สวัสดีค่ะ เนื่องจากปีที่แล้วไปเที่ยวโซลหน้าหนาวแล้วพบว่าไม่ค่อยมีกระทู้โซลหน้าหนาวเท่าไหร่ เลยมาลงรีวิวย้อนหลังเผื่อเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อยสำหรับคนที่กำลังหาข้อมูลหรือตัดสินใจ
เรากับน้อง ไปเกาหลีเป็นครั้งแรกทั้งสองคน เดินทางคืนวันที่ 26 ธันวา 2014 กลับวันที่ 4 มกรา 2015 อากาศตอนนั้นติดลบต่ำสุดที่เจอ -9 องศา
เสื้อผ้า เราใส่ฮีทเทค เสื้อแขนยาว เลกกิ้ง ทับด้วยกางเกง/กระโปรงแล้วแต่ แล้วก็ตามด้วยโค้ทยาว แล้วก็ถุงเท้า ผ้าพันคอ ไม่ค่อยใส่หมวกกับถุงมือกัน แต่จะมีถุงร้อนไว้ในกระเป๋าเสื้อโค้ทตลอด ใส่ในรองเท้าบ้างแล้วแต่วัน การที่ทำให้มือกับเท้าอุ่นตลอดช่วยได้เยอะเลยค่ะ แล้วก็ขึ้นอยู่กับสถานที่ที่ไปด้วยถ้าเริ่มออกนอกเมืองจะรู้สึกว่าหนาวกว่าในเมือง แต่บนรถไฟหรือตามตึกส่วนใหญ่จะเปิดฮีทเตอร์แรงมาก ก็ต้องเตรียมเสื้อผ้าให้เหมาะกับสถานที่แต่ละวันด้วย
ก่อนเดินทางเราก็แสกนพาสปอร์ตไว้ในโทรศัพท์ ปริ้นต์ใบจองที่พัก, E-Ticket ตั๋วเครื่องบิน ปริ้นต์แพลนที่วางไว้ แยกกันเก็บ เผื่อหายหรือเผื่อต้องใช้
สายการบิน
สายการบินที่เราจองคือ เจจูแอร์ สายการบินโลวคอสของประเทศเกาหลี ซื้อในงานท่องเที่ยวตอนเดือนสิงหา ไปกลับประมาณ 14,000 บาท น้ำหนักกระเป๋าโหลดได้ 15 กก. กระเป๋านำขึ้นเครื่องได้อีก 7 กก. ที่นั่งเป็นแบบ 3-3 สำหรับเราคือแคบที่สุดเท่าที่เคยนั่งมา เพราะมันแคบกว่าหางแดงพอสมควร ใช้เวลาบิน 6 ชม. บนเครื่องมีน้ำเปล่าบริการฟรี
เที่ยวบินไปกลับมีให้เลือกไปกลับวันละ 2 เที่ยวบิน ไฟล์ทขาไปบินเที่ยงคืนถึงตีหนึ่งไปถึงเช้าพอดี ขากลับก็ไฟล์ทดึกถึงสุวรรณภูมิห้าทุ่ม-เที่ยงคืน เวลาดีทีเดียว
ตอนจองในงาน พนักงานที่บูทน่ารักมาก ให้เลือกที่นั่งได้ แนะนำด้วยว่าขาไปควรนั่งฝั่งขวาจะได้เห็นพระอาทิตย์ขึ้นพอดี พอเลือกที่นั่ง กรอกข้อมูล จ่ายเงิน ก็จะได้เหมือนใบเสร็จ รอประมาณ 3 วัน ก็ได้รับ E-Ticket ทางอีเมล์
*ก็ทั้งเซฟทั้งปริ้นท์ E-Ticket ไปด้วยเพื่อความปลอดภัยทั้งตอนผ่านตม. ทั้งตอนเช็คอินขากลับ*
ขากลับ (ที่ได้รับบทเรียนราคาแพง) ขอยกไปพูดตอนท้ายนะคะ เรื่องมันยาวพอสมควร ==”
พอลงเครื่องที่สนามบินอินชอน ก็ประมาณเก้าโมงเช้า ก็แวะห้องน้ำแล้วก็ขึ้นรถไฟไปเทอร์มินัลเพื่อผ่านตม. ตอนต่อแถว ให้น้องไปก่อน ไม่มีปัญหาอะไร แปบเดียวผ่าน คือกรอกข้อมูลครบ ที่พัก ที่อยู่ เบอร์โทรที่พัก จำนวนวัน และที่สำคัญปกพาสปอร์ตน้องเป็นวงเคป๊อบก็เลยคิดว่ามีส่วนช่วยมากๆ ส่วนของเรามีปัญหาเล็กน้อย ไม่ได้ใส่อาชีพว่า Employee ตม.สะดุดตาหันมาถาม ละเราก็งงๆ ก็โต้ตอบกันสักพัก เค้าก็ถามว่าทำอะไรบ้างก็อธิบายไป เค้าก็ชี้ไปที่น้องถามว่ามาด้วยกันใช่ไหม แล้วสุดท้ายก็ปั๊มให้
พอผ่านตม.ออกมารับกระเป๋า แล้วก็เดินออกมาเรื่อยๆ จนถึงชั้นล่าง เพื่อขึ้นรถไฟฟ้าไปที่พักค่ะ โปรแกรมเที่ยวของเราจะเน้นขึ้นรถไฟฟ้าซะส่วนใหญ่บัตร T-Money จึงสำคัญมาก เราได้มาฟรี เรียกว่าบัตร cashbee ใช้ได้เหมือนบัตรทีมันนี่เลย ในบัตรมีเงินให้อีก 10,000 วอน ไปรับที่ อสท.เกาหลี ตึกอินเตอร์เชนจ์ อโศก เค้ามีไกด์บุคสถานที่ต่างๆ มีแผนที่ คูปองส่วนลดพวกดิวตี้ฟรีหรือร้านต่างๆค่ะ รายละเอียดในการไปรับบัตร >>>
http://kto.or.th/come-to-korea-for-the-latest-trends-and-more-2015/
ปกติเงินจะตัดจากบัตรตอนแตะออกสถานีปลายทาง ขั้นต่ำคือ 1,250 วอน ขึ้นอยู่กับเปลี่ยนสายหรือระยะทางที่ไปด้วย แต่ AREX รถไฟด่วนจากสนามบินแบบธรรมดาจะคิดตามสถานี 3,750 - 4,150 วอน แบบ express จอดปลายทางทีเดียวที่โซล สเตชั่น ราคาหมื่นกว่าวอน ที่พักเราอยู่สถานี Hongik university เป็นทางผ่านของ AREX พอดีเลยสะดวกพอสมควร
[CR] โซลหน้าหนาว โซลสีขาวหรือสีเทา [ธันวา-มกรา]
เรากับน้อง ไปเกาหลีเป็นครั้งแรกทั้งสองคน เดินทางคืนวันที่ 26 ธันวา 2014 กลับวันที่ 4 มกรา 2015 อากาศตอนนั้นติดลบต่ำสุดที่เจอ -9 องศา
เสื้อผ้า เราใส่ฮีทเทค เสื้อแขนยาว เลกกิ้ง ทับด้วยกางเกง/กระโปรงแล้วแต่ แล้วก็ตามด้วยโค้ทยาว แล้วก็ถุงเท้า ผ้าพันคอ ไม่ค่อยใส่หมวกกับถุงมือกัน แต่จะมีถุงร้อนไว้ในกระเป๋าเสื้อโค้ทตลอด ใส่ในรองเท้าบ้างแล้วแต่วัน การที่ทำให้มือกับเท้าอุ่นตลอดช่วยได้เยอะเลยค่ะ แล้วก็ขึ้นอยู่กับสถานที่ที่ไปด้วยถ้าเริ่มออกนอกเมืองจะรู้สึกว่าหนาวกว่าในเมือง แต่บนรถไฟหรือตามตึกส่วนใหญ่จะเปิดฮีทเตอร์แรงมาก ก็ต้องเตรียมเสื้อผ้าให้เหมาะกับสถานที่แต่ละวันด้วย
ก่อนเดินทางเราก็แสกนพาสปอร์ตไว้ในโทรศัพท์ ปริ้นต์ใบจองที่พัก, E-Ticket ตั๋วเครื่องบิน ปริ้นต์แพลนที่วางไว้ แยกกันเก็บ เผื่อหายหรือเผื่อต้องใช้
สายการบิน
สายการบินที่เราจองคือ เจจูแอร์ สายการบินโลวคอสของประเทศเกาหลี ซื้อในงานท่องเที่ยวตอนเดือนสิงหา ไปกลับประมาณ 14,000 บาท น้ำหนักกระเป๋าโหลดได้ 15 กก. กระเป๋านำขึ้นเครื่องได้อีก 7 กก. ที่นั่งเป็นแบบ 3-3 สำหรับเราคือแคบที่สุดเท่าที่เคยนั่งมา เพราะมันแคบกว่าหางแดงพอสมควร ใช้เวลาบิน 6 ชม. บนเครื่องมีน้ำเปล่าบริการฟรี
เที่ยวบินไปกลับมีให้เลือกไปกลับวันละ 2 เที่ยวบิน ไฟล์ทขาไปบินเที่ยงคืนถึงตีหนึ่งไปถึงเช้าพอดี ขากลับก็ไฟล์ทดึกถึงสุวรรณภูมิห้าทุ่ม-เที่ยงคืน เวลาดีทีเดียว
ตอนจองในงาน พนักงานที่บูทน่ารักมาก ให้เลือกที่นั่งได้ แนะนำด้วยว่าขาไปควรนั่งฝั่งขวาจะได้เห็นพระอาทิตย์ขึ้นพอดี พอเลือกที่นั่ง กรอกข้อมูล จ่ายเงิน ก็จะได้เหมือนใบเสร็จ รอประมาณ 3 วัน ก็ได้รับ E-Ticket ทางอีเมล์
*ก็ทั้งเซฟทั้งปริ้นท์ E-Ticket ไปด้วยเพื่อความปลอดภัยทั้งตอนผ่านตม. ทั้งตอนเช็คอินขากลับ*
ขากลับ (ที่ได้รับบทเรียนราคาแพง) ขอยกไปพูดตอนท้ายนะคะ เรื่องมันยาวพอสมควร ==”
พอลงเครื่องที่สนามบินอินชอน ก็ประมาณเก้าโมงเช้า ก็แวะห้องน้ำแล้วก็ขึ้นรถไฟไปเทอร์มินัลเพื่อผ่านตม. ตอนต่อแถว ให้น้องไปก่อน ไม่มีปัญหาอะไร แปบเดียวผ่าน คือกรอกข้อมูลครบ ที่พัก ที่อยู่ เบอร์โทรที่พัก จำนวนวัน และที่สำคัญปกพาสปอร์ตน้องเป็นวงเคป๊อบก็เลยคิดว่ามีส่วนช่วยมากๆ ส่วนของเรามีปัญหาเล็กน้อย ไม่ได้ใส่อาชีพว่า Employee ตม.สะดุดตาหันมาถาม ละเราก็งงๆ ก็โต้ตอบกันสักพัก เค้าก็ถามว่าทำอะไรบ้างก็อธิบายไป เค้าก็ชี้ไปที่น้องถามว่ามาด้วยกันใช่ไหม แล้วสุดท้ายก็ปั๊มให้
พอผ่านตม.ออกมารับกระเป๋า แล้วก็เดินออกมาเรื่อยๆ จนถึงชั้นล่าง เพื่อขึ้นรถไฟฟ้าไปที่พักค่ะ โปรแกรมเที่ยวของเราจะเน้นขึ้นรถไฟฟ้าซะส่วนใหญ่บัตร T-Money จึงสำคัญมาก เราได้มาฟรี เรียกว่าบัตร cashbee ใช้ได้เหมือนบัตรทีมันนี่เลย ในบัตรมีเงินให้อีก 10,000 วอน ไปรับที่ อสท.เกาหลี ตึกอินเตอร์เชนจ์ อโศก เค้ามีไกด์บุคสถานที่ต่างๆ มีแผนที่ คูปองส่วนลดพวกดิวตี้ฟรีหรือร้านต่างๆค่ะ รายละเอียดในการไปรับบัตร >>> http://kto.or.th/come-to-korea-for-the-latest-trends-and-more-2015/
ปกติเงินจะตัดจากบัตรตอนแตะออกสถานีปลายทาง ขั้นต่ำคือ 1,250 วอน ขึ้นอยู่กับเปลี่ยนสายหรือระยะทางที่ไปด้วย แต่ AREX รถไฟด่วนจากสนามบินแบบธรรมดาจะคิดตามสถานี 3,750 - 4,150 วอน แบบ express จอดปลายทางทีเดียวที่โซล สเตชั่น ราคาหมื่นกว่าวอน ที่พักเราอยู่สถานี Hongik university เป็นทางผ่านของ AREX พอดีเลยสะดวกพอสมควร
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น