเก็บกักความชุ่มชื่นได้มากกว่าปกติหลายเท่าตัว โดยไม่เพิ่มความมันอย่างการผลิตนำ้มันของรูขุมขน (sebum) บนผิวชั้นนอก เมื่อเซลล์ผิวมีความชุ่มชื่นที่ดีเพียงพอ ผิวหน้าก็จะดูอ่อนเยาว์ เนียนเรียบขึ้น ริ้วรอยลดลง มีความยืดหยุ่น นุ่มนวล และดูมีชีวิตชีวาขึ้นค่ะ

นอกจากนี้ Repleo ยังมี CoQ10 Peptide คุณภาพสูง
ซึ่งจะช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ผิวหนังและคอลลาเจนธรรมชาติ เพราะผิวของเราโดนทำร้ายจากรังสี UVA UVB และวัยที่มากขึ้น ทำให้ผิวบาง และแพ้ง่ายมากขึ้น การผลิต CoQ10 ในผิวหนังจะลดลง ซึ่งหมายถึงคอลลาเจนที่ลดลง และผิวที่มีริ้วรอยได้ง่ายขึ้น

และเค้ายังเคลมอีกว่า ไม่ระคายเคืองผิวแพ้ง่าย,ผิวมันอุดตัน,สิวผด 100% เพราะปราศจากแอลกอฮอร์ steroids free, oil free, paraben free และปราศจากนำ้หอม แถมยังไม่ทำการทดลองกับสัตว์อีกด้วยแหละ ประทับใจ ยิ้ม



ที่เขียนเพราะอยากให้เห็นว่ามี supporting evidence นะ เราไม่ได้มาพิมพ์ๆ มั่วๆ นะ เห้ย! เราก็ศึกษามาจริงๆ เดี๋ยวจะหาว่าเรามาบอกต่อมั่วๆ ไม่ได้ ยอมรับค่ะ ว่าทีแรกที่ใช้ก็ไม่ได้ศึกษาอะไรเลย5555 (อย่าเอาเราเป็นตัวอย่างนะ เราเรียนมาร์เกตติ้งมา แต่เป็นเหยื่อโฆษณาง่ายมาก5555) แต่หลังจากที่ใช้แล้วหน้าดีขึ้นๆ และไม่มีผลข้างเคียงอะไร (เช่นไปขับของเสีย ดันสิวออกมา หรือทำให้สิวเห่อ) ก็เริ่มหวั่นๆ ว่าเอ๊ะ นี่ชั้นจะเจอกับสารเคมีแรงๆ ที่ออกฤทธิ์เร็วอีกหรือเปล่า?

สรุปแล้วคือ เซรั่มตัวนี้จะช่วยให้ผิวหน้าที่บางแข็งแรงขึ้น เพราะมีคุณสมบัติช่วยฟื้นฟูผิวจากภายใน รอยแดง ผดผื่น และอาการอักเสบจะลดลง และอีกฝั่งจะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น และปกป้องผิวเมื่อผิวแข็งแรงและได้รับการปกป้องแล้ว โอกาสแพ้และเกิดสิวก็มีได้ยากขึ้นค่ะ

คืนแรกหลังจากใช้เซรั่ม เป็นที่น่าพอใจค่ะ เพราะตื่นมาไม่มีสิวหรือผื่นใดๆ ขึ้นเพิ่ม ถือว่าเป็น sign ที่ดี (สำหรับเราแค่ครีมตัวไหนสามารถอยู่บนหน้าเรา แล้วไม่ทำให้สิวขึ้นหรืออุดตัน เราก็ดีใจมากๆ แล้วค่ะ ผิวเราแพ้ง่ายระดับนั้นเลยแหละ) แต่ก็ไม่กล้าไปคาดหวังอะไรมาก ก็มันไม่ได้มีฤทธิ์รักษาสิวนี่เนอะ

              หลังจากใช้ไป ประมาณ 5 วันค่ะ

ชื่อสินค้า:   Repleo 2-in-1 Cream
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่