หลวงพระบาง วังเวียง เวียงจันทร์ ใครๆก็ไปได้ Let's go !!!


สวัสดีค่ะ
เพิ่งหัดเขียนค่ะ
กระทู้แรกค่ะ
อาจจะดูงงๆ มึนๆ แต่รูปเยอะนะคะ อมยิ้ม04^^

           จุดเริ่มต้นของทริปนี้เริ่มจาก ช่วงหนึ่งมีกระทู้แชร์เรื่องเที่ยวในวังเวียงหนักมาก หนักจนเกิดกิเลส จึงชวนกันเที่ยวสิคะ จะรออะไร จากแรกๆก็แพลนกันไปตอนต้นปีที่ผ่านมา ไปๆมาๆติดนู้น นี่ นั่นไปเรื่อย สรุปสุดท้ายก็ได้มาช่วงปลายปี “ก็ดีเหมือนกันจะได้ไม่ร้อน” เสียงหนึ่งกล่าว หารู้ไม่ว่าคิดผิดมหาศาล คืออยากจะบอกว่ามันร้อนมากก (ก.ไก่ล้านตัว) กลับมาดำเพิ่มอีก 4 สตอป ขากับแขนกลายเป็นคนละสี ไม่เป็นไร เรื่องเที่ยวเราสู้ตาย ฮ่าๆ กระทู้นี้เป็นกระทู้แรกของเรา หากผิดพลาดยังไงก็ช่วยแนะนำด้วยนะค่ะ
           พร้อมแล้วก็ไปกันเล๊ย ผู้หญิง4คน แบกเป้หรือกระเป๋าดีล่ะอมยิ้ม11 เที่ยวลาว มีแพลนบ้าง ไม่มีแพลนบ้าง ไปแบบมั่วๆไม่ง้อทัวร์ ก็ถึงเหมือนกันนะเธอ
           เราเริ่มเดินทางกันช่วงเย็นของวันที่ 29ต.ค.2558 ที่ผ่านมา ไปกัน 5 วัน สถานที่นัดหมายก็คือ สถานีขนส่งหมอชิต2 นั่นเอง โดยเราจองตั๋วรถทัวร์ล่วงหน้าผ่านเว็ปของ บขส.ซึ่งตอนนี้มีรถโดยสารระหว่างประเทศกรุงเทพ-เวียงจันทร์ให้บริการด้วย ค่ารถ 900 บาทต่อคน มีเวลาเดียวคือตอน 20 น. มีของว่างบริการตามสไตล์ของ บขส.( ขออภัยไม่มีรูปรถ ) หน้าตาตั๋วเป็นแบบนี้ค่ะ

           รถออกค่อนข้างตรงเวลา โดยก่อนรถออกจะมีพนักงานมาเก็บเงินคนละ5บาท เป็นค่าล่วงเวลาที่ด่านหนองคาย บนรถส่วนใหญ่จะเป็นชาวต่างชาติ คนไทยหาแทบไม่เจอเลย สภาพรถก็พอได้ รถลาวติดไปทางเก่าหน่อย เราก็ไม่รู้เหมือนกันว่ารถไทยเป็นยังไง ฮ่าๆ จะพูดเพื่อ??  โดยรถจะจอดพักทานข้าวที่ บขส.ใหม่ นครรราชสีมา ประมาณเที่ยงคืนกว่าๆแต่เรามาถึงก็ตีหนึ่งกว่าๆ ประมาณว่าขับชิลล์ๆไม่รีบ แล้วก็หลับยาวว zzZ รถจะมาถึงด่านหนองคายประมาณ6โมงเช้า แต่วันที่เรามารถค่อนข้างติด ถึงด่านหนองคายประมาณ8โมงกว่าๆ รถก็จอดให้เราทำเรื่องผ่านตม.หนองคายให้เรียบร้อย

30ต.ค.2558

           วาร์ปมาที่ตม.ฝั่งลาวกันเลยดีกว่า จะได้ไม่เสียเวลา^^ ก็ทำเหมือนฝั่งไทยเป๊ะๆ อันดับแรกเขียนใบผ่านแดนให้เรียบร้อย ยื่นพร้อมพาสปอร์ตเหมือนเดิม


           อย่าลืมเก็บใบขาออกไว้ด้วยนะค่ะ ต้องใช้ตอนกลับค่ะ ตรวจพาสปอร์ตเสร็จแล้วก็ต้องไปซื้อบัตร one way ticket ราคา 50 บาท ตอนนั้นยังไม่มีเงินกีบค่ะ ไม่แน่ใจว่าใช้เงินกีบซื้อกี่บาท  1ใบต่อ1พาสปอร์ต ฝากซื้อกันได้ค่ะ การใช้งานก็เหมือนบัตร BTS

ขอบคุณภาพประกอบจากคุณ Gaffion สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอมด้วยค่ะ

           หากมีเวลาเหลือ ก็แลกเงินตรงจุดนี้เลยก็ได้ค่ะ แลกกับธนาคารได้เรทดีกว่าแลกข้างนอกอยู่แล้ว หรือไม่ที่ลาวสามารถใช้เงินไทยได้ค่ะ แต่แอบขาดทุนเยอะอยู่ แลกไว้เถอะค่ะ ไม่เสียหาย
           รถจะมาส่งเราที่ตลาดเช้า แต่เราไม่ลง ฮ่าๆ มีคนมาตื้อก็ไม่ยอมลง เราหาข้อมูลมาว่ารถทัวร์ที่เราขึ้นมานี้จะไปพักรถที่สถานีขนส่งสายเหนือ เราก็เลยขอติดรถไปด้วย กะว่าจะไปซื้อตั๋วรถนอนไปหลวงพระบางเลยทีเดียว กลัวตั๋วหมดช่วงเย็น ได้ตั๋วแล้วค่อยเที่ยวในเมืองเวียงจันทร์ สถานที่ขายตั๋วและเที่ยวรถไปหลวงพระบาง


           พอได้ตั๋วแล้ว สบายใจล่ะ เที่ยวโลด...ก่อนเที่ยวก็หาอะไรกินแป๊ป กองทัพต้องเดินด้วยท้องค่ะ ฮ่าๆ หาอะไรกินแถวๆขนส่งนั่นแหละคะ สั่งข้าวผัดมากินจานละ20000กีบ คือเยอะมาก กินสองคนนี่เหลือๆเลย แต่ช้าไปล่ะ สั่งมากันทุกคนเลย พออิ่มก็เริ่มสิค่ะ เดินออกมาจากขนส่ง หารถเที่ยวในเมืองเวียงจันทร์ดีกว่า Let’s go!!! เจอลุงสามล้อ เข้าไปคุยราคา ลุงแกบอก 200000 กีบ ก็ยืนงงดิ 200000 กีบเท่าไรว่ะ ยืนกดเครื่องคิดเลขรัวๆ ยังไม่พอใจ ต่อแก 800 ได้ไหม ทีแรกแกก็จะไม่ยอม ต่อไปต่อมาก็ไปเฉย สรุป 800 นี่แพงหรือถูกฟร่ะ ฮ่าๆ ไม่รู้แหละเที่ยวก่อน ราคานี้คือราคาเหมานะค่ะ เที่ยวเสร็จแล้วลุงต้องมาส่งเราที่ขนส่งที่เดิม ตามมาๆ ถนนจากขนส่งเข้าเมืองนี่ยังกะทางไปดาวอังคาร(เคยไปหรอ) ทางไม่ค่อยดี เป็นหลุมเป็นบ่อเต็มไปหมด ตับ ไต ใส้ พุงแทบจะมากองกันอยู่ข้างล่าง (ก็เว่อร์ไป) แต่จริงๆนะ เชิญไปสัมผัสกันได้เลย ที่แรกที่มาก็นี่เลย
           พระธาตุหลวง สัญลักษณ์ของที่นี่ จริงแล้วที่นี่มีมุมให้ถ่ายเยอะมาก ตอนเรามาถึงรู้สึกที่นี่จะปิดพักกลางวันค่ะ อดเข้าไปด้านในเลย ก็ดีไปอย่างไม่ต้องเสียค่าเข้า ถ่ายรูปเล่นอยู่ด้านนอกกะได้ว๊า ชิ!




เราก็เดินเล่นไปเรื่อย บริเวณใกล้เคียงก็มีสถานที่ให้ถ่ายรูปเยอะ ประมาณนี้เลยค่ะ


          ถ่ายรูปกันจนพอใจ สถานที่ต่อไปเป็น ประตูชัย มากันตอนแดดเปรี้ยงกันเลยที่เดียว แคร์ซะที่ไหน หุหุ เราเดินเล่นอยู่แค่ด้านล่างไม่ได้ขึ้นข้างบน เพราะร้อนมากอีกอย่างน้ำพุก็ไม่ได้เปิด ก็เลยคิดว่าภาพคงไม่ต่างกัน เรื่องของเรื่องคือขิเกียจนั่นเอง ถ่ายรูปเรียบร้อยกะจะเช็คอิน อ้าวไม่มีอินเตอร์เน็ท ร้องไห้แป๊ป หึเก็บรูปไว้ก่อนกะได้ว๊า เด๋วเช็คอินย้อนหลังกะได้ ฮ่าๆ


          ไปกันต่อค่ะ สายถึกต้องห้ามพัก มาต่อกันที่ วัดสีสะเกด วัดนี้เสียค่าเข้าชมนะค่ะ คนละ 5000 กีบ กางเกงหรือกระโปรงสั้นห้ามเข้าค่ะ แต่มีผ้าถุงให้สวม ภายในโบสถ์ห้ามถ่ายรูปนะค่ะ






          เนื่องจากสภาพอากาศที่ร้อนจัด เที่ยวได้สองสามที่เราก็เริ่มหิวกันอีกและ จึงให้ลุงสามล้อพาไปกินข้าว เดินวนๆหาอยู่พักหนึ่งก็ได้มาร้านหนึ่ง จำชื่อร้านไม่ได้ มีwifiด้วยที่สำคัญ^^อิ่มแล้วก็เดินหาปัจจัยที่5 ซิม 3G นั้นเอง ฮ่าๆ ชีวิตติดโซเชียลก็งี้แหละน๊า ค่าซิม100บาท ค่าอินเตอร์เน็ทวันละ 30 บาทเล่นได้ 1GB ต่อวัน เหลือๆ เราซื้อมา4วัน เค้าจะสมัครให้เรียบร้อย แต่เราจะต้องต่อโปรเองทุกวัน พนักงานที่นั่นก็น่ารักค่ะ จดขั้นตอนมาให้เราหมดเลย ดี๊ดี กลับสู่โลกโซเชียลได้

เรานั่งเล่นที่ร้านข้าวนานมาก เรื่องของเรื่องคือมี wifi อีกอย่างก็ไม่ร้อนด้วยเพลินเลยที่นี้อมยิ้ม36
          ได้เวลาพอสมควรก็เดินเที่ยวไปวัดอีกที่หนึ่งจำชื่อไม่ได้ ช่วงเย็นๆกะว่าจะไปเดินเล่นตลาดริมน้ำโขง ปรากฏว่าวันนี้ไม่มีตลาด แห้วอีกแล้ว ลุงเลยพามางานวัดแทน เดินเล่นนิดๆหน่อยๆก็กลับมาที่ขนส่งค่ะ อาบน้ำกันที่นี่เลย ค่าบริการอาบน้ำ 5000กีบ ห้องน้ำ 2000กีบ เตรียมตัวขึ้นรถไปหลวงพระบางกันเลย รถที่เรามาเป็นรถนอน sleeper ก่อนขึ้นต้องถอดรองเท้าใส่ถุงให้เรียบร้อยน๊า กรุณาเก็บกลิ่นด้วยค่ะ ฮ่าๆ ดูเลขที่ให้ตรงกับที่นั่งของตัวเองด้วยนะค่ะ ได้ที่แล้วก็นอนโลด อ่อๆมีพักทานอาหารอยู่ช่วงหนึ่ง รถนอนที่นี่นอนสบายอยู่นะค่ะ หรือว่าเราเหนื่อยก็ไม่รู้ ตื่นมาอีกทีก็เช้าตรู่ น้องในทริปปลุกให้มาดูทะเลหมอก ตื่นมาแบบมึนๆแต่ภาพที่อยู่ตรงหน้านี่คือ สวยมาก แสงเช้า ทะเลหมอกมาเต็ม เราพยายามถ่ายรูปแต่ก็ไม่ชัดเพราะว่าต้องถ่ายผ่านกระจกรถอีกทีหนึ่ง

ประมาณแปดโมงกว่าๆรถก็พาเรามาถึงขนส่ง

31 ต.ค. 2558

ถึงแล้ว...สบายดีหลวงพระบาง
          ถึงขนส่งเราก็เหมารถมาส่งที่โรงแรม ราคา 70000กีบ ราคาเหมารถที่นี่ค่อนข้างแพง แต่ก็ต้องไป ทำไงได้>*< เราจองโรงแรม the villa merry lao3 ผ่านทาง Agoda เป็นห้องสำหรับ 4คน โดยรวมห้องก็โอเค มีน้ำอุ่น ไม่ไกลจากกลางเมือง



เก็บของเสร็จก็ออกมาหาอะไรกินเพราะว่าหิวแล้ว จะได้แพลนกันต่อว่าจะไปที่ไหน เมืองหลวงพระบางในความคิดเรา เราว่าที่นี่น่าอยู่ สะอาด ไม่ค่อยวุ่นวายดี เดินหาร้านข้าวอยู่นานมาก นานจนเหนื่อย จนสุดท้ายมาจบที่ร้านนี้ “ประชานิยม” ร้านที่คนส่วนใหญ่ชอบมาเช็คอิน^^ นี่คือมื้อเช้าของเรา



          กินเสร็จ เราตกลงกันจะไปน้ำตกตาดกวางซี ถามหารถเหมากับพี่เจ้าของร้าน เขาก็หาให้เรานะ ตกลงราคากันเรียบร้อย ได้มาในราคา 220000กีบ ไม่รู้ว่าถูกหรือแพง แต่เค้าไม่จำกัดเวลานะจะกลับกี่โมงก็ได้ ทางไปค่อนข้างไกลเหมือนกัน ถ้าขี่รถมาเองเราคงมาไม่ถูก ฮ่าๆ แบบนี้ก็ดีเหมือนกัน นั่งหลับได้ มันดีตรงนี้ >*< ที่นี่เสียค่าเข้าชมคนละ 20000กีบ เก็บทุกเม็ดจริงๆแหม่ ทางเดินน้ำตกจะมีสองทาง คือเส้นทางไปน้ำตกปกติ กับเส้นทางชมธรรมชาติ มีหมีด้วย เราก็เลยเลือกมาทางที่มีหมีกัน


อันนี้หมีปลอม หมีจริงๆนอนหลับอยู่^^ เดินไปเรื่อยๆแป๊ปๆก็ถึงน้ำตกแล้ว คนค่อนข้างเยอะเหมือนกัน งานนี้ไม่มีฟิลเตอร์ ขาตั้งกล้องก็ไม่ได้เอามา ได้แค่นี้จริงๆ




เดินขึ้นมาเรื่อยๆ



มีคนเล่นน้ำกันพอสมควร แล้วนี่คือชั้นบนสุด


คนเยอะจิงๆไม่มีช่วงว่างเลย


         ถ่ายรูปกันจนพอใจก็ชวนกันกลับ โดยให้พี่คนขับรถมาส่งที่ร้านโจมาเบเกอรี่ มาแล้วต้องชิม สายแ-ก ชัดๆ ฮ่าๆ เครื่องดื่ม เบเกอรี่ราคาพอๆกับบ้านเราเลย
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่