สวัสดีครับ เหตุการณ์ต่อไปนี้ เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นสดๆร้อนๆ วันนี้ ผมตั้งใจมากๆว่าจะต้องแชร์ให้ได้ ไม่ว่าคนจะอ่าน มาก น้อย หรือไม่มีเลย แต่ผมก็คิดว่ามันเป็นประโยชน์นะ แต่เนื่องจากว่าผมพิมพ์ใน Surface ซึ่งคีย์บอร์ดมันไม่ค่อยสันทัดนัก + กับตกภาษาไทย หากพิมพ์ผิดพลาดประการใด ขออภัยมา ณ ที่นี้ครับ
ผมขอนะครับ งดดราม่า เนื้อหาอาจผิดพลาดเนื่องจากระหว่างฟัง บางครั้งอยู่ในอาการที่ตื่นตระหนก ตกใจจริงๆ
การเล่าเรื่องผมขอเป็นแบบเหตุการณ์สนทนา เนื่องจาก ระหว่างบทคุย ผมอยากจะให้ผู้อ่านมีความรู้สึกเช่นเดียวกับที่ผมรู้สึก เข้าใจในสิ่งที่ผมรู้สึก หากยาวไป ขออภัยจริงๆ การสนทนาผมเปลี่ยนแปลงให้เป็นตามอารมณ์ ณ ตอนนั้นด้วยนะ
เหตุการณ์มันเริ่มจากว่า เมื่อประมาณ 2 อาทิตย์ก่อน ผมเกิดอาการไม่สบาย ปวดหัวหนักมากๆ แถมการมีไข้เล็กน้อย เจ็บคอนิดหน่อย ซึ่งถามว่าปัจจุบัน หายหรือยัง มันก็หายแล้ว แต่ยังคงมีอาการปวดหัวนิดหน่อย ซึ่งมันก็เป็นเรื่องธรรมดากับช่วงฤดูที่กำลังจะเปลี่ยน บวกกับปัญหาในงานเข้ามาเยอะในช่วงนี้
แต่อยู่ๆ เมื่อสัก 1อาทิตย์ที่ผ่านมา ผมเกิดอาการคันที่ฝ่ามือและเท้า รวมถึงตามง่ามนิ้วมือและเท้ามากๆ และเกิดแผลในช่องปากถึง 4 แผล และปัจจุบัน ยังไม่หาย (แผลในช่องปากก็ยังไม่หายสนิท) วันนี้จึงเป็นฤกษ์งามยามดี ที่ผมจะลาพักร้อนสัก 1 วัน เพื่อไปหาหมอประกันสังคม ที่ผมรู้จัก (คือไปทีไรก็เจอแต่คนนี้ อายุมากกว่าผม 2 ปี เลยขอเบอร์ไว้ เวลาเจ็บป่วยก็ขอคำปรึกษาได้) และได้นัดกันไว้ เมื่อไปถึง หมอได้ทำการตรวจโน่นนี่นั่น ไม่ว่าจะเป็นช่องปาก แผลที่เท้า (ที่ผมว่าค่าคันนั่นแหละ เกาซะเป็นแผลเล็กๆ) หรือตามซอกนิ้วมือซึ่งก็ไม่เห็นอะไรผิดปกติ (แต่มันคันจริงๆนะ)
" เป็นมานานหรือยัง?? " หมอเปิดประเด็น แล้วทำหน้าเครียดๆ
" สัก 2 อาทิตย์แล้วมั้งหมอ จำไม่ได้ แต่ราวๆนี้ "
" ตามตรงๆนะ เมิงไปตีหรี่มาป่าว ...? " แล้วหมอก็จ้องตาแบบเข้มๆ
" เอิ่มหมอ จะไปตีอะไรละหมอ บ้าแล้ว " หน้ากุหื่นขนาดนั้นเลยเหรอ ???
" ได้ใช้สิ่งของจำพวกมีดโกน ของมีคม หรือเกิดบาดแผนจากการถูกบาดในที่สาธารณะ มาหรือป่าวช่องระยะ 3เดือนเนี่ย ?? "
" ก็มีมีดโกนนะ โดนบาดนิดหน่อย .... ทำไมครับหมอ??? "
" มันคิดแบบเบื้องต้นได้ 2 แบบ นะ แบบแรกคือ แยกเป็น 3 เคส 1 ปวดหัวเป็นไข้ เจ็บคอ (ตอนนี้ก็ยังไม่หายสนิท แต่ไม่เท่าไหร่ อาการแทบไม่มี) 2 มือเท่าคัน 3 แผลในช่องปาก โดย 3 เคสนี้ไม่เกิดจากต้นเหตุเดียวกัน มันก็ไม่มีอะไร " หมอเริ่มเครียด
" ส่วนแบบที่ 2 คือ มืงโกหก ไปตีหรี่มา ไม่ใส่ถุงหรือป่าว ส่วนใหญ่ผู้ชายหมอถามชอบโกหกกันเยอะ อาย เพราะช่วงแรกของการติดเชื้อ ร่างกายจะอ่อนแอ เพราะภูมิต้านทานจะต่ำ อาการเบื้องต้นที่เห็นชัดคือ มีไข้ เกิดเชื้อราในจุดชื้อนตามร่างกายหรือตามแผล เช่น ในปาก ซอกเล็บ หรือ งามมือและเท้า " สรุปเมิงจะให้กุหื่นใช่มะ
พอหมอพูดจบ คุณเดาออกไหมครับว่ามันคือโรคอะไร ?? แล้วผมจะรู้สึกยังไง ???? ด้วยความรู้อันน้อยนิดเกี่ยวกับโรคเอดส์ บอกเลย ตอนนั้น ร้อนตัวครับ ทั้งๆที่ในใจบอกเลย ว่าไม่ใช่หรอก กุไม่ได้มีอะไรกับใครเลย จะติดมาจากไหน แต่ในใจอีกด้านมันก็คิดว่า เออ เคยเห็นข่าวที่เคยมีคนติดเอดส์จากโรงพยาบาล หรือที่ไหนก็ไม่รู้ด้วยนี่หว่า .... กุจะซวยขนาดนั้นเลยไหมเนี่ยยยย??? หน้าเริ่มแดงครับ ตอนนี้
" ตรวจเลือดเลยละกัน "
" แล้วรู้วันนี้เลยไหม หมอ??? " คุณเข้าใจคำว่าร้อนใจป่ะ ???
" ก็สองวันมั้ง คนมันเยอะในแล็บอะ เดี๋ยวได้ผลแล้วโทรไปบอก " โอ่โห 2 วัน บ้านเมิงดิ แค่มืงบอกมาเมื่อ 2 นาทีที่แล้ว กุเหมือนรู้สึกว่าทรมาณมาแล้ว 2ปี เลยอ้อนวอนขอร้องมันว่า หาที่ตรวจที่รู้ผลเร็วๆได้ไหม
" ไปนี่ดิ ที่นิรนาม ??? ตรวจแล้วรู้ผลเลย ชั่วโมงเดียว จบ แล้วเอาใบรับรองมาที่นี่ " หืม ???? อะไร ??? คือ นิรนาม ???? เลยหาใน google เลย แต่จะบอกว่า ตอนพิมพ์ในมือถือ มือสั่นแบบ ผิดๆ ถูกๆ แล้วก็ได้รู้
คลินิกนิรนาม เป็นคลินิกที่รับเจาะเลือดเพื่อตรวจหาโรคต่างๆ ตั้งแต่ HIV ยันตับอักเสบ ทุกโรคที่ตรวจได้ผ่านเลือด อยู่แถว โรงพยาบาลจุฬาฯ (ไม่รู้ว่าเป็นของจุฬาไหม) อื่อหือ ไกลนะเนี่ย คุณคิดนะ บ้านผมอยู่ นนทบุรี ขับมอไซไปราชดำริ ฮะ สนุกเลย แต่ยอม บอกเลย ขอให้มันจบๆวันนี้
ผมขับมอไซไป ในตอนเช้าครับ ราวๆ 9โมง ช่วง Prime time ของถนนโซนสาทร สีลม ศาลาแดง ย่านธุรกิจที่ไม่เคยเห็นถนนมันว่างสักที 1 ชั่วโมงเต็ม ถึงจนได้
ตอนขับรถ อยากจะให้ท่านได้รู้สึกแบบที่ผมรู้สึกจริงๆ ขับไปน้ำตาแทบไหล คิดแค่ว่า ถ้าเป็น จะทำไง?? ทำงานต่อได้ไหม?? คนอื่นรู้เขาจะคิดยังไง?? พ่อแม่เราจะทำไง??? เราจะใช้ชีวิตยังไง??? ถ้าคนอื่นไม่บอมรับเราละ??? เพื่อนฝูงจะมองเรายังไง??? เยอะเลยครับ เดือนเนื้อร้อนใจไปหมด
เมื่อถึงคลินิก ความรู้สึกแรกคือ อาย เลยครับ กับการที่ต้องบอกว่า " ผมมาตรวจหาเชื้อ HIV ครับ " แต่ผิดเลย ผมอุ่นใจเลย ประชาสัมพันธุ์เป็นผู้หญิงตัวอ้วนๆ ยิ้มทักมาแต่ไกลเลย มารยาทดีมากครับ พูดจาดีมากๆ ยิ้มทุกคำพูด ไม่ทำให้เราอายครับ แบบ น้องไปกดบัตรคิดที่ปุ่ม A นะครับ แล้วจะบัตรไปที่จุด 2 ช่องประวัติเน๊อะ เสร็จแล้วค่อยมานั่งรอตรงนี้น้า รู้สึกดีขึ้นมาหน่อย
บริการดีตั้งแต่กรอกประวัติ เจาะเลือด ยันฟังผลเลยครับ
ผมนั่งรออยู่ 1 ชั่วโมงแบบเป๊ะๆ เจาะตอน 9.34 ฟังผล 10.40 นั่งในห้องเล็กๆ มีผู้หญิงอายุราวๆ 40-50 ใส่แว่นนั่งอยู่หน้าคอมฯ
" ผลตรวจออกมาแล้วนะคะ ... สอบถามนิดนึงว่าทำไมถึงมาตรวจคะ??? "
" คือ มันมีอาการครับ หมอที่รู้จักเขาแนะนำให้มาตรวจครับ "
" ตอนมีเพศสัมพันธ์ ได้ใช้ถุงยาง หรือป่าวคะ ??? " พี่แกก็ถามไประหว่างรอปริ้นผลตรวจออกจากคอมฯ เพราะผมดันขอใบยืนยันจากเขามาด้วย
แต่ถามมางี้ จะให้ผมตอบไงอะ ??? ผมไม่ได้มีอะไรกับใครเลย ด้วยความที่อยากให้จบๆ บวกกับความมึน จึงตอบไปแบบกึ่งๆมีศิลธรรมว่า
" ก็ใส่นะครับ แต่ไม่รู้ถุงมันแตกหรือรั่วหรือเปล่านะครับ ผมจำไม่ได้ " หึหึหึ และแล้ว ผลก็ออกมา
" ผลคือ negative นะคะ " แล้วก็หันมามองผม แล้วทำหน้านิ่งๆ เข้มๆ บอกเลย ตอนนั้น ผมมึนครับ เพราะไม่รู้ว่าที่บอกมา มันคืออะไร ดูจากหน้าอย่างเดียว เข้มๆ จริงจังแบบนี้ ชัวร์ เลย กุ โดนเข้าแล้ว .... ก่อนที่จะถอนหายใจเฮือกใหญ่ๆแบบ เออ ก็ได้วะ ต้องให้กำลังใจตัวเองมากๆ เดี๋ยววันนี้บอกแม่กุก่อน
" วันหลังจะทำอะไร ก็ระมัดระวัง เบาๆ อย่ารีบ เดี๋ยวติดขึ้นมา จะเดือนร้อน " หืมมมมม????? ตอนนี้ความรู้สึกเปลี่ยนแบบอยากเอาหัวไปโขกกำลังสัก 3ที
" รู้ไหมมันแย่นะ ประมาทแล้วชีวิตทั้งชีวิตมันเสียเลยนะ อายุยังน้อยอยู่เลย พี่เจอมาเยอะแล๊ว(เสียงสูง) ที่ชอบจัดสด จัดสด แล้วมานั่งหน้าสลด น้ำตาตกกับเก้าอี้ตัวเนี่ย " นี่เป็นประโยคที่ผมรู้สึก พีค ที่สุดเลย ไอตรง จัดสด จัดสด แล้วนั่งหน้าสลดน้ำตาตกเนี่ย
ตอนระหว่างที่หมอเขานั่งพับใบผลการตรวจเพื่อใส่ซอง ผมก็ถามแบบขอความรู้ เพราะเรามีความรู้เรื่องนี้น้อยมากจริงๆ รู้แค่เราไม่

ก็พอแล้ว
ผมจึงขอสรุปๆมาประมาณนี้ละกัน มันค่อนข้างยาว เนื่องจากว่า หลังจากคิวผมก็ไม่มีคนมาต่อคิวเลย
" แต่ละปีมีคนคิดเชื้อเอดส์ใหม่ๆเพิ่มขึ้นปีละหลายแสนคน ส่วนใหญ๋มาจากเที่ยวกลางคืน แต่ที่รู้สึกว่าไม่ควรเกิดขึ้นคือ เอดส์ดันไปติดกับครอบครัวคุณภาพ บุคคลคุณภาพ และกลุ่มบุคคลพวกนี้แหละ ที่การระมัดระวังจะน้อยกว่าไอพวกกลุ่มแรกๆเสียอีก เพราะคิดว่า ฉันไม่เที่ยว ฉันไม่มั่ว ยังไงก็ไม่ติด มีอะไรก็มีกับแฟนคนเดียว (แล้วก็ชี้ไปที่โปสเตอร์แผ่นนึง) เห็นป่ะ อ่านดิ "รู้จักเขาดีพอหรือยัง" แฟนคุณอาจจะไม่ใช่คนมั่ว แต่แฟนเก่าของแฟนคุณเขามั่วหรือป่าว เอดส์ที่จะมาติดคุณ ต้นเหตุอาจจะไม่ใช่แฟนคุณ แต่อาจจะมาจากแฟนเก่า ของแฟนเก่า ของแฟนเก่า ของแฟนเก่า ซึ่ง เพราะคนๆเดียว จะทำให้คนคุณภาพในสังคมอีกหลายสิบคนหมดโอกาศไปด้วย เพราะความประมาท สมมุติ วันนี้คุณไม่ได้มาตรวจ แล้วเป็นเอดส์ (อ้าว เห้ยๆ ) โดยที่ไม่รู้ แล้วเกิดมีแฟน ถามว่า แฟนคุณจะติดไหม ติดอีก แล้วเกิดคุณเลิกกับคนๆนี้ แล้วไปมีแฟนใหม่ แฟนไหมจะติดไหม ถ้าไปมีอะไรกัน ก็ติด แล้วไม่คิดเหรอว่า แฟนที่คุณเพิ่งเลิกไป จะไม่เอาเชื้อไปติดอีกคนนึง "
พี่แกใส่มาเป็นชุดๆครับ แต่เนื้อหานั้น เออ จริง ใช่ เมื่อจบแล้ว ผมก็ขอบคุณเขา แล้วหยิบซองใบยืนยันผลออกมา เขาก็บอกผมอีกว่า
" เอาไปบอกคนอื่นด้วยนะ ว่าให้มาตรวจก็ดี ปีละครั้ง สองปีครั้งก็ยังดี เพราะเอดส์มันจะรู้ด้วยตัวเองก็เป็นสัก 5 6 ปีแล้ว ตอนนั้นมันก็สายไปแล้ว " แล้วผมก็ตอบได้แค่ " ครับ " แล้วแกก็เดินออกไปอีกประตูนึงหลังห้อง
สิ่งที่ผมรู้สึกได้ของวันนี้คือ มันน่ากลัวจริงๆครับ ความรู้สึกเมื่อตอนที่รู้จากปากหมอว่า เมิงเสี่ยงนะ นั่นแหละครับ มันร้อนวูบวาบ ใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว มันทรมาณ เพราะฉะนั้น ผมจึงต้องตั้งอยู่บนความไม่ประมาทของชีวิตจริงๆ ผมเลยได้แต่สัญญากับตัวเองว่าจะเริ่มใช้ชีวิตที่จริงจังมากขึ้นซะแล้ว
ความรู้เพิ่มเติมมา จากเจ๊ ในห้องนั่นแหละ คือ พี่แกบอกว่า ถ้าเรารู้ว่าเราเป็นเอดส์ตั้งแต่ระยะแรกๆ หรือตั้งแต่ที่อาการยังไม่ออกในระยะแรก เราสามารถรักษา(แม้จะไม่หายขาด)ผู้ป่วยให้ไม่แสดงอาการ หรือผลข้างเคียงจนเป็นเหมือนคนปกติทั่วไปได้เลยนะครับ เขาว่าผลของรคเอดส์ หากได้รับยาต่อเนื่อง พบแพทย์ตามนัดทุกครั้ง โรคเอดส์แลดูจะมีผลค้างเคียงน้อยกว่าไทรอยมีพิษเสียอีก หากดูแลร่างกายดีๆ
เพราะฉะนั้น จะไปฉึกๆกับใคร ควรจะเคลียร์ตัวเองให้ดี มีความรับผิดชอบสักนิด มีตังเปิดห้อง 500 แต่ถุงยาง 50 ไม่มีตังกันเลยหรือ ??? โรคเอดส์ไม่ได้ติดการฉึกอย่างเดียว แค่โม๊ะๆกัน (ใช้ปาก) มันก็ติดได้แล้วนะฮะ ถ้าคิดว่าไม่เคลียร์ อย่าเพิ่งมีดีกว่า ถ้าไม่มั่นใจจริงๆ
ขอบคุณมานั่งอ่านกันนะครับ แค่อยากให้ผู้ที่อ่าน ใส่ใจให้ความสำคัญกับเรื่องแบบนี้ให้มากขึ้นอย่างที่ผมรู้สึกว่ามันสำคัญจริงๆ ตรวจร่างกายประจำปีสักนิด เพื่อเป็นสิ่งประกันความรับปิดชอบต่อตัวคุณและครอบครัวคุณเอง
ขอบคุณครับ
ผมเสี่ยงติด HIV
ผมขอนะครับ งดดราม่า เนื้อหาอาจผิดพลาดเนื่องจากระหว่างฟัง บางครั้งอยู่ในอาการที่ตื่นตระหนก ตกใจจริงๆ
การเล่าเรื่องผมขอเป็นแบบเหตุการณ์สนทนา เนื่องจาก ระหว่างบทคุย ผมอยากจะให้ผู้อ่านมีความรู้สึกเช่นเดียวกับที่ผมรู้สึก เข้าใจในสิ่งที่ผมรู้สึก หากยาวไป ขออภัยจริงๆ การสนทนาผมเปลี่ยนแปลงให้เป็นตามอารมณ์ ณ ตอนนั้นด้วยนะ
เหตุการณ์มันเริ่มจากว่า เมื่อประมาณ 2 อาทิตย์ก่อน ผมเกิดอาการไม่สบาย ปวดหัวหนักมากๆ แถมการมีไข้เล็กน้อย เจ็บคอนิดหน่อย ซึ่งถามว่าปัจจุบัน หายหรือยัง มันก็หายแล้ว แต่ยังคงมีอาการปวดหัวนิดหน่อย ซึ่งมันก็เป็นเรื่องธรรมดากับช่วงฤดูที่กำลังจะเปลี่ยน บวกกับปัญหาในงานเข้ามาเยอะในช่วงนี้
แต่อยู่ๆ เมื่อสัก 1อาทิตย์ที่ผ่านมา ผมเกิดอาการคันที่ฝ่ามือและเท้า รวมถึงตามง่ามนิ้วมือและเท้ามากๆ และเกิดแผลในช่องปากถึง 4 แผล และปัจจุบัน ยังไม่หาย (แผลในช่องปากก็ยังไม่หายสนิท) วันนี้จึงเป็นฤกษ์งามยามดี ที่ผมจะลาพักร้อนสัก 1 วัน เพื่อไปหาหมอประกันสังคม ที่ผมรู้จัก (คือไปทีไรก็เจอแต่คนนี้ อายุมากกว่าผม 2 ปี เลยขอเบอร์ไว้ เวลาเจ็บป่วยก็ขอคำปรึกษาได้) และได้นัดกันไว้ เมื่อไปถึง หมอได้ทำการตรวจโน่นนี่นั่น ไม่ว่าจะเป็นช่องปาก แผลที่เท้า (ที่ผมว่าค่าคันนั่นแหละ เกาซะเป็นแผลเล็กๆ) หรือตามซอกนิ้วมือซึ่งก็ไม่เห็นอะไรผิดปกติ (แต่มันคันจริงๆนะ)
" เป็นมานานหรือยัง?? " หมอเปิดประเด็น แล้วทำหน้าเครียดๆ
" สัก 2 อาทิตย์แล้วมั้งหมอ จำไม่ได้ แต่ราวๆนี้ "
" ตามตรงๆนะ เมิงไปตีหรี่มาป่าว ...? " แล้วหมอก็จ้องตาแบบเข้มๆ
" เอิ่มหมอ จะไปตีอะไรละหมอ บ้าแล้ว " หน้ากุหื่นขนาดนั้นเลยเหรอ ???
" ได้ใช้สิ่งของจำพวกมีดโกน ของมีคม หรือเกิดบาดแผนจากการถูกบาดในที่สาธารณะ มาหรือป่าวช่องระยะ 3เดือนเนี่ย ?? "
" ก็มีมีดโกนนะ โดนบาดนิดหน่อย .... ทำไมครับหมอ??? "
" มันคิดแบบเบื้องต้นได้ 2 แบบ นะ แบบแรกคือ แยกเป็น 3 เคส 1 ปวดหัวเป็นไข้ เจ็บคอ (ตอนนี้ก็ยังไม่หายสนิท แต่ไม่เท่าไหร่ อาการแทบไม่มี) 2 มือเท่าคัน 3 แผลในช่องปาก โดย 3 เคสนี้ไม่เกิดจากต้นเหตุเดียวกัน มันก็ไม่มีอะไร " หมอเริ่มเครียด
" ส่วนแบบที่ 2 คือ มืงโกหก ไปตีหรี่มา ไม่ใส่ถุงหรือป่าว ส่วนใหญ่ผู้ชายหมอถามชอบโกหกกันเยอะ อาย เพราะช่วงแรกของการติดเชื้อ ร่างกายจะอ่อนแอ เพราะภูมิต้านทานจะต่ำ อาการเบื้องต้นที่เห็นชัดคือ มีไข้ เกิดเชื้อราในจุดชื้อนตามร่างกายหรือตามแผล เช่น ในปาก ซอกเล็บ หรือ งามมือและเท้า " สรุปเมิงจะให้กุหื่นใช่มะ
พอหมอพูดจบ คุณเดาออกไหมครับว่ามันคือโรคอะไร ?? แล้วผมจะรู้สึกยังไง ???? ด้วยความรู้อันน้อยนิดเกี่ยวกับโรคเอดส์ บอกเลย ตอนนั้น ร้อนตัวครับ ทั้งๆที่ในใจบอกเลย ว่าไม่ใช่หรอก กุไม่ได้มีอะไรกับใครเลย จะติดมาจากไหน แต่ในใจอีกด้านมันก็คิดว่า เออ เคยเห็นข่าวที่เคยมีคนติดเอดส์จากโรงพยาบาล หรือที่ไหนก็ไม่รู้ด้วยนี่หว่า .... กุจะซวยขนาดนั้นเลยไหมเนี่ยยยย??? หน้าเริ่มแดงครับ ตอนนี้
" ตรวจเลือดเลยละกัน "
" แล้วรู้วันนี้เลยไหม หมอ??? " คุณเข้าใจคำว่าร้อนใจป่ะ ???
" ก็สองวันมั้ง คนมันเยอะในแล็บอะ เดี๋ยวได้ผลแล้วโทรไปบอก " โอ่โห 2 วัน บ้านเมิงดิ แค่มืงบอกมาเมื่อ 2 นาทีที่แล้ว กุเหมือนรู้สึกว่าทรมาณมาแล้ว 2ปี เลยอ้อนวอนขอร้องมันว่า หาที่ตรวจที่รู้ผลเร็วๆได้ไหม
" ไปนี่ดิ ที่นิรนาม ??? ตรวจแล้วรู้ผลเลย ชั่วโมงเดียว จบ แล้วเอาใบรับรองมาที่นี่ " หืม ???? อะไร ??? คือ นิรนาม ???? เลยหาใน google เลย แต่จะบอกว่า ตอนพิมพ์ในมือถือ มือสั่นแบบ ผิดๆ ถูกๆ แล้วก็ได้รู้
คลินิกนิรนาม เป็นคลินิกที่รับเจาะเลือดเพื่อตรวจหาโรคต่างๆ ตั้งแต่ HIV ยันตับอักเสบ ทุกโรคที่ตรวจได้ผ่านเลือด อยู่แถว โรงพยาบาลจุฬาฯ (ไม่รู้ว่าเป็นของจุฬาไหม) อื่อหือ ไกลนะเนี่ย คุณคิดนะ บ้านผมอยู่ นนทบุรี ขับมอไซไปราชดำริ ฮะ สนุกเลย แต่ยอม บอกเลย ขอให้มันจบๆวันนี้
ผมขับมอไซไป ในตอนเช้าครับ ราวๆ 9โมง ช่วง Prime time ของถนนโซนสาทร สีลม ศาลาแดง ย่านธุรกิจที่ไม่เคยเห็นถนนมันว่างสักที 1 ชั่วโมงเต็ม ถึงจนได้
ตอนขับรถ อยากจะให้ท่านได้รู้สึกแบบที่ผมรู้สึกจริงๆ ขับไปน้ำตาแทบไหล คิดแค่ว่า ถ้าเป็น จะทำไง?? ทำงานต่อได้ไหม?? คนอื่นรู้เขาจะคิดยังไง?? พ่อแม่เราจะทำไง??? เราจะใช้ชีวิตยังไง??? ถ้าคนอื่นไม่บอมรับเราละ??? เพื่อนฝูงจะมองเรายังไง??? เยอะเลยครับ เดือนเนื้อร้อนใจไปหมด
เมื่อถึงคลินิก ความรู้สึกแรกคือ อาย เลยครับ กับการที่ต้องบอกว่า " ผมมาตรวจหาเชื้อ HIV ครับ " แต่ผิดเลย ผมอุ่นใจเลย ประชาสัมพันธุ์เป็นผู้หญิงตัวอ้วนๆ ยิ้มทักมาแต่ไกลเลย มารยาทดีมากครับ พูดจาดีมากๆ ยิ้มทุกคำพูด ไม่ทำให้เราอายครับ แบบ น้องไปกดบัตรคิดที่ปุ่ม A นะครับ แล้วจะบัตรไปที่จุด 2 ช่องประวัติเน๊อะ เสร็จแล้วค่อยมานั่งรอตรงนี้น้า รู้สึกดีขึ้นมาหน่อย
บริการดีตั้งแต่กรอกประวัติ เจาะเลือด ยันฟังผลเลยครับ
ผมนั่งรออยู่ 1 ชั่วโมงแบบเป๊ะๆ เจาะตอน 9.34 ฟังผล 10.40 นั่งในห้องเล็กๆ มีผู้หญิงอายุราวๆ 40-50 ใส่แว่นนั่งอยู่หน้าคอมฯ
" ผลตรวจออกมาแล้วนะคะ ... สอบถามนิดนึงว่าทำไมถึงมาตรวจคะ??? "
" คือ มันมีอาการครับ หมอที่รู้จักเขาแนะนำให้มาตรวจครับ "
" ตอนมีเพศสัมพันธ์ ได้ใช้ถุงยาง หรือป่าวคะ ??? " พี่แกก็ถามไประหว่างรอปริ้นผลตรวจออกจากคอมฯ เพราะผมดันขอใบยืนยันจากเขามาด้วย
แต่ถามมางี้ จะให้ผมตอบไงอะ ??? ผมไม่ได้มีอะไรกับใครเลย ด้วยความที่อยากให้จบๆ บวกกับความมึน จึงตอบไปแบบกึ่งๆมีศิลธรรมว่า
" ก็ใส่นะครับ แต่ไม่รู้ถุงมันแตกหรือรั่วหรือเปล่านะครับ ผมจำไม่ได้ " หึหึหึ และแล้ว ผลก็ออกมา
" ผลคือ negative นะคะ " แล้วก็หันมามองผม แล้วทำหน้านิ่งๆ เข้มๆ บอกเลย ตอนนั้น ผมมึนครับ เพราะไม่รู้ว่าที่บอกมา มันคืออะไร ดูจากหน้าอย่างเดียว เข้มๆ จริงจังแบบนี้ ชัวร์ เลย กุ โดนเข้าแล้ว .... ก่อนที่จะถอนหายใจเฮือกใหญ่ๆแบบ เออ ก็ได้วะ ต้องให้กำลังใจตัวเองมากๆ เดี๋ยววันนี้บอกแม่กุก่อน
" วันหลังจะทำอะไร ก็ระมัดระวัง เบาๆ อย่ารีบ เดี๋ยวติดขึ้นมา จะเดือนร้อน " หืมมมมม????? ตอนนี้ความรู้สึกเปลี่ยนแบบอยากเอาหัวไปโขกกำลังสัก 3ที
" รู้ไหมมันแย่นะ ประมาทแล้วชีวิตทั้งชีวิตมันเสียเลยนะ อายุยังน้อยอยู่เลย พี่เจอมาเยอะแล๊ว(เสียงสูง) ที่ชอบจัดสด จัดสด แล้วมานั่งหน้าสลด น้ำตาตกกับเก้าอี้ตัวเนี่ย " นี่เป็นประโยคที่ผมรู้สึก พีค ที่สุดเลย ไอตรง จัดสด จัดสด แล้วนั่งหน้าสลดน้ำตาตกเนี่ย
ตอนระหว่างที่หมอเขานั่งพับใบผลการตรวจเพื่อใส่ซอง ผมก็ถามแบบขอความรู้ เพราะเรามีความรู้เรื่องนี้น้อยมากจริงๆ รู้แค่เราไม่
ผมจึงขอสรุปๆมาประมาณนี้ละกัน มันค่อนข้างยาว เนื่องจากว่า หลังจากคิวผมก็ไม่มีคนมาต่อคิวเลย
" แต่ละปีมีคนคิดเชื้อเอดส์ใหม่ๆเพิ่มขึ้นปีละหลายแสนคน ส่วนใหญ๋มาจากเที่ยวกลางคืน แต่ที่รู้สึกว่าไม่ควรเกิดขึ้นคือ เอดส์ดันไปติดกับครอบครัวคุณภาพ บุคคลคุณภาพ และกลุ่มบุคคลพวกนี้แหละ ที่การระมัดระวังจะน้อยกว่าไอพวกกลุ่มแรกๆเสียอีก เพราะคิดว่า ฉันไม่เที่ยว ฉันไม่มั่ว ยังไงก็ไม่ติด มีอะไรก็มีกับแฟนคนเดียว (แล้วก็ชี้ไปที่โปสเตอร์แผ่นนึง) เห็นป่ะ อ่านดิ "รู้จักเขาดีพอหรือยัง" แฟนคุณอาจจะไม่ใช่คนมั่ว แต่แฟนเก่าของแฟนคุณเขามั่วหรือป่าว เอดส์ที่จะมาติดคุณ ต้นเหตุอาจจะไม่ใช่แฟนคุณ แต่อาจจะมาจากแฟนเก่า ของแฟนเก่า ของแฟนเก่า ของแฟนเก่า ซึ่ง เพราะคนๆเดียว จะทำให้คนคุณภาพในสังคมอีกหลายสิบคนหมดโอกาศไปด้วย เพราะความประมาท สมมุติ วันนี้คุณไม่ได้มาตรวจ แล้วเป็นเอดส์ (อ้าว เห้ยๆ ) โดยที่ไม่รู้ แล้วเกิดมีแฟน ถามว่า แฟนคุณจะติดไหม ติดอีก แล้วเกิดคุณเลิกกับคนๆนี้ แล้วไปมีแฟนใหม่ แฟนไหมจะติดไหม ถ้าไปมีอะไรกัน ก็ติด แล้วไม่คิดเหรอว่า แฟนที่คุณเพิ่งเลิกไป จะไม่เอาเชื้อไปติดอีกคนนึง "
พี่แกใส่มาเป็นชุดๆครับ แต่เนื้อหานั้น เออ จริง ใช่ เมื่อจบแล้ว ผมก็ขอบคุณเขา แล้วหยิบซองใบยืนยันผลออกมา เขาก็บอกผมอีกว่า
" เอาไปบอกคนอื่นด้วยนะ ว่าให้มาตรวจก็ดี ปีละครั้ง สองปีครั้งก็ยังดี เพราะเอดส์มันจะรู้ด้วยตัวเองก็เป็นสัก 5 6 ปีแล้ว ตอนนั้นมันก็สายไปแล้ว " แล้วผมก็ตอบได้แค่ " ครับ " แล้วแกก็เดินออกไปอีกประตูนึงหลังห้อง
สิ่งที่ผมรู้สึกได้ของวันนี้คือ มันน่ากลัวจริงๆครับ ความรู้สึกเมื่อตอนที่รู้จากปากหมอว่า เมิงเสี่ยงนะ นั่นแหละครับ มันร้อนวูบวาบ ใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว มันทรมาณ เพราะฉะนั้น ผมจึงต้องตั้งอยู่บนความไม่ประมาทของชีวิตจริงๆ ผมเลยได้แต่สัญญากับตัวเองว่าจะเริ่มใช้ชีวิตที่จริงจังมากขึ้นซะแล้ว
ความรู้เพิ่มเติมมา จากเจ๊ ในห้องนั่นแหละ คือ พี่แกบอกว่า ถ้าเรารู้ว่าเราเป็นเอดส์ตั้งแต่ระยะแรกๆ หรือตั้งแต่ที่อาการยังไม่ออกในระยะแรก เราสามารถรักษา(แม้จะไม่หายขาด)ผู้ป่วยให้ไม่แสดงอาการ หรือผลข้างเคียงจนเป็นเหมือนคนปกติทั่วไปได้เลยนะครับ เขาว่าผลของรคเอดส์ หากได้รับยาต่อเนื่อง พบแพทย์ตามนัดทุกครั้ง โรคเอดส์แลดูจะมีผลค้างเคียงน้อยกว่าไทรอยมีพิษเสียอีก หากดูแลร่างกายดีๆ
เพราะฉะนั้น จะไปฉึกๆกับใคร ควรจะเคลียร์ตัวเองให้ดี มีความรับผิดชอบสักนิด มีตังเปิดห้อง 500 แต่ถุงยาง 50 ไม่มีตังกันเลยหรือ ??? โรคเอดส์ไม่ได้ติดการฉึกอย่างเดียว แค่โม๊ะๆกัน (ใช้ปาก) มันก็ติดได้แล้วนะฮะ ถ้าคิดว่าไม่เคลียร์ อย่าเพิ่งมีดีกว่า ถ้าไม่มั่นใจจริงๆ
ขอบคุณมานั่งอ่านกันนะครับ แค่อยากให้ผู้ที่อ่าน ใส่ใจให้ความสำคัญกับเรื่องแบบนี้ให้มากขึ้นอย่างที่ผมรู้สึกว่ามันสำคัญจริงๆ ตรวจร่างกายประจำปีสักนิด เพื่อเป็นสิ่งประกันความรับปิดชอบต่อตัวคุณและครอบครัวคุณเอง
ขอบคุณครับ