จากลิงค์นี้ครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้https://www.thairath.co.th/content/541454
ผมขออนุญาตเรียกคุณวรงค์เฉยๆนะครับ (เพราะไม่ได้นับถือความเป็นหมอของคุณวรงค์สักนิด) คุณวรงค์ผู้ไม่เคยห่วงภาพลักษณ์ของสภาไทย ไม่เคยสนใจกับหน้าตาของประเทศ ไม่เคยสนใจเรื่องความปรองดอง ไม่เคยคิดปรับปรุงพรรค สนใจแค่ทำอย่างไร วิธีไหน จึงจะสามารถดิสเครดิตฝ่ายตรงข้าม เพียงเพื่อให้อีกฝ่ายมีความนิยมลดน้อยถอยลง เพื่อหวังชนะกันทางการเมืองเท่านั้น
หลายต่อหลายครั้ง เราจึงได้เห็นได้ยินกับข้อมูลจากทางฝ่ายนี้ โดยไม่ต้องมีหลักฐาน
ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง 30 บาทตายทุกโรค
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องคุณทักษิณได้คุยกับหัวหน้าโจรใต้ ซึ่งจนป่านนี้ยังไม่เห็นรูปที่อ้างว่ามี
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการขนเงินผ่านสุวรรณภูมิเป็นแสนล้าน เพื่อเป็นท่อน้ำเลี้ยง
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องข้าวเน่า ที่ไม่รู้ไปเอารูปจากที่ไหนก็ไม่รู้มาบิดเบือน
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องระเบิดที่ราชประสงค์ เกี่ยวข้องกับคนแดนไกล
แล้วนี่คุณวรงค์ ยังอาศัยความเชื่อส่วนตัว เรื่องสภายุโรปส่งหนังสือเชิญคุณยิ่งลักษณ์ เป็นการล็อบบี้สร้างสถานการณ์ โดยคนที่เกี่ยวข้องกับพรรคเพื่อไทย ก็เหมือนเช่นเคย ไม่จำเป็นต้องมีหลักฐานก็กล่าวหาให้ร้ายกันง่ายๆแบบนี้
คุณวรงค์คงเข้าใจว่า สภาอียูคงจะล็อบบี้ได้ง่ายเหมือนกับการล็อบบี้ไม่ให้ยุบพรรค คงจะล็อบบี้ได้ง่ายเหมือนกับการล็อบบี้ไม่ให้ฟ้องเรื่องภาษีบุหรี่ ก็เลยอาศัยพฤติกรรมส่วนตน มาประเมินฝ่ายตรงข้าม แล้วหวังให้ประชาชนเชื่อตามความเชื่อของคุณวรงค์
แต่คุณวรงค์คงจะลืมไป สภาอียู ไม่ใช่อาศัยล็อบบี้คนเพียงไม่กี่คนก็สามารถทำได้ ดังนั้นถ้าการเชื้อเชิญเป็นเรื่องจริง ผมก็ยังสงสัยว่า ไม่ตรงไปตรงมาตรงไหน ในเมื่อประเทศเราก็บอกอยู่เสมอว่า ยึดหลักกฎหมาย แล้วคุณวรงค์กลัวอะไรมิทราบครับ
คุณวรงค์คิดเลยเถิดถึงขนาด มองว่าการเชื้อเชิญไปคุยเพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็น เป็นการแทรกแซงกระบวนการยุติธรรมของไทยไปได้ มันแทรกแซงกันยังไงก็ไม่เห็นมีข้อมูลประกอบ อย่างนี้มันก็เข้าตำราตีกินทางการเมือง ที่คุณวรงค์กับพวกถนัดนัก ไม่ว่าจะเป็นสถานการณ์ที่ปกติหรือไม่ก็ตาม
แต่สิ่งที่คุณวรงค์มองข้ามหรือเว้นที่จะกล่าวถึง นั่นคือ หน้าตาของประเทศ ที่ขนาดสภาอียูยังเชื้อเชิญอดีตนายกฯของเราไปพูดปะพูดคุย มันควรเป็นเกียรติของคนไทยทั้งชาติไม่ใช่หรือครับ หรือคุณวรงค์คิดว่าประเทศเรามีอะไรจะต้องปกปิดก็บอกมา
ดังนั้นคุณวรงค์แทนที่จะสกัด ทำไมไม่ปล่อยให้นานาชาติเห็นถึงสถานการณ์ประเทศกำลังเข้าสู่ภาวะปกติกันล่ะครับ นั่นเป็นผลดีกับประเทศไม่ใช่หรือครับ
คุณวรงค์ไม่ต้องห่วงหรือกังวลอะไรทั้งสิ้น ก็อย่างที่พวกคุณวรงค์พูดอยู่เสมอไงครับ ไม่ผิดแล้วกลัวอะไร ข้อสำคัญไม่ว่าคุณยิ่งลักษณ์จะไปพูดอะไรก็ตามแต่ สภาอียูคงมีวุฒิภาวะเพียงพอที่จะแยกแยะจริงเท็จได้ ไม่ใช่พวกสาวกของคุณวรงค์ที่จะเชื่อทุกอย่างที่คุณวรงค์พูด และสภาอียูก็เข้าใจถึงความคิดเห็นต่างดีกว่าพวกคุณวรงค์อย่างแน่นอน
นอกเสียจากคุณวรงค์กลัวผู้หญิงคนนี้ คนที่พวกคุณวรงค์เคยปรามาสว่าโง่ จนอึขึ้นสมอง กลัวการแสดงวิสัยทัศน์ของเธอ จะทำให้เรตติ้งกระฉูด จนพวกคุณวรงค์ยากจะต่อกรด้วย ก็ยอมรับมาเสียโดยดี ไม่ต้องมาหาข้ออ้างหรอกนะครับ เพราะถ้าเธอคิดหนี คงหนีไปตั้งแต่ต้นแล้วครับ เข้าใจ๋
คุณวรงค์แห่งประชาธิปัตย์-----------------ทวดเอง
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ผมขออนุญาตเรียกคุณวรงค์เฉยๆนะครับ (เพราะไม่ได้นับถือความเป็นหมอของคุณวรงค์สักนิด) คุณวรงค์ผู้ไม่เคยห่วงภาพลักษณ์ของสภาไทย ไม่เคยสนใจกับหน้าตาของประเทศ ไม่เคยสนใจเรื่องความปรองดอง ไม่เคยคิดปรับปรุงพรรค สนใจแค่ทำอย่างไร วิธีไหน จึงจะสามารถดิสเครดิตฝ่ายตรงข้าม เพียงเพื่อให้อีกฝ่ายมีความนิยมลดน้อยถอยลง เพื่อหวังชนะกันทางการเมืองเท่านั้น
หลายต่อหลายครั้ง เราจึงได้เห็นได้ยินกับข้อมูลจากทางฝ่ายนี้ โดยไม่ต้องมีหลักฐาน
ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง 30 บาทตายทุกโรค
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องคุณทักษิณได้คุยกับหัวหน้าโจรใต้ ซึ่งจนป่านนี้ยังไม่เห็นรูปที่อ้างว่ามี
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการขนเงินผ่านสุวรรณภูมิเป็นแสนล้าน เพื่อเป็นท่อน้ำเลี้ยง
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องข้าวเน่า ที่ไม่รู้ไปเอารูปจากที่ไหนก็ไม่รู้มาบิดเบือน
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องระเบิดที่ราชประสงค์ เกี่ยวข้องกับคนแดนไกล
แล้วนี่คุณวรงค์ ยังอาศัยความเชื่อส่วนตัว เรื่องสภายุโรปส่งหนังสือเชิญคุณยิ่งลักษณ์ เป็นการล็อบบี้สร้างสถานการณ์ โดยคนที่เกี่ยวข้องกับพรรคเพื่อไทย ก็เหมือนเช่นเคย ไม่จำเป็นต้องมีหลักฐานก็กล่าวหาให้ร้ายกันง่ายๆแบบนี้
คุณวรงค์คงเข้าใจว่า สภาอียูคงจะล็อบบี้ได้ง่ายเหมือนกับการล็อบบี้ไม่ให้ยุบพรรค คงจะล็อบบี้ได้ง่ายเหมือนกับการล็อบบี้ไม่ให้ฟ้องเรื่องภาษีบุหรี่ ก็เลยอาศัยพฤติกรรมส่วนตน มาประเมินฝ่ายตรงข้าม แล้วหวังให้ประชาชนเชื่อตามความเชื่อของคุณวรงค์
แต่คุณวรงค์คงจะลืมไป สภาอียู ไม่ใช่อาศัยล็อบบี้คนเพียงไม่กี่คนก็สามารถทำได้ ดังนั้นถ้าการเชื้อเชิญเป็นเรื่องจริง ผมก็ยังสงสัยว่า ไม่ตรงไปตรงมาตรงไหน ในเมื่อประเทศเราก็บอกอยู่เสมอว่า ยึดหลักกฎหมาย แล้วคุณวรงค์กลัวอะไรมิทราบครับ
คุณวรงค์คิดเลยเถิดถึงขนาด มองว่าการเชื้อเชิญไปคุยเพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็น เป็นการแทรกแซงกระบวนการยุติธรรมของไทยไปได้ มันแทรกแซงกันยังไงก็ไม่เห็นมีข้อมูลประกอบ อย่างนี้มันก็เข้าตำราตีกินทางการเมือง ที่คุณวรงค์กับพวกถนัดนัก ไม่ว่าจะเป็นสถานการณ์ที่ปกติหรือไม่ก็ตาม
แต่สิ่งที่คุณวรงค์มองข้ามหรือเว้นที่จะกล่าวถึง นั่นคือ หน้าตาของประเทศ ที่ขนาดสภาอียูยังเชื้อเชิญอดีตนายกฯของเราไปพูดปะพูดคุย มันควรเป็นเกียรติของคนไทยทั้งชาติไม่ใช่หรือครับ หรือคุณวรงค์คิดว่าประเทศเรามีอะไรจะต้องปกปิดก็บอกมา
ดังนั้นคุณวรงค์แทนที่จะสกัด ทำไมไม่ปล่อยให้นานาชาติเห็นถึงสถานการณ์ประเทศกำลังเข้าสู่ภาวะปกติกันล่ะครับ นั่นเป็นผลดีกับประเทศไม่ใช่หรือครับ
คุณวรงค์ไม่ต้องห่วงหรือกังวลอะไรทั้งสิ้น ก็อย่างที่พวกคุณวรงค์พูดอยู่เสมอไงครับ ไม่ผิดแล้วกลัวอะไร ข้อสำคัญไม่ว่าคุณยิ่งลักษณ์จะไปพูดอะไรก็ตามแต่ สภาอียูคงมีวุฒิภาวะเพียงพอที่จะแยกแยะจริงเท็จได้ ไม่ใช่พวกสาวกของคุณวรงค์ที่จะเชื่อทุกอย่างที่คุณวรงค์พูด และสภาอียูก็เข้าใจถึงความคิดเห็นต่างดีกว่าพวกคุณวรงค์อย่างแน่นอน
นอกเสียจากคุณวรงค์กลัวผู้หญิงคนนี้ คนที่พวกคุณวรงค์เคยปรามาสว่าโง่ จนอึขึ้นสมอง กลัวการแสดงวิสัยทัศน์ของเธอ จะทำให้เรตติ้งกระฉูด จนพวกคุณวรงค์ยากจะต่อกรด้วย ก็ยอมรับมาเสียโดยดี ไม่ต้องมาหาข้ออ้างหรอกนะครับ เพราะถ้าเธอคิดหนี คงหนีไปตั้งแต่ต้นแล้วครับ เข้าใจ๋