1. สถานทูตสวิสเซอร์แลนด์"หวง"วันในวีซ่ามาก ขอไป 10 วัน ได้มา 10 วันเป๊ะ กะไม่ให้เผื่อดีเลย์กันเลย
2. ขอวีซ่าสวิส(หรือฝรั่งเศล) ผ่านตัวแทน TLS สะดวกดี แลกกับค่าดำเนินการเกือบ 900 บาท
3. ประกันภัยเดินทาง ผมหาได้ถูกสุดที่ 420 บาท สำหรับ 10 วันแบบ Worldwide
4. กรณีซื้อตั๋วแบบ Multi-City แนะนำว่าไม่ควรทิ้งช่วงเวลาในการเปลี่ยนเครื่องแต่ละลำนานเกินไป เพราะจะทำให้เปลืองพลังงานมาก
5. แนะนำเรื่องตั๋ว Multi-City อีกข้อ แนะนำให้เริ่มต้นจากสิงคโปร์ หรือมาเลย์ อย่าเริ่มจากฮ่องกง เพราะคุณจะต้องนั่งแกร่วเพิ่มจากเดิมอีก 2 ชั่วโมงโดยไม่จำเป็น (ปกติบินจากสิงคโปร์ > อาบูดาบี ใช้เวลา 7 ชั่วโมง แต่จากฮ่องกง > อาบูดาบี ใช้เวลา 9 ชั่วโมง!!
6. ที่อาบน้ำที่ฮ่องกง ราคาเริ่มต้น 100 เหรียญฮ่องกง (สี่ร้อยกว่าบาท) เพราะฉะนั้น ดองเค็มต่อไปเถอะ!
7. เกทฮ่องกงเดินไกลมาก อย่าประมาทเดินดูของใน Duty Free นานเกินไป
8. หากชีวิตติดมือถือ แนะนำพอสายชาร์จติดตัวขึ้นเครื่องไปด้วย เพราะแต่ละที่นั่งจะมีปลั๊กสำหรับชาร์จได้
9. ชาร์จทุกครั้งหากมีโอกาส เพราะชีวิตที่แบตต่ำกว่า 10 บีบคั้นหัวใจโดยไม่จำเป็น
10. สนามบินอาบูดาบีมี Gate เยอะมาก บาง Gate ไม่น่าจะเรียกว่าเกทได้ เพราะเล็กมาก
11. แขกเยอะมาก เยอะยิ่งกว่าแถวพาหุรัด (ใครละเอียดอ่อนเรื่องกลิ่น อาจมีปัญหานิดนึง)
12. เพิ่งเคยเห็นห้องน้ำชายที่อาบูดาบีมีผู้ชายยืนต่อคิวหน้าห้องน้ำ
13. สนามบินอาบูดาบีมีห้องอาบน้ำฟรี ซึ่งหลายคนไม่รู้ (ผมก็เกือบหาไม่เจอ) อยู่ตรงทางไป Gate 53-61 ทางขวามือ เป็นบันไดเดินลงไป
14. ห้องอาบน้ำฟรีมีแต่น้ำ กับแยกส่วนเปียกส่วนแห้งเท่านั้น ควรเตรียมสบู่,ยาสระผม,ผ้าเช็ดตัวไปเองด้วยนะจ้ะ
15. Etihad มีเวลาเปลี่ยนเครื่องที่อาบูดาบี 3 ชั่วโมง เหมือนจะนาน แต่ดำเนินการตามขั้นตอนแล้ว แป๊ปเดียว ไหนจะต้องเข้า X-Ray ใหม่ เดินไปเกท หาเกท แทบไม่ค่อยมีเวลาเหลือให้เบื่อสักเท่าไหร่
16. พอขึ้นเครื่อง "ห้ามตั้งใจนอน" เพราะมันจะไม่หลับ
17. พอไม่หลับ มันจะส่งผลตอนคุณถึงสนามบินปลายทาง ร่างกายคุณจะโหวงๆ
18. ถึงสนามบินซูริค เราได้รับการต้อนรับอย่างดีจากเจ้าหน้าที่สนามบิน มารอรับ(ขอดูวีซ่า) กันตั้งแต่ยังไม่พ้นงวงช้าง
19. หน้านี้ คนแขกมาเที่ยวสวิสเยอะมาก คนจีนน้อย คนไทยแทบไม่เห็นเลย
20. เจ้าหน้าที่ ตม. ดูอยากจะรู้จักชีวิตเราเหลือเกิน ถามประมาณว่า พักที่ไหน ออกจากสวิสจะไปไหนต่อ อยู่กี่วัน เที่ยวไหนบ้าง (นึกรัก ตม.ญี่ปุ่นขึ้นมาทันทีเลย)
21. ที่นี่ใช้ภาษาเยอรมัน บางคำพอเดาได้ บางคำงงมาก แนะนำโหลดแอพดิกไปด้วย
22. Swiss Pass แนะนำให้ซื้อที่ไทยเลยเหอะ เพราะมาที่นี่ ทุกอย่างดูงง หลงทิศหลงทางไปหมด ขนาดชานชลาสถานีรถไฟที่สนามบินมีแค่ 4 ชานชลาเข้าสถานี Zurich ยังเดินขึ้นเดินลงหลายครั้ง
23. Swiss Pass ตอนนี้แค่เขียนหมายเลขหนังสือเดินทาง และเซ็นซื่อ ก็ใช้งานได้เลย ง่ายดี
24. ขึ้นรถไฟสวิส เตรียม Swiss Pass ไว้ใกล้มือ เพราะเจ้าหน้าที่จะโผล่มาในเวลาไม่นาน
25. สถานีรถไฟสวิสไม่มีอะไรกั้น เดินเข้าออกสบาย แต่ถ้าถูกจับได้ว่าแอบขึ้นโดยไม่ซื้อตั๋ว....อ้วก!!
26. รถไฟบางขบวนมี 2 ชั้น แต่วันที่เจอมักจะเป็นวันที่ต้องขนสัมภาระ เลยนั่งแต่ชั้นล่าง
27. รถบัสที่นี่มักจะเป็นแบบ Low-Floor บัส เมื่อจอด รถจะเตี้ยลง เพื่อให้คนสูงอายุ คนพิการสามารถขึ้นได้อย่างสะดวก
28. อ้อ ฟุตบาทที่นี่ไม่สูงเลย สูงกว่าระดับถนนมานิดเดียวเอง
29. จาก Zurich > Luzern ใช้เวลาไม่ถึงชั่วโมง แต่ถ้าผมเลือกนอน ผมนอนลูเซิร์นนะ
30. ตู้ล็อกเกอร์ฝากกระเป๋ามีหลายราคา 5-7-9 ฟรังก์ ส่วนมากกระเป๋าจะใส่ตู้ราคา 7-9 ฟรังก์
31. 1 ฟรังก์สวิสตอนผมไป เรทอยู่ที่ 37 บาท
32. อาหาร,ค่าครองชีพที่สวิส สูงม้ากกกกกกกกก
33. เพราะฉะนั้นกินอะไร กรุณาอย่าเพิ่มคูณ 37 เพราะจะทำให้เครียด แหลกไม่อร่อย
34. มื้อแพงสุดที่ผมกินคือ 1,000 บาท เป็นเพียงข้าว,ปลาแซลมอน,มันฝรั่งกับผักนิดหน่อย
35. น้ำดื่มที่นี่แพง หากกรอกเอาตามก๊อกน้ำหรือน้ำพุกินได้
36. แต่เบียร์,ไวน์ถูก เร่ิมต้นขวดละ 50 บาท
37. เมากันสิครับ รออะไรกันอยู่

38. ซูเปอร์มาร์เก็ตมีของราคาไม่สูงเยอะ หากหาของฝาก แนะนำในซูเปอร์เลยครับ
39. แซนด์วิชราคา 4-5 ฟรังก์ น้ำเปล่าขวดละ 1-3 ฟรังก์
40. ซูเปอร์บางแห่งมีร้านอาหารที่มีพื้นที่นั่งทานข้างในด้วย
41. ซื้อของที่นี่ เขาไม่ค่อยให้ถุงพลาสติก หรือให้ก็จะเป็นแบบบางยิ่งกว่าแคร์ฟรีซะอีก
42. คนสวิสไม่กินหมู!! (หรือกินแต่ผมไม่เจอเลย) ส่วนมากเจอเนื้อไก่ เนื้อวัว ใครไม่ทานเนื้ออาจจะต้องเช็คข้อมูลแต่ละร้านก่อนครับ
43. คนไทยไปอาจจะเอียนอาหารฝรั่งในวันที่ 3-4 แนะนำให้พกมาม่าหรือโจ๊กกระป๋องติดไปสักหน่อย
44. แต่ไม่ต้องพกไปขนาดกินทุกมื้อนะครับ ไปบ้านเขา ไปลองกินแบบเขาน่าจะได้ประสบการณ์ดีกว่าครับ
45. มาเรื่องที่เที่ยวบ้าง หากใครจะล่องทะเลสาบลูเซิร์น ต้องไปขึ้นที่ท่าหมายเลข 2 นะครับ เผื่อเวลาเดินสักหน่อย เพราะกลุ่มผมรีบทำเวลาจนเกือบหัวทิ่มกันแล้ว
46. ขึ้นเขา Rigi ตอนนั่งรถไฟสีแดง แนะนำนั่งฝั่งซ้ายครับ ขากลับหากนั่งรถไฟสีน้ำเงิน ก็ให้นั่งฝั่งซ้ายเช่นกันครับ
47. ผมขึ้นเขา Rigi เพราะละครเรื่อง "อย่าลืมฉัน" (จะบอกทำไมว่ะครับ)
48. จากลูเซิร์น ไปอินเทอร์ลาเค่น แนะนำเส้นทางขบวน Luzern-Interlaken Express นะครับ สองข้างทางสวยมาก เพราะส่วนใหญ่แอพมักจะชอบแนะนำให้ไปผ่านทางเมือง Bern ครับ
49. Interlaken มีสองสถานีใหญ่คือ Interlaken West กับ Interlaken Ost แนะนำพักฝั่ง West ครับ มีอะไรให้เดินดูเดินชมเยอะกว่าครับ
50. ไปเที่ยวยุโรปช่วงใบไม้ร่วง+หนาว ทำให้รู้ว่า ไม่ต้องขนเสื้อผ้าไปเยอะ เพราะถ่ายกี่รูปก็เห็นแต่เสื้อหนาวตัวนอกเท่านั้น
51. ฝึกการใช้ฮีตเตอร์ให้เป็น แม้ว่าเครื่องนี้มันจะไม่มีโอกาสใช้ในบ้านเราเมืองเรา
52. อย่าสับสนเรื่องเวลา ที่สวิสช้ากว่าบ้านเรา 6 ชั่วโมง หากเรากำลังเม้ามอยผ่านไลน์ตอนสามทุ่ม ที่เมืองไทยคือตีสามนะจ้ะ
53. ที่พักส่วนมากใน interlaken มักจะอนุรักษ์ตามแบบดั้งเดิมไว้ ที่พักที่เราพักก็มีอายุ 100 กว่าปี
54. บางทีคุณอาจจะได้ใช้ลิฟท์ที่เคยใช้งานมาตั้งแต่ 50-60 ปีก็ได้
55. ทริปของเราเลือกพักที่ Interlaken เป็นฐาน แล้วค่อยใช้ทริปแบบไปเช้าเย็นกลับ พบว่า สะดวกมาก ไม่ต้องย้ายของบ่อยๆ
56. ช่วงใบไม้เปลี่ยนสี สว่าง 7 โมงเช้า 4 โมงครึ่ง(เย็น) เริ่มมืดแล้ว
57. ทางแก้ก็คือ ตื่นให้เช้า เที่ยวให้เต็มที่ บ่ายสามก็เร่ิม Low Batt แล้ว
58. ค่าเข้าส้วมที่สวิสแพงม๊ากกกก เคยเห็นครั้งละ 2 ฟรังก์ (x 37 บาท) เห็นแล้วแทบจะเป็นกระเพาะปัสสวะอักเสบ
59. ทางแก้เรื่องห้องน้ำคือ เข้าบนรถไฟได้ เข้าไปเถอะจ้ะ (และก่อนออกจากโรงแรม เข้าส้วมได้ก็เข้าก่อนนะ)
60. พยากรณ์อากาศล่วงหน้าของสวิส ให้ดูที่ wetter.com แม่นสุดแล้ว
61. ขึ้นเขาที่สวิส เหมือนจะแพง แต่ขึ้นเถอะครับ สักลูกสองลูก
62. Schilthorn เป็นเขาที่คนส่วนใหญ่ไม่ค่อยรู้จัก แต่อยากจะบอกว่า #เจ๋งมาก #ขึ้นเถอะ #เชื่อเราเถอะนะ
63. เคยได้ยินมาว่า คนสวิสชอบขึ้นเขา Schilthron มากกว่ายุงเฟรา
64. พลาดไม่ได้คือ Matterhorn ที่ Zermatt (ที่แม้จะได้ลดราคาจาก Swiss Pass แล้วก็ยังราคา 43 ฟรังก์)
65. หากเสียดายตังค์ แนะนำขึ้นทางเขา Sunnegga ราคาจะลดลงมาอย่างน่าเกลียดเหลือ 12 ฟรังก์
66. เขาบางลูกอาจจะปิดให้บริการในหน้านี้ เพื่อปรับปรุงซ่อมแซมก่อนต้อนรับหน้าหนาวในช่วงต้นเดือนธันวาคม
67. หน้านี้เส้นทางรถไฟบางสายอาจจะปิดปรับปรุง คุณอาจจะได้นั่งรถไฟสักพัก แล้วไปนั่งรถบัส แล้วค่อยกลับมานั่งรถไฟ
68. Zermatt เป็นเมืองที่ไม่ให้ใช้รถที่ใช้น้ำมัน ให้ใช้รถที่ใช้ไฟฟ้าเท่านั้น
69. ซูริคในความรู้สึกผม ไม่ค่อยมีอะไร (ลางเนื้อชอบลางยา)
70. การนั่งรถไฟข้ามประเทศ ควรจองล่วงหน้าก่อน 2-3 เดือนก่อนเดินทาง เพราะราคาจะถูกลงไปมากกว่า 50%
71. ตัดภาพมาที่ออสเตรีย Innsbruck เป็นเมืองที่ไม่ควรพลาด น่าเดินเล่น
72. ร้านชวารอฟสกี้ที่ Innsbruck แถวๆ หลังคาทอง มีพี่คนไทยเป็นพนักงานขายด้วย อย่าลืมขอของแถมเยอะๆ (หยั่งกับไปเกาหลีเลย)
73. ข้ามพรหมแดนมานิดเดียว ค่าครองชีพคนละเรื่องเลย
74. บิ๊กแมคของแมคโดนัลด์ ที่สวิสขาย 11.20 ฟรังก์ ที่ออสเตรียขาย 3.4 ยูโร (ต่างกันเกือบสามเท่า)
75. เกิดมาเพิ่งเคยเห็นเบียร์กระป๋องใหญ่ราคาไม่ถึง 20 บาท (0.5 ยูโร) ที่ออสเตรีย
76. ก่อนขึ้นสถานีรถไฟ Innsbruck HBF จะมีบูธขายอาหารไทยให้กินแก้คิดถึงในร้านขนมปัง ตรงข้ามกับร้านเบอร์เกอร์คิง คนขายเป็นไทย ใจดี เพิ่มข้าวเพิ่มกับให้จนอิ่มเบย
77. เบียร์ถูก ไวน์ถูก ท่องจำเอาไว้ จะได้ไม่ลืม
78. #น้ำหอมก็เช่นกัน ถูกกว่าบ้านเราพอสมควร
79. ออสเตรียคนตุรกีเยอะ
80. Salzburg มีเขตเมืองเก่ากับเขตเมืองใหม่ ที่เที่ยวแนะนำหารีวิวอ่านดู เนื่องจากทริปเราไม่ค่อยได้เจาะที่นี่เท่าไหร่
81. ตั๋วนั่งรถบัส,รถรางแบบ 1 วันไม่จำกัด หากซื้อกับคนขับบนรถเลย ราคา 5.5 ยูโร
82. จะไป Hallstatt แนะนำขึ้นรถบัสตรงท่า H รอรถหมายเลข 150 ราคาค่าตั๋วไป Bad ischl 10.5 ยูโร นั่งรถไฟไปสถานี Hallstatt อีก 4 ยูโร นั่งเรือข้ามฟาก 2.5 ยูโร ขากลับนั่งรถไฟ 2-3 ต่อ
83. Hallstatt สวยกว่าที่เห็นในรูปแฮะ น่ามา เสียแค่เดินทางนานไปหน่อย หากไม่รีบ แนะนำหาเครื่องดื่มนั่งจิบไป ดูวิว ดูวิถีชีวิตคนแถวนั้น จะมีความสุขมาก
84. ขึ้นรถไฟเพื่อไปเวนิซตอนตีหนึ่งครึ่ง เจอพวกคนแขกแอบมั่วขึ้นรถไฟเยอะมาก เพราะเจอมานั่งที่เราเฉยเลย และพอนั่งไปสัก 2-3 สถานี คนกลุ่มนี้ก็หายไปกันอย่างรวดเร็ว
85. ระมัดระวังทรัพย์สิน ของมีค่าบ้าง แต่อย่าถึงขั้นระแวง จะทำให้เที่ยวไม่สนุก แนะนำใช้ Money Belt ช่วยได้เยอะ
86. สถานี Venezia Santa Lucia บนเกาะเวนิซ สกปรกกว่าที่คิด (ดีที่ไม่คาดหวังมากมาก่อน)
87. เวนิชเหมือนไม่ใหญ่ แต่หลงได้ง่ายมาก แนะนำให้ซื้อเวเนเซียการ์ด มีแบบ 24-36-72 ชั่วโมง ขึ้นเรือไม่จำกัดเที่ยว
88. ไม่รู้จะเริ่มที่ไหน นั่งเรือไปจตุรัสเซนต์มาร์โค่ก่อน แลนด์มาร์กต่างๆ บนเกาะส่วนใหญ่จะอยู่ที่นี่
89. ที่นี่น้ำ,อาหารราคาสูงพอควร (แต่ไม่เท่าสวิส) แต่ที่นี่มีซูเปอร์มาร์เก็ต COOP ด้วย (เดินหาเอา เพราะอธิบายทางไม่ถูก)
90. นักท่องเที่ยวที่เวนิซเยอะมาก ไปมาแต่ละที่ ที่นี่คนขวักไขว่ที่สุด
91. Gelato เป็นอะไรที่ไม่ควรพลาดอย่างยิ่ง
92. แมกเน็ทติดตู้เย็น เป็นอะไรที่แนะนำ หากต้องการของที่ระลึก เพราะมีขายอยู่ทุกเมืองที่ไป
93. แมกเน็ทติดตู้เย็นที่สวิสขายอันละ 5-6 ฟรังก์ ที่เวนิช 5 ยูโรได้แมกเน็ท 6-7 อัน
94. ของฝากจากสวิส หากคิดไม่ออก แนะนำ มีดพับกับช็อกโกแลต
95. วิธีไปสนามบินมาร์โคโปโล ให้เดินไปที่จอดรถบัสบนเกาะ ซื้อตั๋วราคา 8 ยูโร นั่งรถบัสสาย 5 สุดสายที่สนามบิน
96. ขากลับมีเวลาเปลี่ยนเครื่องไม่ถึง 2 ชั่วโมง แทบไม่มีเวลาเยี่ยวขี้กันเลยทีเดียว
97. วันกลับจากเวนิชปุ๊ป มีข่าวก่อการร้ายที่ฝรั่งเศลปั๊ป
98. ขากลับสบายกว่าขามามาก
99. ขอบคุณที่อ่านจนถึงบรรทัดนี้ครับ
หมายเหตุ : สำหรับกระทู้รีวิว ตามไปลิ้งค์ด้านล่างได้เลยครับ
[CR]เที่ยวยุโรปช่วงใบไม้เปลี่ยนสีด้วยตัวเอง (พาเมียหนีเที่ยวเดอะซีรีย์) by ผีหัวโล้ผมยาว (สวิส-ออสเตรีย-อิตาลี) #nofilter
http://pantip.com/topic/34450567
[CR]#ตอนจบ [เที่ยวยุโรปช่วงใบไม้เปลี่ยนสีด้วยตัวเอง] (พาเมียหนีเที่ยวเดอะซีรีย์) by ผีหัวโล้นผมยาว (สวิส-ออสเตรีย-อิตาลี)
http://pantip.com/topic/34455233
99 ความรู้ใหม่ ที่ได้จากการไปเที่ยวยุโรปครั้งแรก (สวิส-ออสเตรีย-อิตาลี) by ผีหัวโล้นผมยาว
2. ขอวีซ่าสวิส(หรือฝรั่งเศล) ผ่านตัวแทน TLS สะดวกดี แลกกับค่าดำเนินการเกือบ 900 บาท
3. ประกันภัยเดินทาง ผมหาได้ถูกสุดที่ 420 บาท สำหรับ 10 วันแบบ Worldwide
4. กรณีซื้อตั๋วแบบ Multi-City แนะนำว่าไม่ควรทิ้งช่วงเวลาในการเปลี่ยนเครื่องแต่ละลำนานเกินไป เพราะจะทำให้เปลืองพลังงานมาก
5. แนะนำเรื่องตั๋ว Multi-City อีกข้อ แนะนำให้เริ่มต้นจากสิงคโปร์ หรือมาเลย์ อย่าเริ่มจากฮ่องกง เพราะคุณจะต้องนั่งแกร่วเพิ่มจากเดิมอีก 2 ชั่วโมงโดยไม่จำเป็น (ปกติบินจากสิงคโปร์ > อาบูดาบี ใช้เวลา 7 ชั่วโมง แต่จากฮ่องกง > อาบูดาบี ใช้เวลา 9 ชั่วโมง!!
6. ที่อาบน้ำที่ฮ่องกง ราคาเริ่มต้น 100 เหรียญฮ่องกง (สี่ร้อยกว่าบาท) เพราะฉะนั้น ดองเค็มต่อไปเถอะ!
7. เกทฮ่องกงเดินไกลมาก อย่าประมาทเดินดูของใน Duty Free นานเกินไป
8. หากชีวิตติดมือถือ แนะนำพอสายชาร์จติดตัวขึ้นเครื่องไปด้วย เพราะแต่ละที่นั่งจะมีปลั๊กสำหรับชาร์จได้
9. ชาร์จทุกครั้งหากมีโอกาส เพราะชีวิตที่แบตต่ำกว่า 10 บีบคั้นหัวใจโดยไม่จำเป็น
10. สนามบินอาบูดาบีมี Gate เยอะมาก บาง Gate ไม่น่าจะเรียกว่าเกทได้ เพราะเล็กมาก
11. แขกเยอะมาก เยอะยิ่งกว่าแถวพาหุรัด (ใครละเอียดอ่อนเรื่องกลิ่น อาจมีปัญหานิดนึง)
12. เพิ่งเคยเห็นห้องน้ำชายที่อาบูดาบีมีผู้ชายยืนต่อคิวหน้าห้องน้ำ
13. สนามบินอาบูดาบีมีห้องอาบน้ำฟรี ซึ่งหลายคนไม่รู้ (ผมก็เกือบหาไม่เจอ) อยู่ตรงทางไป Gate 53-61 ทางขวามือ เป็นบันไดเดินลงไป
14. ห้องอาบน้ำฟรีมีแต่น้ำ กับแยกส่วนเปียกส่วนแห้งเท่านั้น ควรเตรียมสบู่,ยาสระผม,ผ้าเช็ดตัวไปเองด้วยนะจ้ะ
15. Etihad มีเวลาเปลี่ยนเครื่องที่อาบูดาบี 3 ชั่วโมง เหมือนจะนาน แต่ดำเนินการตามขั้นตอนแล้ว แป๊ปเดียว ไหนจะต้องเข้า X-Ray ใหม่ เดินไปเกท หาเกท แทบไม่ค่อยมีเวลาเหลือให้เบื่อสักเท่าไหร่
16. พอขึ้นเครื่อง "ห้ามตั้งใจนอน" เพราะมันจะไม่หลับ
17. พอไม่หลับ มันจะส่งผลตอนคุณถึงสนามบินปลายทาง ร่างกายคุณจะโหวงๆ
18. ถึงสนามบินซูริค เราได้รับการต้อนรับอย่างดีจากเจ้าหน้าที่สนามบิน มารอรับ(ขอดูวีซ่า) กันตั้งแต่ยังไม่พ้นงวงช้าง
19. หน้านี้ คนแขกมาเที่ยวสวิสเยอะมาก คนจีนน้อย คนไทยแทบไม่เห็นเลย
20. เจ้าหน้าที่ ตม. ดูอยากจะรู้จักชีวิตเราเหลือเกิน ถามประมาณว่า พักที่ไหน ออกจากสวิสจะไปไหนต่อ อยู่กี่วัน เที่ยวไหนบ้าง (นึกรัก ตม.ญี่ปุ่นขึ้นมาทันทีเลย)
21. ที่นี่ใช้ภาษาเยอรมัน บางคำพอเดาได้ บางคำงงมาก แนะนำโหลดแอพดิกไปด้วย
22. Swiss Pass แนะนำให้ซื้อที่ไทยเลยเหอะ เพราะมาที่นี่ ทุกอย่างดูงง หลงทิศหลงทางไปหมด ขนาดชานชลาสถานีรถไฟที่สนามบินมีแค่ 4 ชานชลาเข้าสถานี Zurich ยังเดินขึ้นเดินลงหลายครั้ง
23. Swiss Pass ตอนนี้แค่เขียนหมายเลขหนังสือเดินทาง และเซ็นซื่อ ก็ใช้งานได้เลย ง่ายดี
24. ขึ้นรถไฟสวิส เตรียม Swiss Pass ไว้ใกล้มือ เพราะเจ้าหน้าที่จะโผล่มาในเวลาไม่นาน
25. สถานีรถไฟสวิสไม่มีอะไรกั้น เดินเข้าออกสบาย แต่ถ้าถูกจับได้ว่าแอบขึ้นโดยไม่ซื้อตั๋ว....อ้วก!!
26. รถไฟบางขบวนมี 2 ชั้น แต่วันที่เจอมักจะเป็นวันที่ต้องขนสัมภาระ เลยนั่งแต่ชั้นล่าง
27. รถบัสที่นี่มักจะเป็นแบบ Low-Floor บัส เมื่อจอด รถจะเตี้ยลง เพื่อให้คนสูงอายุ คนพิการสามารถขึ้นได้อย่างสะดวก
28. อ้อ ฟุตบาทที่นี่ไม่สูงเลย สูงกว่าระดับถนนมานิดเดียวเอง
29. จาก Zurich > Luzern ใช้เวลาไม่ถึงชั่วโมง แต่ถ้าผมเลือกนอน ผมนอนลูเซิร์นนะ
30. ตู้ล็อกเกอร์ฝากกระเป๋ามีหลายราคา 5-7-9 ฟรังก์ ส่วนมากกระเป๋าจะใส่ตู้ราคา 7-9 ฟรังก์
31. 1 ฟรังก์สวิสตอนผมไป เรทอยู่ที่ 37 บาท
32. อาหาร,ค่าครองชีพที่สวิส สูงม้ากกกกกกกกก
33. เพราะฉะนั้นกินอะไร กรุณาอย่าเพิ่มคูณ 37 เพราะจะทำให้เครียด แหลกไม่อร่อย
34. มื้อแพงสุดที่ผมกินคือ 1,000 บาท เป็นเพียงข้าว,ปลาแซลมอน,มันฝรั่งกับผักนิดหน่อย
35. น้ำดื่มที่นี่แพง หากกรอกเอาตามก๊อกน้ำหรือน้ำพุกินได้
36. แต่เบียร์,ไวน์ถูก เร่ิมต้นขวดละ 50 บาท
37. เมากันสิครับ รออะไรกันอยู่
38. ซูเปอร์มาร์เก็ตมีของราคาไม่สูงเยอะ หากหาของฝาก แนะนำในซูเปอร์เลยครับ
39. แซนด์วิชราคา 4-5 ฟรังก์ น้ำเปล่าขวดละ 1-3 ฟรังก์
40. ซูเปอร์บางแห่งมีร้านอาหารที่มีพื้นที่นั่งทานข้างในด้วย
41. ซื้อของที่นี่ เขาไม่ค่อยให้ถุงพลาสติก หรือให้ก็จะเป็นแบบบางยิ่งกว่าแคร์ฟรีซะอีก
42. คนสวิสไม่กินหมู!! (หรือกินแต่ผมไม่เจอเลย) ส่วนมากเจอเนื้อไก่ เนื้อวัว ใครไม่ทานเนื้ออาจจะต้องเช็คข้อมูลแต่ละร้านก่อนครับ
43. คนไทยไปอาจจะเอียนอาหารฝรั่งในวันที่ 3-4 แนะนำให้พกมาม่าหรือโจ๊กกระป๋องติดไปสักหน่อย
44. แต่ไม่ต้องพกไปขนาดกินทุกมื้อนะครับ ไปบ้านเขา ไปลองกินแบบเขาน่าจะได้ประสบการณ์ดีกว่าครับ
45. มาเรื่องที่เที่ยวบ้าง หากใครจะล่องทะเลสาบลูเซิร์น ต้องไปขึ้นที่ท่าหมายเลข 2 นะครับ เผื่อเวลาเดินสักหน่อย เพราะกลุ่มผมรีบทำเวลาจนเกือบหัวทิ่มกันแล้ว
46. ขึ้นเขา Rigi ตอนนั่งรถไฟสีแดง แนะนำนั่งฝั่งซ้ายครับ ขากลับหากนั่งรถไฟสีน้ำเงิน ก็ให้นั่งฝั่งซ้ายเช่นกันครับ
47. ผมขึ้นเขา Rigi เพราะละครเรื่อง "อย่าลืมฉัน" (จะบอกทำไมว่ะครับ)
48. จากลูเซิร์น ไปอินเทอร์ลาเค่น แนะนำเส้นทางขบวน Luzern-Interlaken Express นะครับ สองข้างทางสวยมาก เพราะส่วนใหญ่แอพมักจะชอบแนะนำให้ไปผ่านทางเมือง Bern ครับ
49. Interlaken มีสองสถานีใหญ่คือ Interlaken West กับ Interlaken Ost แนะนำพักฝั่ง West ครับ มีอะไรให้เดินดูเดินชมเยอะกว่าครับ
50. ไปเที่ยวยุโรปช่วงใบไม้ร่วง+หนาว ทำให้รู้ว่า ไม่ต้องขนเสื้อผ้าไปเยอะ เพราะถ่ายกี่รูปก็เห็นแต่เสื้อหนาวตัวนอกเท่านั้น
51. ฝึกการใช้ฮีตเตอร์ให้เป็น แม้ว่าเครื่องนี้มันจะไม่มีโอกาสใช้ในบ้านเราเมืองเรา
52. อย่าสับสนเรื่องเวลา ที่สวิสช้ากว่าบ้านเรา 6 ชั่วโมง หากเรากำลังเม้ามอยผ่านไลน์ตอนสามทุ่ม ที่เมืองไทยคือตีสามนะจ้ะ
53. ที่พักส่วนมากใน interlaken มักจะอนุรักษ์ตามแบบดั้งเดิมไว้ ที่พักที่เราพักก็มีอายุ 100 กว่าปี
54. บางทีคุณอาจจะได้ใช้ลิฟท์ที่เคยใช้งานมาตั้งแต่ 50-60 ปีก็ได้
55. ทริปของเราเลือกพักที่ Interlaken เป็นฐาน แล้วค่อยใช้ทริปแบบไปเช้าเย็นกลับ พบว่า สะดวกมาก ไม่ต้องย้ายของบ่อยๆ
56. ช่วงใบไม้เปลี่ยนสี สว่าง 7 โมงเช้า 4 โมงครึ่ง(เย็น) เริ่มมืดแล้ว
57. ทางแก้ก็คือ ตื่นให้เช้า เที่ยวให้เต็มที่ บ่ายสามก็เร่ิม Low Batt แล้ว
58. ค่าเข้าส้วมที่สวิสแพงม๊ากกกก เคยเห็นครั้งละ 2 ฟรังก์ (x 37 บาท) เห็นแล้วแทบจะเป็นกระเพาะปัสสวะอักเสบ
59. ทางแก้เรื่องห้องน้ำคือ เข้าบนรถไฟได้ เข้าไปเถอะจ้ะ (และก่อนออกจากโรงแรม เข้าส้วมได้ก็เข้าก่อนนะ)
60. พยากรณ์อากาศล่วงหน้าของสวิส ให้ดูที่ wetter.com แม่นสุดแล้ว
61. ขึ้นเขาที่สวิส เหมือนจะแพง แต่ขึ้นเถอะครับ สักลูกสองลูก
62. Schilthorn เป็นเขาที่คนส่วนใหญ่ไม่ค่อยรู้จัก แต่อยากจะบอกว่า #เจ๋งมาก #ขึ้นเถอะ #เชื่อเราเถอะนะ
63. เคยได้ยินมาว่า คนสวิสชอบขึ้นเขา Schilthron มากกว่ายุงเฟรา
64. พลาดไม่ได้คือ Matterhorn ที่ Zermatt (ที่แม้จะได้ลดราคาจาก Swiss Pass แล้วก็ยังราคา 43 ฟรังก์)
65. หากเสียดายตังค์ แนะนำขึ้นทางเขา Sunnegga ราคาจะลดลงมาอย่างน่าเกลียดเหลือ 12 ฟรังก์
66. เขาบางลูกอาจจะปิดให้บริการในหน้านี้ เพื่อปรับปรุงซ่อมแซมก่อนต้อนรับหน้าหนาวในช่วงต้นเดือนธันวาคม
67. หน้านี้เส้นทางรถไฟบางสายอาจจะปิดปรับปรุง คุณอาจจะได้นั่งรถไฟสักพัก แล้วไปนั่งรถบัส แล้วค่อยกลับมานั่งรถไฟ
68. Zermatt เป็นเมืองที่ไม่ให้ใช้รถที่ใช้น้ำมัน ให้ใช้รถที่ใช้ไฟฟ้าเท่านั้น
69. ซูริคในความรู้สึกผม ไม่ค่อยมีอะไร (ลางเนื้อชอบลางยา)
70. การนั่งรถไฟข้ามประเทศ ควรจองล่วงหน้าก่อน 2-3 เดือนก่อนเดินทาง เพราะราคาจะถูกลงไปมากกว่า 50%
71. ตัดภาพมาที่ออสเตรีย Innsbruck เป็นเมืองที่ไม่ควรพลาด น่าเดินเล่น
72. ร้านชวารอฟสกี้ที่ Innsbruck แถวๆ หลังคาทอง มีพี่คนไทยเป็นพนักงานขายด้วย อย่าลืมขอของแถมเยอะๆ (หยั่งกับไปเกาหลีเลย)
73. ข้ามพรหมแดนมานิดเดียว ค่าครองชีพคนละเรื่องเลย
74. บิ๊กแมคของแมคโดนัลด์ ที่สวิสขาย 11.20 ฟรังก์ ที่ออสเตรียขาย 3.4 ยูโร (ต่างกันเกือบสามเท่า)
75. เกิดมาเพิ่งเคยเห็นเบียร์กระป๋องใหญ่ราคาไม่ถึง 20 บาท (0.5 ยูโร) ที่ออสเตรีย
76. ก่อนขึ้นสถานีรถไฟ Innsbruck HBF จะมีบูธขายอาหารไทยให้กินแก้คิดถึงในร้านขนมปัง ตรงข้ามกับร้านเบอร์เกอร์คิง คนขายเป็นไทย ใจดี เพิ่มข้าวเพิ่มกับให้จนอิ่มเบย
77. เบียร์ถูก ไวน์ถูก ท่องจำเอาไว้ จะได้ไม่ลืม
78. #น้ำหอมก็เช่นกัน ถูกกว่าบ้านเราพอสมควร
79. ออสเตรียคนตุรกีเยอะ
80. Salzburg มีเขตเมืองเก่ากับเขตเมืองใหม่ ที่เที่ยวแนะนำหารีวิวอ่านดู เนื่องจากทริปเราไม่ค่อยได้เจาะที่นี่เท่าไหร่
81. ตั๋วนั่งรถบัส,รถรางแบบ 1 วันไม่จำกัด หากซื้อกับคนขับบนรถเลย ราคา 5.5 ยูโร
82. จะไป Hallstatt แนะนำขึ้นรถบัสตรงท่า H รอรถหมายเลข 150 ราคาค่าตั๋วไป Bad ischl 10.5 ยูโร นั่งรถไฟไปสถานี Hallstatt อีก 4 ยูโร นั่งเรือข้ามฟาก 2.5 ยูโร ขากลับนั่งรถไฟ 2-3 ต่อ
83. Hallstatt สวยกว่าที่เห็นในรูปแฮะ น่ามา เสียแค่เดินทางนานไปหน่อย หากไม่รีบ แนะนำหาเครื่องดื่มนั่งจิบไป ดูวิว ดูวิถีชีวิตคนแถวนั้น จะมีความสุขมาก
84. ขึ้นรถไฟเพื่อไปเวนิซตอนตีหนึ่งครึ่ง เจอพวกคนแขกแอบมั่วขึ้นรถไฟเยอะมาก เพราะเจอมานั่งที่เราเฉยเลย และพอนั่งไปสัก 2-3 สถานี คนกลุ่มนี้ก็หายไปกันอย่างรวดเร็ว
85. ระมัดระวังทรัพย์สิน ของมีค่าบ้าง แต่อย่าถึงขั้นระแวง จะทำให้เที่ยวไม่สนุก แนะนำใช้ Money Belt ช่วยได้เยอะ
86. สถานี Venezia Santa Lucia บนเกาะเวนิซ สกปรกกว่าที่คิด (ดีที่ไม่คาดหวังมากมาก่อน)
87. เวนิชเหมือนไม่ใหญ่ แต่หลงได้ง่ายมาก แนะนำให้ซื้อเวเนเซียการ์ด มีแบบ 24-36-72 ชั่วโมง ขึ้นเรือไม่จำกัดเที่ยว
88. ไม่รู้จะเริ่มที่ไหน นั่งเรือไปจตุรัสเซนต์มาร์โค่ก่อน แลนด์มาร์กต่างๆ บนเกาะส่วนใหญ่จะอยู่ที่นี่
89. ที่นี่น้ำ,อาหารราคาสูงพอควร (แต่ไม่เท่าสวิส) แต่ที่นี่มีซูเปอร์มาร์เก็ต COOP ด้วย (เดินหาเอา เพราะอธิบายทางไม่ถูก)
90. นักท่องเที่ยวที่เวนิซเยอะมาก ไปมาแต่ละที่ ที่นี่คนขวักไขว่ที่สุด
91. Gelato เป็นอะไรที่ไม่ควรพลาดอย่างยิ่ง
92. แมกเน็ทติดตู้เย็น เป็นอะไรที่แนะนำ หากต้องการของที่ระลึก เพราะมีขายอยู่ทุกเมืองที่ไป
93. แมกเน็ทติดตู้เย็นที่สวิสขายอันละ 5-6 ฟรังก์ ที่เวนิช 5 ยูโรได้แมกเน็ท 6-7 อัน
94. ของฝากจากสวิส หากคิดไม่ออก แนะนำ มีดพับกับช็อกโกแลต
95. วิธีไปสนามบินมาร์โคโปโล ให้เดินไปที่จอดรถบัสบนเกาะ ซื้อตั๋วราคา 8 ยูโร นั่งรถบัสสาย 5 สุดสายที่สนามบิน
96. ขากลับมีเวลาเปลี่ยนเครื่องไม่ถึง 2 ชั่วโมง แทบไม่มีเวลาเยี่ยวขี้กันเลยทีเดียว
97. วันกลับจากเวนิชปุ๊ป มีข่าวก่อการร้ายที่ฝรั่งเศลปั๊ป
98. ขากลับสบายกว่าขามามาก
99. ขอบคุณที่อ่านจนถึงบรรทัดนี้ครับ
หมายเหตุ : สำหรับกระทู้รีวิว ตามไปลิ้งค์ด้านล่างได้เลยครับ
[CR]เที่ยวยุโรปช่วงใบไม้เปลี่ยนสีด้วยตัวเอง (พาเมียหนีเที่ยวเดอะซีรีย์) by ผีหัวโล้ผมยาว (สวิส-ออสเตรีย-อิตาลี) #nofilter
http://pantip.com/topic/34450567
[CR]#ตอนจบ [เที่ยวยุโรปช่วงใบไม้เปลี่ยนสีด้วยตัวเอง] (พาเมียหนีเที่ยวเดอะซีรีย์) by ผีหัวโล้นผมยาว (สวิส-ออสเตรีย-อิตาลี)
http://pantip.com/topic/34455233