บอกตามตรงนะครับ เป็นครั้งแรกที่มาแชร์เรื่องราวอะไรแบบนี้ แต่พอเริ่มเซิทดู อ้าววว นี่ฉันไปอยู๋ไหนมา เรื่องเราวเหมือนเราเปะเลย
หลายกระทู้มาก ที่เกียวกับโดนพนักงานธนาคารกสิกรไทย สาขาหัวหมาก ผจก เลยแหละงานนี้ ผมจะเล่าเลยก็แล้วกันนะครับ เพราะเรื่องมันก็เหมือนกันหมดคือตอนขายบอกว่าเป็นการออม เรื่องมีอยู๋ว่าผมไปรีไฟแน๊นซ์บ้าน พอเข้าไปนังโต๊ะ แปปเดียวเองครับ ผจก ก็เข้ามานั่งประกบทันทีครับ ถามว่ามาทำอะไร ผมก็บอกมาขอรีไฟแน๊นซ์บ้าน ก็เอาเลยครับ ตอนนั้นพอดีแบงค์ใกล้ปิดพอดี ทุกอย่างดูเร่งรีบ ผจก ก็แนะนำผมว่าให้ทำตัวนี้นะ 99/9 แล้วเราจะดูดีมีพาวเวอร์มากเลย ผมก็ไม่รู้อะไรอ่ะครับ 99/9 พอผมถามไป ก็บอกว่ามันเป็นการทำประกันที่เป็นการออมได้ผบตอบแทนสูงกว่าเงินฝากประจำ อธิบายมาไม่เยอะครับแปปเดียว แล้วก็พยักหน้ากับ เจ้าหน้าที่ที่ผมไปนั่งที่โต๊ะด้วยว่าอ่ะตัวนี้แหละแล้วพูดทิ้งท้ายกับผมว่าเดี๋ยวจะมาอธิบายต่อ (แต่แล้วก็มาแต่ไม่ได้อธิบายอะไรเรื่องนั้น มาคุยเรื่องบ้านเรื่องหมาที่เลี้ยงกัน)พอลุกไปผมก็เห็นไปพูดแบบนี้กับอีกโต๊ะนึงเหมือนกัน แต่ผมก็ไม่ได้ใส่ใจอะไร ตอนนั้นมีการเสนอจะให้ผมอัฟเกรดบัตรเครดิตไปในตัว ซึ่งบอกตรงๆผมไม่ได้สนใจเพราะที่ผมมีอยู๋ก็วงเงินสูง200000อยู่แล้ว แต่เค้าก็จัดการให้หมด ก็ได้บัตรมาอีกใบวงเงินบัตรเพิ่มมาแค่ไม่กี่หมื่น วันนั้นผมก็เซนต์ไปเยอะแยะไปหมดบวกกับเจ้าหน้าที่บอกเดี่ยวไม่ทันแบงค์จะปิดแล้ว ก็รีบๆเซนต์ไป ผมไม่ได้กรอกอะไรเองเลย จะอ่านยังไม่ได้เลย บอกเดี๋ยวจะหมดเวลาแบงค์ปิดแล้ว ตอนนั้นผมคิดว่ายังไงมันก็คือเงินออมก็เลยไม่คิดอะไรมาก สรุปแล้วเรื่องรีไฟแน๊นซ์บ้านก็ผ่านไปก็น่าจะด้วยตัวหลักทรัพย์กับเอกสารประกอบนะ ไม่น่าจะมาจากไอ้การทำไรอันนี้หรอกผมว่าแค่เอามาอ้างหลอกเรา พอกรมธรรม์ส่งมาก็ไม่เคยเปิดอ่าน ก็ด้วยความคิดเดิมที่ฟังมาจาก ผจก นั่นแหละครับ ว่าคือเงินออม ตามความเข้าใจ เงินออมเราจะขอคืนเมื่อไหร่ก็ได้ซิครับ ทีนี้เริ่มมาร้อนก็ตอนไปเปิดอ่านเนี่ยแหละครับ อ้าววว นี่มันทำประกันให้เราแบบเหลือเป็น 0 บาทหลังจากจบปีแรกเลยเหรอเนี่ย เท่ากับเงิน 160000 หายไปทันทีถ้าเราไม่ส่งต่อปีที่ 2 ทำมัยมันไม่อธิบายมาตั้งแต่วันนั้นว่ะ อย่างว่าทุกอย่างรีบเร่งโดยเจ้าหน้าที่ธนาคารเลยครับ ผมร้องเรียนไป ว่าจะขอยกเลิกเพราะไม่ได้เป็นอย่างที่ผมเข้าใจในตอนแรก สรุปว่า ตอบกลับมาว่าไม่ได้แล้วเกิน 15 วันแล้วที่จะยกเลิก ตอนน้นผ่านไป 3 เดือนที่ผมเพิ่งหยิบมาอ่าน ผมก็ร้องเรียนต่อ อีก ที่นี้ร้องเรียนไปที่ศูนย์เองไม่ผ่านตัวแทนสาขาแล้ว เรื่องราวทั้งหมดผ่านไปตั้งแต่ต้นเดือนตุลา จนวันนี้เกือบ2เดือน ผมก็ได้รับคำตอบยืนยันจากทางศูนย์ร้องเรียนว่าทางผู้ใหญ่ของเมืองไทยพิจารณาแล้วไม่อนุมัติที่จะคืนเงินให้ ผมจึงย้ำไปว่าไม่ใช่เป็นกันช่วยกันเองระหว่างเจ้าหน้าที่ศูนย์ร้องเรียนกับทางสาขานะ ผมจะขอดูเอกสารที่ว่าทางผู้ใหญ่ระดับสูงของเมืองไทยพิจารณามาแบบนี้น่ะ ก็บอกว่าไม่สามารถมีให้ดู แล้วผมจะแน่ใจได้อย่างไรว่าไม่ใช่การตัดตอนกันเอง ช่วยกันเอง เพราะเหตุผลของผมที่เขียนจดหมายไป3หน้าก็น่าจะเพียงพอต่อความไม่ตรงไปตรงมาของเจ้าหน้าที่สาขากับ ผจก ได้นะ ผมไม่ได้กรอกเอกสารเอง ไม่ได้อ่านเอกสารเลย ไม่มีการตรวจสุขภาพใดๆเลย แค่นี้มันก็ผิดวิสัยการขายประกันแล้วหล่ะครับผมว่า แล้วยังเอาเรื่องการขอรีไฟแน๊นซ์บ้านมาอ้างเพื่อให้ทำตัวนี้ด้วย ถ้าเพื่อนๆจะมีไปขอสินเชื่อ รีไฟแน๊นซ์อะไร ไม่ต้องไปหลงกลแบบผมนะครับ บอกไปเลยว่าจะมาทำเรื่องอย่างเดียวถ้าไม่เต็มใจทำให้แล้วยังจะมายัดเยียดขายอยู่ก็ไปสาขาอื่นครับ ผมว่ายังมีสาขาที่ไม่ทำอะไรแบบนี้ แบบ ผจก คนนี้ครับ ไม่รู้ว่าทางแบงค์กับทางเมืองไทยมีความคิดยังไง ส่วนตัวผมก็มาแชร์ตรงนี้ก่อน ก่อนที่จะไป คปภ เพราะเมื่อกี้ก็โทรไปมาแล้วครับ เค้าบอกให้มายื่นเรื่องได้เลยเคสนี้มีเยอะ เสร็จจากพิมพ์นี้ก็จะรวบรวมหลักฐานไปยื่นครับ เพื่อนคนไหนเข้ามาอ่านแล้วมีประสบการณ์ตรงกับเรื่องนี้จะมีอะไรแนะนำผม ผมยินดีนะครับ ขอบคุณครับ
กสิกรไทย เมืองไทยประกัน กสิกรไทย เมืองไทยประกัน
หลายกระทู้มาก ที่เกียวกับโดนพนักงานธนาคารกสิกรไทย สาขาหัวหมาก ผจก เลยแหละงานนี้ ผมจะเล่าเลยก็แล้วกันนะครับ เพราะเรื่องมันก็เหมือนกันหมดคือตอนขายบอกว่าเป็นการออม เรื่องมีอยู๋ว่าผมไปรีไฟแน๊นซ์บ้าน พอเข้าไปนังโต๊ะ แปปเดียวเองครับ ผจก ก็เข้ามานั่งประกบทันทีครับ ถามว่ามาทำอะไร ผมก็บอกมาขอรีไฟแน๊นซ์บ้าน ก็เอาเลยครับ ตอนนั้นพอดีแบงค์ใกล้ปิดพอดี ทุกอย่างดูเร่งรีบ ผจก ก็แนะนำผมว่าให้ทำตัวนี้นะ 99/9 แล้วเราจะดูดีมีพาวเวอร์มากเลย ผมก็ไม่รู้อะไรอ่ะครับ 99/9 พอผมถามไป ก็บอกว่ามันเป็นการทำประกันที่เป็นการออมได้ผบตอบแทนสูงกว่าเงินฝากประจำ อธิบายมาไม่เยอะครับแปปเดียว แล้วก็พยักหน้ากับ เจ้าหน้าที่ที่ผมไปนั่งที่โต๊ะด้วยว่าอ่ะตัวนี้แหละแล้วพูดทิ้งท้ายกับผมว่าเดี๋ยวจะมาอธิบายต่อ (แต่แล้วก็มาแต่ไม่ได้อธิบายอะไรเรื่องนั้น มาคุยเรื่องบ้านเรื่องหมาที่เลี้ยงกัน)พอลุกไปผมก็เห็นไปพูดแบบนี้กับอีกโต๊ะนึงเหมือนกัน แต่ผมก็ไม่ได้ใส่ใจอะไร ตอนนั้นมีการเสนอจะให้ผมอัฟเกรดบัตรเครดิตไปในตัว ซึ่งบอกตรงๆผมไม่ได้สนใจเพราะที่ผมมีอยู๋ก็วงเงินสูง200000อยู่แล้ว แต่เค้าก็จัดการให้หมด ก็ได้บัตรมาอีกใบวงเงินบัตรเพิ่มมาแค่ไม่กี่หมื่น วันนั้นผมก็เซนต์ไปเยอะแยะไปหมดบวกกับเจ้าหน้าที่บอกเดี่ยวไม่ทันแบงค์จะปิดแล้ว ก็รีบๆเซนต์ไป ผมไม่ได้กรอกอะไรเองเลย จะอ่านยังไม่ได้เลย บอกเดี๋ยวจะหมดเวลาแบงค์ปิดแล้ว ตอนนั้นผมคิดว่ายังไงมันก็คือเงินออมก็เลยไม่คิดอะไรมาก สรุปแล้วเรื่องรีไฟแน๊นซ์บ้านก็ผ่านไปก็น่าจะด้วยตัวหลักทรัพย์กับเอกสารประกอบนะ ไม่น่าจะมาจากไอ้การทำไรอันนี้หรอกผมว่าแค่เอามาอ้างหลอกเรา พอกรมธรรม์ส่งมาก็ไม่เคยเปิดอ่าน ก็ด้วยความคิดเดิมที่ฟังมาจาก ผจก นั่นแหละครับ ว่าคือเงินออม ตามความเข้าใจ เงินออมเราจะขอคืนเมื่อไหร่ก็ได้ซิครับ ทีนี้เริ่มมาร้อนก็ตอนไปเปิดอ่านเนี่ยแหละครับ อ้าววว นี่มันทำประกันให้เราแบบเหลือเป็น 0 บาทหลังจากจบปีแรกเลยเหรอเนี่ย เท่ากับเงิน 160000 หายไปทันทีถ้าเราไม่ส่งต่อปีที่ 2 ทำมัยมันไม่อธิบายมาตั้งแต่วันนั้นว่ะ อย่างว่าทุกอย่างรีบเร่งโดยเจ้าหน้าที่ธนาคารเลยครับ ผมร้องเรียนไป ว่าจะขอยกเลิกเพราะไม่ได้เป็นอย่างที่ผมเข้าใจในตอนแรก สรุปว่า ตอบกลับมาว่าไม่ได้แล้วเกิน 15 วันแล้วที่จะยกเลิก ตอนน้นผ่านไป 3 เดือนที่ผมเพิ่งหยิบมาอ่าน ผมก็ร้องเรียนต่อ อีก ที่นี้ร้องเรียนไปที่ศูนย์เองไม่ผ่านตัวแทนสาขาแล้ว เรื่องราวทั้งหมดผ่านไปตั้งแต่ต้นเดือนตุลา จนวันนี้เกือบ2เดือน ผมก็ได้รับคำตอบยืนยันจากทางศูนย์ร้องเรียนว่าทางผู้ใหญ่ของเมืองไทยพิจารณาแล้วไม่อนุมัติที่จะคืนเงินให้ ผมจึงย้ำไปว่าไม่ใช่เป็นกันช่วยกันเองระหว่างเจ้าหน้าที่ศูนย์ร้องเรียนกับทางสาขานะ ผมจะขอดูเอกสารที่ว่าทางผู้ใหญ่ระดับสูงของเมืองไทยพิจารณามาแบบนี้น่ะ ก็บอกว่าไม่สามารถมีให้ดู แล้วผมจะแน่ใจได้อย่างไรว่าไม่ใช่การตัดตอนกันเอง ช่วยกันเอง เพราะเหตุผลของผมที่เขียนจดหมายไป3หน้าก็น่าจะเพียงพอต่อความไม่ตรงไปตรงมาของเจ้าหน้าที่สาขากับ ผจก ได้นะ ผมไม่ได้กรอกเอกสารเอง ไม่ได้อ่านเอกสารเลย ไม่มีการตรวจสุขภาพใดๆเลย แค่นี้มันก็ผิดวิสัยการขายประกันแล้วหล่ะครับผมว่า แล้วยังเอาเรื่องการขอรีไฟแน๊นซ์บ้านมาอ้างเพื่อให้ทำตัวนี้ด้วย ถ้าเพื่อนๆจะมีไปขอสินเชื่อ รีไฟแน๊นซ์อะไร ไม่ต้องไปหลงกลแบบผมนะครับ บอกไปเลยว่าจะมาทำเรื่องอย่างเดียวถ้าไม่เต็มใจทำให้แล้วยังจะมายัดเยียดขายอยู่ก็ไปสาขาอื่นครับ ผมว่ายังมีสาขาที่ไม่ทำอะไรแบบนี้ แบบ ผจก คนนี้ครับ ไม่รู้ว่าทางแบงค์กับทางเมืองไทยมีความคิดยังไง ส่วนตัวผมก็มาแชร์ตรงนี้ก่อน ก่อนที่จะไป คปภ เพราะเมื่อกี้ก็โทรไปมาแล้วครับ เค้าบอกให้มายื่นเรื่องได้เลยเคสนี้มีเยอะ เสร็จจากพิมพ์นี้ก็จะรวบรวมหลักฐานไปยื่นครับ เพื่อนคนไหนเข้ามาอ่านแล้วมีประสบการณ์ตรงกับเรื่องนี้จะมีอะไรแนะนำผม ผมยินดีนะครับ ขอบคุณครับ