ผู้เชี่ยวชาญชี้ คลิปแกล้งแมวให้สะดุ้งด้วยแตงกวายอดฮิตในโลกออนไลน์ เป็นการทำให้เจ้าเหมียวเหล่านี้กลัวและกระทบกระเทือนต่อจิตใจเป็นอย่างมาก ไม่ต่างอะไรจากการทารุณกรรมสัตว์เลย
หลายคนคงจะเคยได้ผ่านตากันมาบ้าง สำหรับคลิปวิดีโอยอดฮิตที่เผยแพร่ไปทั่วโลกออนไลน์ขณะนี้ กับคลิปที่ว่าด้วยการนำแตงกวาไปวางไว้ด้านหลังแมวที่กำลังกินอาหาร และเมื่อแมวเหล่านั้นหันหน้ามาพบแตงกวาขนาดใหญ่อยู่ด้านหลังก็สะดุ้งโหยงจนตัวลอย ก่อนจะพยายามวิ่งหนีไปจากแตงกวาสุดแรงเกิด เรียกเสียงหัวเราะจากเจ้าของและชาวเน็ตจำนวนมาก
แต่อันที่จริงแล้ว การกระทำเช่นนี้เป็นการแกล้งให้แมวตกใจกลัวจนอาจกระทบกระเทือนจิตใจ และไม่ต่างอะไรจากการทารุณกรรมสัตว์เลย จากรายงานของเว็บไซต์เดลี่เมล เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน 2558 ระบุว่า ผู้เชี่ยวชาญด้านพฤติกรรมแมว ได้อธิบายว่า เป็นพฤติกรรมตอบสนองสิ่งแปลกประหลาดตามธรรมชาติของแมว ที่อาจดูแล้วน่าขัน แต่ที่จริงแล้วพวกมันกำลังตกใจกลัวสุดขีดทีเดียว

จอห์น แบรดชอว์
ภาพจาก ทวิตเตอร์ @petsandus
จอห์น แบรดชอว์ ผู้เชี่ยวชาญด้านพฤติกรรมแมว จากมหาวิทยาลัยบริสทอล ประเทศอังกฤษ อธิบายกับเนชั่ลแนล จีโอกราฟฟิค ว่า แมวเป็นสัตว์สันโดษโดยนิสัยตามธรรมชาติ พวกมันชอบที่จะเห็นทุก ๆ อย่างเป็นปกติเรียบร้อยและเหมือนเดิมในทุก ๆ วัน หากมีการเปลี่ยนแปลงใด ๆ เกิดขึ้นโดยที่พวกมันไม่ทันตั้งตัว เช่น การปรากฏตัวของวัตถุที่ไม่คุ้นเคย อาจทำให้พวกมันเกิดความเครียดได้อย่างมาก
และเมื่อมนุษย์แกล้งแมวด้วยการนำแตงกวาอันใหญ่ไปวางไว้ด้านหลังของพวกมัน จนทำให้แมวที่กินอาหารเสร็จแล้วและหันมาพบวัตถุประหลาดที่ไม่คุ้นเคยต้องกระโดดตัวโยนด้วยความตกใจสุดขีด เพราะพวกมันเครียดจนไม่รู้จะแสดงปฏิกิริยาอย่างไรดีกับแตงกวา
จอห์นเสริมว่า การกระโดดและวิ่งหนีที่ดูน่าตลกขบขัน เป็นการตอบสนองความตกใจของแมว ที่มันต้องการจะพาตัวเองออกห่างจากวัตถุแปลกประหลาดให้เร็วและไกลที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ จากนั้นค่อยซุ่มดูวัตถุดังกล่าวจากระยะไกลเพื่อแน่ใจว่าตัวเองจะปลอดภัย
และยิ่งไปกว่านั้น การแกล้งแมวที่กำลังกินอาหารเป็นการกระทำที่เลวร้ายไม่ต่างจากการทารุณกรรมสัตว์เลย เพราะเมื่อพวกมันก้มหน้ากินอาหารจากชาม หัวและหูของแมวจะอยู่ในระดับต่ำกว่าปกติ นั่นหมายความว่าพวกมันไม่ทันได้ระมัดระวังตัวและกำลังสบายใจกับการกินอาหาร เมื่อหันกลับมาพบวัตถุประหลาดโดยฉับพลันเช่นนี้ อาจทำให้พวกมันเกิดความเครียดในระยะยาว และอาจทำให้พวกมันหวาดระแวงที่จะอาศัยอยู่ในบ้านซึ่งเป็นสถานที่ที่ควรจะปลอดภัยที่สุดสำหรับแมว
จอห์นยังทิ้งท้ายด้วยว่า เขารู้สึกเสียใจปนหดหู่ที่ความตกใจและความเครียดของแมว กลายเป็นเรื่องน่าตลกโปกฮาสำหรับมนุษย์บนอินเทอร์เน็ตไปซะอย่างนั้น
ข่าวจาก : กระปุกดอทคอม
http://pet.kapook.com/view134863.html
ไม่ตลก ! คลิปคนแกล้งแมวสะดุ้งโหยงด้วยแตงกวา ไม่ต่างจากทารุณสัตว์
ผู้เชี่ยวชาญชี้ คลิปแกล้งแมวให้สะดุ้งด้วยแตงกวายอดฮิตในโลกออนไลน์ เป็นการทำให้เจ้าเหมียวเหล่านี้กลัวและกระทบกระเทือนต่อจิตใจเป็นอย่างมาก ไม่ต่างอะไรจากการทารุณกรรมสัตว์เลย
หลายคนคงจะเคยได้ผ่านตากันมาบ้าง สำหรับคลิปวิดีโอยอดฮิตที่เผยแพร่ไปทั่วโลกออนไลน์ขณะนี้ กับคลิปที่ว่าด้วยการนำแตงกวาไปวางไว้ด้านหลังแมวที่กำลังกินอาหาร และเมื่อแมวเหล่านั้นหันหน้ามาพบแตงกวาขนาดใหญ่อยู่ด้านหลังก็สะดุ้งโหยงจนตัวลอย ก่อนจะพยายามวิ่งหนีไปจากแตงกวาสุดแรงเกิด เรียกเสียงหัวเราะจากเจ้าของและชาวเน็ตจำนวนมาก
แต่อันที่จริงแล้ว การกระทำเช่นนี้เป็นการแกล้งให้แมวตกใจกลัวจนอาจกระทบกระเทือนจิตใจ และไม่ต่างอะไรจากการทารุณกรรมสัตว์เลย จากรายงานของเว็บไซต์เดลี่เมล เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน 2558 ระบุว่า ผู้เชี่ยวชาญด้านพฤติกรรมแมว ได้อธิบายว่า เป็นพฤติกรรมตอบสนองสิ่งแปลกประหลาดตามธรรมชาติของแมว ที่อาจดูแล้วน่าขัน แต่ที่จริงแล้วพวกมันกำลังตกใจกลัวสุดขีดทีเดียว
จอห์น แบรดชอว์
ภาพจาก ทวิตเตอร์ @petsandus
จอห์น แบรดชอว์ ผู้เชี่ยวชาญด้านพฤติกรรมแมว จากมหาวิทยาลัยบริสทอล ประเทศอังกฤษ อธิบายกับเนชั่ลแนล จีโอกราฟฟิค ว่า แมวเป็นสัตว์สันโดษโดยนิสัยตามธรรมชาติ พวกมันชอบที่จะเห็นทุก ๆ อย่างเป็นปกติเรียบร้อยและเหมือนเดิมในทุก ๆ วัน หากมีการเปลี่ยนแปลงใด ๆ เกิดขึ้นโดยที่พวกมันไม่ทันตั้งตัว เช่น การปรากฏตัวของวัตถุที่ไม่คุ้นเคย อาจทำให้พวกมันเกิดความเครียดได้อย่างมาก
และเมื่อมนุษย์แกล้งแมวด้วยการนำแตงกวาอันใหญ่ไปวางไว้ด้านหลังของพวกมัน จนทำให้แมวที่กินอาหารเสร็จแล้วและหันมาพบวัตถุประหลาดที่ไม่คุ้นเคยต้องกระโดดตัวโยนด้วยความตกใจสุดขีด เพราะพวกมันเครียดจนไม่รู้จะแสดงปฏิกิริยาอย่างไรดีกับแตงกวา
จอห์นเสริมว่า การกระโดดและวิ่งหนีที่ดูน่าตลกขบขัน เป็นการตอบสนองความตกใจของแมว ที่มันต้องการจะพาตัวเองออกห่างจากวัตถุแปลกประหลาดให้เร็วและไกลที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ จากนั้นค่อยซุ่มดูวัตถุดังกล่าวจากระยะไกลเพื่อแน่ใจว่าตัวเองจะปลอดภัย
และยิ่งไปกว่านั้น การแกล้งแมวที่กำลังกินอาหารเป็นการกระทำที่เลวร้ายไม่ต่างจากการทารุณกรรมสัตว์เลย เพราะเมื่อพวกมันก้มหน้ากินอาหารจากชาม หัวและหูของแมวจะอยู่ในระดับต่ำกว่าปกติ นั่นหมายความว่าพวกมันไม่ทันได้ระมัดระวังตัวและกำลังสบายใจกับการกินอาหาร เมื่อหันกลับมาพบวัตถุประหลาดโดยฉับพลันเช่นนี้ อาจทำให้พวกมันเกิดความเครียดในระยะยาว และอาจทำให้พวกมันหวาดระแวงที่จะอาศัยอยู่ในบ้านซึ่งเป็นสถานที่ที่ควรจะปลอดภัยที่สุดสำหรับแมว
จอห์นยังทิ้งท้ายด้วยว่า เขารู้สึกเสียใจปนหดหู่ที่ความตกใจและความเครียดของแมว กลายเป็นเรื่องน่าตลกโปกฮาสำหรับมนุษย์บนอินเทอร์เน็ตไปซะอย่างนั้น
ข่าวจาก : กระปุกดอทคอม
http://pet.kapook.com/view134863.html