ข้อมูลจาก (
http://www.facebook.com/JapanPerspectives )
เมื่อครั้งอดีต...
ผมกำลังยื่นเงินจำนวนหนึ่ง แก่คนขับแท็กซี่
เป็นการทิป สินน้ำใจเล็กๆน้อยๆ
ที่เขาบริการดี ชวนผมคุย ต่อปากต่อคำไปมา
ด้วยความสุภาพ+เป็นกันเอง ตลอดการเดินทาง
คุณลุงแกทำหน้าเหวอเล็กน้อย
พร้อมรีบบอกปัดปฎิเสธ
“ไดโจบุๆๆ (ไม่เป็นไร) แต้งกิ้วๆ”
ตั้งแต่นั้น ผมจึงรู้ว่า นั่งแท็กซี่...ไม่ต้องทิป
และพอเวลาผ่านไป จึงรู้ว่า “ที่ญี่ปุ่น...ไม่มีการทิป!”
ซึ่งหมายถึงการบริการทุกรูปแบบเลยก็ว่าได้
ซึ่งมันสร้างความเคลือบแคลงใจให้ผมมาก
เพราะด้วยการบริการที่เราได้รับ...ล้วนน่าประทับใจ
การทิป...จึงดูคู่ควรแล้วนี่?
.
.
.
จากนั้น ผมถึงได้เรียนรู้ว่า
///////////////////////////////////
1) ทิป...อาจไม่ใช่ ‘รางวัล’ ที่คนญี่ปุ่นคุ้นเคย
จากการทำงาน/ การให้บริการต่างๆ
การทำทุกอย่างให้ดีที่สุด สมบูรณ์แบบที่สุด
อาจเป็น “รางวัลในตัวมันเอง” อยู่แล้ว
ด้วยความที่ผลงาน เป็นรางวัลในตัวมันเองอยู่แล้ว
จึงไม่สำคัญเลยว่า ลูกค้าจะเป็นใคร ซื้ออะไร ซื้อเท่าไร
แต่พนักงานจะมอบการบริการ ทำหน้าที่ให้ดีที่สุด
2) ด้วยความที่เป็นประเทศพัฒนาแล้ว
รายได้ต่อหัวของประชากรค่อนข้างสูง
การกระจายรายได้ใกล้เคียงกัน
ฐานเงินเดือนมีความเป็นธรรม
คือ พนักงานทุกคนได้รับค่าตอบแทนที่เหมาะสมแล้ว
(ดังที่เราอาจเห็นพนักงานร้านอาหารมีน้อย
คนเดียวอาจวิ่งทำทุกอย่างในร้าน
เพราะยิ่งจ้างหลายคน ต้นทุนก็สูง)
3) วัฒนธรรมที่แสดงออกถึงเรื่องต่างๆใน “ทางอ้อม”
+กับ การเคร่งในเรื่องของ “ศักดิ์ศรี” ที่ว่า
เรื่องเงินๆทองๆ ไม่ควรจะมาคุย/ หยิบยื่น กันโดยตรง!
ดังที่เวลาเราจ่ายเงินซื้อของในร้านค้า
จะมี “ถาดวางเงิน” 「支払トレイ」
ให้ลูกค้าวางเงินค่าสินค้าไว้ตรงนั้น
เพื่อที่พนักงานจะหยิบไปนับอีกทีนึง
จะไม่รับกัน มือ-มือ ตรงๆ
แต่...
แม้จะแสดงออกอย่างอ้อมค้อม (บางครั้ง อ้อมโลก)
ก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่แสดงความขอบคุณ
กลับกัน คนญี่ปุ่นจะขอบคุณบ่อยมากๆๆๆ
โดย “ของขวัญ” ที่ห่อมาอย่างดี
ด้วยผ้าฟุโรชิกิ สีสันสวยงาม
ก็เป็นสื่อกลางที่นิยมมอบให้แก่กัน
++++++++++++++++++++++++++++
4) “Omotenashi”
คำนี้ผมเคยเกริ่นถึงไปแล้วเมื่อวันก่อน
เป็นการบริการ...ที่มันออกมาจากใจ!
โดยไม่หวังผลตอบแทนใดๆ
ผมว่ามันคือ “หัวใจ” ของผลลัพธ์การบริการ
แทบทุกอย่างที่เราเห็นเลยล่ะ
ฉันทำดีกับคุณ ไม่ใช่เพราะ คุณจะได้ซื้อของฉัน
ฉันทำดีกับคุณ ไม่ใช่เพราะ ฉันอยากให้คุณทิปให้
.
.
.
แต่ฉันทำดีกับคุณ เพราะมันมาจากใจ
.
.
.
จากผลสำรวจ
ของนิตยสาร The New York Times ปี 2011
ประเทศที่ได้รับคะแนนสูงสุดในด้านการให้บริการ
คือ...ญี่ปุ่น !!!
โดยมีอัตราการทิปเฉลี่ย เท่ากับ 0% !!! ของยอดจ่าย
(ตามมาด้วยไทยแลนด์บ้านเรา ทิปเฉลี่ย 3%
อันดับ 7 ตกเป็นของพี่เบิ้มเมกา
ตัวพ่อด้านการทิป...โดนไป 18% !!! จ้า)
//////////////////////////////////////////
ไม่แปลกใจเลย
ว่าทำไมญี่ปุ่น No ทิป ! แต่บริการดีเยี่ยม +
JapanPerspective
ข้อมูลจาก (
http://www.facebook.com/JapanPerspectives )
『 ญี่ปุ่น No ทิป แต่ Why บริการดี (เว่อร์) ? 』
ข้อมูลจาก (http://www.facebook.com/JapanPerspectives )
เมื่อครั้งอดีต...
ผมกำลังยื่นเงินจำนวนหนึ่ง แก่คนขับแท็กซี่
เป็นการทิป สินน้ำใจเล็กๆน้อยๆ
ที่เขาบริการดี ชวนผมคุย ต่อปากต่อคำไปมา
ด้วยความสุภาพ+เป็นกันเอง ตลอดการเดินทาง
คุณลุงแกทำหน้าเหวอเล็กน้อย
พร้อมรีบบอกปัดปฎิเสธ
“ไดโจบุๆๆ (ไม่เป็นไร) แต้งกิ้วๆ”
ตั้งแต่นั้น ผมจึงรู้ว่า นั่งแท็กซี่...ไม่ต้องทิป
และพอเวลาผ่านไป จึงรู้ว่า “ที่ญี่ปุ่น...ไม่มีการทิป!”
ซึ่งหมายถึงการบริการทุกรูปแบบเลยก็ว่าได้
ซึ่งมันสร้างความเคลือบแคลงใจให้ผมมาก
เพราะด้วยการบริการที่เราได้รับ...ล้วนน่าประทับใจ
การทิป...จึงดูคู่ควรแล้วนี่?
.
.
.
จากนั้น ผมถึงได้เรียนรู้ว่า
///////////////////////////////////
1) ทิป...อาจไม่ใช่ ‘รางวัล’ ที่คนญี่ปุ่นคุ้นเคย
จากการทำงาน/ การให้บริการต่างๆ
การทำทุกอย่างให้ดีที่สุด สมบูรณ์แบบที่สุด
อาจเป็น “รางวัลในตัวมันเอง” อยู่แล้ว
ด้วยความที่ผลงาน เป็นรางวัลในตัวมันเองอยู่แล้ว
จึงไม่สำคัญเลยว่า ลูกค้าจะเป็นใคร ซื้ออะไร ซื้อเท่าไร
แต่พนักงานจะมอบการบริการ ทำหน้าที่ให้ดีที่สุด
2) ด้วยความที่เป็นประเทศพัฒนาแล้ว
รายได้ต่อหัวของประชากรค่อนข้างสูง
การกระจายรายได้ใกล้เคียงกัน
ฐานเงินเดือนมีความเป็นธรรม
คือ พนักงานทุกคนได้รับค่าตอบแทนที่เหมาะสมแล้ว
(ดังที่เราอาจเห็นพนักงานร้านอาหารมีน้อย
คนเดียวอาจวิ่งทำทุกอย่างในร้าน
เพราะยิ่งจ้างหลายคน ต้นทุนก็สูง)
3) วัฒนธรรมที่แสดงออกถึงเรื่องต่างๆใน “ทางอ้อม”
+กับ การเคร่งในเรื่องของ “ศักดิ์ศรี” ที่ว่า
เรื่องเงินๆทองๆ ไม่ควรจะมาคุย/ หยิบยื่น กันโดยตรง!
ดังที่เวลาเราจ่ายเงินซื้อของในร้านค้า
จะมี “ถาดวางเงิน” 「支払トレイ」
ให้ลูกค้าวางเงินค่าสินค้าไว้ตรงนั้น
เพื่อที่พนักงานจะหยิบไปนับอีกทีนึง
จะไม่รับกัน มือ-มือ ตรงๆ
แต่...
แม้จะแสดงออกอย่างอ้อมค้อม (บางครั้ง อ้อมโลก)
ก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่แสดงความขอบคุณ
กลับกัน คนญี่ปุ่นจะขอบคุณบ่อยมากๆๆๆ
โดย “ของขวัญ” ที่ห่อมาอย่างดี
ด้วยผ้าฟุโรชิกิ สีสันสวยงาม
ก็เป็นสื่อกลางที่นิยมมอบให้แก่กัน
++++++++++++++++++++++++++++
4) “Omotenashi”
คำนี้ผมเคยเกริ่นถึงไปแล้วเมื่อวันก่อน
เป็นการบริการ...ที่มันออกมาจากใจ!
โดยไม่หวังผลตอบแทนใดๆ
ผมว่ามันคือ “หัวใจ” ของผลลัพธ์การบริการ
แทบทุกอย่างที่เราเห็นเลยล่ะ
ฉันทำดีกับคุณ ไม่ใช่เพราะ คุณจะได้ซื้อของฉัน
ฉันทำดีกับคุณ ไม่ใช่เพราะ ฉันอยากให้คุณทิปให้
.
.
.
แต่ฉันทำดีกับคุณ เพราะมันมาจากใจ
.
.
.
จากผลสำรวจ
ของนิตยสาร The New York Times ปี 2011
ประเทศที่ได้รับคะแนนสูงสุดในด้านการให้บริการ
คือ...ญี่ปุ่น !!!
โดยมีอัตราการทิปเฉลี่ย เท่ากับ 0% !!! ของยอดจ่าย
(ตามมาด้วยไทยแลนด์บ้านเรา ทิปเฉลี่ย 3%
อันดับ 7 ตกเป็นของพี่เบิ้มเมกา
ตัวพ่อด้านการทิป...โดนไป 18% !!! จ้า)
//////////////////////////////////////////
ไม่แปลกใจเลย
ว่าทำไมญี่ปุ่น No ทิป ! แต่บริการดีเยี่ยม +
JapanPerspective
ข้อมูลจาก (http://www.facebook.com/JapanPerspectives )