...ภาพของนักปฏิบัติธรรม...

บทความนี้ ใครมีความเห็นต่าง ก็แย้งได้นะครับ..

ด้วยผมเองอยู่ในวงการปฏิบัติธรรมมากว่า 20 ปี
พอพูดถึงการปฏิบัติธรรมผมเชื่อว่า คนร้อยละ 99 จะมีภาพคนนั่งขัดสมาธิหลับตา เพ่งตรงปลายจมูก หรือตามลม และอาจมีการบริกรรม เป็นภาพขึ้นมาในมโนสำนึกจริงๆ


สาเหตุเพราะสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ เมื่อผ่านสงครามมา คัมภีร์ ต่างๆ ได้สูญสิ้นไปเยอะ ยังให้ศาสนาเสื่อมลงด้วย ขนาดที่ต้องไปคัดตำราคืนมาจากลังกา (ในสมัยกรุงศรีอยุธยา ลังกามาคัดคัมภีร์จากไทย พุทธในลังกา เรียกว่า สยามวงศ์)  เราก็เลยเรียกพุทธของเราว่า ลังกาวงศ์ แท้จริงคือของเราแต่ก่อน


มาถึงรัชกาลที่ 4 ท่านทรงเล็งเห็นแล้วว่า ศาสนามีความเสื่อมมาก ท่านเลยตั้งธรรมยุตินิกายขึ้น เพื่อให้พระที่เคร่งวินัย ไฝ่ปฏิบัติธรรม ได้มีพื้นที่ในการบำเพ็ญเพียร ช่วงนี้เป็นเหตุการณ์สำคัญในเมืองไทย ที่เกิดครูบาอาจารย์องค์สำคัญขึ้นคือ หลวงปู่มั่น ท่านเป็นผู้มีคุณุปการต่อศาสนามาก ที่ปลุกการปฏิบัติธรรมให้กว้างขวางขึ้นในเมืองไทยอีกครั้ง ถ้าเราสังเกตจะพบว่า ก่อนหน้าหลวงปู่มั่น เราสืบค้นไม่พบชื่อเสียงของพบวิปัสสนาจารย์องค์ใดเลย มีแต่พระที่เป็นเกจิในด้านอิทธิฤทธิ์ และเครื่องรางของขลัง
    หลวงปู่มั่นท่านเก่งมากๆ สามารถสอนศิษยานุศิษย์จนเป็นครูบาอาจารย์คนสำคัญของเมืองไทยมาอีกหลายองค์ การปฏิบัตธรรมจึงเฟื่องฟูมาก  ประกอบกับมีเทคนิคในสายอื่นๆ เช่น ยุบหนอพองหนอ มาแพร่หลายอีก ล้วนแต่เป็นเทคนิคในการฝึกสมาธิในรูปแบบทั้งนั้น

    ตรงนี้เอง คืออิทธิพลที่ทำให้ พอเอ่ยคำว่าปฏิบัติธรรม ภาพคนนั่งขัดสมาธิดังกล่าวจึงปรากฏขึ้นในมโนสัญญา คือการฝึกสมาธิ (มีต่อครับ)

ปล. มีข้อความที่ผมเขียนไม่เคลียร์ ได้ชี้แจงไว้ที่ คห 19 แล้วนะครับ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่