บทเรียนราคาแพง กับการเลี้ยงลูกนกตกจากรัง

สวัสดีค่ะ เราขอแชร์ประสบการณ์ และอุธาหรจากการเลี้ยงลูกนกที่ตกลงมาจากรัง นะคะ เพราะข้อมูลในอินเตอร์เน็ตก็มีอยู่เยอะ ถูกบ้างผิดบ้าง
เราจึงอยากเล่าจากประสบการณ์ตรงของเราไว้ เผื่อจะเป็นประโยชน์บ้าง

เมื่อวันที่14 พย. เราไปงานรับปริญญาที่เอแบคกับแฟน อยู่ดีๆก็มีลูกนกมายืนอยู่ตรงคอแฟนเราตอนไหนไม่รู้ค่ะ ขนเริ่มขึ้นแล้ว กระโดดโผระยะใกล้สักคืบนึงได้

เรากับแฟนเดินหารังลูกนกเผื่อจะเจอ แต่บริเวณนั้นเป็นต้นไม้สูงมาก ไม่รู้ว่ามองไม่เห็นหรือว่ารังนกไม่ได้อยู่แถวนั้น แต่ถ้าเจอรังก็คงปีนขึ้นไปไม่ได้อยู่ดีเพราะต้นไม้เป็นแบบสูงฉรูดไม่มีกิ่งก้านให้ปีนเลย
เราจึงตัดสินใจนำลูกนกกลับมาดูแลเอง เพราะถ้าปล่อยไว้บนพื้นแถวนั้น ยังงัยก็ตายแน่นอน
ระหว่างที่ยังไม่เสร็จธุระจากที่เอแบค เราไปซื้อข้าวโพดตรงเซเว่นมาบดป้อนเพราะกลัวนกหิว ลูกนกก็ดูจะกินได้ดี แต่ติดตรงที่มันชิ้นใหญ่ แอบกลัวนกติดคอ
เราลองหาข้อมูลในเน็ตดู เค้าบอกให้ใช้อาหารแมวหรืออาหารสุนัขแช่น้ำให้นกกินได้ แต่วันนั้นไม่ได้กลับบ้านด้วย เลยไปร้านขายยาซื้อซีลีแลคกับสลิงมาป้อน เภสัชกรบอกว่าใช้ให้อาหารนกได้
จริงๆเราเคยเลี้ยงนกแก้ว ร้านที่ที่ซื้อนกมาตอนนั้นเค้าบอกให้ใช้ซีลีแลคป้อน ซึ่งนกแก้วเราตอนนั้นก็เลี้ยงจนโต เราจึงคิดว่าไม่น่ามีปัญหา
เราเลี้ยงไว้ในกล่องที่มีรูระบายอากาศ แง้มฝาไว้นิดเดียวเพราะกลัวนกหนาว พยายามดูบ่อยๆเวลานกตื่นลองยื่นซีลีแลคให้ถ้านกหิวก็จะอ้าปากขอ

พอนกกินเข้าไปตรงถุงลมข้างๆคอจะป่องขึ้นนิดนึง ตรงนั้นเป็นจุดพักอาหาร ตอนแรกก็ตกใจว่าทำมัยมันพองจัง จากเย็นวันที่14ที่เจอนก เราก็ป้อนอาหารเอง หรือเวลาเราไม่อยู่ก็ฝากพ่อดู และกำชับว่าคอยดูให้ด้วย ป้อนอาหารบ่อยๆ เพราะเราต้องออกไปทำงาน และไม่ค่อยอยู่บ้าน
ทุกอย่างดูปกติดี เราคิดว่าอีกสักเดือนนกน่าจะบินได้แล้ว เราจะไปหาฝูงนกพันธ์นี้ที่ไหนนะให้ ไอ้เจ้านี่ไปรวมฝูงด้วยได้ แต่ความฝันของเราก็ต้องหยุดลง

เช้าวันที่18 เนื่องจากเราฝากพ่อดู วันนั้นเราลงจากห้องมาตอนเที่ยง แต่พ่อเราลืมให้อาหารเพราะต้องดูแลหลานและน้องนกไม่ส่งเสียงเรียกเหมือนเคย เราจึงรีบเอานกมาดูเอง นกมีอาการผิดปกติคือกินน้อยมากๆ และดูเพลีย พอสักบ่าย3 ก็ยังกินน้อย ที่สำคัญไม่ส่งเสียงร้องเลย และมีอาการถ่ายเป็นสีดำๆ ประมาณ2ครั้ง เราก็ลองหาข้อมูลดูว่าเป็นอะไร บางคนบอกว่าเป็นลำไส้อักเสบ บางคนบอกว่า ท้องเสีย เรารอดูอาการเห็นน้องนกถ่ายเป็นสีปกติแล้ว ก็วางใจ ซึ่งมันเป็นสิ่งที่เรามาย้อนคิดกี่ที่ก็โกรธตัวเอง
พอ6โมงเย็นนกเริ่มมีอาการแย่มากกกก ไม่มีแรงยืน ขาเกร็ง เรากับแฟนขับรถพาไปหาหมอทันทีกะจะไปหาตรงที่เคยพาหมาไปหา แต่มันดันเป็นเวลารถติดมากๆๆ ระหว่างทางเห็นคลินิกสัตว์ที่นึงจึงโทรไปถามว่ารักษานกได้ไหม เค้าบอกให้เข้าไปดูไม่ถนัดแต่เบื้องต้นพอได้ ตอนนั้นอาการนกร่อแรมาก มีวืบนึงคิดว่าน้องนกไปแล้ว ตัวแข็ง นอนตะแคง คือเราร้องไห้ถอดใจแล้วว่าไม่รอดแน่ๆ พอเข้าไปที่คลินิกที่ขับผ่าน คุณหมอตรวจแล้วบอกว่านกผอมมาก จึงให้น้ำเกลือทางผิวหนัง และป้อนกลูโค้สให้นกมีแรง พร้อมกับเอาหลอดไฟสีส้มมากกให้ความอบอุ่น น้องนกดูดีขึ้นค่ะ!! ยืนได้ ตาแป๋ว คุณหมอที่คลินิก petto  บอกว่าท่านก็เคยเก็บลูกนกมาเลี้ยง จนโตก็ไปปล่อยที่สวนหลวง เราก็หวังในใจว่าเราจะสามารถพาเจ้านกตัวนี้รอดไปถึงวันนั้นได้
คุณหมอใจดีมาก ให้การช่วยเหลือเบื้องต้น ให้น้ำเกลือ ป้อนกลูโคส กกไฟ จนน้องนกดูดีขึ้น จากที่พะงาบๆ และแนะนำให้พาไปคลีนิก Premier หลัง Paradise ซึ่งชำนาญเรื่องนก และสัตว์แปลกๆ เพราะคลีนิกปกติจะรักษาสุนัขและแมวมากกว่า
ตอนนั้น2ทุ่ม เรารีบไปทิ่ Premier ทันทีเพราะจะปิดประมาณ 3 ทุ่มแล้ว
คุณหมอแนะนำวิธีการดูแลที่ถูกต้องและเราก็เอากลับมาดูอาการต่อ แต่ก็บอกตรงๆ ว่าให้เผื่อใจไว้ เพราะลูกนกเป็นสัตว์เล็กและบอบบางมาก แม้มีสิ่งผิดปกติเพียงนิดเดียว อาจส่งผลกระทบอย่างมากต่อลูกนก และถ้าลูกนกที่เคยล้มแล้วทีนึงก็มักจะมีอาการดีขึ้นช่วงนึงก่อนที่ลูกนกจะเสีย
เราเอากลับมาบ้านพยายามดูแลอย่างดี ลูกนกเหมือนอาการจะดีอยู่ช่วงนึง กลืนอาหารเอง ประคลองตัวได้ กระพือปีกได้ เรามีความหวังว่าน้องจะกลับมาแข็งแรง เราสัญญาว่าจะใส่ใจน้องมากกว่านี้ จะดูแลน้องอย่างดี และหวังว่าจะมีปาฏิหาริย์
แต่แล้วน้องก็ค่อยๆอ่อนแรงลง และไม่สามารถพยุงตัวได้อีกต่อไป เราเฝ้าดูจน ตี 5  น้องนกก็จากไปอย่างสงบ เรารอไม่กล้าไปนอนเพราะเรารู้ว่าน้องกำลังจะไปแล้ว เราไม่อยากให้น้องไปอย่างเดียวดาย ในตอนนั้นเราทำได้แค่นี้จริงๆ นั่งร้องไห้ รับผลจากความผิดพลาดของตัวเอง ผิดที่ประมาทไม่พาน้องไปหาหมอตั้งแต่ตอนกลางวันและไม่ปรึกษาผู้รู้เพื่อเลี้ยงดูอย่างถูกต้องตั้งแต่แรก ผิดที่เชื่อมั่นในตัวเองมากเกินไปว่ามันเป็นเรื่องง่ายๆ เราทำได้อยู่แล้ว เป็นความผิดพลาดโง่ๆ ที่ต้องแลกกับ 1 ชีวิต...


เราหวังว่ากระทู้ของเราจะเตือนสติให้บางท่านไม่มาผิดพลาดซ้ำรอยแบบเรา ไม่ใช่แค่เรื่องการเลี้ยงลูกนก แต่ในทุกๆเรื่อง เราต้องใส่ใจ ไม่ประมาท และควรทำเต็มที่ให้ไม่ต้องมานั่งเสียใจที่หลัง เพราะเมื่อเราอยากแก้ตัว มันอาจจะไม่มีโอกาศเหลืออีกแล้ว

เราขอแชร์ข้อมูลการเลี้ยงนกที่ถูกต้อง (ตามที่คุณหมอ Premier ให้มานะคะ)
1. อาหาร - ลูกนกต้องการโปรตีนมาก ควรให้กิน อาหารแมวแช่นำ้ อาหารลูกนกม หนอนนก หรือธัญพืช ห้ามอาหารสุนัข ซีลีแลคเพราะมีแต่แป้งและไขมัน
2. เวลาอาหาร -กินทุก 2-3 ชั่วโมง เวลา 6โมงเช้า-ประมาณ2ทุ่ม เป็นเวลาตามธรรมชาติ ถ้าดึกๆนกยัง Active หรือหิวก็ป้อนได้
3. การป้อน- ใส่สลิงเล็กป้อน หรือพยายามฝึกให้ลูกนกกินเองจิกเองจากช้อน
4. น้ำ - ลูกนกส่วนมากจะได้นำ้จากอาการอยู่แล้ว ไม้ต้องป้อนก็ได้ แต่หากจะป้อน ควรให้นกจิบน้ำเอง ไม่บังคับให้กินเพราะอาจสำลักเข้าทางเดินหายใจได้
5. สถานที่ - เลี้ยงในห้องอุณภูมิปกติ อากาศถ่ายเท และ ต้อง * กกไฟ โดยเอาหลอกไฟส้ม กำลัง 40 วัตต์มาส่องให้ความอบอุ่น เพราะลูกนกยังไม่มีขนถ้าเจออุณภูมิต่ำร่างกายจะใช้พลังงานเยอะกว่าปกติมาก
6. ใส่ใจ - อันนี้เพิ่มเองค่ะ เราควรเลี้ยงและสังเกตุความผิดปกติต่างๆให้ดี การถ่ายปกติไหม เหลวไปไหม ปกติอึนกต้องสีเขียวและขาวปนกัน นกผอมไปไหม กินเยอะไหม

สุดท้ายนี้เราขอขอบพระคุณคุณหมอที่ คลินิก Petto อ่อนนุช  https://www.facebook.com/Pettoanimalhospital/ ที่ช่วยเหลือสุดความสามารถ และเอาใจใส่ชีวิตเล็กๆนี้ วันถัดมาคลินิกได้โทรมาถามอาการน้องด้วย เราจึงแจ้งไปว่าน้องเสียแล้ว
ขอบพระคุณคุณหมอที่ Premier ที่ให้ความรู้มากมาย
ขอบคุณแฟนเราที่เห็นด้วยกับการช่วยลูกนกมาเลี้ยง ช่วยขับรถพาไปหาหมอทันทีที่เราบอก เลื่อนนัดเพื่อน เพื่อพาน้องไปหาหมอที่ที่2 ไม่มองข้ามชีวิตของลูกนกตัวนี้ และพยายามกับเราจนถึงที่สุดเพื่อยื้อชีวิตของน้องไว้
ขอบคุณน้องนกที่เข้ามาสอนบทเรียนสำคัญนี้กับเรา และขอโทษที่มันต้องแลกกับชีวิตของน้อง เพียงเพราะเรายังทำมันไม่ดีพอ ขออโหสิกรรม เราจะทำบุญไปให้นะ

ปล.น้องนกเป็นนกกระติ๊ดนะคะ เหมือนกับที่เค้าจับมาใส่กรงให้คนปล่อยกันตามวัด เราอยากขอให้ทุกท่านเลิกการปล่อยนกเพราะมันเป็นการสนับสนุนให้มีนกตายไปเป็นจำนวนมากระหว่างโดนจับและขังเพื่อมาขายแลกกับบุญที่เราอยากได้กัน... ขอบพระคุณล่วงหน้าค่ะ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่