ควันหลงจากงาน Microchip Asian Seminar 2015

เรื่องที่ผมจะเขียนนี้ไม่ได้ต้องการโปรโมทบริษัท ถึงแม้ผมจะเป็นแฟนพันธ์แท้ของไมโครชิพ แต่อยากให้ได้รับรู้ประสบการณ์และเชิญชวนนักพัฒนาเข้างานแบบนี้ในโอกาสหน้า  เพราะพวกนี้มักจะจัดกันปีละหนหรือบางปีก็ไม่มี และเราก็ได้อะไรในงานค่อนข้างเยอะ
         ผมได้จองที่นั่งเข้าฟังงานนี้ของบริษัทไมโครชิพ ซึ่งเป็นงานระดับอินเตอร์ฯ คือ เปิดจองแบบทั่วโลก การนำเสนอเป็นภาษาอังกฤษ 80 เปอร์เซนต์ แต่ต่อมาก็ให้ทางอิเล็กทรอนิกส์ซอร์สมาช่วยดำเนินการ  จัดเมื่วันที่ 19 พย. ที่ผ่านมา ที่โรงแรมสวิสโซเทล เลอ คอนคอร์ด ห้วยขวาง 9:00 - 16:30 น.

Swissotel Le Concorde ถ่ายจากหน้าทางเข้าสถานีรถไฟใต้ดินห้วยขวาง


หน้างานก่อนเริ่มสัมนา


         จุดประสงค์ของงานก็เป็นการเผยแพร่อุปกรณ์และเทคโนโลยีที่ใช้ในอุปกรณ์ของทางบริษัทเอง โดยจะแบ่งเป็น 4 + 1 เรื่อง แล้วผมจะได้กล่าวต่อไป
     จากค่าเข้าฟัง 10.7 ดอลล่าห์สหรัฐรวมแวต หรือประมาณ 370 บาท ผมขอแบ่งเนื้อหาออกเป็น 2 ส่วน คือ  ส่วนที่เขาให้อะไรเรามาบ้าง และส่วนที่เราได้รับรู้อะไรบ้าง
     เขาให้อะไรเราบ้าง
    1. Facilities; ใน 10.7 เหรียญ นี้ นอกจากการเข้ารับฟัง ก็จะรวม อินเตอร์ฯ บุฟเฟ่ห์ และ ของว่างเช้าบ่าย ระดับโรงแรม 4 ดาว ซึ่งผมไม่ได้ถ่ายรูปและไม่ได้เน้นตรงนี้มากเพราะไม่ได้เห็นแก่กิน 555  แต่บอกได้เลยว่าเฉพาะค่าบริการตรงนี้ก็น่าจะเกินค่าตั๋วแล้ว เพราะคุณภาพอาหารอยู่ในระดับที่ดีเลย ทั้งของคาว ของหวาน แต่เสียตรงที่กลุ่มของงานนี้อยู่แยกไปกินต่างหากจากล้อบบี้ ทำให้อาหารบางอย่างหมดเร็วและเติมไม่ทันโดยเฉพาะพวกซูชิ
    2. Souvenirs;  


                    2.1  Microchip Curousity Deveolpment Boardตอนสำรองที่นั่งนั้นทางไมโครชิพจะมอบบอร์ดพัฒนางานรุ่น Curiousity ที่เป็นรุ่นใหม่ ซึ่งตอนนี้ขายตามเว็บนอกอยู่ประมาณ 20 เหรียญ หรือราวๆ 720 บาท บอร์ดรุ่นนี้จะใส่โปรเซสเซอร์ 8 บิท รุ่น 16F1619 ซึ่งเป็นรุ่นล่าสุดมีฟังค์ชั่นค์ใหม่พวก CIP (ไว้จะกล่าวต่อไป) ครบทุกตัว ตอนที่จองนั้นถือว่าได้แค้ตัวนี้มาก็เกินคุ้มแล้วสำหรับนักพัฒนา




แต่พอเข้างานก็มีของอื่นอีกคือ

                    2.2  16 GB Flash drive Kingtston รุ่น Data Traveller ที่เขาให้ตัวนี้มาเพราะเขาจะใส่แพจเกจงานนำเสนอไว้ให้เราด้วย แต่มันก็ดูดีนะมีสลักMicrochip เอาไว้  ที่น่าตลกคือ บางคนเห็นแพจเกจแล้วฉีกกระดาษแบบที่ห้อแฟลชไดร์ฟทั่วไป แต่เจ้านี่เขาทำที่ล้อคเปิดปิดให้เอาออกง่ายๆ ไว้แล้ว เผื่อมีงานอื่นทางบริษัทฯ ก็จะได้ใส่ข้อมูลอื่นได้


                    2.3  Bag เป้สะพายหลังซึ่งทำมาใช้ได้เลย มีช่องเก็บ 3 ส่วน และช่องใหญ่มีสล้อตใส่โน้ตบุ้ค






   มาว่ากันเรื่อง บอร์ดพัฒนาซักนิด เผื่อนักพัฒนาสมองกลฝังตัวจะสนใจ  บอร์ดนี้จะมี 2 โปรเซสเซอร์คือ 16F1619 ซึ่งเป็น MCU ขนาด 8 บิท มีหน่วยความจำสำหรับโปรแกรมFlash 14 kB และ RAM 1 kB มีไทม์เมอร์ถึง 7 ตัว  PWM 2 ชุด และ Peripherals มากมายที่น่าสนใจ อีกตัวเป็น MCU 16 bits เบอร์ PIC24FJ256GB106 แต่ไม่น่าสนใจ เนื่องจากมันมีไว้สำหรับสื่อสารทางพอร์ทยูเอสบีกับคอมฯ เท่านั้น ดังนั้นข้อดีของบอร์ดนี้คือเราไม่ต้องใช้ตัวโปรแกรมเมอร์พวก PicKit , ICD อีกเลยตัดตรงนี้ลงไปได้หลายพันบาท



ด้านหลัง ภาคติดต่อกับพีซีอยู่ด้านขวามือ


โปรเซสเซอร์สำหรับติดต่อกับพีซีผ่านสายยูเอสบี (จริงๆ แล้วประสิทธิภาพสูงกว่าตัวสำหรับพัฒนามากเพราะเป็น 16 บิท)



     ตัวบอร์ดเองก็มี สวิทช์รีเซท สวิทช์สัมผัส และกดเล่นอย่างละตัว แอลอีดี 4 ตัว โวลลุ่มต่อกับเอทูดี 1 ตัว มีไมโครบัสสำหรับต่อกับผลิตภัณฑ์จากบริษัท MicroE คล้ายๆ ชีลด์ของอาดุยโน่ซึ่งไม่น่าสนใจเท่าไหร่

แอลอีดี 4 ตัวบนบอร์ด


      แต่ที่ผมสนใจมากคือมีแพดสำหรับบลูทูธโมดูล RN4020 เตรียมไว้แล้ว ซึ่งโมดูลนี้โดยลำพังจะต่อบอร์ดยากเนื่องจากขามันชิดกันมากที่ 1 มม. (ขาไอซีทั่วไปจะห่างกัน 2.54 มม.) ทำให้การทดลองเรื่องการสื่อสารบลูทูธทำได้ง่ายขึ้น

บลูทูธโมดูล




   สรุปว่าแค่เขาให้อะไรมานี่ก็เกินคุ้มมากๆ แล้วกับเงินไม่ถึง 400 ที่จ่ายไป ที่จริงมีเรื่องเอานามบัตรมาจับรางวัลอีก มิเตอร์พกกระเป๋า Hioki 10 รางวัล แต่ก็ถือว่าเป็นประเด็นรอง

  ต่อไปจะพูดถึงว่าเราได้รับรู้อะไรจากการสัมนาบ้าง ซึ่งเป็นหัวใจหลักของการสัมนา
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่