ข่าวดีของวงการการแพทย์ประกาศว่า ในปี 2030 โลกอาจจะสามารถหยุดการระบาดของโรคเอดส์ได้

องค์การสหประชาชาติหรือยูเอ็นเปิดเผยว่า เดือนมีนาคมที่ผ่านมามีผู้ป่วยโรคเอดส์สามารถเข้าถึงการดูแลรักษาและยาต้านไวรัสเอชไอวีถึง 15 ล้านคน ซึ่งเป็นไปตามเป้าหมายที่ยูเอ็นวางไว้ล่วงหน้าถึงเก้าเดือน จากตอนแรกที่ตั้งใจจะให้ผู้ป่วยโรคเอดส์ 15 ล้านคนเข้าถึงยาต้านไวรัสเอชไอวีให้ได้ภายในสิ้นปีนี้ ซึ่งองค์กรจากทั่วโลกได้พยายามมาหลายสิบปีที่จะทำให้ผู้ป่วยโรคเอดส์เข้าถึงยาต้านไวรัสที่มีประสิทธิภาพรุนแรงมากขึ้น โดยเฉพาะผู้ป่วยในทวีปแอฟริกา ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีผู้ป่วยโรคเอดส์มากที่สุดคิดเป็น 66% ของผู้ป่วยทั่วโลก โดยปกติแล้วผู้ที่ติดเชื้อเอชไอวีจะมีชีวิตอยู่ได้อีกประมาณ 10 ปี แต่ยาต้านไวรัสจะทำให้ผู้ป่วยใช้ชีวิตได้เหมือนคนปกติ จึงเป็นสัญญาณที่ดีหากยาชนิดนี่กระจายไปยังผู้ป่วยได้ทั่วถึงมากขึ้น อย่างไรก็ตามยังมีผู้ป่วยอีกกว่า 64% ที่ไม่ได้รับยาต้านไวรัสเอชไอวี หรือมีเพียงผู้ป่วยประมาณ 4 ใน 10 เท่านั้นที่เข้าถึงยาชนิดนี้

ยูเอ็นเริ่มตั้งเป้าหมายที่จะต่อสู้กับเชื้อไวรัสเอชไอวีเมื่อปี 2000 ซึ่งในเวลานั้นมีผู้ป่วยน้อยกว่า 700,000 คนที่เข้าถึงยาที่จำเป็น แต่จากการพยายามที่จะต่อสู้กับโรคชนิดนี้ทำให้จำนวนผู้ติดเชื้อลดลงจาก 2.6 ล้านคนต่อปี เหลือ 1.8 ล้านคน เช่นเดียวกับจำนวนผู้เสียชีวิตที่ลดลงจาก 1.6 ล้านคนเหลือ 1.2 ล้านคนต่อปี

สอดคล้องกับข้อมูลที่ระบุว่าทั่วโลกลงทุนกับการรักษาโรคเอดส์มากขึ้นจากประมาณสามพันล้านปอนด์เป็นมากกว่าหนึ่งหมื่นสามพันล้านปอนด์ในปี 2014 ซึ่งยูเอ็นประกาศว่าถ้าทั่วโลกให้ความร่วมมือในการต่อสู้กับเชื้อไวรัสเอชไอวีอย่างนี้ไปอีก 5 ปี มีความเป็นไปได้ว่าโลกจะสามารถหยุดการระบาดของโรคเอดส์ได้ภายในปี 2030

แต่ปัญหาสำคัญของการต่อสู้กับโรคนี้ยังมีอยู่ค่ะคือผู้คนในแต่ละพื้นที่มีการตื่นตัวต่อการติดเชื้อและอันตรายของโรคเอดส์แตกต่างกัน

ผู้ติดเชื้อกว่า 54% หรือเกินครึ่งไม่รู้ว่าตัวเองติดเชื้อเอชไอวี ทำให้ไม่สามารถรับการรักษาได้ตั้งแต่ในระยะแรก รวมถึงเด็กที่ติดเชื้อเอชไอวียังเข้าถึงการรักษาได้น้อยกว่าผู้ใหญ่ นายบันคีมูน เลขาธิการองค์การสหประชาชาติจึงออกมาบอกว่า ในโลกปัจจุบันที่เน้นการพัฒนาอย่างยั่งยืน การต่อสู้กับเชื้อไวรัสเอชไอวีจึงจำเป็นเพื่อให้โรคภัยไม่เป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาของมนุษยชาติ

15 ปีต่อจากนี้จะเป็นช่วงเวลาทดสอบว่าทั่วโลกจะจริงจังกับการต่อสู้กับโรคเอดส์มากน้อยแค่ไหน และถ้ามีแนวโน้มที่ดีขึ้นเรื่อยๆ อย่างเช่นจำนวนคนติดเชื้อและคนเสียชีวิตลดลง อาจทำให้โลกสามารถหยุดการระบาดของโรคเอดส์ได้ภายในปี 2030
ขอขอบคุณข้อมูลจาก .krobkruakao.com

Report : LIV Capsule
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่