ถ้าทำแบบนี้กับแม่ เราจะกลายเป็นลูกอกตัญญูไหม

กระทู้สนทนา
สวัสดีค่ะ เพื่อนๆพันทิพทุกคน อย่างแรกต้องขอบอกก่อนนะค่ะ ว่าเรายืมล็อกอินเพื่อนมาตั้งกระทู้ค่ะ

เรื่องราวชีวิตของเราที่จะได้อ่านต่อไปนี้ ถ้าใครคิดว่าแย่ จะด่า จะว่าเรายังไงก็ได้ค่ะ แต่ช่วยเสนอแนวทางแก้ปัญหาให้เราด้วยนะค่ะ

เราไม่รู้ว่าจะมีชีวิตใคร ที่ต้องเจอเรื่องแย่ๆแบบเราบ้างไหม
เราเป็นลูกคนโต มีน้องชายอีก1คน เราเกิดมาด้วยฐานะที่ยากจน เรียนโรงเรียนวัดมาตลอด ขอทุนเรียนฟรี ค่าหนังสือฟรีมาตลอด จนจบม.3เลยค่ะ
พอเราเริ่มเข้าปวช แม่กับพ่อเราก็แยกทางกันค่ะ ด้วยเหตุผลของผู้ใหญ่
เรากู้เงินเรียนมาตลอดจนจบปริญญาตรี
แม่ให้เงินเราครั้งสุดท้าย ตอนอายุ15 ช่วงเข้าปวช1ค่ะ แล้วหลังจากนั้น ก็ไม่เคยให้เงินเราอีกเลย ไม่ว่าจะค่าข้าว3มื้อ ค่าของใช้ส่วนตัวทุกอย่าง
ยอมรับนะว่าบางทีเราก็มีอารมณ์น้อยใจ และโกรธแม่ในบางครั้ง เพราะครอบครัวเราเริ่มดีขึ้นตั้งแต่เราอยู่ปวช2แล้ว ดีถึงขนาดที่แม่เราสามารถปล่อยเงินกู้ให้คนอื่นได้
แต่แม่ก็ไม่เคยให้เงินเราเลย
เราต้องทำงานหลังเลิกเรียน ทำงานเสาร์ อาทิตย์มาตลอด
ช่วงเริ่มเข้าปวส เป็นช่วงที่สัญญาเงินกู้ยังเดินเรื่องไม่ผ่าน เราต้องมีเงินสำรองเพื่อจะจ่ายค่าเทอมก่อน เพราะเราติดโควต้า
ตอนนั้นเรามืดแปดด้านจริงๆ เราขอแม่ แม่ก็ด่าเรา พอขอพ่อ ญาติทางพ่อก็โทรมาด่าเรา
เราเลยทำงานพิเศษเป็นเด็กเสิร์ฟอาหาร ตลอดจนปิดเทอมเพื่อหาค่าเทอม แทบไม่มีวันหยุด พอได้เงินมาเพื่อจะไปจ่ายค่าเทอม
แม่บอกเราว่า ขอเงินนี้ไปจ่ายค่าเทอมให้น้องก่อน เพราะน้องเราก็ขึ้นม.1 เหมือนกัน
เราให้เงินแม่ไปก่อน พอถึงวันที่กำหนด แม่กลับไม่คืนเรา
นึกภาพนะ เด็กคนนึงอายุ18ต้องหาเงิน5,000 ณ ช่วงเวลา10ปีที่แล้ว มันเป็นคชจที่หนักสำหรับเราจริงๆ เพราะเราต้องมีเงินไว้จ่ายส่วนตัวด้วย อย่างที่บอก แม่ไม่ให้เงินค่าข้าวเรา ตั้งแต่เราจบม.3 แล้ว
ตอนนั้นคงเป็นโชคดีของเราอย่างนึง เรามีแฟนที่อายุมากกว่า และเรียนจบแล้ว
แฟนเราให้เงินเรายืมมาค่ะ
และช่วงที่เราแย่ ไม่มีเงินใช้จริงๆ จะมีแฟนเราคอยให้เรายืมเงินตลอด มีบางครั้งที่เค้าสงสาร ก็ให้มาเลยก็มี
ความโชคร้ายเราคงไม่จบแค่นั้นหรอก แม่เรารู้ ว่าแฟนเราคอยให้เงินเราใช้ แม่เรียกแฟนเรามาคุยตรงๆ ว่าอยากให้เราแต่งงาน และพาเราไปอยู่ด้วย (บอกตรงๆนะ ถึงวันนี้เราก็ยังไม่รู้ ว่าแม่คิดอะไร) เรายืนยันคำเดียวว่าไม่แต่ง เพราะเรายังเด็กมาก และยังเรียนหนังสืออยู่ เราอายุแค่19 และประกอบกับแฟนเราคนนี้ก็ค่อนข้างเจ้าชู้ด้วย ผลสุดท้าย แฟนเราตกลงที่จะแต่งงานกับเรา เราแบบพูดไรไม่ออก ร้องไห้หลายวันมาก จนในที่สุด เราก็แต่งงาน ตามที่แม่ต้องการ เป็นงานเล็กๆที่ไม่พร้อมอะไรสักอย่างค่ะ

เราอยู่กับแฟนคนนี้ได้ปีกว่า เค้าก็เริ่มออกลาย แอบมีคนอื่นหลายคนค่ะ จนในที่สุด เราทนไม่ไหวจริงๆ จึงเลิกกัน อาจเป็นเพราะเรายังเด็กเกินกว่าจะมีครอบครัวได้ เลยอาจดูแลเค้าได้ไม่ดีพอด้วย

เราเลิกกับแฟนคนนี้ เราเสียใจมาก คนเป็นสามีภรรยากันนี่ค่ะ เราพักอยู่คนเดียวจนถึงปี4 แม่เราก็เรียกกลับไปอยู่ด้วย ด้วยเหตุผลที่ว่า ให้เราไปช่วยจ่ายค่าเช่าบ้าน ดีกว่าเอาเงินมาจ่ายค่าหอ
เราย้ายกลับมาอยู่กับแม่เรา บ้านเรามี4คน แม่เรา เรา น้องชาย และพ่อเลี้ยง (แม่เรามีสามีใหม่ตั้งแต่เราอยู่ปวช3ค่ะ) แต่ค่าบ้าน ต้องหาร2ค่ะ คือเราจ่ายครึ่งนึงของค่าเช่าบ้าน
คือเดือนละ1,500บาท
การเรียนมหาลัยไปด้วย พร้อมกับค่ารายงาน ค่าใช้จ่ายรายวัน รวมทั้งค่าบ้านที่ต้องจ่ายอีก เราแทบไม่มีวันหยุด ทำงานยัน4ทุ่ม หลังเลิกเรียนและ เสาร์อาทิตย์ มันเป็นอะไรที่เหนื่อยจรืงๆค่ะ
เราประสบความสำเร็จจนจบป.ตรีมาด้วยตัวของเราเองจริงๆ จนเริ่มหางานทำ เด็กจบใหม่ ช่างเป็นเรื่องยากในการหางานจิงๆ เราต้องหางานทำ ทันทีที่เรียนจบ ไม่มีเวลาได้หยุดพัก เราใช้เวลาหางานอยู่เกือบสองเดือน จึงได้งาน เราเริ่มต้นจาก0จริงๆค่ะ ไม่มีแม้กระทั่งเสื้อผ้าใส่ไปสัมภาษณ์ อาศัยขอเสื้อจากพี่ๆที่รู้จัก ที่เค้าไม่ใส่แล้ว เราทำงานเดือนแรก ได้มาสามพันบาท เพราะไม่เต็มเดือน บวกับวันตัดรอบไม่ตรงตามเดือนปฏิทินอีก
และเป็นตามที่คิดค่ะ เราต้องจ่ายค่าบ้านพันห้า เหลือพันห้า ค่ากิน ค่ารถ ทำงานทั้งเดือน เราต้องเริ่มเป็นหนี้ตั้งแต่ทำงานเดือนแรก โดยการยืมเงินเพื่อน เพื่อใช้ให้พอเดือน และต้องใช้เพื่อซื้อเสื้อผ้าใส่ทำงานอีก

ช่วงนั้นเราโดนด่าหนักมาก เพราะทำงานแล้ว แต่ไม่ได้ให้เงินแม่ใช้เลย แต่คือยอมค่ะ เพราะมันไม่พอใช้จริงๆ แต่ความจริงเราโดนด่ามาตั้งแต่สมัยเรียนแล้วแหล่ะ เพราะแม่คิดว่าเราทำงานแล้ว ต้องมีเงิน ซึ่งมันไม่ใช่แบบที่แม่คิดเลย

ตอนนี้เราทำงานได้5ปีแล้วค่ะ และซื้อบ้านให้แม่อยู่แล้ว แต่ข้อตกลงของเราคือ ค่าบ้าน ให้ช่วยกันจ่าย คือ 60:20:20 เราจ่าย60 น้องกับแม่จ่ายคนละ 20 ส่วนค่าน้ำ ค่าไฟ เป็นความรับผิดชอบของเราค่ะ แต่ปัญหาของเรามันไม่จบแค่นั้น แม่เราลาออกจากงานหลังจากเราซื้อบ้านได้แค่1เดือน และแน่นอน ภาระก็ต้องมาตกที่เรา เราต้องจ่าย 80:20 และค่าน้ำ ค่าไฟ รวมทั้งคชจ ที่แม่ต้องใช้ด้วย เราเริ่มรู้สึกไม่ไหวกับทั้งชีวิตที่เราเจอมา

ตอนนี้สิ่งที่เราคิดคือ เราจะย้ายมาพักอยู่คนเดียว และจ่ายค่าบ้านให้แม่เหมือนเดิม แต่ค่าใช้จ่ายรายวัน เราอยากให้แม่ทำงานด้วยตัวเองก่อน (แม่เราอายุ46ค่ะ) เรานอนคิดเรื่องนี้เป็นเดือนๆ เราแค่อยากมีชีวิตเป็นของตัวเองบ้าง เราเหนื่อยมาทั้งชีวิตแล้ว และเราถือว่า เราทำหน้าที่ลูกผู้หญิงคนนึงให้แม่ครบแล้ว ไม่ว่าจะ เรียนจบ แต่งงาน และซื้อบ้าน เราจะอกตัญญูมากไหมค่ะ ขอความเห็นเพื่อนๆด้วยนะค่ะ ตอนนี้เราเครียดมากจริงๆ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่