เวลาดูถ่ายทอดสดงานพรมแดงของฮอลลีวู้ด ดิฉันสังเกตุเห็นบรรดาแฟนคลับมายืนกรี๊ดกันริมทางเดิน เพื่อเอาหนังสือหรือโปสเตอร์มาให้ดาราเซ็น แล้วก็ถ่ายรูปด้วย แต่ดิฉันไม่เคยเห็นป้ายไฟนะ ให้ตายสิ.. มีโอกาสได้ไปชมศิลปินระดับโลกที่มาแสดงเมืองไทยหลายคน ล่าสุดก็ One Direction บอยแบนด์อังกฤษที่มาเปิดการแสดงใหญ่โตอลังการที่บ้านเรา เห็นพวกแฟนคลับที่เป็นเด็กฝรั่งถือฟิวเจอร์บอร์ดแล้วแปะรูป ใช้สีเมจิกเขียนตัวอักษรตัวใหญ่ๆ ให้ศิลปินมองจากบนเวทีเห็น ที่น่ารักคือหนุ่มๆ ONE-D ขอให้กล้องจับที่ป้ายเหล่านั้นแล้วอ่านออกอากาศให้ทุกคนได้ฟังด้วย ฟินแลนด์กันไป.. แต่ป้ายไฟนี่ไม่มีนะ
ทว่า..แฟนคลับของดาราบ้านเรานั้นแตกต่างโดยสิ้นเชิง มันน่าจะเป็นแลนมาร์คของวงการบันเทิงบ้านเราหรือจัดเป็น “ไทยแลนด์ โอนลี่” ได้นะคะ
ป้ายไฟดูจะเป็นอุปกรณ์พื้นฐานสำคัญอันขาดเสียมิได้ของบรรดาแฟนคลับเวลาที่ไปเชียร์ศิลปินคนโปรด ป้ายเล็ก ป้ายใหญ่ ไม่รู้ว่าขึ้นอยู่กับอะไรแน่ เขาสั่งทำกันที่ไหนไม่รู้ แต่ก็ดูจะเป็นความพากเพียรพยายามไม่น้อยของแฟนคลับ ป้ายบางอันขนาดเท่ากระเบื้องแผ่นใหญ่มุงหลังคาบ้านเลยนะ ซึ่งน้องสาวและดิฉันจะใช้ศัพท์ที่เรารู้กันว่า “ฝาบ้าน” เอาเข้าจริง มันเป็นการสิ้นเปลืองทรัพยากรอย่างมากเลยนะคะ ทั้งพลาสติก หลอดไฟ ป้ายใหญ่มากก็ยิ่งใช้หลอดไฟเยอะมาก ใช้ถ่านหรือแบตเตอร์รี่เยอะอีก (นี่ยังไม่นับว่ามันร้อนมากเวลายืนใกล้ เนื่องจากความร้อนของหลอดไฟ และยังบังคนตัวเตี้ยอย่างเราๆ ที่อยู่ด้านหลังด้วย ฮา)
พระเอกหนุ่มที่ดิฉันชื่นชอบคนนี้ เขาไม่มีป้ายไฟค่ะ คือ ไม่ใช่เขาไม่มีสินะ ตัวเขาเองคงไม่สนใจอะไรอยู่แล้ว เจ้าตัวออกจะเงียบขรึม เก็บเนื้อเก็บตัว ต้องบอกว่า ก่อนหน้านี้ แฟนคลับผู้สนับสนุนของเขาไม่ได้รวมตัวกันเป็นกลุ่มเป็นก้อนและไม่มีใครคิดจะทำ แต่แล้วช่วงที่ผ่านมา ซึ่งเป็นช่วงดิฉันเข้าวงการ เอ๊ย ช่วงที่ติดตามอยู่ ก็มีแฟนคลับตัวแม่ที่ตั้งตัวเป็น “แกนนำ” คิดดำริจะทำขึ้นมา เสนอแผนการอยากเรี่ยไรเงินจากทุกคนเพื่อทำป้ายไฟขนาดใหญ่ โดยให้เหตุผลว่า น้องจะได้ดูดี เป็นหน้าเป็นตา ที่สำคัญ นางเอกที่แสดงคู่กันเขาก็มีป้ายไฟเป็นของตัวเองใหญ่เบ้อเริ่ม จะให้น้อยหน่า เอ๊ย น้อยหน้าได้อย่างไร ฯลฯ โอ้ว พี่เขาช่างมีจิตวิทยาในการโน้มน้าว แต่.. เอิ่ม ดิฉันและน้องสาวเหวอไปพักใหญ่ มันใช่เหรอวะ? ถามเขาหรือยัง เขาอยากได้ป่าว เขาก็ดูกำยำล่ำสันบึกบึนสมชายชาตรี (แม้ในบางมุมจะดูเกย์ไปบ้าง อิอิ) แล้วป้ายไฟวิบวับนี่ มัน ฟรุ้งฟริ้งมุ้งมิ้งไปไหม? จริงๆ เขาออกจะดูแนวกรีน อนุรักษ์ธรรมชาติด้วยซ้ำนะคะ จากที่เคยอ่านบทสัมภาษณ์ แล้วถามฉันยัง ฉันอยากถือป่าว? หรือมีใครอยากถือบ้าง? สนนราคาป้ายเล็กๆ อันละ 700 บาท อันใหญ่มองเห็นได้ชัด 6000 บาท ถ้าเอาใหญ่เท่าฝาบ้านเลยก็ 12000 บาท โดยประมาณ อืมม น่าคิด คือ คิดจะปฏิเสธก่อนเลยนะคะ ก๊ากก
ตอนที่ตามไปเชียร์พระเอกที่งานประกาศรางวัลใหญ่ๆ ดิฉันเคยเห็นแฟนคลับดาราศิลปินท่านอื่นๆ ลากถุงกระสอบขนาดใหญ่มาหาที่ตั้งมั่นตรงข้างๆ พรมแดง พรมม่วง พรมเขียว (ตามสีประจำเจ้าภาพของงาน) ข้างในบรรจุป้ายไฟชื่อศิลปิน ด้ามถือที่รูปร่างคล้ายด้ามไม้ถูพื้น และเก้าอี้พลาสติกพับได้สำหรับขึ้นไปยืนถ่ายรูป และยืนถือป้ายไฟ แล้วแฟนคลับที่เป็นแกนนำก็จะมีวิทยุสื่อสารแบบ walkie-talkie เอาไว้เพื่อให้แฟนคลับอีกคนคอยดูต้นทาง จากอีกฟากว่า แต่ละป้ายตัวอักษรห่างกันได้ระดับดีงามหรือยัง ตรงไหม เอียงซ้ายขวา ยังไง ...โอ้วววว แม่เจ้า มันต้องจริงจังกันเยี่ยงนี้เลย งงครับงง
น้องสาวเล่าให้ฟังว่า แฟนเพจดาราบางคน พอทราบมาว่าศิลปินจะไปร่วมงานโชว์ตัวที่ไหน ก็จะรีบป่าวประกาศแจ้งเชิญชวนให้สมาชิกมิตรรักแฟนเพลงได้ทราบกันทันที มีการโน้มน้าวฮาร์ดเซลล์ ซอฟท์เซลล์ ขายตรงกันเลยทีเดียว ว่าใครลางานได้ก็ลาเลยนะคะ น้องต้องการกำลังใจมากค่ะ ขอคนถือป้ายด้วยนะคะ บางงานถ้าไปต่างจังหวัดแล้วแอดมินหรือตัวแม่ไม่ได้ไป ก็สามารถจัดส่งป้ายไฟไปให้ทางไปรษณีย์กันได้..คืองานป้ายไฟของบ้านนี้ต้องมา..ตอนแรกมีแค่ป้ายไฟที่เป็นชื่อ ตอนนี้สมาชิกเยอะ หรือ ทุนเยอะขึ้นอย่างไรไม่ทราบได้ มีการทำเพิ่มในซีรีส์เดียวกัน เป็นชื่อ และ นามสกุล ด้วย อะ เอากะเธอดิ
สมรภูมิติ่ง - ดราม่าหลังป้ายไฟ ตอน ป้ายไฟและกล้องถ่ายรูป
ทว่า..แฟนคลับของดาราบ้านเรานั้นแตกต่างโดยสิ้นเชิง มันน่าจะเป็นแลนมาร์คของวงการบันเทิงบ้านเราหรือจัดเป็น “ไทยแลนด์ โอนลี่” ได้นะคะ
ป้ายไฟดูจะเป็นอุปกรณ์พื้นฐานสำคัญอันขาดเสียมิได้ของบรรดาแฟนคลับเวลาที่ไปเชียร์ศิลปินคนโปรด ป้ายเล็ก ป้ายใหญ่ ไม่รู้ว่าขึ้นอยู่กับอะไรแน่ เขาสั่งทำกันที่ไหนไม่รู้ แต่ก็ดูจะเป็นความพากเพียรพยายามไม่น้อยของแฟนคลับ ป้ายบางอันขนาดเท่ากระเบื้องแผ่นใหญ่มุงหลังคาบ้านเลยนะ ซึ่งน้องสาวและดิฉันจะใช้ศัพท์ที่เรารู้กันว่า “ฝาบ้าน” เอาเข้าจริง มันเป็นการสิ้นเปลืองทรัพยากรอย่างมากเลยนะคะ ทั้งพลาสติก หลอดไฟ ป้ายใหญ่มากก็ยิ่งใช้หลอดไฟเยอะมาก ใช้ถ่านหรือแบตเตอร์รี่เยอะอีก (นี่ยังไม่นับว่ามันร้อนมากเวลายืนใกล้ เนื่องจากความร้อนของหลอดไฟ และยังบังคนตัวเตี้ยอย่างเราๆ ที่อยู่ด้านหลังด้วย ฮา)
พระเอกหนุ่มที่ดิฉันชื่นชอบคนนี้ เขาไม่มีป้ายไฟค่ะ คือ ไม่ใช่เขาไม่มีสินะ ตัวเขาเองคงไม่สนใจอะไรอยู่แล้ว เจ้าตัวออกจะเงียบขรึม เก็บเนื้อเก็บตัว ต้องบอกว่า ก่อนหน้านี้ แฟนคลับผู้สนับสนุนของเขาไม่ได้รวมตัวกันเป็นกลุ่มเป็นก้อนและไม่มีใครคิดจะทำ แต่แล้วช่วงที่ผ่านมา ซึ่งเป็นช่วงดิฉันเข้าวงการ เอ๊ย ช่วงที่ติดตามอยู่ ก็มีแฟนคลับตัวแม่ที่ตั้งตัวเป็น “แกนนำ” คิดดำริจะทำขึ้นมา เสนอแผนการอยากเรี่ยไรเงินจากทุกคนเพื่อทำป้ายไฟขนาดใหญ่ โดยให้เหตุผลว่า น้องจะได้ดูดี เป็นหน้าเป็นตา ที่สำคัญ นางเอกที่แสดงคู่กันเขาก็มีป้ายไฟเป็นของตัวเองใหญ่เบ้อเริ่ม จะให้น้อยหน่า เอ๊ย น้อยหน้าได้อย่างไร ฯลฯ โอ้ว พี่เขาช่างมีจิตวิทยาในการโน้มน้าว แต่.. เอิ่ม ดิฉันและน้องสาวเหวอไปพักใหญ่ มันใช่เหรอวะ? ถามเขาหรือยัง เขาอยากได้ป่าว เขาก็ดูกำยำล่ำสันบึกบึนสมชายชาตรี (แม้ในบางมุมจะดูเกย์ไปบ้าง อิอิ) แล้วป้ายไฟวิบวับนี่ มัน ฟรุ้งฟริ้งมุ้งมิ้งไปไหม? จริงๆ เขาออกจะดูแนวกรีน อนุรักษ์ธรรมชาติด้วยซ้ำนะคะ จากที่เคยอ่านบทสัมภาษณ์ แล้วถามฉันยัง ฉันอยากถือป่าว? หรือมีใครอยากถือบ้าง? สนนราคาป้ายเล็กๆ อันละ 700 บาท อันใหญ่มองเห็นได้ชัด 6000 บาท ถ้าเอาใหญ่เท่าฝาบ้านเลยก็ 12000 บาท โดยประมาณ อืมม น่าคิด คือ คิดจะปฏิเสธก่อนเลยนะคะ ก๊ากก
ตอนที่ตามไปเชียร์พระเอกที่งานประกาศรางวัลใหญ่ๆ ดิฉันเคยเห็นแฟนคลับดาราศิลปินท่านอื่นๆ ลากถุงกระสอบขนาดใหญ่มาหาที่ตั้งมั่นตรงข้างๆ พรมแดง พรมม่วง พรมเขียว (ตามสีประจำเจ้าภาพของงาน) ข้างในบรรจุป้ายไฟชื่อศิลปิน ด้ามถือที่รูปร่างคล้ายด้ามไม้ถูพื้น และเก้าอี้พลาสติกพับได้สำหรับขึ้นไปยืนถ่ายรูป และยืนถือป้ายไฟ แล้วแฟนคลับที่เป็นแกนนำก็จะมีวิทยุสื่อสารแบบ walkie-talkie เอาไว้เพื่อให้แฟนคลับอีกคนคอยดูต้นทาง จากอีกฟากว่า แต่ละป้ายตัวอักษรห่างกันได้ระดับดีงามหรือยัง ตรงไหม เอียงซ้ายขวา ยังไง ...โอ้วววว แม่เจ้า มันต้องจริงจังกันเยี่ยงนี้เลย งงครับงง
น้องสาวเล่าให้ฟังว่า แฟนเพจดาราบางคน พอทราบมาว่าศิลปินจะไปร่วมงานโชว์ตัวที่ไหน ก็จะรีบป่าวประกาศแจ้งเชิญชวนให้สมาชิกมิตรรักแฟนเพลงได้ทราบกันทันที มีการโน้มน้าวฮาร์ดเซลล์ ซอฟท์เซลล์ ขายตรงกันเลยทีเดียว ว่าใครลางานได้ก็ลาเลยนะคะ น้องต้องการกำลังใจมากค่ะ ขอคนถือป้ายด้วยนะคะ บางงานถ้าไปต่างจังหวัดแล้วแอดมินหรือตัวแม่ไม่ได้ไป ก็สามารถจัดส่งป้ายไฟไปให้ทางไปรษณีย์กันได้..คืองานป้ายไฟของบ้านนี้ต้องมา..ตอนแรกมีแค่ป้ายไฟที่เป็นชื่อ ตอนนี้สมาชิกเยอะ หรือ ทุนเยอะขึ้นอย่างไรไม่ทราบได้ มีการทำเพิ่มในซีรีส์เดียวกัน เป็นชื่อ และ นามสกุล ด้วย อะ เอากะเธอดิ