[CR] แบกฟิล์มไปอาบแดด ที่ดอนเดด เกาะสวรรค์ ณ ลาวใต้



          สวัสดีครับ ผมมีบันทึกการเดินทาง สไตล์แบ็คแพ็คเกอร์ มาเล่าสู่กันฟัง

          เมื่อเดือนมีนาคม ที่ผ่านมา ผมแบกเป้ออกเดินทางกับเพื่อน จุดหมายปลายทางอยู่ที่สี่พันดอนแขวงจำปาสัก ดินแดนใต้สุดของประเทศลาว สองสามวันก่อนเดินทางผมคุยกับตัวอ้น (เพื่อนสนิทคู่ขาคู่ลุยชนิดที่ว่าถึงไหนถึงกัน) เรื่องอยากไปเที่ยวลาว ไปดูน้ำตกคอนพระเพ็ง ตัวอ้นก็สนใจเลยตัดสินใจออกเดินทางไปด้วยกัน

          การเดินทางครั้งนี้เป็นการเดินทางที่ปุ๊ปปั๊ปมาก ไม่ค่อยได้เตรียมตัวเท่าไหร่ ที่พักไม่ได้จอง ตั๋วรถไม่ได้จอง ทุกอย่างหาเอาข้างหน้าทั้งหมด เราเริ่มต้นการเดินทางที่อุบลราชธานี การเดินทางจากอุบลไปปากเซแขวงจำปาสักมีอยู่สองทาง คือ

         1.รถทัวร์จาก บขส. อุบลไป ลงที่ปากเซ ราคา200บาท ต้องมีพาสปอร์ตถึงสามารถซื้อตั๋วได้ รถออกวันละสองรอบ9.00น และ15.00น.

         2.รถตู้ ขึ้นที่ บขส. เช่นกัน ราคา100บาท แต่ไปถึงแค่ช่องเม็กด่านชายแดนไทยลาว ต้องข้ามไปต่อรถที่ฝั่งลาวอีกที ราคาค่ารถอยู่ที่ 100 บาท รถเริ่มเที่ยวแรก 05.30 น.และมีรถออกทุกครึ่งชั่วโมง
    

Day I ( 24 มีนาคม 2558 )


        ผมลุกจากเตียงตอนตี 4 ขับมอเตอร์ไซค์คู่ใจออกไปหาตัวอ้น เพื่อจะเดินไปขึ้นรถด้วยกัน (บ้านตัวอ้นอยู่ใกล้ บขส.) รถทัวร์รอบแรกออกสายเกินไป เราเลยเลือกเดินทางด้วยรถตู้ เพราะผมอยากไปถึงดอนเดดในวันนั้นเลย (รถโดยสารในประเทศลาวค่อยข้างน้อย ถ้าตกรถ อาจต้องรอวันต่อไปหรือไม่อาจจะต้องเหมารถตู้ไปส่งซึ่งราคาค่อนข้างแพง)


    ที่ บขส. ผมเดินไปซื้อตั๋วรถที่หน้ารถตู้  พอได้ตั๋วผมก็ขึ้นไปรอบนรถตู้แรกๆนั่งสบายมาก พอซักพักผู้โดยสารค่อยๆทยอยกันมาเยอะขึ้นๆ กลายเป็นอัดกันเป็นปลากระป๋อง ผมเป็นตัวใหญ่เลยรู้สึกอึดอัดเป็นพิเศษ (แต่คนข้างผมน่าจะอึดอัดกว่าเยอะ555+)


        เจ็ดโมง รถเคลื่อนตัวออกจาก บขส. คนขับรถขับค่อนข้างเร็ว (ผมอยากไห้ขับไว้ๆถึงเร็วๆยิ่งดีตอนนี้นั่งกอดประเป๋า พยายามทำตัวให้เล็กเข้าไว้ ) นั่งรถประมานชั่วโมงเศษๆ รถก็เข้าเทียบท่าที่ บขส ช่องเม็ก พอรถจอดก็มีคนเดินเข้ามาบอกผมให้ไปขึ้นรถสองแถวจะไปส่งที่หน้าด่าน ค่าบริการ 20 บาทต่อคน ผมกับตัวอ้นก็เผลอตัวขึ้นรถไป รถวิ่งไปแค่ 3 นาทีถึงหน้าด่านแล้ว (นี่กุโดนฟันหัวตั้งแต่ยังไม่ได้ไปไหนเลยใช่มั้ยเนี่ย) ระยะทางแค่300-400 เมตร ราคา 20 บาท ถ้าใครจะตามเส้นทางแนะนำให้เดินเอานะครับมันใกล้มาก


    ก่อนข้ามด่านผมแวะร้านค้าแถวๆ นั้น เพื่อแลกเงินกีบก่อนข้ามไปฝั่งลาว เงินบาทสามารถใช้ที่ลาวได้แต่อัตราแลกมันแย่มากๆ และการที่เอาเงินไทยไปแลกเงินกีบที่ลาวก็เสียเปรียบไม่ต่างกัน ทางที่ดีที่สุดคือแลกกับแม่ค้าคนไทยก่อนข้ามด่านจะดีกว่า ตอนที่ผมไปอัตราการแลกอยู่ที่ 250,000 กีบ ต่อ 1000 บาท (ตอนนี้คงจะอัตราแลกไม่ค่อยดีเพราะเงินบาทอ่อนค่าลงมาก)


    พอแลกเงินเสร็จเรียบร้อย ผมกับตัวอ้นก็เดินเข้าด่าน ยื่นพาสปอร์ตปั้ม ตรา ตึ่ง!! ตึ่ง!! แล้วเดินข้ามไป ที่ ตม.ลาว  ตม.ฝั่งไทย ผ่านฟรี แต่ ตม.ลาวต้องเสียค่าเหยียบแผ่นดิน 100 บาท ตอนรับพาสปอร์ตอย่าลืมเช็คด้วยว่าเค้าปั้มตราขาเข้าประเทศให้รึป่าว เพราะมีคนรู้จักของตัวอ้นเคยโดนตม.ลาวไม่ปั้มตราขาเข้าให้ พอขาออกต้องเสียตังเกือบหมื่นค่าปั้มตราออก


    พอผ่านด่านตม. มาแล้ว จะเจอด่านอีกด่าน คือ ด่านรถรับเหมาพาเข้าปากเซ เยอะแยะไปหมดเดินตามประกบติดเป็นตังเม จุดนี้ต้องใจแข็งสลัดให้หลุด ท่ารถที่เข้าปากเซต้องเดินตามถนนผ่านตลาดวังเต่าเข้าไปอีกประมาน 200-300 เมตร จะมีรถโดยสารเข้าไปปากเซ ค่าโดยสาร คนละ 100 บาท แต่มีข้อแม้นิดหนึ่งคือ คนเต็มรถถึงออก


    พอเดินไปถึงท่ารถ วันนี้ไม่ค่อยมีคนโดยสารเข้าไปปากเซเลย ระหว่างที่ผมและตัวอ้นยืนรอสมาชิกร่วมทางเพิ่ม ก็มีคนขับรถตู้เดินเข้ามาหาแล้วถามว่าจะไปไหนกัน ผมเลยบอกว่าจะไปดอนเดด เขาบอกว่ารถโดยสารที่เรารอไปส่งแค่ตลาดดาวเรืองนะ ถ้าจะไปดอนเดดจะต้องต่อรถไปลงท่ารถสายใต้อีกทอด พี่แกเลยเสนอจะพาเข้าไปปากเซ พร้อมส่งถึงท่ารถสายใต้ ในราคา600 บาท ผมต่อราคาจนได้ 2 คน 400 บาท ต่อได้ราคานี้เลยแบกเป้ไปกับพี่แกเลย ไม่อยากรอนานกลัวถ้าไปถึงสายจะตกรถเอาเสียเวลาเปล่าๆ


      ระยะทางจากด่านช่องเม็กไปปากเซ 50 กิโลเมตร รถตู้พาเราลึกเข้าไปในแดนลาวใต้ รถที่ลาวจะขับชิดขวาและขับค่อนข้างช้า ระว่างทางจะมีคนยืนรอติดรถไปลงตามทางอยู่เป็นระยะ พี่แกจอดรถรับผู้โดยสารเพิ่มตลอดทาง เพื่อชดเชยค่าโดยสารของพวกเราพี่หายไป555+


      นั่งรถประมาน 1 ชม.ก็มาถึงท่ารถสายใต้ มาทันเที่ยวรถไปบ้านนากะสัง ท่าเรือข้ามไปดอนเดดรอบสุดท้ายพอดี รถที่ไปบ้านนากะสังเป็นรถหกล้อคันใหญ่ๆติดหลังคาด้านหลังคล้ายๆ รถโดยสารตามชนบทของบ้านเรา รถโดยสารคันนี้นอกจากจะใช้บรรทุกคนแล้วยังบรรทุกข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ ไปส่งตามหมู่บ้านระหว่างทางไปด้วย


    เวลา 11.50 น. รถก็เคลื่อนออกจากท่ารถสายใต้มุ่งสู่บ้านนากะสัง ระยะทางจากปากเซถึงนากะสัง ประมาน 150 กิโลเมตร ระหว่างทางที่รถผ่าน ถ้าสังเกตข้างทางจะเจอ กระสอบปุ๋ย กระเป๋า ลังน้ำปลา วางตามไหล่ทาง เป็นการบอกรถโชเฟอร์รถประจำทางว่า เนี่ยตรงนี้มีคนรอจะขึ้นรถนะ ส่วนตัวคนจะไปนั่งรอใต้ร่มต้นไม้ มันชิคมากเป็นการรอขึ้นรถที่ชิคสุดๆ


    เกือบบ่ายโมง อยู่ๆ รถก็จอดที่ข้างทางกลางหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ผมก็งงว่าเค้าจะจอดกันทำไม พอรถจอดสนิท ก็มีแม่ค้าวิ่งกรูเข้ามารุ่มล้อมเต็มไปหมด หิ้วทั้งปิ้งไก่ข้าวเหนียว ไข่ทรงเครื่อง มะม่วง ถังที่ข้างในมีเครื่องดื่มเย็นๆ นาๆชนิด มาขาย สรุปคือเค้าหยุดรถพักกินข้าว ชิคมาก ไม่ต้องกลัวความหิวตลอดการเดินอันยาวไกล


    ยัง! ความชิคของรถโดยประจำทางคันนี้ยังไม่หมดเท่านี้ ระหว่างทางรถจะแวะเข้าไปตามหมู่บ้านเพื่อส่งของที่บรรทุกมา พี่โชเฟอร์ ทั้งขับรถ ทั้งขนของขึ้น ขนของลง เข้าไปส่งตามหมูบ้าน ทุกซอกทุกซอย ทำงานคนเดียวแบบ all in one บริการทุกระดับประทับใจจริงๆ ผมนี่ยกนิ้วให้พี่แกเลย


    ประมานบ่านสี่โมงครึ่ง เราก็มาถึงบ้านนากะสัง ท่าเรือข้ามไปที่เกาะดอนเดด ผมกับตัวอ้นเดินไปซื้อตั๋วที่ท่าเรือข้ามฟากไปที่ดอนเดด ราคา 15000 กีบต่อคน  ผู้โดยสารที่ร่วมลงเรื่อไปกับเราในครั้งนี้ มีผมตัวอ้น และ แบ็คแพ็คเกอร์ชาวฝรั่งเศส (น่าจะเป็นฝรั่งเศสเพราะฟังจากสำเนียงการพูด) อีก3คน เรือแล่นออกจากฝั่งใช้เวลาประมาน 10-15 นาทีเราก็มองเห็นฝั่งของเกาะดอนเดด แว๊ปแรกที่เกาะเผยโฉมให้ผมเห็นที่มันใช่ลาวจริงๆเหรอ ทำไมมีแต่ฝรั่งนอนอาบแดดกันเต็มหาดไปหมด



ท่าเรือบ้านนากะสัง


    พอเรื่อเข้าเทียบฝั่ง ฝรั่งที่นอนอาบแดดอยู่ ก็ตะโกนมาทางผู้มาเยือนกลุ่มใหม่อย่างพวกเรา


        “Welcome to Paradise”



    พอขึ้นฝั่งสิ่งแรกที่ แว๊ปเข้ามาในหัวผมคือ หาที่พักโดยด่วนต้องรีบปลดเป้ แล้วรีบมาโดดน้ำให้ไว บรรยากาศแบบนี้ไม่เล่นน้ำไม่ได้แล้ว ผมกับตัวอ้นเดินหาที่พักตามเส้นทางไปเรื่อยๆ ที่พักใกล้หาดเต็มหมดทุกที่ต้องเดินเลียบเกาะเรื่อยๆ จนเจอที่พักที่น่าจะมีห้องว่าง ผมเลยเข้าไปถามราคาที่พักด้วยภาษาอีสาน เขาบอกว่าราคา 400 บาท ห้องพัดลม ผมถามไปว่าลดได้อีกมั้ย เขาบอกว่านี่ราคาคนไทยพิเศษแล้ว ด้วยความอยากโดดน้ำมาก เลยตกลงพักที่นี่
พอจ่ายตังเสร็จผมก็เข้าห้องพักปลดเป้ลงจากหลัง เปลี่ยนชุดเรียบร้อยพร้อมจะไปเล่นน้ำเต็มที่ พอเดินออกมาจากห้องพักมีฝรั่งคนหึ่งเดินเข้าไปถามราคาที่พัก

    “ How much for room”
    “100000 Kip”
    “Thank you” แล้วเดินจากไป

หมายความว่ายังไง ขนาดฝรั่งยังเดินสายหัว ( นี่กุพลาดรอบสองของวันใช่มั้ยเนี่ย )    


    พอเหตุการณ์อันน่าสะเทือนใจผ่านพ้นไป ก็ถึงช่วงเวลาแห่งความสนุก ผมและตัวอ้นเช่าห่วงยางคนละอันแล้วไปโดดน้ำกัน ภาพตรงหน้า พระอาทิตย์กำลังลับขอบฟ้า ฝรั่งนอนอาบแดด ลอยห่วงยางจิบเบียร์ลาวเย็นๆ ชีวิตยังจะต้องการอะไรอีก ฟินสุดๆ






    พอเสร็จกิจกรรมยามเย็น เราก็กลับที่พักอาบน้ำแต่งองค์ทรงเครื่องออกไปหาอะไรกิน ตบท้ายด้วยเบียร์ลาวเย็นๆ ก่อนจะเข้านอนด้วยสภาพอ่อนล้าแต่ ฟินสุดๆ
    









ชื่อสินค้า:   ลาวใต้
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่