สวัสดีครับ นี่เป็นกระทู้แรกของผมเลยครับ อยากลองรีวิวกับเค้าดูซักที

ผมชื่อนุ้ยครับ เดี๋ยวนี้อายุก็ 30 นิดๆ  ก่อนหน้านี้ก็ไม่มีปัญหาอะไรมากมายครับ ใช้ชีวิตปกติ แต่พอเข้าสู่ช่วงวัยรุ่น ตอนปลาย ปัญหาบางอย่างก็เริ่มก่อตัวครับ
ปัญหานั้นก็คือ หน้าผากครับ ที่มันเริ่มกว้างขึ้นเรื่อยๆ กว้างมากกว่าปกติจริงๆนะครับ บางทีเดินมา แล้วลมพัดนี่ เพื่อนที่สนิทกันยังทักเลย ว่าเว้ามากกกกก รวมทั้งโดนแซวตลอดว่าเป็นขุนช้าง!!  
จะไม่ขุนช้างได้ไง
นี่คือ รูป เมื่อ 1 ปีที่แล้วครับผม

ก่อนนี้ก็ลองมาหลายอย่างครับที่เค้าว่าดี ทั้งแชมพู ทรีทเม้น อะไรต่างๆ แต่ก็เหมือนเดิมครับ บางครั้งเปลี่ยนแชมพู ดันร่วงเยอะกว่าเดิมซะอีก ช้ำใจสุดๆ
ก็เลยต้องไว้ผมปิดหน้าผากมาตลอดครับ  หรือแก้ปัญหาโดยการใส่หมวก ซึ่งหลังๆ รูปที่ถ่ายนี่ จะใส่หมวกตลอดเลย ก็มันอายหัวล้านนี่ครับ

ซึ่งบางทีเป็นปัญหากับบุคลิกภาพมาก เพราะเมื่อถอดหมวกในที่ร่ม ผมก็แบนลีบ แหวกเป็นร่องทะเลแหวก จึงยอมแม้กระทั่งใส่หมวกในที่ร่ม ด้วยความไม่มั่นใจ

แต่ก็ไม่วายโดนแซวครับ แม้กระทั่งในงานแต่งเพื่อน


จนกระทั่ง ได้มีโอกาสทราบถึงข้อมูลในการปลูกผมครับ ผ่านทางโครงการทำดีดูดี ที่ทำให้ได้ปลูกผมฟรีครับ ผมก็ลองเขียนบทความส่งไปประกวดดู ซึ่งปรากฎว่า ผ่านเข้ารอบ และได้รางวัลชนะเลิศมาครับ



แว้บแรกเลย บอกตรงๆมันหลายความรู้สึกมากครับผม
มันดีใจ ปน เหวอๆ เพราะไม่เคยผ่าตัดมาก่อน อย่าว่าแต่ปลูกผมเลยครับ ผ่าฟันคุด ผมยังไม่กล้าเลย ให้ตายเถอะ นี่ต้องมาผ่าตัดปลูกผมเนี่ยนะ!!

เลยหาข้อมูลซะยกใหญ่ครับ ก็เลยรู้ว่า ไอ้ผมด้านหน้าที่ร่วงๆ จนโล่งไปแล้วนั้น มันไม่ไม่สามารถงอกขึ้นใหม่ได้เลยครับ เพราะมันเป็นผลจาก ฮอร์โมน และ พันธุกรรม ที่รักษากันส่วนใหญ่ ได้แต่กินหรือทายา ให้ผมที่มีอยู่มันไม่ร่วงหายไปไหน
ซี่งการที่เราอยากจะได้ผมจริงมาเติมเต็มพื้นที่โล่งๆที่ร่วงไปหมดแล้ว จะต้องปลูกเอาสถานเดียวครับ


หลังจากที่หาข้อมูลพอประมาณแล้ว เลยตัดสินใจเข้าไปคุยกับคุณหมอที่คลีนิค

หลังจากคุยกับคุณหมอ (มารู้ทีหลังว่าคุณหมอฐิติวัฒน์ เป็นสมาชิกสมาคมปลูกผมโลกด้วยนะ จัดประชุมอัพเดททุกๆปี  เจ๋งโคตร!)  ก็ทำให้ได้รับความรู้มากขึ้นเกี่ยวกับการปลูกผม โดยเทคนิคที่ผมจะใช้ในการปลูกก็คือ FUT
สังเกตนะครับ ว่า เวลาคนเราหัวล้านผมร่วง ผมตรงท้ายทอย จะไม่หลุดร่วง หรือไม่ก็หลุดร่วงเป็นชุดสุดท้าย

การปลูกผมโดยเทคนิค FUT คือการเอาผมตรงท้ายทอยนี่แหละ มาปลูกที่ด้านหน้าครับในเคสของผมโดยจะใช้ทั้งหมด 4200 กราฟที่ความหนาแน่น 40%
หน่วยที่เรียกว่ากราฟ ก็คือ 1 รากผมนั่นเอง โดย 1 ราก อาจจะมีผม 1-4 เส้น เท่าที่ฟังคุณหมอสำหรับการย้ายเซลล์ผมจะมีการแยกด้วย ว่า กราฟเดี่ยว คือ กราฟที่มีผม 1 เส้น และแยกกราฟที่มีผมหลายเส้น จัดกลุ่มไว้ด้วยกัน เพื่อ นำเอา กราฟเดี่ยว วางแนวมาไว้ด้านหน้าแถบๆ แนวตีนผมที่เพิ่มขึ้นมา และ กราฟที่มีหลายเส้น ไปไว้ด้านใน ใกล้ๆกับผมเดิม เพื่อให้ได้ผลที่เป็นธรรมชาติ รวมทั้งมีการวัดแนวความเอียงของผม ให้เป็นธรรมชาติมากที่สุด

มีการวัดแนวผมไว้ก่อน เพื่อให้ดูว่า แนวผมที่ได้จะเป็นอย่างไร  ตามสัดส่วนของรูปหน้าที่เหมาะสม ดูแล้วเหมือนอยู่ในหนังวิทยาศาสตร์เลยแฮะ




มีความมั่นใจมากขึ้น ดูจากแนวผมแล้ว คิดเอาเองว่าทำแล้วต้องดูดีแน่ๆ เลยจัดการนัดวันผ่าตัดเลยครับ เอาวะ! เป็นไงเป็นกัน



คืนก่อนผ่าตัด นอนไม่หลับจ้าาาาา ตื่นเต้นสุดๆ เช้ามาเลยตื่นสายครับ จากความตื่นเต้น กลายเป็นความลนลาน เพราะกลัวว่า คุณหมอ และ พยาบาลจะมารอนาน แต่ก็มาถึงจนได้ครับ



เมื่อมาถึง ก็จัดการกินยา กินข้าว เจาะเลือด(รู้ผลตอนนั้นเลยนะ!!) เปลี่ยนชุด แล้วก็เข้ามาที่ห้องผ่าตัดครับ โอ้วว แม่เจ้า ทีมงานเกือบสิบคน กล้องจุลทรรศวางเรียงกันเป็นตับ ดูยิ่งใหญ่อลังการงานสร้างมาก ทำให้อุ่นใจได้ประมาณนึง

ทีมคุณ หมอ พยาบาล ก็น่ารักครับ พูดเล่นหยอกล้อกันได้ ทำให้คลายความกังวลลงไปอีกเยอะ
แต่ด้วย ฤทธิ์ ของเจ้า ยานอนหลับนี่ ทำเอามึนเลยทีเดียวครับ มีรู้สึกตอนฉีดยาชาด้านหลังเข็มแรกๆ จิ๊ดๆ หน่อย หลังจากนั้นก็ไม่รู้สึกอะไรแล้วครับ
รู้สึกว่าเค้าจะ ระดมฉีดเป็น สิบๆเข็มได้มั๊งครับ แต่ก็ไม่เป็นไร เพราะหัวผมมันเย็นชาไปเรียบร้อยแล้ว
ระหว่างที่กึ่งหลับ กึ่งตื่นอยู่นั้น ก็มีการพักไปกินข้าว แล้วก็มาผ่าตัดต่อ

มารู้ทีหลังว่า ผมกินไปสองมื้อ แต่ผมจำได้มื้อเดียวเอง จริงๆนะ คงอยู่ในสภาพเบลอมากๆ เพราะฤทธิ์ยานอนหลับ

แต่ก็ผ่านไปได้ด้วยดีครับ ผ่าตัดเสร็จ ราวๆ 3 ทุ่ม ตื่นขึ้นมาพร้อมกับแนวผมใหม่ เป็นตอๆ แดงๆ คุณหมอ แถมให้ เป็น 4500 กราฟ เพราะ พื้นที่ด้านหน้ามันเยอะมากกกกก


คืนนั้นกลับมานอน ต้องนอนหัวสูงครับ ประคองเอาไว้ ไม่ให้รากผมหลุด ก็ผ่านไปได้ด้วยดี ไม่เจ็บอะไรตอนนั้นลาหยุดด้วยครับ พักอยู่บ้าน

วันรุ่งขึ้นก็ไปหาคุณหมอครับ ไปขอคำแนะนำเรื่องการสระผมและทานยา

พอผ่านไปคืนที่ 3 ที่ยาชาหมดฤทธิ์ เท่านั้นแหละครับ
แผลด้านหลังนี่ ออกอาการปวดเลยครับ โดยเฉพาะเวลานอนราบตรง ถ้านอนราบกดทับแผลผ่าตัดด้านหลังนี่จะปวดเลยครับ จำเป็นที่จะต้องนั่งเก้าอี้แบบเอนนอนได้แทน

ส่วนวันที่สี่ หน้าผมนี่บวมเลยครับ

เรื่องการสระผมก็เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่ต้องระวังนะครับในช่วงแรกๆที่กราฟยังไม่ติดดี ผมต้องให้แม่มาช่วยสระครับ บวกกับอาการปวดในวันที่ 5 หลังปลูกนี่ เป็นช่วงวัดใจที่มิรู้ลืมจริงๆครับ

ประมาณ 2 สัปดาห์ หลังปลูก ก็ไปตัดไหมตามที่เรานัดกับคุณหมอ ช่วงนี่ก็เริ่มมีสะเก็ดขาวๆ อยู่ทั่วไปตามผมที่ปลูกครับ

1 เดือนหลังปลูกผม ผมที่ปลูกจะร่วงเยอะมากครับ จนเกือบหมด ซึ่งในช่วงนี้จะมีข้อควรปฎิบัติต่างๆ เช่น ห้ามยกของหนัก ห้ามออกกำลังกายหนัก กินเต็มที่(เน้นโปรตีน) นอนเต็มที่ ทำให้อ้วนขึ้นมากๆเลยครับ


2 เดือนหลังปลูกผม เส้นผมจะเริ่มยาวขึ้นแบบหลอมแหลมครับ ขนในส่วนอื่นๆก็ขึ้นเยอะขึ้น อาจเป็นเพราะยา Minoxidil และ Finalteride ที่เรากินอยู่น่ะครับ


3 เดือนหลังปลูกผม ผมเริ่มยาวขึ้นเป็นแนวผมชัดเจน อาการชากลางหัวเริ่มหายไปครับ


4 เดือนหลังปลูกผม แนวผมปลูก เริ่มเข้ากันกับผมเดิมครับ ดูดีขึ้นเลยทีเดียว


5 เดือน หลังปลูกผม ผมที่งอกใหม่ ดูเป็นธรรมชาติยิ่งขึ้นครับ


6 เดือนหลังปลูกผม ผมยาวออกมากขึ้นครับ ต้องตัดอยู่เรื่อยๆเพื่อให้เป็นทรงที่ดูดี


7 เดือนหลังปลูกผม ยังคงมีอาการชาอยู่ครับ เวลาที่ดื่มแอลกอฮอล์ จะรู้สึกเสียวๆบริเวณที่ปลุกผมนิดหน่อย ผมยาวขึ้นหนาขึ้น


8 เดือน หลังปลูกผม  ดูความยาวผมนะครับ ในคลิบผมก็บ่นอะไรเกี่ยวกับหวีไปเรื่อย ฮ่าๆ


เดี๋ยวนี้ ผ่านไป 9 เดือน พอมีผมด้านหน้าแล้ว ความมั่นใจเพิ่มขึ้นอีกเยอะ ไว้ผม เสยผม ไปไหนไม่ต้องกลัวลมพัดเหมือนเมื่อก่อน

แต่เราต้องดูแลร่างกายตัวเอง ทานอาหารที่มีประโยชน์ พักผ่อนให้เพียงพอเพราะทุกอย่างมันมีผลต่อการงอกของผมหมดเลย คุณหมอบอกว่า คุณหมอ ช่วยได้แค่ ครึ่งหนึ่ง ส่วนอีกครึ่ง เราจะต้องรู้จักดูแลตัวเองด้วย มันถึงจะได้ผล

แล้วทีนี้เมื่อเรา ใส่ในกับสุขภาพตัวเองมากขึ้น เวลาทำกิจกรรมอะไรหนักๆ หรือต้องนอนดึก หรือเพื่อนชวนไปดื่ม เราก็ดื่มแต่น้อย นอนให้เร็ว ออกกำลังกาย ซึ่งนั่นก็ทำให้ด้านสุขภาพอื่นๆ ทั้งผิวพรรณ์ รูปร่าง และหน้าตาทุกอย่างดูดีขึ้น จนคนรอบข้างทักเลยเชียวแหละครับ

และสุขภาพที่ดีนี่เอง ส่งผลต่อจิตใจมากๆ ทำให้เรากล้ามากขึ้น ริเริ่มโครงการอะไรใหม่ๆมากขึ้น เพราะทั้งมั่นใจมากขึ้นที่จะก้าวเดินตามความฝันของตัวเอง

ต้องของคุณโครงการดีๆแบบนี้จริงๆ และขอบคุณคุณหมอและมีงานมา ณ ที่นี้ด้วยครับ

สำหรับใครที่คิดอยากจะปลูกผม อย่าได้กลัวเลยครับ ถ้ามันทำให้คุณมั่นใจมากขึ้น แต่ขอให้ศึกษาอย่างละเอียดครับ เพราะการปลูกผม ไม่เหมือนการศัลยกรรมอย่างอื่น เช่นถ้าคุณไปเสริมจมูก แล้วเบี้ยว การแก้ไข ยังมีอะไหล่เปลี่ยน แต่การปลูกผม ที่คุณไปปลูกแล้วไม่ขึ้น หรือที่ร้ายกว่าคือขึ้นแบบผิดแนวผม ที่ต้องแก้โดยการถอนรากนั้นขึ้นมา แล้วถอนจากที่อื่นแล้วปลูกมาลงไปใหม่   เซลล์ผม เป็นเซลล์ที่หมดแล้ว หมดเลยนะครับไม่มีเปลี่ยนเพิ่มแล้ว  ดังนั้นแล้วอยากจะให้ศึกษาให้ดีครับ   เลือกคุณหมอ หรือคลีนิคที่มีประสบการณ์ มีตัวอย่างให้เห็นชัดเจน(ดูดีๆนะครับ ผมเคยเห็นหัวเพื่อนคนหนึ่งที่ปลูกผมมา เอาไปโดนแอบอ้างโดยคลีนิคอื่น)

ส่วนผม รู้สึกมีความสุขมากครับ ที่ได้เปลี่ยนแปลงตัวเอง ซึ่งมันมีผลหมดเลยทั้งร่างกายและจิตใจ มีความกล้ามากขึ้น และหวังว่าประสบการณ์ของผมที่ผ่านมา จะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆที่คิดอยากจะปลูกผม เพื่อเปลี่ยนแปลงชีวิตต่อไปนะครับ


ขอบคุณที่อ่านมาถึงตรงนี้นะครับ


ปล. สุดท้ายนี้ผมมีวีดีโอมาฝากนะครับ ที่ผมทำไว้ตั้งแต่ปลูกผมครั้งแรกจนถึงเมื่อประมาณ 6 เดือนที่แล้วครับ