ผู้รับเหมาติดตั้ง 'โครงข่าย' งานล้น 'เอไอเอส-ทรู' สปีดกดปุ่มเปิด 4G
ประชาชาติธุรกิจ ฉบับวันที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558
รับเหมาติดตั้งโครงข่าย-ผู้ผลิตอุปกรณ์โทรคมนาคมเด้งรับยักษ์ มือถือขยายโครงข่าย 4G เงินสะพัดหลายหมื่นล้านบาทตั้งแต่ปลายปีนี้ยิงยาวถึงปีหน้า "เอไอเอส-ทรู" ปูพรม อัพเกรดระบบเต็มสูบ ประสานเสียงพร้อมกดปุ่มเปิดบริการทันทีที่ได้ใบอนุญาต
นายศุภชัย เจียรวนนท์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ และประธานคณะผู้บริหาร บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น กล่าวกับ "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการพิจารณาตัวเลขการลงทุนโครงข่ายโทรศัพท์มือถือระบบ 4G สำหรับปี 2559 แต่ที่ผ่านมาได้ลงทุนโครงข่าย 4G บนคลื่นเดิมไปแล้ว 10,000 สถานีฐาน และที่จะมีการลงทุนแน่นอนคือเพื่ออัพสปีดโครงข่ายให้เร็วขึ้นจากปัจจุบัน 2-3 เท่าตัว ส่วนการเปิดให้บริการ 4G บนคลื่นความถี่ 1800 MHz ที่เพิ่งชนะการประมูลมาได้ โดยพร้อมเปิดให้บริการในทันทีที่ได้รับใบอนุญาต เพราะคลื่นที่ได้มาสามารถใช้กับอุปกรณ์โครงข่ายที่มีอยู่แล้วได้ทันที เรียกว่าเมื่อได้ใบอนุญาตก็พร้อมที่จะเปิดบริการได้ในทันทีทั้ง 10,000 กว่าสถานีทั่วประเทศ
แหล่งข่าวในธุรกิจโทรคมนาคมเปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า หนึ่งในสองผู้ที่ชนะใบอนุญาตประมูลคลื่น 1800 MHz ที่จะ เร่งติดตั้งโครงข่ายเพื่อขยายบริการ 4G โดยเร็วที่สุดคือเอไอเอส เนื่องจากเป็นรายเดียว ที่ยังไม่มีบริการ 4G ด้วยข้อจำกัดของความถี่ที่มีน้อยกว่าคู่แข่งรายอื่น ซึ่งช่วงที่ผ่านมาได้เตรียมความพร้อมไว้ล่วงหน้าในทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นทางด้านเทคนิค และบุคลากรเพื่อให้พร้อมสำหรับการเปิดบริการ 4G ในทันทีที่ได้รับใบอนุญาต ซึ่งในเบื้องต้น พื้นที่ในการให้บริการจะยังอยู่ในวงจำกัด แต่เชื่อว่าเอไอเอสจะเร่งขยายเครือข่ายให้ครอบคลุมโดยเร็ว เช่นเดียวกับที่เคยเกิดขึ้น มาแล้วสมัย 3G
"
ยิ่งเปิด 4G บนคลื่นความถี่ใหม่ได้เร็วเท่าไรก็จะช่วยลดโหลดทราฟฟิกในระบบเดิมเร็วขึ้นเท่านั้น ทำให้คุณภาพบริการโดยรวมดีขึ้นด้วย ดังนั้นเอไอเอสจึงน่าจะเร่งเต็มสตรีมเพื่อขยายบริการ 4G โดยเร็วที่สุด ยิ่งใช้เงินจำนวนมากไปกับการประมูลคลื่นและการลงทุนก็ยิ่งต้องเร่งหารายได้เข้ามาเร็วขึ้นด้วย ซึ่งไม่แค่เอไอเอสเจ้าเดียว ทรูก็ไม่น่าจะต่างกัน"
ก่อนหน้านี้ นายสมชัย เลิศสุทธิวงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (เอไอเอส) กล่าวว่า พร้อมเปิดบริการ 4G โดยเร็วที่สุดในทันทีที่ได้รับใบอนุญาตจาก กสทช.
นายบัญญัติ เกิดนิยม ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารและองค์กรสัมพันธ์ บริษัท อีริคสัน (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวกับ "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ก่อนประมูลคลื่น 1800 MHz และ 900 MHz เพื่อให้บริการ 4G ผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือทุกรายต่างเจรจากับผู้ผลิตอุปกรณ์ รวมถึงบริษัทรับติดตั้งโครงข่ายเพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับขยายสัญญาณ หลังจากชนะการประมูลคลื่น แต่คาดว่าเมื่อเทียบกับช่วงประมูลคลื่น 2100 MHz เพื่อให้บริการ 3G แล้วจะคึกคักน้อยกว่า หากพิจารณาจากเงื่อนไขในการขยายโครงข่ายที่ระบุให้ครอบคลุมประชากร 40% ภายใน 4 ปี และ 50% ภายใน 8 ปี
"คลื่น 1800 MHz เป็นคลื่นที่ให้ประโยชน์เรื่องความจุของโครงข่าย ทำให้โอเปอเรเตอร์ เลือกติดตั้งโครงข่ายภายในอาคาร และนำไปเสริมโครงข่าย 2100 MHz เดิม มากกว่าที่จะขยายโครงข่ายเป็นวงกว้าง คาดว่าผู้รับติดตั้งโครงข่ายที่มีอยู่เดิมจะรองรับความต้องการการขยายโครงข่ายของโอเปอเรเตอร์ได้แน่นอน อีกทั้งข้อกำหนดในการขยายโครงข่ายไม่ต้องเร่งรีบมาก และคงจะเริ่มต้นในหัวเมืองใหญ่ก่อน เพราะ 50% ของผู้ใช้โมบายอินเทอร์เน็ตอยู่ในพื้นที่นี้"
ด้านนายประพัฒน์ รัฐเลิศกานต์ กรรมการผู้อำนวยการ บมจ.แพลนเน็ต คอมมิวนิเคชั่น เอเชีย ผู้ให้บริการวางระบบสื่อสารโทรคมนาคม กล่าวว่า หลังประมูลคลื่นเพื่อนำไปให้บริการ 4G ได้เจรจาธุรกิจกับผู้ให้บริการทุกรายเพื่อเข้าไปรับผิดชอบเรื่องการติดตั้งโครงข่าย โดยเฉพาะในส่วนของอุปกรณ์สายสัญญาณที่ใช้เชื่อมต่อจากสถานีหลักไปยังสถานีย่อย ซึ่งจำเป็นต่อการขยายโครงข่าย 4G คาดว่าจะทำให้รายได้ของบริษัทในช่วงโค้งสุดท้ายของปีนี้ และปีหน้าเติบโตมากขึ้นอย่างแน่นอน แต่คงไม่สามารถระบุได้ว่าจะเติบโตแค่ไหน เพราะที่ผ่านมาค่ายมือถือทั้งเอไอเอส, ดีแทค และทรู ต่างสั่งสินค้าเพิ่มขึ้นตลอด ซึ่งในภาพรวมตลาดอุปกรณ์โทรคมนาคมในขณะนี้คึกคักอย่างมาก แต่อาจไม่เท่าตอนประมูล 3G เพราะ 4G อาจเริ่มต้นในหัวเมืองใหญ่ก่อนค่อย ๆ ขยายออกไปต่างจังหวัด
แหล่งข่าวในธุรกิจรับติดตั้งระบบโทรศัพท์มือถือกล่าวกับ "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ทั้งเอไอเอสและทรูจะมีการลงทุนขยาย โครงข่ายเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องแน่นอน ทำให้ ธุรกิจโทรคมนาคมทั้งในแง่ผู้ผลิตอุปกรณ์ และผู้รับช่วงวางระบบต่าง ๆ เริ่มคึกคัก และมีความเคลื่อนไหวชัดเจนขึ้น โดยเฉพาะในบริษัทที่มีศักยภาพด้านการเงิน เริ่มมีการขยายงานโดยรับทีมงานเพิ่มขึ้นจำนวนมาก เพียงแต่รูปแบบของการเพิ่มทีมเปลี่ยนไปจากเดิม ไม่ใช่รับพนักงานประจำ แต่เป็นลักษณะร่วมมือกันระหว่างบริษัท เช่น เป็นคอนซอร์เตี้ยมรับงานด้วยกัน เป็นต้น เนื่องจากโอเปอเรเตอร์ต้องการ ให้ผู้รับเหมาติดตั้งโครงข่ายรับผิดชอบด้านการเงินด้วย ดังนั้นบริษัทไหนที่มี ทีมงานพร้อมแต่ไม่มีทุนก็อาจเสียโอกาสหรือต้องหาพาร์ตเนอร์เข้ามาช่วย
"แต่ละปีค่ายมือถือมีการลงทุนปีละหลายหมื่นล้านบาทอยู่แล้ว ที่ผ่านมา โอเปอเรเตอร์จะเรียกบริษัทรับติดตั้งโครงข่ายมารับงาน บริษัทไหนฝีมือดีออกทุนให้ก่อน แต่ตอนนี้เปลี่ยนไป เริ่มต้องการให้ซับคอนแทร็กต์ลงทุนการเงินเยอะขึ้น จึงเป็นโอกาสของบริษัทที่มีเงินทุน จะเห็นความร่วมมือระหว่างบริษัทขนาดกลางและเล็กมากขึ้น เช่น บริษัทที่มีเงินทุนก็จะดึงคนที่มีฝีมือมีประสบการณ์ในการทำงานมาร่วมทีมด้วยจะในรูปแบบไหนก็แล้วแต่ จะตั้งบริษัทใหม่ร่วมกันหรือเป็นคอนซอร์เตี้ยมก็แล้วแต่รูปแบบ"
แหล่งข่าวกล่าวด้วยว่า ผู้ผลิตอุปกรณ์โทรคมนาคมรายใหญ่ที่น่าจะได้ประโยชน์มากที่สุดจากการลงทุนขยายโครงข่าย 4G ของค่ายมือถือ น่าจะเป็นแบรนด์จีน "หัวเว่ย" เพราะมีเอไอเอส และทรู เป็นลูกค้ารายใหญ่อยู่แล้ว เมื่อทั้งคู่ขยายงานเพิ่มเติมก็จะมีงานเพิ่มขึ้นด้วย
ขอขอบคุณแหล่งข่าว
หนังสือพิมพ์ประชาชาติธุรกิจ ฉบับวันที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558 หน้า 1, 4)
ผู้รับเหมาติดตั้ง 'โครงข่าย' งานล้น 'เอไอเอส-ทรู' สปีดกดปุ่มเปิด 4G
ผู้รับเหมาติดตั้ง 'โครงข่าย' งานล้น 'เอไอเอส-ทรู' สปีดกดปุ่มเปิด 4G
ประชาชาติธุรกิจ ฉบับวันที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558
รับเหมาติดตั้งโครงข่าย-ผู้ผลิตอุปกรณ์โทรคมนาคมเด้งรับยักษ์ มือถือขยายโครงข่าย 4G เงินสะพัดหลายหมื่นล้านบาทตั้งแต่ปลายปีนี้ยิงยาวถึงปีหน้า "เอไอเอส-ทรู" ปูพรม อัพเกรดระบบเต็มสูบ ประสานเสียงพร้อมกดปุ่มเปิดบริการทันทีที่ได้ใบอนุญาต
นายศุภชัย เจียรวนนท์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ และประธานคณะผู้บริหาร บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น กล่าวกับ "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการพิจารณาตัวเลขการลงทุนโครงข่ายโทรศัพท์มือถือระบบ 4G สำหรับปี 2559 แต่ที่ผ่านมาได้ลงทุนโครงข่าย 4G บนคลื่นเดิมไปแล้ว 10,000 สถานีฐาน และที่จะมีการลงทุนแน่นอนคือเพื่ออัพสปีดโครงข่ายให้เร็วขึ้นจากปัจจุบัน 2-3 เท่าตัว ส่วนการเปิดให้บริการ 4G บนคลื่นความถี่ 1800 MHz ที่เพิ่งชนะการประมูลมาได้ โดยพร้อมเปิดให้บริการในทันทีที่ได้รับใบอนุญาต เพราะคลื่นที่ได้มาสามารถใช้กับอุปกรณ์โครงข่ายที่มีอยู่แล้วได้ทันที เรียกว่าเมื่อได้ใบอนุญาตก็พร้อมที่จะเปิดบริการได้ในทันทีทั้ง 10,000 กว่าสถานีทั่วประเทศ
แหล่งข่าวในธุรกิจโทรคมนาคมเปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า หนึ่งในสองผู้ที่ชนะใบอนุญาตประมูลคลื่น 1800 MHz ที่จะ เร่งติดตั้งโครงข่ายเพื่อขยายบริการ 4G โดยเร็วที่สุดคือเอไอเอส เนื่องจากเป็นรายเดียว ที่ยังไม่มีบริการ 4G ด้วยข้อจำกัดของความถี่ที่มีน้อยกว่าคู่แข่งรายอื่น ซึ่งช่วงที่ผ่านมาได้เตรียมความพร้อมไว้ล่วงหน้าในทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นทางด้านเทคนิค และบุคลากรเพื่อให้พร้อมสำหรับการเปิดบริการ 4G ในทันทีที่ได้รับใบอนุญาต ซึ่งในเบื้องต้น พื้นที่ในการให้บริการจะยังอยู่ในวงจำกัด แต่เชื่อว่าเอไอเอสจะเร่งขยายเครือข่ายให้ครอบคลุมโดยเร็ว เช่นเดียวกับที่เคยเกิดขึ้น มาแล้วสมัย 3G
"ยิ่งเปิด 4G บนคลื่นความถี่ใหม่ได้เร็วเท่าไรก็จะช่วยลดโหลดทราฟฟิกในระบบเดิมเร็วขึ้นเท่านั้น ทำให้คุณภาพบริการโดยรวมดีขึ้นด้วย ดังนั้นเอไอเอสจึงน่าจะเร่งเต็มสตรีมเพื่อขยายบริการ 4G โดยเร็วที่สุด ยิ่งใช้เงินจำนวนมากไปกับการประมูลคลื่นและการลงทุนก็ยิ่งต้องเร่งหารายได้เข้ามาเร็วขึ้นด้วย ซึ่งไม่แค่เอไอเอสเจ้าเดียว ทรูก็ไม่น่าจะต่างกัน"
ก่อนหน้านี้ นายสมชัย เลิศสุทธิวงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (เอไอเอส) กล่าวว่า พร้อมเปิดบริการ 4G โดยเร็วที่สุดในทันทีที่ได้รับใบอนุญาตจาก กสทช.
นายบัญญัติ เกิดนิยม ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารและองค์กรสัมพันธ์ บริษัท อีริคสัน (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวกับ "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ก่อนประมูลคลื่น 1800 MHz และ 900 MHz เพื่อให้บริการ 4G ผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือทุกรายต่างเจรจากับผู้ผลิตอุปกรณ์ รวมถึงบริษัทรับติดตั้งโครงข่ายเพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับขยายสัญญาณ หลังจากชนะการประมูลคลื่น แต่คาดว่าเมื่อเทียบกับช่วงประมูลคลื่น 2100 MHz เพื่อให้บริการ 3G แล้วจะคึกคักน้อยกว่า หากพิจารณาจากเงื่อนไขในการขยายโครงข่ายที่ระบุให้ครอบคลุมประชากร 40% ภายใน 4 ปี และ 50% ภายใน 8 ปี
"คลื่น 1800 MHz เป็นคลื่นที่ให้ประโยชน์เรื่องความจุของโครงข่าย ทำให้โอเปอเรเตอร์ เลือกติดตั้งโครงข่ายภายในอาคาร และนำไปเสริมโครงข่าย 2100 MHz เดิม มากกว่าที่จะขยายโครงข่ายเป็นวงกว้าง คาดว่าผู้รับติดตั้งโครงข่ายที่มีอยู่เดิมจะรองรับความต้องการการขยายโครงข่ายของโอเปอเรเตอร์ได้แน่นอน อีกทั้งข้อกำหนดในการขยายโครงข่ายไม่ต้องเร่งรีบมาก และคงจะเริ่มต้นในหัวเมืองใหญ่ก่อน เพราะ 50% ของผู้ใช้โมบายอินเทอร์เน็ตอยู่ในพื้นที่นี้"
ด้านนายประพัฒน์ รัฐเลิศกานต์ กรรมการผู้อำนวยการ บมจ.แพลนเน็ต คอมมิวนิเคชั่น เอเชีย ผู้ให้บริการวางระบบสื่อสารโทรคมนาคม กล่าวว่า หลังประมูลคลื่นเพื่อนำไปให้บริการ 4G ได้เจรจาธุรกิจกับผู้ให้บริการทุกรายเพื่อเข้าไปรับผิดชอบเรื่องการติดตั้งโครงข่าย โดยเฉพาะในส่วนของอุปกรณ์สายสัญญาณที่ใช้เชื่อมต่อจากสถานีหลักไปยังสถานีย่อย ซึ่งจำเป็นต่อการขยายโครงข่าย 4G คาดว่าจะทำให้รายได้ของบริษัทในช่วงโค้งสุดท้ายของปีนี้ และปีหน้าเติบโตมากขึ้นอย่างแน่นอน แต่คงไม่สามารถระบุได้ว่าจะเติบโตแค่ไหน เพราะที่ผ่านมาค่ายมือถือทั้งเอไอเอส, ดีแทค และทรู ต่างสั่งสินค้าเพิ่มขึ้นตลอด ซึ่งในภาพรวมตลาดอุปกรณ์โทรคมนาคมในขณะนี้คึกคักอย่างมาก แต่อาจไม่เท่าตอนประมูล 3G เพราะ 4G อาจเริ่มต้นในหัวเมืองใหญ่ก่อนค่อย ๆ ขยายออกไปต่างจังหวัด
แหล่งข่าวในธุรกิจรับติดตั้งระบบโทรศัพท์มือถือกล่าวกับ "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ทั้งเอไอเอสและทรูจะมีการลงทุนขยาย โครงข่ายเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องแน่นอน ทำให้ ธุรกิจโทรคมนาคมทั้งในแง่ผู้ผลิตอุปกรณ์ และผู้รับช่วงวางระบบต่าง ๆ เริ่มคึกคัก และมีความเคลื่อนไหวชัดเจนขึ้น โดยเฉพาะในบริษัทที่มีศักยภาพด้านการเงิน เริ่มมีการขยายงานโดยรับทีมงานเพิ่มขึ้นจำนวนมาก เพียงแต่รูปแบบของการเพิ่มทีมเปลี่ยนไปจากเดิม ไม่ใช่รับพนักงานประจำ แต่เป็นลักษณะร่วมมือกันระหว่างบริษัท เช่น เป็นคอนซอร์เตี้ยมรับงานด้วยกัน เป็นต้น เนื่องจากโอเปอเรเตอร์ต้องการ ให้ผู้รับเหมาติดตั้งโครงข่ายรับผิดชอบด้านการเงินด้วย ดังนั้นบริษัทไหนที่มี ทีมงานพร้อมแต่ไม่มีทุนก็อาจเสียโอกาสหรือต้องหาพาร์ตเนอร์เข้ามาช่วย
"แต่ละปีค่ายมือถือมีการลงทุนปีละหลายหมื่นล้านบาทอยู่แล้ว ที่ผ่านมา โอเปอเรเตอร์จะเรียกบริษัทรับติดตั้งโครงข่ายมารับงาน บริษัทไหนฝีมือดีออกทุนให้ก่อน แต่ตอนนี้เปลี่ยนไป เริ่มต้องการให้ซับคอนแทร็กต์ลงทุนการเงินเยอะขึ้น จึงเป็นโอกาสของบริษัทที่มีเงินทุน จะเห็นความร่วมมือระหว่างบริษัทขนาดกลางและเล็กมากขึ้น เช่น บริษัทที่มีเงินทุนก็จะดึงคนที่มีฝีมือมีประสบการณ์ในการทำงานมาร่วมทีมด้วยจะในรูปแบบไหนก็แล้วแต่ จะตั้งบริษัทใหม่ร่วมกันหรือเป็นคอนซอร์เตี้ยมก็แล้วแต่รูปแบบ"
แหล่งข่าวกล่าวด้วยว่า ผู้ผลิตอุปกรณ์โทรคมนาคมรายใหญ่ที่น่าจะได้ประโยชน์มากที่สุดจากการลงทุนขยายโครงข่าย 4G ของค่ายมือถือ น่าจะเป็นแบรนด์จีน "หัวเว่ย" เพราะมีเอไอเอส และทรู เป็นลูกค้ารายใหญ่อยู่แล้ว เมื่อทั้งคู่ขยายงานเพิ่มเติมก็จะมีงานเพิ่มขึ้นด้วย
ขอขอบคุณแหล่งข่าว
หนังสือพิมพ์ประชาชาติธุรกิจ ฉบับวันที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558 หน้า 1, 4)