ข้อมูลผลิตภัณฑ์ HONDA HR-V จาก Honda Automobile
รุ่นและสี
Honda HR-V มีให้เลือก 3 รุ่น ได้แก่
รุ่น S ราคา 890,000 บาท
รุ่น E ราคา 975,000 บาท
รุ่น EL ราคา 1,045,000 บาท (คันทดสอบ)
สี
-สีดำคริสตัล (มุก)
-สีขาวออร์คิด (มุก)
-สีเงิน
อลาบาสเตอร์ (เมทัลลิก)
2 สีใหม่ คือ
-สีเทารูสแบล็ก (เมทัลลิก)
-สีน้ำเงินมอร์ฟโฟ (มุก)
Honda HR-V EL Specifications
แบบ..............................................Crossover 5 Door
เครื่องยนต์....................................เบนซิน 4 สูบ 16 วาล์ว SOHC ซิงเกิ้ลโอเวอร์เฮตแคมชาร์ป i-VTEC
ระบบจ่ายเชื้อเพลิง........................หัวฉีดมัลติพอยท์ PGM-F1
ปริมาตรความจุ.............................1,799 ซีซี
กระบอกสูบคูณช่วงชัก(มิลลิเมตร)..81.0 mm x 87.3 mm
อัตราส่วนกำลังอัด.........................10.6:1
กำลังสูงสุด ....................................104 กิโลวัตต์ 141 แรงม้าที่ 6,500 รอยต่อนาที
แรงบิดสูงสุด..................................172 นิวตัมเมตร 17.5 กิโลกรัมเมตร ที่4,300 รอบต่อนาที
ระบบส่งกำลัง................................CVT Continuously variable transmission with Paddle Shift
ระบบบังคับเลี้ยว...........................พวงมาลัยไฟฟ้าแรคแอนพีเนียน
รัสมีวงเลี้ยว...................................5.3 เมตร
ระบบเบรก
หน้า................................................ดิสก์เบรกแบบมีช่องระบายความร้อน
หลัง................................................ดิสก์เบรก
ระบบกันสะเทือน
หน้า.................................................แมคเฟอร์สันสตรัท สปริง โช้กอัพ เหล็กกันโคลง
หลัง.................................................ทอร์ชั่นบีมแบบ H Shape
ล้อและยาง......................................อัลลอยขอบ 18 นิ้ว
ยาง.................................................Dunlop sp sport maxx 050 215/55R17
มิติตัวถัง
ความกว้าง......................................1,772 mm
ความยาว........................................4,294 mm
ความสูง...........................................1,605 mm
ระยะฐานล้อ......................................2,610 mm
ระยะห่างระหว่างล้อคู่หน้า คู่หลัง.....1,535 mm / 1,540 mm
ความสูงจากพื้นถึงใต้ท้อง................185 mm
ความจุถังเชื้อเพลิง...........................50 ลิตร
น้ำหนักตัวรถ รุ่น EL.........................1,292 กิโลกรัม
หมายเหตุ: - อุปกรณ์มาตรฐานแตกต่างกันในแต่ละรุ่น
- สีน้ำเงินมอร์ฟโฟ (มุก) มีจำหน่ายเฉพาะรุ่น E และ EL
- สีดำคริสตัล (มุก) และ สีน้ำเงินมอร์ฟโฟ (มุก) เพิ่มเงิน 6,000 บาท
- สีขาวออร์คิด (มุก) เพิ่มเงิน 10,000 บาท
ระบบความปลอดภัยใน Honda HR-V
Honda HR-V วางระบบความปลอดภัยในเชิงป้องกันและปกป้องประสิทธิภาพสูง โครงสร้างตัวถังนิรภัยแบบ G-CON (G-Force Control) โครงสร้างตัวถังนิรภัยแบบ G-CON รุ่นใหม่ ใน HR-V ได้รับการพัฒนาให้มีประสิทธิภาพดีขึ้น โดยนำเหล็กที่มีความทนทานมาใช้เป็นวัสดุในการผลิตโครงสร้างตัวถัง ช่วยดูดซับและกระจายแรงกระแทกที่เกิดขึ้นจากการชน โครงสร้างของตัวถังจะอาศัยโครงข่ายที่เชื่อมต่อกันตามจุดต่างๆ ในการกระจายแรงกระแทกที่เกิดขึ้นจากด้านหน้าให้กระจายไปทั่วทั้งโครงสร้างตัวถัง เพื่อลดความเสียหายที่เกิดขึ้นในส่วนโครงห้องโดยสารที่มีผู้ขับและผู้โดยสารนั่งอยู่
สิ่งที่แตกต่างจากโครงสร้างตัวถังแบบเดิม คือ แรงกระแทกจะถูกส่งลงไปยังโครงสร้างตัวถังด้านล่างเป็นหลัก กระจายไปตามแนวโครงสร้างตัวถังทั้งด้านบนและด้านล่าง ซึ่งรวมถึงโครงสร้างพื้นตัวถัง โครงตัวถังด้านข้าง และเสากระจกบังลมหน้า หรือ A-Pillar จากการสร้าง “เส้นทาง” การไหลของแรงกระแทกในโครงสร้างตัวถังอย่างชัดเจนนั้น จะทำให้แรงกระแทกที่เกิดจากการชนทางด้านหน้าสามารถกระจายไปโครงสร้างส่วนต่างๆ ทั่วทั้งตัวถัง หลีกห่างจากโครงสร้างหลักของห้องโดยสาร ลดปัญหาการเสียรูปของโครงสร้างห้องโดยสาร ซึ่งเป็นมาตรฐานของรถยนต์ Honda
ระบบเบรกมือไฟฟ้า (Electric Parking Brake)
ระบบเบรกมือไฟฟ้า หนึ่งในอุปกรณ์มาตรฐานของ HR-V ทุกรุ่น เป็นระบบที่ใช้งานง่าย
เพียงดึงสวิตช์ที่คอนโซลกลางขึ้นเมื่อต้องการใช้เบรกมือ และระบบจะคลายเบรกโดยอัตโนมัติ เมื่อเหยียบคันเร่ง (ระบบจะคลายเบรกในกรณีที่ผู้ขับขี่คาดเข็มขัดนิรภัยเท่านั้น)
ระบบ Auto Brake Hold (Automatic Brake Hold)
หนึ่งในอุปกรณ์มาตรฐานของ HR-V ทุกรุ่น เป็นระบบเบรกที่ช่วยป้องกันไม่ให้รถเคลื่อนตัวโดยไม่ต้องเหยียบเบรกค้างไว้ เมื่อกดปุ่มให้ระบบทำงาน ระบบจะทำการหน่วงเบรกต่อโดยอัตโนมัติหลังจากเหยียบเบรกให้รถหยุดนิ่ง และระบบจะคลายเบรกโดยอัตโนมัติ เมื่อเหยียบคันเร่ง (ระบบจะคลายเบรกในกรณีที่ผู้ขับขี่คาดเข็มขัดนิรภัยเท่านั้น) ออกแบบมาเพื่อให้ผู้ขับขี่ได้ผ่อนคลายจากอาการเมื่อยล้าในช่วงเวลาที่ต้องเหยียบเบรกค้างไว้เป็นเวลานาน เช่น ในสภาพการจราจรติดขัด
ถุงลมด้านคนขับ (i-SRS)
โครงสร้างที่มีลักษณะเป็นวงก้นหอย และมีวาล์วควบคุมการปล่อยก๊าซ เพื่อควบคุมการพองตัวและแรงดันของถุงลมให้ทำงานอย่างสม่ำเสมอ โดยระบบสามารถที่จะปล่อยแรงดันเพื่อให้ถุงลมมีการพองตัวอย่างรวดเร็ว เพื่อช่วยปกป้องผู้ขับขี่ ถุงลมก็จะยังพองตัวต่อไปอีกสักระยะ จนกระทั่งสิ้นสุดการปกป้อง ด้วยการลดมุมที่ยื่นเข้ามาในพื้นที่ส่วนของผู้ขับขี่หรือผู้โดยสารด้านหน้า
ให้เหลือน้อยที่สุด ตัวระบบยังลดแรงกระแทกที่เกิดขึ้นกับคนขับโดยจัดการตำแหน่งของผู้ขับขี่หรือผู้โดยสาร กับสิ่งที่จะเกิดขึ้นจากการชนทางด้านหน้าให้เหมาะสม
ถุงลมด้านข้างคู่หน้า (i-Side Airbags)
ถุงลมด้านข้างคู่หน้าอัจฉริยะ ถูกติดตั้งอยู่ใน Honda HR-V (เฉพาะรุ่น EL) บริเวณด้านข้างของ
พนักพิงหลังเบาะคู่หน้า โดยได้รับการออกแบบมาเพื่อช่วยปกป้องร่างกายส่วนบนตั้งแต่ช่วงหน้าอกจนถึงช่วงท้องของผู้ขับขี่และผู้โดยสารด้านหน้า จากการชนทางด้านข้าง โดยถุงลมได้รับการพัฒนาและออกแบบ ให้ตัวถุงลมสามารถพองตัวออกมาได้อย่างเหมาะสม ช่วยลดความเสี่ยงต่ออาการบาดเจ็บแม้ว่าผู้ขับขี่หรือผู้โดยสารด้านหน้าจะมีสรีระที่เล็กกว่าปกติ
ม่านถุงลมด้านข้าง (Side Curtain Airbags)
ม่านถุงลมด้านข้างพร้อมระบบตรวจจับการพลิกคว่ำของตัวรถ ถูกติดตั้งอยู่ใน HR-V รุ่นสูงสุด (เฉพาะรุ่น EL) บริเวณแนวขอบหลังคา ซึ่งตัวม่านถุงลมนิรภัยจะทำหน้าที่ปกป้องการกระแทกของศีรษะของผู้ขับขี่หรือผู้โดยสารกับบริเวณกระจกหน้าต่าง เมื่อมีการชนจากทางด้านข้างในจังหวะที่รถพลิกคว่ำ
ระบบตรวจจับการพลิกคว่ำของตัวรถจะทำงานร่วมกับเซ็นเซอร์ตรวจจับแรง G ในหลากหลายทิศทาง
เพื่อคำนวณความเสี่ยงที่ตัวรถจะเกิดการพลิกคว่ำ หลังจากนั้นระบบจะสั่งการให้ถุงลมนิรภัยทำงาน
ซึ่งในกรณีที่เกิดการพลิกคว่ำ ม่านถุงลมด้านข้างทั้ง 2 ฝั่งจะทำงาน แต่ถ้าการชนจากทางด้านข้างไม่รุนแรงพอที่จะเกิดการพลิกคว่ำ ก็จะมีเพียงถุงลมนิรภัยด้านข้างเท่านั้นที่ทำงาน
เข็มขัดนิรภัย 3 จุด แบบดึงกลับอัตโนมัติ (Emergency Locking Retractor - ELR)
เมื่อมีการตรวจสอบและพบว่ามีการชนทางด้านหน้า เข็มขัดจะทำงานเพื่อดึงรัดให้สรีระอยู่ในตำแหน่งที่มั่นคงทันที จากนั้นจึงค่อยๆ คลายตัวลงเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดแรงกระทำกับร่างกายจนนำไปสู่อาการบาดเจ็บโดยเฉพาะในส่วนบริเวณหน้าอก การทำงานของระบบได้รับการออกแบบมาได้อย่างสอดคล้องกับระบบการทำงานของถุงลมนิรภัย เพื่อประสิทธิภาพการปกป้องอย่างสูงสุด และเข็มขัดสามารถปรับระดับสูง-ต่ำได้ เพื่อให้สอดคล้องกับสรีระ
ระบบป้องกันล้อล็อก (ABS)
พร้อมระบบกระจายแรงเบรกควบคุมด้วยอิเล็กทรอนิกส์ (EBD) และระบบเสริมแรงเบรก
ระบบป้องกันล้อล็อก ถูกออกแบบมาเพื่อป้องกันไม่ให้ล้อรถยนต์ล็อกในขณะที่มีการเบรกกะทันหัน เพื่อให้
ผู้ขับขี่สามารถควบคุมรถและหักพวงมาลัยหลบสิ่งกีดขวางที่อยู่ด้านหน้า ขณะที่ระบบกระจายแรงเบรก
ถูกควบคุมด้วยอิเล็กทรอนิกส์ จะทำหน้าที่ในการกระจายแรงเบรกระหว่างล้อหน้าและล้อหลัง ให้ความสมดุลกับน้ำหนักในการบรรทุกเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการเบรก
ระบบควบคุมการทรงตัว (Vehicle Stability Assist - VSA)
เป็นระบบที่ช่วยในการยึดเกาะถนน เพื่อความมั่นคงในทุกการขับเคลื่อน การทำงานของระบบ VSA คือ
การส่งแรงดันน้ำมันเบรกอย่างอิสระไปที่เบรกของล้อข้างใดข้างหนึ่งหรือมากกว่านั้น ขณะที่มีการผลิตกำลังของเครื่องยนต์ เพื่อช่วยให้ตัวรถถูกควบคุมและทรงตัวอยู่บนเส้นทางที่ผู้ขับขี่ต้องการ ระบบควบคุมการทรงตัว VSA จะทำการวิเคราะห์อย่างต่อเนื่อง โดยอาศัยข้อมูลจากเซ็นเซอร์ซึ่งดูแลการทำงานของล้อ และความเร็วของตัวรถ การหมุนของพวงมาลัย แรง G ที่เกิดขึ้นทางด้านข้าง และความเร็วในการหมุนของตัวรถ โดยจะเปรียบเทียบกับข้อมูลที่ทางระบบได้รับจากการควบคุมรถของผู้ขับขี่และการตอบสนองจริงของตัวรถ และเมื่อการตอบสนองจริงของตัวรถหลุดออกจากค่าที่กำหนดโดยระบบ หรือเกินจากขอบเขตที่จะวัดระดับได้ ระบบควบคุมการทรงตัว VSA จะเข้ามาแทรกแซงการทำงานเพื่อควบคุมตัวรถให้อยู่บนเส้นทางที่ถูกต้อง เช่น ถ้า VSA มีการตรวจพบว่าตัวรถมีอาการท้ายปัด (Oversteer) ระบบก็จะมีการส่งแรงเบรกไปยังล้อหน้าและหลังด้านนอก เพื่อป้องกันไม่ให้ตัวรถเกิดอาการหมุนหรือปัดออกทางด้านข้าง ส่วนในกรณีที่เกิดอาการหน้าดื้อโค้ง (Understeer) VSA จะสั่งเบรกที่ล้อหลังด้านใน และลดกำลัง
ของเครื่องยนต์ลงเพื่อช่วยให้ตัวรถกลับมาอยู่ในช่องทางปกติ
ระบบช่วยควบคุมการบังคับพวงมาลัย (Motion Adaptive – EPS - MA-EPS)
ทำงานร่วมกับระบบควบคุมการทรงตัว VSA และระบบพวงมาลัยเพาเวอร์ช่วยผ่อนแรงด้วยไฟฟ้า ช่วยให้
ผู้ขับขี่สามารถบังคับเลี้ยวได้อย่างแม่นยำในขณะที่เข้าโค้ง หรือขณะที่ขับบนเส้นทางที่เปียกลื่น
ระบบช่วยการออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน (Hill Start Assist - HSA)
เป็นระบบป้องกันการไหลของรถเมื่อขึ้นทางชัน ในขณะที่รถหยุดบนทางลาดชัน ระบบ HSA จะสั่งการ
โดยอัตโนมัติเพื่อป้องกันรถยนต์ไม่ให้รถไหลลงจากทางลาดชันในขณะออกตัว
สัญญาณไฟฉุกเฉินอัตโนมัติขณะเบรกกะทันหัน (Emergency Signal System - ESS)
เป็นระบบสัญญาณไฟกะพริบฉุกเฉินที่จะทำงานในกรณีที่เหยียบเบรกกะทันหัน เพื่อเป็นการแจ้งเตือนรถที่ตามมาข้างหลัง
กล้องส่องภาพด้านหลังปรับมุมมอง 3 ระดับ
ช่วยเพิ่มทัศนวิสัยในการถอย โดยสามารถเลือกดูมุมกล้องที่แตกต่างกัน ได้ทั้งแบบ 130 องศา 180 องศา และมุมมองจากด้านบน ในจังหวะที่เกียร์ถูกเปลี่ยนมาอยู่ในตำแหน่งเกียร์ถอยหลัง (ตำแหน่งเกียร์ R)
จุดยึดเบาะนั่งสำหรับเด็ก (ISOFIX & Child Anchor)
ถือเป็นมาตรฐานระดับสากลสำหรับการใช้เบาะที่นั่งเด็กในรถยนต์ ใช้งานง่ายโดยเบาะที่นั่งจะถูกยึดรั้งได้โดยไม่ต้องใช้เข็มขัดนิรภัยหรือตัวล็อกใดๆ
โดย : อาคม รวมสุวรรณ
E-Mail chang.arcom@thairath.co.th
Facebook
https://www.facebook.com/chang.arcom
รีวิว ฮอนด้า เอชอาร์วี (Honda HRV) ทำไมถึงขายดีหนักหนา ?
รุ่นและสี
Honda HR-V มีให้เลือก 3 รุ่น ได้แก่
รุ่น S ราคา 890,000 บาท
รุ่น E ราคา 975,000 บาท
รุ่น EL ราคา 1,045,000 บาท (คันทดสอบ)
สี
-สีดำคริสตัล (มุก)
-สีขาวออร์คิด (มุก)
-สีเงิน อลาบาสเตอร์ (เมทัลลิก)
2 สีใหม่ คือ
-สีเทารูสแบล็ก (เมทัลลิก)
-สีน้ำเงินมอร์ฟโฟ (มุก)
Honda HR-V EL Specifications
แบบ..............................................Crossover 5 Door
เครื่องยนต์....................................เบนซิน 4 สูบ 16 วาล์ว SOHC ซิงเกิ้ลโอเวอร์เฮตแคมชาร์ป i-VTEC
ระบบจ่ายเชื้อเพลิง........................หัวฉีดมัลติพอยท์ PGM-F1
ปริมาตรความจุ.............................1,799 ซีซี
กระบอกสูบคูณช่วงชัก(มิลลิเมตร)..81.0 mm x 87.3 mm
อัตราส่วนกำลังอัด.........................10.6:1
กำลังสูงสุด ....................................104 กิโลวัตต์ 141 แรงม้าที่ 6,500 รอยต่อนาที
แรงบิดสูงสุด..................................172 นิวตัมเมตร 17.5 กิโลกรัมเมตร ที่4,300 รอบต่อนาที
ระบบส่งกำลัง................................CVT Continuously variable transmission with Paddle Shift
ระบบบังคับเลี้ยว...........................พวงมาลัยไฟฟ้าแรคแอนพีเนียน
รัสมีวงเลี้ยว...................................5.3 เมตร
ระบบเบรก
หน้า................................................ดิสก์เบรกแบบมีช่องระบายความร้อน
หลัง................................................ดิสก์เบรก
ระบบกันสะเทือน
หน้า.................................................แมคเฟอร์สันสตรัท สปริง โช้กอัพ เหล็กกันโคลง
หลัง.................................................ทอร์ชั่นบีมแบบ H Shape
ล้อและยาง......................................อัลลอยขอบ 18 นิ้ว
ยาง.................................................Dunlop sp sport maxx 050 215/55R17
มิติตัวถัง
ความกว้าง......................................1,772 mm
ความยาว........................................4,294 mm
ความสูง...........................................1,605 mm
ระยะฐานล้อ......................................2,610 mm
ระยะห่างระหว่างล้อคู่หน้า คู่หลัง.....1,535 mm / 1,540 mm
ความสูงจากพื้นถึงใต้ท้อง................185 mm
ความจุถังเชื้อเพลิง...........................50 ลิตร
น้ำหนักตัวรถ รุ่น EL.........................1,292 กิโลกรัม
หมายเหตุ: - อุปกรณ์มาตรฐานแตกต่างกันในแต่ละรุ่น
- สีน้ำเงินมอร์ฟโฟ (มุก) มีจำหน่ายเฉพาะรุ่น E และ EL
- สีดำคริสตัล (มุก) และ สีน้ำเงินมอร์ฟโฟ (มุก) เพิ่มเงิน 6,000 บาท
- สีขาวออร์คิด (มุก) เพิ่มเงิน 10,000 บาท
ระบบความปลอดภัยใน Honda HR-V
Honda HR-V วางระบบความปลอดภัยในเชิงป้องกันและปกป้องประสิทธิภาพสูง โครงสร้างตัวถังนิรภัยแบบ G-CON (G-Force Control) โครงสร้างตัวถังนิรภัยแบบ G-CON รุ่นใหม่ ใน HR-V ได้รับการพัฒนาให้มีประสิทธิภาพดีขึ้น โดยนำเหล็กที่มีความทนทานมาใช้เป็นวัสดุในการผลิตโครงสร้างตัวถัง ช่วยดูดซับและกระจายแรงกระแทกที่เกิดขึ้นจากการชน โครงสร้างของตัวถังจะอาศัยโครงข่ายที่เชื่อมต่อกันตามจุดต่างๆ ในการกระจายแรงกระแทกที่เกิดขึ้นจากด้านหน้าให้กระจายไปทั่วทั้งโครงสร้างตัวถัง เพื่อลดความเสียหายที่เกิดขึ้นในส่วนโครงห้องโดยสารที่มีผู้ขับและผู้โดยสารนั่งอยู่
สิ่งที่แตกต่างจากโครงสร้างตัวถังแบบเดิม คือ แรงกระแทกจะถูกส่งลงไปยังโครงสร้างตัวถังด้านล่างเป็นหลัก กระจายไปตามแนวโครงสร้างตัวถังทั้งด้านบนและด้านล่าง ซึ่งรวมถึงโครงสร้างพื้นตัวถัง โครงตัวถังด้านข้าง และเสากระจกบังลมหน้า หรือ A-Pillar จากการสร้าง “เส้นทาง” การไหลของแรงกระแทกในโครงสร้างตัวถังอย่างชัดเจนนั้น จะทำให้แรงกระแทกที่เกิดจากการชนทางด้านหน้าสามารถกระจายไปโครงสร้างส่วนต่างๆ ทั่วทั้งตัวถัง หลีกห่างจากโครงสร้างหลักของห้องโดยสาร ลดปัญหาการเสียรูปของโครงสร้างห้องโดยสาร ซึ่งเป็นมาตรฐานของรถยนต์ Honda
ระบบเบรกมือไฟฟ้า (Electric Parking Brake)
ระบบเบรกมือไฟฟ้า หนึ่งในอุปกรณ์มาตรฐานของ HR-V ทุกรุ่น เป็นระบบที่ใช้งานง่าย เพียงดึงสวิตช์ที่คอนโซลกลางขึ้นเมื่อต้องการใช้เบรกมือ และระบบจะคลายเบรกโดยอัตโนมัติ เมื่อเหยียบคันเร่ง (ระบบจะคลายเบรกในกรณีที่ผู้ขับขี่คาดเข็มขัดนิรภัยเท่านั้น)
ระบบ Auto Brake Hold (Automatic Brake Hold)
หนึ่งในอุปกรณ์มาตรฐานของ HR-V ทุกรุ่น เป็นระบบเบรกที่ช่วยป้องกันไม่ให้รถเคลื่อนตัวโดยไม่ต้องเหยียบเบรกค้างไว้ เมื่อกดปุ่มให้ระบบทำงาน ระบบจะทำการหน่วงเบรกต่อโดยอัตโนมัติหลังจากเหยียบเบรกให้รถหยุดนิ่ง และระบบจะคลายเบรกโดยอัตโนมัติ เมื่อเหยียบคันเร่ง (ระบบจะคลายเบรกในกรณีที่ผู้ขับขี่คาดเข็มขัดนิรภัยเท่านั้น) ออกแบบมาเพื่อให้ผู้ขับขี่ได้ผ่อนคลายจากอาการเมื่อยล้าในช่วงเวลาที่ต้องเหยียบเบรกค้างไว้เป็นเวลานาน เช่น ในสภาพการจราจรติดขัด
ถุงลมด้านคนขับ (i-SRS)
โครงสร้างที่มีลักษณะเป็นวงก้นหอย และมีวาล์วควบคุมการปล่อยก๊าซ เพื่อควบคุมการพองตัวและแรงดันของถุงลมให้ทำงานอย่างสม่ำเสมอ โดยระบบสามารถที่จะปล่อยแรงดันเพื่อให้ถุงลมมีการพองตัวอย่างรวดเร็ว เพื่อช่วยปกป้องผู้ขับขี่ ถุงลมก็จะยังพองตัวต่อไปอีกสักระยะ จนกระทั่งสิ้นสุดการปกป้อง ด้วยการลดมุมที่ยื่นเข้ามาในพื้นที่ส่วนของผู้ขับขี่หรือผู้โดยสารด้านหน้า ให้เหลือน้อยที่สุด ตัวระบบยังลดแรงกระแทกที่เกิดขึ้นกับคนขับโดยจัดการตำแหน่งของผู้ขับขี่หรือผู้โดยสาร กับสิ่งที่จะเกิดขึ้นจากการชนทางด้านหน้าให้เหมาะสม
ถุงลมด้านข้างคู่หน้า (i-Side Airbags)
ถุงลมด้านข้างคู่หน้าอัจฉริยะ ถูกติดตั้งอยู่ใน Honda HR-V (เฉพาะรุ่น EL) บริเวณด้านข้างของ พนักพิงหลังเบาะคู่หน้า โดยได้รับการออกแบบมาเพื่อช่วยปกป้องร่างกายส่วนบนตั้งแต่ช่วงหน้าอกจนถึงช่วงท้องของผู้ขับขี่และผู้โดยสารด้านหน้า จากการชนทางด้านข้าง โดยถุงลมได้รับการพัฒนาและออกแบบ ให้ตัวถุงลมสามารถพองตัวออกมาได้อย่างเหมาะสม ช่วยลดความเสี่ยงต่ออาการบาดเจ็บแม้ว่าผู้ขับขี่หรือผู้โดยสารด้านหน้าจะมีสรีระที่เล็กกว่าปกติ
ม่านถุงลมด้านข้าง (Side Curtain Airbags)
ม่านถุงลมด้านข้างพร้อมระบบตรวจจับการพลิกคว่ำของตัวรถ ถูกติดตั้งอยู่ใน HR-V รุ่นสูงสุด (เฉพาะรุ่น EL) บริเวณแนวขอบหลังคา ซึ่งตัวม่านถุงลมนิรภัยจะทำหน้าที่ปกป้องการกระแทกของศีรษะของผู้ขับขี่หรือผู้โดยสารกับบริเวณกระจกหน้าต่าง เมื่อมีการชนจากทางด้านข้างในจังหวะที่รถพลิกคว่ำ ระบบตรวจจับการพลิกคว่ำของตัวรถจะทำงานร่วมกับเซ็นเซอร์ตรวจจับแรง G ในหลากหลายทิศทาง เพื่อคำนวณความเสี่ยงที่ตัวรถจะเกิดการพลิกคว่ำ หลังจากนั้นระบบจะสั่งการให้ถุงลมนิรภัยทำงาน ซึ่งในกรณีที่เกิดการพลิกคว่ำ ม่านถุงลมด้านข้างทั้ง 2 ฝั่งจะทำงาน แต่ถ้าการชนจากทางด้านข้างไม่รุนแรงพอที่จะเกิดการพลิกคว่ำ ก็จะมีเพียงถุงลมนิรภัยด้านข้างเท่านั้นที่ทำงาน
เข็มขัดนิรภัย 3 จุด แบบดึงกลับอัตโนมัติ (Emergency Locking Retractor - ELR)
เมื่อมีการตรวจสอบและพบว่ามีการชนทางด้านหน้า เข็มขัดจะทำงานเพื่อดึงรัดให้สรีระอยู่ในตำแหน่งที่มั่นคงทันที จากนั้นจึงค่อยๆ คลายตัวลงเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดแรงกระทำกับร่างกายจนนำไปสู่อาการบาดเจ็บโดยเฉพาะในส่วนบริเวณหน้าอก การทำงานของระบบได้รับการออกแบบมาได้อย่างสอดคล้องกับระบบการทำงานของถุงลมนิรภัย เพื่อประสิทธิภาพการปกป้องอย่างสูงสุด และเข็มขัดสามารถปรับระดับสูง-ต่ำได้ เพื่อให้สอดคล้องกับสรีระ
ระบบป้องกันล้อล็อก (ABS)
พร้อมระบบกระจายแรงเบรกควบคุมด้วยอิเล็กทรอนิกส์ (EBD) และระบบเสริมแรงเบรก
ระบบป้องกันล้อล็อก ถูกออกแบบมาเพื่อป้องกันไม่ให้ล้อรถยนต์ล็อกในขณะที่มีการเบรกกะทันหัน เพื่อให้ ผู้ขับขี่สามารถควบคุมรถและหักพวงมาลัยหลบสิ่งกีดขวางที่อยู่ด้านหน้า ขณะที่ระบบกระจายแรงเบรก ถูกควบคุมด้วยอิเล็กทรอนิกส์ จะทำหน้าที่ในการกระจายแรงเบรกระหว่างล้อหน้าและล้อหลัง ให้ความสมดุลกับน้ำหนักในการบรรทุกเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการเบรก
ระบบควบคุมการทรงตัว (Vehicle Stability Assist - VSA)
เป็นระบบที่ช่วยในการยึดเกาะถนน เพื่อความมั่นคงในทุกการขับเคลื่อน การทำงานของระบบ VSA คือ การส่งแรงดันน้ำมันเบรกอย่างอิสระไปที่เบรกของล้อข้างใดข้างหนึ่งหรือมากกว่านั้น ขณะที่มีการผลิตกำลังของเครื่องยนต์ เพื่อช่วยให้ตัวรถถูกควบคุมและทรงตัวอยู่บนเส้นทางที่ผู้ขับขี่ต้องการ ระบบควบคุมการทรงตัว VSA จะทำการวิเคราะห์อย่างต่อเนื่อง โดยอาศัยข้อมูลจากเซ็นเซอร์ซึ่งดูแลการทำงานของล้อ และความเร็วของตัวรถ การหมุนของพวงมาลัย แรง G ที่เกิดขึ้นทางด้านข้าง และความเร็วในการหมุนของตัวรถ โดยจะเปรียบเทียบกับข้อมูลที่ทางระบบได้รับจากการควบคุมรถของผู้ขับขี่และการตอบสนองจริงของตัวรถ และเมื่อการตอบสนองจริงของตัวรถหลุดออกจากค่าที่กำหนดโดยระบบ หรือเกินจากขอบเขตที่จะวัดระดับได้ ระบบควบคุมการทรงตัว VSA จะเข้ามาแทรกแซงการทำงานเพื่อควบคุมตัวรถให้อยู่บนเส้นทางที่ถูกต้อง เช่น ถ้า VSA มีการตรวจพบว่าตัวรถมีอาการท้ายปัด (Oversteer) ระบบก็จะมีการส่งแรงเบรกไปยังล้อหน้าและหลังด้านนอก เพื่อป้องกันไม่ให้ตัวรถเกิดอาการหมุนหรือปัดออกทางด้านข้าง ส่วนในกรณีที่เกิดอาการหน้าดื้อโค้ง (Understeer) VSA จะสั่งเบรกที่ล้อหลังด้านใน และลดกำลัง ของเครื่องยนต์ลงเพื่อช่วยให้ตัวรถกลับมาอยู่ในช่องทางปกติ
ระบบช่วยควบคุมการบังคับพวงมาลัย (Motion Adaptive – EPS - MA-EPS)
ทำงานร่วมกับระบบควบคุมการทรงตัว VSA และระบบพวงมาลัยเพาเวอร์ช่วยผ่อนแรงด้วยไฟฟ้า ช่วยให้ ผู้ขับขี่สามารถบังคับเลี้ยวได้อย่างแม่นยำในขณะที่เข้าโค้ง หรือขณะที่ขับบนเส้นทางที่เปียกลื่น
ระบบช่วยการออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน (Hill Start Assist - HSA)
เป็นระบบป้องกันการไหลของรถเมื่อขึ้นทางชัน ในขณะที่รถหยุดบนทางลาดชัน ระบบ HSA จะสั่งการ โดยอัตโนมัติเพื่อป้องกันรถยนต์ไม่ให้รถไหลลงจากทางลาดชันในขณะออกตัว
สัญญาณไฟฉุกเฉินอัตโนมัติขณะเบรกกะทันหัน (Emergency Signal System - ESS)
เป็นระบบสัญญาณไฟกะพริบฉุกเฉินที่จะทำงานในกรณีที่เหยียบเบรกกะทันหัน เพื่อเป็นการแจ้งเตือนรถที่ตามมาข้างหลัง
กล้องส่องภาพด้านหลังปรับมุมมอง 3 ระดับ
ช่วยเพิ่มทัศนวิสัยในการถอย โดยสามารถเลือกดูมุมกล้องที่แตกต่างกัน ได้ทั้งแบบ 130 องศา 180 องศา และมุมมองจากด้านบน ในจังหวะที่เกียร์ถูกเปลี่ยนมาอยู่ในตำแหน่งเกียร์ถอยหลัง (ตำแหน่งเกียร์ R)
จุดยึดเบาะนั่งสำหรับเด็ก (ISOFIX & Child Anchor)
ถือเป็นมาตรฐานระดับสากลสำหรับการใช้เบาะที่นั่งเด็กในรถยนต์ ใช้งานง่ายโดยเบาะที่นั่งจะถูกยึดรั้งได้โดยไม่ต้องใช้เข็มขัดนิรภัยหรือตัวล็อกใดๆ
โดย : อาคม รวมสุวรรณ
E-Mail chang.arcom@thairath.co.th
Facebook https://www.facebook.com/chang.arcom
http://www.honda.co.th/th/hrv