ขอแชร์เรื่องราวหน่อยนะครับ เอาเป็นว่าเรื่องที่จะเล่าต่อจากนี้ไป ก็จำไปจนวันตายเลยหล่ะครับสำหรับผม
เริ่มด้วยที่ว่าน้องชายแท้ๆ ของผมกำลังจะแต่งงาน ซึ่งทางตัวผมเองก็ทราบล่วงหน้ามาประมาณหนึ่งปีแล้ว
เรียกได้ว่ารู้ล่วงหน้ามานานพอสมควรเลยหล่ะครับ ทำให้มีเวลาในการเตรียมตัวจัดการงานต่างๆ กันพอประมาณเลย
งานแต่งงานก็เพิ่งจะจัดผ่านไปเมื่อกลางเดือน พย. นี่เองครับ เพราะว่ายุ่งมากๆ ก็เลยเพิ่งจะหาเวลามาเล่าได้
ครั้งแรกที่ได้คุยกับทางน้องชาย (เจ้าบ่าว) และแฟนว่าจะแต่งงานกัน ก็เลยจัดการให้เพื่อนที่สนิทกัน ซึ่งทำงาน
Event มาจัดการออกแบบ ตกแต่งสถานที่ พร้อมออกแบบ Card และ Logo สำหรับงานแต่งงานให้ เมื่อตอนเดือน
กุมภาพันธ์ โดยว่าจ้างด้วยงบประมาณที่วางไว้สำหรับตกแต่งสถานที่อยู่ที่ หนึ่งแสนบาท แขกในงานอยู่ที่ 120 โต๊ะ
ราคานี้ไม่ได้รวมค่าสถานที่ ค่าโต๊ะจีน ค่าเครื่องเสียง ค่าไฟนะครับ หนึ่งแสนบาทนี่เป็นค่าตกแต่งสถานที่อย่างเดียวเลย
ทางผมก็รอมานาน ตามงานไปเรื่อย สามเดือนผ่านไป ได้มาแค่ Card แต่งงานเท่านั้น ก็เลยรู้สึกว่าช้า ไม่ทันใจ
เพราะน้องชายเราก็ต้อมมาตามงานที่เรา ไม่กล้าไปตามงานกับเพื่อนของเรา เพราะเกรงใจ เห็นว่าเป็นเพื่อนพี่ชาย
กลายเป็นว่าเราเป็นคนกลางก็พาลลำบากใจ (ยิ่งสนิทมาก ยิ่งไม่เกรงใจกัน) คิดว่าคงเป็นแบบนี้ เลยตัดสินใจบอกยกเลิก
ทางเพื่อนของเราไป พร้อมจ่ายค่าออกแบบ Card แต่งงานเป็นค่าเสียเวลา ให้กับทางเพื่อนไป พร้อมกับติดต่อหาเจ้าใหม่
มาจัดการงางแต่งงานให้กับทางน้องชายต่อไป
ด้วยความที่ว่าเราก็พอจะทำงานในวงการ Event มาบ้าง ก็เลยพอจะมีพี่ๆ ที่รู้จักกันอยู่หลายคน แล้วก็ตัดสินใจ
โทรไปหารุ่นพี่หนึ่งคนที่เคยทำงานด้วยกัน คิดว่าไม่ได้สนิทกันมากมายอะไร น่าจะพอทำงานกันได้ ไม่เกรงใจกันมาก
ซึ่งตอนที่ติดต่อกับทางรุ่นพี่คนนี้ไปก็ประมาณปลายเดือน กันยายน แล้ว มีเวลาประมาณเดือนกว่าๆ สำหรับจัดการงาน
วันแรกที่นัดเจอกัน ณ สถานที่จัดงานแต่ง ทางรุ่นพี่คนนี้ก็มาพร้อม Reference เพื่อนำมาเสนอขายงานกันกับทางผม
พร้อมกับ น้องชาย และแฟน (เจ้าบ่าว-เจ้าสาว) พร้อมกับเข้าดูสถานที่จัดงานไปพร้อมๆ กัน ซึ่ง Reference ที่ทางรุ่นพี่
นำเมาเสนอนั้น ทางเจ้าสาว ก็ค่อนข้างจะถูกใจเลยทีเดียว ก็เลยตกลงจัดจ้างทางรุ่นพี่คนนี้ พร้อมกับเสนองบประมาณ
ให้จัดการตกแต่งงานอยู่ที่ หนึ่งแสนบาท ไม่เกินนี้ ซึ่งทางรุ่นพี่ก็ได้รับปากว่าจะจัดการดูให้ไม่เกินงบประมาณที่ได้แจ้งไว้
ตลอดเดือน ตุลาคม ที่ผ่านมาก็ได้คอยติดตาม ถามงานอยู่ตลอดว่าเป็นอย่างไรบ้าง เพราะว่าทางผมต้องการเห็นรูปแบบงาน
พร้อมใยเสนอราคา จะได้ทำการเตรียมเงินไว้ให้ เนื่องจากปรกติแล้วเมื่อเห็นแบบ และราคาที่เราต้องการแล้ว เราจะต้อง
ทำการวางมัดจำ 50% เพื่อให้ทางผู้รับจ้างก่อนเป็นเรื่องปรกติ แต่ก็ได้รับคำตอบมาว่า "กำลังออกแบบ" "คนออกแบบไปต่างประเทศ"
"ทันแน่นอนค่ะ ไม่ต้องห่วง" ทางผมก็ไม่รู้จะทำอย่างไร เนื่องจากว่าไว้ใจ ก็เลยปล่อยๆ ไปก่อน คิดว่าเดี่ยวก็คงได้งานออกมา
เองแหละ เพราะคิดเอาเองว่า รูปแบบงานเค้าเราก็ชอบ เรื่องราคาก็ตกลงกันไว้แล้ว ก็เลยปล่อยๆ ไปก่อนละกัน
แต่แล้วก็เข้าสูเดือน พฤษจิกายน ซึ่งเป็นเดือนที่จะต้องจัดงานแต่งงานแล้ว แต่ก็เกิดติดต่อกับทางรุ่นพี่คนนี้ไม่ได้ขึ้นมา
ประกอบกับทางน้องชาย (เจ้าบ่าว) ก็คอยติดตาม ตามงานผ่านทางผม ซึ่งผมก็ติดต่อพี่เค้าไม่ได้ ก็ไม่รู้จะทำอย่างไร
พาลเกือบจะได้ทะเลาะกับน้องชายตัวเองขึ้นมาเลยทีเดียว พอโทรหาเค้าไม่ได้ ก็พยายาม Line ไปหา ส่ง mail ไปหา
ส่ง SMS ส่ง in box ใน facebook ทุกช่องทางที่พยายามจะติดต่อกับทางรุ่นพี่คนนี้ให้ได้ แต่ก็ไม่ได้รับการติดต่อกลับมา
เป็นเวลาประมาณหนึ่งสัปดาห์ จนผมเครียดมากไม่รู้จะทำอย่างไร ก็เลยพยายามติดต่อหาคนอื่นๆ ที่รู้จักกับรุ่นพี่คนนี้
เพื่อที่ทางผมจะได้ติดตามถามคามเคลื่อนไหวในงานที่ผมได้จ้างพี่เค้าไป แต่ก็ไม่สามารถติดต่อได้เหมือนกัน
จนสัปดาห์สุดท้ายก่อนจะเริ่มงาน ผมเครียดจนไม่อยากจะกลับบ้านมาเจอหน้าน้องชายตัวเอง ไม่อยากจะมานั่งตอบคำถาม
เบื่อที่น้องต้องมาตามงานแต่งงานตัวเองกับผม ผมก็เลยพยายามหา Wedding Organizer เจ้าอื่นเพื่อที่จะมาจัดการ
ตกแต่งงานแต่งน้องชายแทนรุ่นพี่คนนี้ แต่แล้วอยู่ๆ ไม่รู้อะไรดลใจ รุ่นพี่คนนี้ก็โทรกลับมาหาผม พอผมรับสายเท่านั้น
ทนไม่ไหวครับ ขอระบายซักหน่อย ซึ่งทางรุ่นพี่ก็ขอโทษทางผม และแจ้งว่า Smart Phone ของเค้ามีปัญหา ทำให้
ไม่สามารถติดต่อได้ (ผมไม่ได้ติดต่อทางมืออย่างเดียวซะหน่อย) แต่ก็เอาหน่ะ ติดต่อมาแล้วก็นะ รีบๆ เอางานออกมาดีกว่า
ผมคิดอย่างนั้น ว่าแล้วก็เลยแจ้งขอเพิ่มเก้าอี้สำหรับยกน้ำชาในงาน แล้วก็เค้ก สำหรับตัดบนเวที เข้าไปด้วย
ซึ่งทางรุ่นพี่ก็รับปากว่าจะจัดส่งแบบ และราคาให้ในวันจันทร์ แต่สุดท้ายผมได้รับ Email จากรุ่นพี่เรื่องแบบงาน
และใบเสนอราคาในคือนวันพุธ ตอนตีสอง (งานจัดวันอาทิตย์) ซึ่งกว่าผมจะได้เห็น Email ก็เป็นเช้าวันพฤหัสแล้ว
ตื่นเช้ามาเห็น Email จากรุ่นพี่เรื่องแบบงาน และใบเสนอราคาก็ดีใจสิครับ รีบเปิดดู แล้วก็ส่งให้กับทางเจ้าบ่าว เจ้าสาวดูพร้อมกัน
แต่พอเปิดใบเสนอราคามาเท่านั้นแหละครับ ถึงกับอึ้ง ราคามา "สองแสนห้า" สองแสนห้า บ้าไปแล้ว!! ทางผมแจ้งไปว่า
มีงบให้ที่หนึ่งแสนบาทนะครับ ยังไม่ทันไร เจ้าบ่าวเจ้าสาวตกใจ รีบโทรกลับหาผมทันที บอกว่างบประมาณเท่านี้ไม่ไหว
ทำไมไม่เป็นไปตามที่ตกลงกันไว้ที่หนึ่งแสนบาท ผมก็เลยรีบโทรกลับหารุ่นพี่คนนี้ทันที พร้อมบอกว่าไม่ไหวนะครับแพงเกินไป
ทางรุ่นพี่ก็ตอบกลับมาว่าน้องมีงบที่เท่าไหร่ ผมก็ตอบกลับไปว่าหนึ่งแสนบาทที่คุยกันไว้ไงครับ
(ซึ่งจริงๆ แล้วก็เกินได้นิดหน่อย ผมเผื่องบไว้อีก 50% เพราะเข้าใจว่าการจัดงานประเภทนี้มักมีการบานปลายของงบ)
ทางรุ่นพี่ก็ตอบกลับมาแบบอึ้งๆ ครับ ว่าสั่งผลิตไปแล้ว เดียวจะดูให้ว่าหยุดการผลิตชิ้นงานอะไรได้บ้างตอนนี้
และงบประมาณที่ทางผมบอกเค้าไป เค้าบอกว่าไม่มีใครสามารถทำได้หรอกค่ะ (แล้วรับปากแต่แรกทำไม?!)
ซึ่งทางพี่เค้าก็กลับไปแก้ราคามาใหม่อยู่ที่ "สองแสนหนึ่ง" และบอกว่ามีอะไรให้ทิ้งข้อความไว้ เค้าขอเข้าประชุมก่อน
ซึ่งก็ยังมากเกินไปอยู่ดี ผมก็เลย Line ไปหาพี่เค้าว่าราคานี้ยังไม่ผ่านนะครับในตอนบ่าย แต่พี่เค้าก็ยังไม่เปิดอ่านจนเย็น
สุดท้ายผมก็ปรึกษากับทางน้องชาย และแฟน (เจ้าบ่าว-เจ้าสาว) ว่าจะเอาอย่างไรดี งบประมาณมาขนาดนี้ไม่ไหวหรอก
ก็เลยตกลงกันว่า ถ้างั้นยกเลิกเถอะครับ หาเจ้าใหม่ละกัน แล้วจ่ายค่าออกแบบให้พี่เค้าหนึ่งหมื่นบาท ตามในใบเสนอราคาที่ส่งมา
ผมก็เลยทำการส่ง Email ไปแจ้งกับทางพี่เค้าว่าจะขอ Cancel งาน พร้อมให้เหตุผลว่า งบประมาณไม่ได้เป็นไปตามที่ตกลงกัน
พร้อมกับไม่มีการแจ้งให้ทราบล่วงหน้าสำหรับงบประมาณที่เกินมามากขนาดนี้ อีกทั้งยังทำการสั่งผลิตก่อนที่ทางผมจะทำ
การรับทราบและอนุมัติ ทำให้รู้สึกอึดอัด เหมือนการบีบบังคับให้ต้องจ่ายเงิน และคิดว่าการทำงานแบบนี้ไม่เป็นมืออาชีพ
ในคืนวันพฤหัสนั้นเอง ทางพี่เค้าก็ส่ง Email มาหาผม อีกทั้งส่ง Line มา (ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้ก็ติดต่อไม่ค่อยจะได้)
แจ้งกับทางผมว่า เพิ่งเห็น Email Cancel งานจากทางผม และถ้าหากทางผมจะทำการ Cancel งานในเวลากระชั้นชิด
แบบนี้ ทางพี่เค้าจะเสียหาย จึงจะขอทำการปรับเป็นเงิน 80% ของใบเสนอราคาที่ส่งมา ซึ่งก็ประมาณ หนึ่งแสนหกหมื่นบาท
ทางผมก็อึ้งครับ ไม่รู้จะทำอย่างไรก็เลยไปโรงพักเลยครับ ไปลงบันทึกประจำวัน พร้อมอธิบายเรื่องราวต่างๆ ที่เกิดขึ้น
พร้อมกับขอคำปรึกษากับทางคุณตำรวจ (ซึ่งก็ต้องขอขอบคุณคุณตำรวจมากครับ ที่ให้คำปรึกษาที่ดี) สุดท้ายทางตำรวจ
ก็แนะนำว่าไม่ต้องไปตอบ ไม่ต้องไปติดต่อเค้า เพราะเป็นสัญญาปากเปล่า ไม่ได้มีลายลักษณ์อักษรอะไรเป็นการยืนยัน
ประกอบกับเพื่อนๆ ของผมที่งานในวงการ Event ก็บอกกับผมว่า ไม่มีใครเค้าสั่งผลิตไปก่อนหรอก ถ้ายังไม่ได้มีการ
วางเงินมัดจำ ถ้าทำแบบนั้นก็เท่ากับว่าเป็นการฆ่าตัวเองชัดๆ ยังไงก็ต้องให้ลูกค้าทราบราคา วางมัดจำ แล้วค่อยผลิต
สุดท้ายเช้าวันศุกร์ ผมก็ต้องไปดูสถานที่กับทาง Wedding Organizer เจ้าใหม่ เพื่อที่จะตกลงจัดงานในวันอาทิตย์
โดยตกลงรูปแบบ ราคาอยู่ที่หกหมื่นบาท พร้อมวางมัดจำวันนั้นเลย (ถือว่าแพงครับ กับสิ่งที่ได้ แต่ก็ไม่กล้าต่อรารา เพราะงานเราเร่งมาก)
หลังจากที่ได้เจ้าใหม่มาจัดงานแล้ว ผมก็ได้รับข้อความจากทางรุ่นพี่ว่าเค้าลาหยุดงาน จะมาจัดงานงานแต่งให้กับทางผม
พร้อมจะรบกวนผมได้ทั้งวันเลย (ออกแนวข่มขู่)
เมื่อเห็นดังนั้นผมก็ตกใจสิครับ จะทำยังไงดีหล่ะ ก็เลยโทรไปหารุ่นพี่พร้อมพูดคุยตกลงกันว่าจะไม่จ้างพี่เค้าแล้ว เพราะเกินงบมามาก
โดยไม่แจ้งให้ทราบล่วงหน้า และทำการสั่งผลิตก่อนผมจะทราบราคา แต่จะจ่ายค่าออกแบบให้หนึ่งหมื่นบาท ตามในใบเสนอราคา
ซึ่งแน่นอนครับ ทางพี่เค้าไม่ตกลง โดยให้เหตุผลว่าสั่งผลิตไปแล้ว พร้อมกับทำการสำรองจ่ายไปแล้ว และทางเรายกเลิกกะทันหัน
(ส่งราคามาคืนวันพุธ ตอนตีสอง ผมเห็นเมล์เช้าวันพฤหัส และบอกยกเลิกในวันเดียวกัน นี่กระทันหันเหรอครับ?! พี่ส่งมาช้าเองหรือเปล่า???)
สุดท้ายพี่เค้าถามว่าจะเอาอย่างไร และบอกว่าผมเป็นคนทำให้เรื่องเป็นแบบนี้เองนะ ผมก็เลยตอบพี่เค้าไปว่า เจอกันที่โรงพักละกันครับ
เดี่ยวมาต่อนะครับ........
แชร์ประสบการณ์ จ้าง Event จัดงานแต่ง แบบเกือบได้ขึ้นศาล
เริ่มด้วยที่ว่าน้องชายแท้ๆ ของผมกำลังจะแต่งงาน ซึ่งทางตัวผมเองก็ทราบล่วงหน้ามาประมาณหนึ่งปีแล้ว
เรียกได้ว่ารู้ล่วงหน้ามานานพอสมควรเลยหล่ะครับ ทำให้มีเวลาในการเตรียมตัวจัดการงานต่างๆ กันพอประมาณเลย
งานแต่งงานก็เพิ่งจะจัดผ่านไปเมื่อกลางเดือน พย. นี่เองครับ เพราะว่ายุ่งมากๆ ก็เลยเพิ่งจะหาเวลามาเล่าได้
ครั้งแรกที่ได้คุยกับทางน้องชาย (เจ้าบ่าว) และแฟนว่าจะแต่งงานกัน ก็เลยจัดการให้เพื่อนที่สนิทกัน ซึ่งทำงาน
Event มาจัดการออกแบบ ตกแต่งสถานที่ พร้อมออกแบบ Card และ Logo สำหรับงานแต่งงานให้ เมื่อตอนเดือน
กุมภาพันธ์ โดยว่าจ้างด้วยงบประมาณที่วางไว้สำหรับตกแต่งสถานที่อยู่ที่ หนึ่งแสนบาท แขกในงานอยู่ที่ 120 โต๊ะ
ราคานี้ไม่ได้รวมค่าสถานที่ ค่าโต๊ะจีน ค่าเครื่องเสียง ค่าไฟนะครับ หนึ่งแสนบาทนี่เป็นค่าตกแต่งสถานที่อย่างเดียวเลย
ทางผมก็รอมานาน ตามงานไปเรื่อย สามเดือนผ่านไป ได้มาแค่ Card แต่งงานเท่านั้น ก็เลยรู้สึกว่าช้า ไม่ทันใจ
เพราะน้องชายเราก็ต้อมมาตามงานที่เรา ไม่กล้าไปตามงานกับเพื่อนของเรา เพราะเกรงใจ เห็นว่าเป็นเพื่อนพี่ชาย
กลายเป็นว่าเราเป็นคนกลางก็พาลลำบากใจ (ยิ่งสนิทมาก ยิ่งไม่เกรงใจกัน) คิดว่าคงเป็นแบบนี้ เลยตัดสินใจบอกยกเลิก
ทางเพื่อนของเราไป พร้อมจ่ายค่าออกแบบ Card แต่งงานเป็นค่าเสียเวลา ให้กับทางเพื่อนไป พร้อมกับติดต่อหาเจ้าใหม่
มาจัดการงางแต่งงานให้กับทางน้องชายต่อไป
ด้วยความที่ว่าเราก็พอจะทำงานในวงการ Event มาบ้าง ก็เลยพอจะมีพี่ๆ ที่รู้จักกันอยู่หลายคน แล้วก็ตัดสินใจ
โทรไปหารุ่นพี่หนึ่งคนที่เคยทำงานด้วยกัน คิดว่าไม่ได้สนิทกันมากมายอะไร น่าจะพอทำงานกันได้ ไม่เกรงใจกันมาก
ซึ่งตอนที่ติดต่อกับทางรุ่นพี่คนนี้ไปก็ประมาณปลายเดือน กันยายน แล้ว มีเวลาประมาณเดือนกว่าๆ สำหรับจัดการงาน
วันแรกที่นัดเจอกัน ณ สถานที่จัดงานแต่ง ทางรุ่นพี่คนนี้ก็มาพร้อม Reference เพื่อนำมาเสนอขายงานกันกับทางผม
พร้อมกับ น้องชาย และแฟน (เจ้าบ่าว-เจ้าสาว) พร้อมกับเข้าดูสถานที่จัดงานไปพร้อมๆ กัน ซึ่ง Reference ที่ทางรุ่นพี่
นำเมาเสนอนั้น ทางเจ้าสาว ก็ค่อนข้างจะถูกใจเลยทีเดียว ก็เลยตกลงจัดจ้างทางรุ่นพี่คนนี้ พร้อมกับเสนองบประมาณ
ให้จัดการตกแต่งงานอยู่ที่ หนึ่งแสนบาท ไม่เกินนี้ ซึ่งทางรุ่นพี่ก็ได้รับปากว่าจะจัดการดูให้ไม่เกินงบประมาณที่ได้แจ้งไว้
ตลอดเดือน ตุลาคม ที่ผ่านมาก็ได้คอยติดตาม ถามงานอยู่ตลอดว่าเป็นอย่างไรบ้าง เพราะว่าทางผมต้องการเห็นรูปแบบงาน
พร้อมใยเสนอราคา จะได้ทำการเตรียมเงินไว้ให้ เนื่องจากปรกติแล้วเมื่อเห็นแบบ และราคาที่เราต้องการแล้ว เราจะต้อง
ทำการวางมัดจำ 50% เพื่อให้ทางผู้รับจ้างก่อนเป็นเรื่องปรกติ แต่ก็ได้รับคำตอบมาว่า "กำลังออกแบบ" "คนออกแบบไปต่างประเทศ"
"ทันแน่นอนค่ะ ไม่ต้องห่วง" ทางผมก็ไม่รู้จะทำอย่างไร เนื่องจากว่าไว้ใจ ก็เลยปล่อยๆ ไปก่อน คิดว่าเดี่ยวก็คงได้งานออกมา
เองแหละ เพราะคิดเอาเองว่า รูปแบบงานเค้าเราก็ชอบ เรื่องราคาก็ตกลงกันไว้แล้ว ก็เลยปล่อยๆ ไปก่อนละกัน
แต่แล้วก็เข้าสูเดือน พฤษจิกายน ซึ่งเป็นเดือนที่จะต้องจัดงานแต่งงานแล้ว แต่ก็เกิดติดต่อกับทางรุ่นพี่คนนี้ไม่ได้ขึ้นมา
ประกอบกับทางน้องชาย (เจ้าบ่าว) ก็คอยติดตาม ตามงานผ่านทางผม ซึ่งผมก็ติดต่อพี่เค้าไม่ได้ ก็ไม่รู้จะทำอย่างไร
พาลเกือบจะได้ทะเลาะกับน้องชายตัวเองขึ้นมาเลยทีเดียว พอโทรหาเค้าไม่ได้ ก็พยายาม Line ไปหา ส่ง mail ไปหา
ส่ง SMS ส่ง in box ใน facebook ทุกช่องทางที่พยายามจะติดต่อกับทางรุ่นพี่คนนี้ให้ได้ แต่ก็ไม่ได้รับการติดต่อกลับมา
เป็นเวลาประมาณหนึ่งสัปดาห์ จนผมเครียดมากไม่รู้จะทำอย่างไร ก็เลยพยายามติดต่อหาคนอื่นๆ ที่รู้จักกับรุ่นพี่คนนี้
เพื่อที่ทางผมจะได้ติดตามถามคามเคลื่อนไหวในงานที่ผมได้จ้างพี่เค้าไป แต่ก็ไม่สามารถติดต่อได้เหมือนกัน
จนสัปดาห์สุดท้ายก่อนจะเริ่มงาน ผมเครียดจนไม่อยากจะกลับบ้านมาเจอหน้าน้องชายตัวเอง ไม่อยากจะมานั่งตอบคำถาม
เบื่อที่น้องต้องมาตามงานแต่งงานตัวเองกับผม ผมก็เลยพยายามหา Wedding Organizer เจ้าอื่นเพื่อที่จะมาจัดการ
ตกแต่งงานแต่งน้องชายแทนรุ่นพี่คนนี้ แต่แล้วอยู่ๆ ไม่รู้อะไรดลใจ รุ่นพี่คนนี้ก็โทรกลับมาหาผม พอผมรับสายเท่านั้น
ทนไม่ไหวครับ ขอระบายซักหน่อย ซึ่งทางรุ่นพี่ก็ขอโทษทางผม และแจ้งว่า Smart Phone ของเค้ามีปัญหา ทำให้
ไม่สามารถติดต่อได้ (ผมไม่ได้ติดต่อทางมืออย่างเดียวซะหน่อย) แต่ก็เอาหน่ะ ติดต่อมาแล้วก็นะ รีบๆ เอางานออกมาดีกว่า
ผมคิดอย่างนั้น ว่าแล้วก็เลยแจ้งขอเพิ่มเก้าอี้สำหรับยกน้ำชาในงาน แล้วก็เค้ก สำหรับตัดบนเวที เข้าไปด้วย
ซึ่งทางรุ่นพี่ก็รับปากว่าจะจัดส่งแบบ และราคาให้ในวันจันทร์ แต่สุดท้ายผมได้รับ Email จากรุ่นพี่เรื่องแบบงาน
และใบเสนอราคาในคือนวันพุธ ตอนตีสอง (งานจัดวันอาทิตย์) ซึ่งกว่าผมจะได้เห็น Email ก็เป็นเช้าวันพฤหัสแล้ว
ตื่นเช้ามาเห็น Email จากรุ่นพี่เรื่องแบบงาน และใบเสนอราคาก็ดีใจสิครับ รีบเปิดดู แล้วก็ส่งให้กับทางเจ้าบ่าว เจ้าสาวดูพร้อมกัน
แต่พอเปิดใบเสนอราคามาเท่านั้นแหละครับ ถึงกับอึ้ง ราคามา "สองแสนห้า" สองแสนห้า บ้าไปแล้ว!! ทางผมแจ้งไปว่า
มีงบให้ที่หนึ่งแสนบาทนะครับ ยังไม่ทันไร เจ้าบ่าวเจ้าสาวตกใจ รีบโทรกลับหาผมทันที บอกว่างบประมาณเท่านี้ไม่ไหว
ทำไมไม่เป็นไปตามที่ตกลงกันไว้ที่หนึ่งแสนบาท ผมก็เลยรีบโทรกลับหารุ่นพี่คนนี้ทันที พร้อมบอกว่าไม่ไหวนะครับแพงเกินไป
ทางรุ่นพี่ก็ตอบกลับมาว่าน้องมีงบที่เท่าไหร่ ผมก็ตอบกลับไปว่าหนึ่งแสนบาทที่คุยกันไว้ไงครับ
(ซึ่งจริงๆ แล้วก็เกินได้นิดหน่อย ผมเผื่องบไว้อีก 50% เพราะเข้าใจว่าการจัดงานประเภทนี้มักมีการบานปลายของงบ)
ทางรุ่นพี่ก็ตอบกลับมาแบบอึ้งๆ ครับ ว่าสั่งผลิตไปแล้ว เดียวจะดูให้ว่าหยุดการผลิตชิ้นงานอะไรได้บ้างตอนนี้
และงบประมาณที่ทางผมบอกเค้าไป เค้าบอกว่าไม่มีใครสามารถทำได้หรอกค่ะ (แล้วรับปากแต่แรกทำไม?!)
ซึ่งทางพี่เค้าก็กลับไปแก้ราคามาใหม่อยู่ที่ "สองแสนหนึ่ง" และบอกว่ามีอะไรให้ทิ้งข้อความไว้ เค้าขอเข้าประชุมก่อน
ซึ่งก็ยังมากเกินไปอยู่ดี ผมก็เลย Line ไปหาพี่เค้าว่าราคานี้ยังไม่ผ่านนะครับในตอนบ่าย แต่พี่เค้าก็ยังไม่เปิดอ่านจนเย็น
สุดท้ายผมก็ปรึกษากับทางน้องชาย และแฟน (เจ้าบ่าว-เจ้าสาว) ว่าจะเอาอย่างไรดี งบประมาณมาขนาดนี้ไม่ไหวหรอก
ก็เลยตกลงกันว่า ถ้างั้นยกเลิกเถอะครับ หาเจ้าใหม่ละกัน แล้วจ่ายค่าออกแบบให้พี่เค้าหนึ่งหมื่นบาท ตามในใบเสนอราคาที่ส่งมา
ผมก็เลยทำการส่ง Email ไปแจ้งกับทางพี่เค้าว่าจะขอ Cancel งาน พร้อมให้เหตุผลว่า งบประมาณไม่ได้เป็นไปตามที่ตกลงกัน
พร้อมกับไม่มีการแจ้งให้ทราบล่วงหน้าสำหรับงบประมาณที่เกินมามากขนาดนี้ อีกทั้งยังทำการสั่งผลิตก่อนที่ทางผมจะทำ
การรับทราบและอนุมัติ ทำให้รู้สึกอึดอัด เหมือนการบีบบังคับให้ต้องจ่ายเงิน และคิดว่าการทำงานแบบนี้ไม่เป็นมืออาชีพ
ในคืนวันพฤหัสนั้นเอง ทางพี่เค้าก็ส่ง Email มาหาผม อีกทั้งส่ง Line มา (ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้ก็ติดต่อไม่ค่อยจะได้)
แจ้งกับทางผมว่า เพิ่งเห็น Email Cancel งานจากทางผม และถ้าหากทางผมจะทำการ Cancel งานในเวลากระชั้นชิด
แบบนี้ ทางพี่เค้าจะเสียหาย จึงจะขอทำการปรับเป็นเงิน 80% ของใบเสนอราคาที่ส่งมา ซึ่งก็ประมาณ หนึ่งแสนหกหมื่นบาท
ทางผมก็อึ้งครับ ไม่รู้จะทำอย่างไรก็เลยไปโรงพักเลยครับ ไปลงบันทึกประจำวัน พร้อมอธิบายเรื่องราวต่างๆ ที่เกิดขึ้น
พร้อมกับขอคำปรึกษากับทางคุณตำรวจ (ซึ่งก็ต้องขอขอบคุณคุณตำรวจมากครับ ที่ให้คำปรึกษาที่ดี) สุดท้ายทางตำรวจ
ก็แนะนำว่าไม่ต้องไปตอบ ไม่ต้องไปติดต่อเค้า เพราะเป็นสัญญาปากเปล่า ไม่ได้มีลายลักษณ์อักษรอะไรเป็นการยืนยัน
ประกอบกับเพื่อนๆ ของผมที่งานในวงการ Event ก็บอกกับผมว่า ไม่มีใครเค้าสั่งผลิตไปก่อนหรอก ถ้ายังไม่ได้มีการ
วางเงินมัดจำ ถ้าทำแบบนั้นก็เท่ากับว่าเป็นการฆ่าตัวเองชัดๆ ยังไงก็ต้องให้ลูกค้าทราบราคา วางมัดจำ แล้วค่อยผลิต
สุดท้ายเช้าวันศุกร์ ผมก็ต้องไปดูสถานที่กับทาง Wedding Organizer เจ้าใหม่ เพื่อที่จะตกลงจัดงานในวันอาทิตย์
โดยตกลงรูปแบบ ราคาอยู่ที่หกหมื่นบาท พร้อมวางมัดจำวันนั้นเลย (ถือว่าแพงครับ กับสิ่งที่ได้ แต่ก็ไม่กล้าต่อรารา เพราะงานเราเร่งมาก)
หลังจากที่ได้เจ้าใหม่มาจัดงานแล้ว ผมก็ได้รับข้อความจากทางรุ่นพี่ว่าเค้าลาหยุดงาน จะมาจัดงานงานแต่งให้กับทางผม
พร้อมจะรบกวนผมได้ทั้งวันเลย (ออกแนวข่มขู่)
เมื่อเห็นดังนั้นผมก็ตกใจสิครับ จะทำยังไงดีหล่ะ ก็เลยโทรไปหารุ่นพี่พร้อมพูดคุยตกลงกันว่าจะไม่จ้างพี่เค้าแล้ว เพราะเกินงบมามาก
โดยไม่แจ้งให้ทราบล่วงหน้า และทำการสั่งผลิตก่อนผมจะทราบราคา แต่จะจ่ายค่าออกแบบให้หนึ่งหมื่นบาท ตามในใบเสนอราคา
ซึ่งแน่นอนครับ ทางพี่เค้าไม่ตกลง โดยให้เหตุผลว่าสั่งผลิตไปแล้ว พร้อมกับทำการสำรองจ่ายไปแล้ว และทางเรายกเลิกกะทันหัน
(ส่งราคามาคืนวันพุธ ตอนตีสอง ผมเห็นเมล์เช้าวันพฤหัส และบอกยกเลิกในวันเดียวกัน นี่กระทันหันเหรอครับ?! พี่ส่งมาช้าเองหรือเปล่า???)
สุดท้ายพี่เค้าถามว่าจะเอาอย่างไร และบอกว่าผมเป็นคนทำให้เรื่องเป็นแบบนี้เองนะ ผมก็เลยตอบพี่เค้าไปว่า เจอกันที่โรงพักละกันครับ
เดี่ยวมาต่อนะครับ........