ปริศนาสัมผัสที่ ๖
ตอนที่ ๗
“ เอ็งคงไม่ได้แค่เจอรูปซินะ “
ลุงแกพูดพร้อมกับเสียงหัวเราะที่ลึกลับเบาๆ
“ นี่ลุงรู้ด้วยเหรอ ว่าผมเจออะไร “
“ ข้าน่ะรู้ตั้งแต่วันแรกที่เอ็งย้ายเข้ามาอยู่ใหม่แล้ว ทีแรกข้าก็คิดว่าเอ็งจะอยู่ได้ไม่เกินอาทิตย์ เหมือนคนเช่ารายก่อนๆแล้วล่ะ / นี่เอ็งอยู่นานมากนะเนี่ย แล้วนี่เอ็งเจออะไรมาบ้างว่ะ ”
“ มันเกิดอะไรขึ้นกับห้องที่ผมอยู่กันแน่อ่ะลุง ลุงเล่าให้ผมฟังหน่อยดิ ”
ความอยากรู้อยากเห็นในเรื่องราวแปลกๆที่เกิดขึ้นกับหอพักนี้ มันได้ทวีพูลมากขึ้น เมื่อลุงหนึ่งแกเหมือนจะรู้เรื่องราวที่เกิดขึ้นเมื่อ 20 ปีก่อนดี
“ ข้าว่าเอ็งพร้อมแล้วล่ะ ที่จะรู้เรื่องราวที่ถูกปิดมาเกือบ 20 ปี รูปถ่ายเนี้ยเป็นของเจ้าสันต์กับเจ้าแพรว พวกเขา 2 คน รักกันมากไปไหนมาไหนก็ตัวติดกันตลอด แพรวเธอเป็นหญิงสาวที่สวยรูปร่างดี หนุ่มๆแถวนี้ก็มองเธอตาเป็นมันกันทั้งนั้นแหล่ะ ขนาดข้าเองอ่ะ ยังแอบชอบเธอเลย แพรวเธอไม่มีพ่อแม่หรอก ข้าเคยถามไปครั้งนึง เขาก็บอกว่าพ่อแม่ เขาน่ะ เสียไปตั้งแต่เขาเกิดแล้วล่ะ ข้าก็ไม่กล้าถามต่อหรอกว่าเป็นอะไรตาย เธอมาจากต่างจังหวัดญาติพี่น้องก็ไม่มีอาศัยทำงานไปส่งตัวเองเรียนไป เห็นว่าเรียนเก่งด้วยนะ ”
“ แล้วมันเกิดอะไรขึ้นอ่ะลุง ”
“ เออ….. เอ็งก็ใจเย็นๆดิว่ะ ข้าก็กำลังเล่าอยู่นี่ไง ใจร้อนไปได้ ”
ลุงแกตะคอกดุใส่ผม ก่อนที่จะเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นต่อไป
“ ส่วนเจ้าสันต์น่ะ มันเป็นหนุ่มเนื้อหอม บ้านรวยหน้าตาก็หล่อเหลา สาวๆเห็นเป็นได้พากันหลงหัวปลักหัวปลำล่ะว๊า…. สันต์มันรักแพรวมาก แต่ก็อย่างว่า สันต์มันเนื้อหอม เป็นกันเองกับทุกคน พูดจาดี คารมคมคลายดีไปหมด ไม่ว่าสาวไหนที่ได้คุยกับเจ้าสันต์ ต่างก็พากันคิดไปเองหรือที่วัยรุ่นเขาพูดกันว่ามโนอะไรนั่นแหล่ะ บางรายนี่ไม่พอใจนัดกันตบก็มี เนี่ยๆหน้าหอพักเนี่ยเอ็งรู้มั้ย ว่ามีคนตบกันแย่งเจ้าสันต์มาแล้ว ”
“ โห…..!!! ลุง งี้ คุณสันต์ที่ลุงพูดถึงนี่ก็ต้องเจ้าชู้อ่ะดิ ”
“ ทีแรกข้าเอง ก็คิดแบบนั้นแหล่ะ แต่ไม่ใช่เลยอย่างนั้นวะ ก็อย่างที่ข้าบอกไปก่อนหน้านี้ไง สันต์เขาเป็นคนอัธยาศัยดี สาวที่ได้คุยบ่อยๆ ก็พากันมโนไปไกล จนเจ้าสันต์เองมันก็คงจะเอือมระอามันด้วยล่ะมั้ง ก็เลยทำตัวชัดเจนไปเลยว่ากำลังคบกับแพรวอยู่ สาวๆที่แอบหลงใหลเจ้าสันต์มันอยู่ ต่างก็ไม่พอใจแพรวทั้งนั้นแหล่ะ เจ้าสันต์เองมันก็คงไม่รู้หรอกว่าแพรวน่ะ ถูกเพ่งเล็งจากบรรดากลุ่มสาวๆที่พากันมโนว่าตัวเองเป็น นู่นนี่นั่น กับเจ้าสันต์ เกือบทุกวันเลยนะ ที่ข้าเองเห็นแพรวเขาถูกรังแก บางวันก็ถูกโดนชนล้มซะงั้น บางวันรถมอเตอร์ไซต์ก็ยางรั่ว หนักๆเลยนี่ก็โดนผลักตกบันไดจนหัวแตกแหล่ะ “
ลุงแก ถอนหายใจแรงเฮือกใหญ่ พร้อมกับมองมาที่ผม
“ นี่เอ็งคงได้เจอแพรวแล้วใข่มั้ย ”
ผมรู้สึกขนลุกซู่..ขึ้นมาทันที
“ ผู้หญิงในรูป คือวิญญาณแพรวที่ผมเห็นอย่างงั้นเหรอลุง ”
“ ข้าอิจฉาเอ็งจริงๆ.. นี่ข้าทำงานเข้ากะกลางคืนมาตลอดหวังจะได้เจอเธออีกสักครั้งแต่ก็ไร้วี่แววว่ะ เอ็งไม่ต้องไปกลัวเธอหรอก เธอมาดี เธอมาขอให้เอ็งช่วย เธอไปไหนไม่ได้ วิญญาณผีตายโหงอ่ะ มีบ่วงกันทั้งนั้นแหล่ะ ถ้าเขาตัดบ่วงเขาไม่ได้หรือไม่ได้ทำในสิ่งที่เขาติดค้างไว้ เขาจะวนวนเวียนอยู่ในที่ ที่เขาผูกพันธ์ ”
“ แล้ว ทำไมต้องผมล่ะลุง ทำไมลุงไม่ช่วยเขาล่ะ ลุงก็รู้เรื่องนี้ดีนิ ”
“ ข้ารู้ แต่ข้า ไม่มีในสิ่งที่เอ็งมี ”
“ มีอะไรหรอลุง ”
“ สัมผัสที่ 6 ”
ลุงหนึ่งแกมองมาที่ผมแล้วพูดเบาๆอย่างช้าๆ ผมยืนนิ่งและชาไปทั้งตัว ความรู้สึกที่เกิดขึ้นกับผมสมัยเด็ก ย้อนกลับมาให้ผมคิด อย่างอัตโนมัติ ผมไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าเรื่องราวที่ผ่านสมัยเด็กนั้น มันใช่ความบังเอิญ หรือสิ่งที่คิดไปเองเลย หากแต่ว่านั่นคือเรื่องที่เกิดขึ้นจากสิ่งลี้ลับอย่างนั้นหรือ ?
“ เห้ย…!! เอ็งยืนเหม่ออะไรว่ะ “
เสียงลุงหนึ่งปลุกผมจากภวังค์ความคิด
“ ห๊ะๆๆ คับๆๆ เปล่าๆลุง ผมแค่ไม่รู้ว่าผมมีอะไรแบบนี้ด้วยหรอ แล้วลุงรู้ได้ไงอ่ะ ว่าผมมีสัมผัสที่ 6 แล้วอีกอย่างเหมือนลุงจะรู้เลยนะว่า วิญญาณแพรวอยู่ใกล้ๆผมอ่ะ ”
“ ทีแรกข้าไม่รู้หรอก ข้าก็เคยบอกเอ็งแล้วไง ว่าข้าก็คิดว่าเอ็งเหมือนผู้เช่าทั่วๆไป พอเจอ อะไรหน่อยก็คงจะย้ายออกไปเอง แต่นี่เอ็งเจอทั้งรูปถ่าย แล้วยังมีอะไรที่ข้าสัมผัสได้อีก หลายๆครั้งที่ข้าเองอู่ใกล้ๆเอ็ง ข้าเหมือนได้กลิ่นธูปหรือน้ำหอมหรือแป้งกลิ่นแปลกๆ นี่แหล่ะ แต่ข้าไม่กล้าบอกเอ็ง ข้ารู้แค่ว่า กลิ่นนั้นมาจากแพรวแน่ ๆ”
ผมคุยกับลุงหนึ่งจนเวลาล่วงเลย มาเกือบตีห้า เป็นเวลาที่ลุงออกเวรพอดี……
“ เห้อออออ…. ได้เวลาออกเวรข้าล่ะ เอ็งก็ไม่ต้องไปกลัวเธอหรอก ข้าฝากเธอด้วยนะ ”
ลุงหนึ่งบิดขี้เกลียดพร้อมลุกเก็บของเตรียมตัวกลับบ้าน
ใว้ตอนหน้าดีกว่า………….
ปริศนาสัมผัสที่ ๖
ตอนที่ ๗
“ เอ็งคงไม่ได้แค่เจอรูปซินะ “
ลุงแกพูดพร้อมกับเสียงหัวเราะที่ลึกลับเบาๆ
“ นี่ลุงรู้ด้วยเหรอ ว่าผมเจออะไร “
“ ข้าน่ะรู้ตั้งแต่วันแรกที่เอ็งย้ายเข้ามาอยู่ใหม่แล้ว ทีแรกข้าก็คิดว่าเอ็งจะอยู่ได้ไม่เกินอาทิตย์ เหมือนคนเช่ารายก่อนๆแล้วล่ะ / นี่เอ็งอยู่นานมากนะเนี่ย แล้วนี่เอ็งเจออะไรมาบ้างว่ะ ”
“ มันเกิดอะไรขึ้นกับห้องที่ผมอยู่กันแน่อ่ะลุง ลุงเล่าให้ผมฟังหน่อยดิ ”
ความอยากรู้อยากเห็นในเรื่องราวแปลกๆที่เกิดขึ้นกับหอพักนี้ มันได้ทวีพูลมากขึ้น เมื่อลุงหนึ่งแกเหมือนจะรู้เรื่องราวที่เกิดขึ้นเมื่อ 20 ปีก่อนดี
“ ข้าว่าเอ็งพร้อมแล้วล่ะ ที่จะรู้เรื่องราวที่ถูกปิดมาเกือบ 20 ปี รูปถ่ายเนี้ยเป็นของเจ้าสันต์กับเจ้าแพรว พวกเขา 2 คน รักกันมากไปไหนมาไหนก็ตัวติดกันตลอด แพรวเธอเป็นหญิงสาวที่สวยรูปร่างดี หนุ่มๆแถวนี้ก็มองเธอตาเป็นมันกันทั้งนั้นแหล่ะ ขนาดข้าเองอ่ะ ยังแอบชอบเธอเลย แพรวเธอไม่มีพ่อแม่หรอก ข้าเคยถามไปครั้งนึง เขาก็บอกว่าพ่อแม่ เขาน่ะ เสียไปตั้งแต่เขาเกิดแล้วล่ะ ข้าก็ไม่กล้าถามต่อหรอกว่าเป็นอะไรตาย เธอมาจากต่างจังหวัดญาติพี่น้องก็ไม่มีอาศัยทำงานไปส่งตัวเองเรียนไป เห็นว่าเรียนเก่งด้วยนะ ”
“ แล้วมันเกิดอะไรขึ้นอ่ะลุง ”
“ เออ….. เอ็งก็ใจเย็นๆดิว่ะ ข้าก็กำลังเล่าอยู่นี่ไง ใจร้อนไปได้ ”
ลุงแกตะคอกดุใส่ผม ก่อนที่จะเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นต่อไป
“ ส่วนเจ้าสันต์น่ะ มันเป็นหนุ่มเนื้อหอม บ้านรวยหน้าตาก็หล่อเหลา สาวๆเห็นเป็นได้พากันหลงหัวปลักหัวปลำล่ะว๊า…. สันต์มันรักแพรวมาก แต่ก็อย่างว่า สันต์มันเนื้อหอม เป็นกันเองกับทุกคน พูดจาดี คารมคมคลายดีไปหมด ไม่ว่าสาวไหนที่ได้คุยกับเจ้าสันต์ ต่างก็พากันคิดไปเองหรือที่วัยรุ่นเขาพูดกันว่ามโนอะไรนั่นแหล่ะ บางรายนี่ไม่พอใจนัดกันตบก็มี เนี่ยๆหน้าหอพักเนี่ยเอ็งรู้มั้ย ว่ามีคนตบกันแย่งเจ้าสันต์มาแล้ว ”
“ โห…..!!! ลุง งี้ คุณสันต์ที่ลุงพูดถึงนี่ก็ต้องเจ้าชู้อ่ะดิ ”
“ ทีแรกข้าเอง ก็คิดแบบนั้นแหล่ะ แต่ไม่ใช่เลยอย่างนั้นวะ ก็อย่างที่ข้าบอกไปก่อนหน้านี้ไง สันต์เขาเป็นคนอัธยาศัยดี สาวที่ได้คุยบ่อยๆ ก็พากันมโนไปไกล จนเจ้าสันต์เองมันก็คงจะเอือมระอามันด้วยล่ะมั้ง ก็เลยทำตัวชัดเจนไปเลยว่ากำลังคบกับแพรวอยู่ สาวๆที่แอบหลงใหลเจ้าสันต์มันอยู่ ต่างก็ไม่พอใจแพรวทั้งนั้นแหล่ะ เจ้าสันต์เองมันก็คงไม่รู้หรอกว่าแพรวน่ะ ถูกเพ่งเล็งจากบรรดากลุ่มสาวๆที่พากันมโนว่าตัวเองเป็น นู่นนี่นั่น กับเจ้าสันต์ เกือบทุกวันเลยนะ ที่ข้าเองเห็นแพรวเขาถูกรังแก บางวันก็ถูกโดนชนล้มซะงั้น บางวันรถมอเตอร์ไซต์ก็ยางรั่ว หนักๆเลยนี่ก็โดนผลักตกบันไดจนหัวแตกแหล่ะ “
ลุงแก ถอนหายใจแรงเฮือกใหญ่ พร้อมกับมองมาที่ผม
“ นี่เอ็งคงได้เจอแพรวแล้วใข่มั้ย ”
ผมรู้สึกขนลุกซู่..ขึ้นมาทันที
“ ผู้หญิงในรูป คือวิญญาณแพรวที่ผมเห็นอย่างงั้นเหรอลุง ”
“ ข้าอิจฉาเอ็งจริงๆ.. นี่ข้าทำงานเข้ากะกลางคืนมาตลอดหวังจะได้เจอเธออีกสักครั้งแต่ก็ไร้วี่แววว่ะ เอ็งไม่ต้องไปกลัวเธอหรอก เธอมาดี เธอมาขอให้เอ็งช่วย เธอไปไหนไม่ได้ วิญญาณผีตายโหงอ่ะ มีบ่วงกันทั้งนั้นแหล่ะ ถ้าเขาตัดบ่วงเขาไม่ได้หรือไม่ได้ทำในสิ่งที่เขาติดค้างไว้ เขาจะวนวนเวียนอยู่ในที่ ที่เขาผูกพันธ์ ”
“ แล้ว ทำไมต้องผมล่ะลุง ทำไมลุงไม่ช่วยเขาล่ะ ลุงก็รู้เรื่องนี้ดีนิ ”
“ ข้ารู้ แต่ข้า ไม่มีในสิ่งที่เอ็งมี ”
“ มีอะไรหรอลุง ”
“ สัมผัสที่ 6 ”
ลุงหนึ่งแกมองมาที่ผมแล้วพูดเบาๆอย่างช้าๆ ผมยืนนิ่งและชาไปทั้งตัว ความรู้สึกที่เกิดขึ้นกับผมสมัยเด็ก ย้อนกลับมาให้ผมคิด อย่างอัตโนมัติ ผมไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าเรื่องราวที่ผ่านสมัยเด็กนั้น มันใช่ความบังเอิญ หรือสิ่งที่คิดไปเองเลย หากแต่ว่านั่นคือเรื่องที่เกิดขึ้นจากสิ่งลี้ลับอย่างนั้นหรือ ?
“ เห้ย…!! เอ็งยืนเหม่ออะไรว่ะ “
เสียงลุงหนึ่งปลุกผมจากภวังค์ความคิด
“ ห๊ะๆๆ คับๆๆ เปล่าๆลุง ผมแค่ไม่รู้ว่าผมมีอะไรแบบนี้ด้วยหรอ แล้วลุงรู้ได้ไงอ่ะ ว่าผมมีสัมผัสที่ 6 แล้วอีกอย่างเหมือนลุงจะรู้เลยนะว่า วิญญาณแพรวอยู่ใกล้ๆผมอ่ะ ”
“ ทีแรกข้าไม่รู้หรอก ข้าก็เคยบอกเอ็งแล้วไง ว่าข้าก็คิดว่าเอ็งเหมือนผู้เช่าทั่วๆไป พอเจอ อะไรหน่อยก็คงจะย้ายออกไปเอง แต่นี่เอ็งเจอทั้งรูปถ่าย แล้วยังมีอะไรที่ข้าสัมผัสได้อีก หลายๆครั้งที่ข้าเองอู่ใกล้ๆเอ็ง ข้าเหมือนได้กลิ่นธูปหรือน้ำหอมหรือแป้งกลิ่นแปลกๆ นี่แหล่ะ แต่ข้าไม่กล้าบอกเอ็ง ข้ารู้แค่ว่า กลิ่นนั้นมาจากแพรวแน่ ๆ”
ผมคุยกับลุงหนึ่งจนเวลาล่วงเลย มาเกือบตีห้า เป็นเวลาที่ลุงออกเวรพอดี……
“ เห้อออออ…. ได้เวลาออกเวรข้าล่ะ เอ็งก็ไม่ต้องไปกลัวเธอหรอก ข้าฝากเธอด้วยนะ ”
ลุงหนึ่งบิดขี้เกลียดพร้อมลุกเก็บของเตรียมตัวกลับบ้าน
ใว้ตอนหน้าดีกว่า………….