สืบเนื่องจากความอ่อนหัดของช่อง 7 สี ในการถ่ายทอดสดฟุตบอลก๊องแก๊ง ที่ไม่ให้ความสําคัญกับเหตุการณ์รอบด้าน
ผมจึงขอแกรมมี่นําไปพิจารณาเป็นบทเรียนเพื่อนํามาพัฒนาเป็นการถ่ายทอดสดที่สมบูรณ์แบบ
โดย 4-5 ชั่วโมง รวมก่อนและหลังการแข่งขันถือว่าไม่เยอะเลยนะครับ นับจาก Sequence ดังนี้
1. ก่อนเริ่มเกมเราจะเปิดด้วยภาพยนตร์ขนาดกึ่งยาวของทีมชาติไทยที่กํากับโดย คริสตอฟ โนแลน ผู้กํากับที่ได้ชื่อว่านําผู้ชมดําดิ่งสู่หุบเหวแล้วตลบหลังด้วยการกระชากทุกคนขึ้นมาอาบแสงสวรรค์ ซึ่งเรียกได้ว่าทีมชาติไทยของเรามีเคมีที่ตรงกับหนังของโนแลนมาก ถ้าทําออกมาเป็นเรื่องราวเชื่อได้ว่าผู้ชมได้ประโยชน์แน่นอน
2. ช่วงวิเคราะห์เกมอยากให้เชิญอดีตโค้ชทีมชาติไทยทุกยุคทุกสมัยมาร่วมกันวิเคราะห์เกมก่อนเตะ และหากเป็นไปได้เราจะชวนโค้ชของ เวียดนาม ไต้หวัน มาร่วมแชร์ความรู้สึกจากเกมที่เคยได้เล่นกับอิรัก และปิดท้ายช่วงทุกการเชิญทีมชาติอินโดนีเซียมหามิตรช้างศึกมาร่วมยินดีและอวยพรให้กับเราก่อนแข่ง
3. มีการถ่ายบรรยากาศของการแข่งขันตั้งแต่ผู้ชมคนแรกที่เดินเข้าไปนั่งบนอัฒจันท์จนกระทั่งคราครํ่าไปด้วยแฟนบอลทั้งสองชาติ ซึ่งก่อนหน้านี้ขอให้กล้องแช่ไปที่สถาปัตยกรรมสนามเตหะรานที่ว่างเปล่าเพื่อให้ผู้ชมทางบ้านได้ดื่มดํ่าบรรยากาศอย่างละมุนละไม
4. ในช่วงการวิเคราะห์เกมในพักครึ่งแน่นอนครับอดีตโค้ชทีมชาติทุกคนยังคงเป็นผู้วิเคราะห์ แต่ที่พิเศษคืออยากให้ทาง GMM เทียบสาส์นเชิญค่าย pixar หรือ walts disney มาเป็นผู้รังสรรค์กราฟฟิคประกอบการวิเคราะห์ของทีมโค้ช หากทําได้เชื่อว่าได้ใจผู้ชมทุกเพศทุกวัยแน่นอน
5. หลังจากจบเกมอยากให้ส่งตากล้องเฉพาะไปเกาะติดบรรยากาศการเข้ารอบของทีมชาติที่เชื่อว่าเข้ารอบได้อย่างแน่นอน
ซึ่งในช่วงนี้กล้องจะซูมให้เห็นถึงเวลาตาโค้ชซิโก้และนักฟุตบอลทุกคนที่เปี่ยมไปด้วยความภาคภูมิใจ ที่สําคัญคือจะแช่ไปที่สปิริตของแฟนบอลที่สละเวลาอันมีค่าไปเชียร์ตัวแทนคนไทยถึงขอบสนาม โดยช่วงนี้ขอให้ลากยาวไปจนถึงช่วง จนท. สนาม เก็บขยะเก็บเสาโกล หากทําได้วงการฟุตบอลไทยได้ประโยชน์เต็มๆ
6. จากนั้นค่อยมาวิเคราะห์เกมช่วงจบด้วยทีมโค้ชชุดเดิม แต่พิเศษด้วยการไปถ่ายภาพบรรยากาศสดๆ ของครอบครัวนักฟุตบอลสัมภาษณ์ญาติโกโหติกา ประหนึ่งเชียร์มวยชิงเหรียญทองโอลิมปิค
7. ปิดท้ายด้วยเพลงที่เรียบเรียงโดยพี่ดี้ ขับร้องโดย พี่เบิร์ด พี่ตูน อัสนี-วสันต์ หญิงลี ตู่นันทิดา ออฟปองศักดิ์ เกรซซี่คาเฟ่ บรรเลงโดยวงไทยแลนด์ฮามอนิค ควบคุมโดย บัณฑิต อึ้งรังษี โดยมีเนื้อหาถึงปีหน้าฟ้าใหม่ที่เรากําลังสร้างประวัติศาสตร์สู่บอลโลก
เชื่อว่าหากทําแล้ววงการแฟนบอล บลาบลา ได้ประโยชน์แน่นอน
อยากให้ GMM เจียดเวลาสัก 4-5 ชั่วโมงก่อนและหลังเกมการแข่งขัน อิรัก-ไทย เพื่อประโยชน์ของคอบอลครับ
ผมจึงขอแกรมมี่นําไปพิจารณาเป็นบทเรียนเพื่อนํามาพัฒนาเป็นการถ่ายทอดสดที่สมบูรณ์แบบ
โดย 4-5 ชั่วโมง รวมก่อนและหลังการแข่งขันถือว่าไม่เยอะเลยนะครับ นับจาก Sequence ดังนี้
1. ก่อนเริ่มเกมเราจะเปิดด้วยภาพยนตร์ขนาดกึ่งยาวของทีมชาติไทยที่กํากับโดย คริสตอฟ โนแลน ผู้กํากับที่ได้ชื่อว่านําผู้ชมดําดิ่งสู่หุบเหวแล้วตลบหลังด้วยการกระชากทุกคนขึ้นมาอาบแสงสวรรค์ ซึ่งเรียกได้ว่าทีมชาติไทยของเรามีเคมีที่ตรงกับหนังของโนแลนมาก ถ้าทําออกมาเป็นเรื่องราวเชื่อได้ว่าผู้ชมได้ประโยชน์แน่นอน
2. ช่วงวิเคราะห์เกมอยากให้เชิญอดีตโค้ชทีมชาติไทยทุกยุคทุกสมัยมาร่วมกันวิเคราะห์เกมก่อนเตะ และหากเป็นไปได้เราจะชวนโค้ชของ เวียดนาม ไต้หวัน มาร่วมแชร์ความรู้สึกจากเกมที่เคยได้เล่นกับอิรัก และปิดท้ายช่วงทุกการเชิญทีมชาติอินโดนีเซียมหามิตรช้างศึกมาร่วมยินดีและอวยพรให้กับเราก่อนแข่ง
3. มีการถ่ายบรรยากาศของการแข่งขันตั้งแต่ผู้ชมคนแรกที่เดินเข้าไปนั่งบนอัฒจันท์จนกระทั่งคราครํ่าไปด้วยแฟนบอลทั้งสองชาติ ซึ่งก่อนหน้านี้ขอให้กล้องแช่ไปที่สถาปัตยกรรมสนามเตหะรานที่ว่างเปล่าเพื่อให้ผู้ชมทางบ้านได้ดื่มดํ่าบรรยากาศอย่างละมุนละไม
4. ในช่วงการวิเคราะห์เกมในพักครึ่งแน่นอนครับอดีตโค้ชทีมชาติทุกคนยังคงเป็นผู้วิเคราะห์ แต่ที่พิเศษคืออยากให้ทาง GMM เทียบสาส์นเชิญค่าย pixar หรือ walts disney มาเป็นผู้รังสรรค์กราฟฟิคประกอบการวิเคราะห์ของทีมโค้ช หากทําได้เชื่อว่าได้ใจผู้ชมทุกเพศทุกวัยแน่นอน
5. หลังจากจบเกมอยากให้ส่งตากล้องเฉพาะไปเกาะติดบรรยากาศการเข้ารอบของทีมชาติที่เชื่อว่าเข้ารอบได้อย่างแน่นอน
ซึ่งในช่วงนี้กล้องจะซูมให้เห็นถึงเวลาตาโค้ชซิโก้และนักฟุตบอลทุกคนที่เปี่ยมไปด้วยความภาคภูมิใจ ที่สําคัญคือจะแช่ไปที่สปิริตของแฟนบอลที่สละเวลาอันมีค่าไปเชียร์ตัวแทนคนไทยถึงขอบสนาม โดยช่วงนี้ขอให้ลากยาวไปจนถึงช่วง จนท. สนาม เก็บขยะเก็บเสาโกล หากทําได้วงการฟุตบอลไทยได้ประโยชน์เต็มๆ
6. จากนั้นค่อยมาวิเคราะห์เกมช่วงจบด้วยทีมโค้ชชุดเดิม แต่พิเศษด้วยการไปถ่ายภาพบรรยากาศสดๆ ของครอบครัวนักฟุตบอลสัมภาษณ์ญาติโกโหติกา ประหนึ่งเชียร์มวยชิงเหรียญทองโอลิมปิค
7. ปิดท้ายด้วยเพลงที่เรียบเรียงโดยพี่ดี้ ขับร้องโดย พี่เบิร์ด พี่ตูน อัสนี-วสันต์ หญิงลี ตู่นันทิดา ออฟปองศักดิ์ เกรซซี่คาเฟ่ บรรเลงโดยวงไทยแลนด์ฮามอนิค ควบคุมโดย บัณฑิต อึ้งรังษี โดยมีเนื้อหาถึงปีหน้าฟ้าใหม่ที่เรากําลังสร้างประวัติศาสตร์สู่บอลโลก
เชื่อว่าหากทําแล้ววงการแฟนบอล บลาบลา ได้ประโยชน์แน่นอน