สวัสดีครับ ตามหัวข้อเรื่องเลยครับ
อยากแชร์ประสบการณ์สำหรับการทำงานประจำและการทำธุรกิจส่วนตัว
สำหรับการทำงานโรงงานแน่นอนว่ามีน้อยคนมากที่ทำงานโรงงานแล้วรู้สึกมีความสุขกับ "วงจรคลาสสิค"
สำหรับวงจรคลาสสิคนี้มันคือวงจรที่ผมตั้งชื่อมาเอง การทำงานของวงจรมันก็คือ การตื่นเช้าจากที่พักไม่ว่าจะเป็นห้องเช่า หอพัก
หรือบ้านส่วนตัว จะตั้งใจตื่นบ้างหรือไม่อยากจะตั้งใจตื่นบ้าง บ้างตื่นตีห้ามั่ง หกโมงมั่ง เจ็ดโมงมั่ง หรือบางคนก็ตื่นขึ้นมาจากที่นอน
ภายในสามสิบนาทีก็ไปถึงที่ทำงานได้อย่างเจ้าของกระทู้ 55+ นอกเรื่องๆ ต่อๆ บางคนการไปทำงานอาจจะต้องนั่งรถเป็นชั่วโมงๆ
เพื่อไปทำงาน แล้วไงต่อครับพอถึงที่ทำงานก็รูดบัตร สแกนนิ้ว ฯลฯ หลังจากนั้นก็เข้าไปในกล่องสี่เหลี่ยม ปิดหู ปิดปาก ปิดจมูก
ทำ ทำ ทำ แล้วก็ทำ พอถึงเวลาก็มีเสียงสวรรค์ดัง กริ๊ง!!!!! เพื่อพักกินข้าว กินข้าวยังไม่ทันย่อยก็มีเสียงนรกส่งสัญญาณว่าหมดเวลา
พักแล้ว แกร๊ง!!!!! แทบจะยังไม่ได้คุยกับใคร เวลานอนก็แทบไม่มี หลังจากเสียงนรกผ่านไป ก็ทำ ทำ ทำ แล้วก็ทำงานต่อ จนเสียง
สวรรค์ดังอีกแล้วได้เวลาเลิกงาน กริ๊ง!!! แต่ แต่ แต่บางคนยังเลิกไม่ได้ต้องทำโอทีต่อ บางคนก็โดนบังคับทำ บางคนก็ทำเพื่อความ
อยู่รอด แล้วไงต่อครับ เลิกงาน สแกนนิ้ว รูดบัตร ฯลฯ เดินทางกลับบ้าน หมดแรง นอน แล้วยังไงต่อน่ะหรอ หึหึ เช้าแล้ว ตื่นสิครับ ตื่น
ไปทำงาน 555+ วงจรอันแสนสุดจะคลาสสิคของใครหลายๆคน
ตื่นเช้า > เดินทาง > สแกนนิ้ว > ทำงาน > พัก > ทำงาน > สแกนนิ้ว > เดินทาง > นอน >ตื่นเช้า ....+ ๆ ๆ ไม้ยมกล้านตัว 5555+
นั่นแหล่ะครับเป็นที่มาของคนยุคสมัยนี้ที่ไม่อยากทำงานประจำ อยากมีอาชีพอิสระ อยากทำธุรกิจส่วนตัว
เพื่อหลีกเลี่ยงวงจรอันคลาสสิคนี้
เข้าเรื่องประสบการณ์ของผมสักทีนะครับ 55+ เอาเรื่องหน้าที่การงานก่อนนะครับ ผมทำงานในบริษัทแห่งหนึ่งใน
สวนอุตสาหกรรมเครือสหพัฒน์ ชลบุรี ทำงานวันจันทร์ - เสาร์ 08.00-17.00 หยุดวันอาทิตย์วันเดียว ไมถงไม่ถามสุขภาพผมสักคำ
เวลาเอย สังคมเอย ผมจะไปหาจากไหน T T ทำมาประมาณสองปีครึ่ง เงินเดือนเฉลี่ยก็เกือบสองหมื่นบาทไทย ผมทำงานในส่วน
ด้านซอฟท์ซะส่วนใหญ่ หมายถึง ด้านใช้ความคิดมากกว่าแรงนะครับอันที่จริงถามว่าชอบไหม ตอบเลยนะครับ ไม่รู้ ชอบไม่ชอบก็ไม่รู้
บอกไม่ถูก เขารับมาทำอะไรก็ทำๆตามที่ได้รับมอบหมาย หน้าที่การงานผมจะได้ทำงานกับระดับผู้บริหารเป็นส่วนใหญ่ เรื่องความกดดัน
ในโรงงานผมสัมผัสไม่ได้เลย นานๆ จะรู้สึก สังคมในแผนกก็ดีเยี่ยม นอกแผนกก็โอเค มันก็มีมั่งพวกที่เรียกว่า ขวางโลก แต่มันก็มีทุกที่
แหละครับ อยู๋ที่เราจะใส่ใจมากน้อยเพียงใด ที่ไหนมีสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่า " มนุษย์ " ที่นั่นย่อมมีทั้งมนุษย์ป้าและมนุษย์ลุง 555+
แล้วเรื่องหัวหน้างาน นี่บอกเลยครับ หาแบบนี้ยาก ไม่เคยโดนบ่นสักครั้งตั้งแต่เข้ามาทำงาน หยุดงานก็หยุดเกินโควต้า จนบางทีก็ระอายใจเอง
T T สำหรับโอทีก็แล้วแต่ว่าจะทำหรือไม่ทำไม่บังคับ หัวหน้าผมมีแนวคิดที่ว่า จะหยุดจะทำโอไม่ทำโอ ขอให้งานเสร็จตามกำหนด
ก็พอ หลายคนอ่านแล้วก็คงบอกว่ามันก็ดีแล้วจะไปไหนทำไม
นั่นแหล่ะครับตามที่กล่าวมาก่อนหน้า วงจรอุบาทก์ เฮ้ย "วงจรคลาสสิค"
ผมเป็นคนที่ค่อนข้างชอบแหกกฎ เป็นอะไรที่เซงมากสำหรับวงจรนี้ ก็เลยเป็นที่มาของคำว่าอยากทำงานอิสระ อยากมีธุรกิจส่วนตัว
ความคิดแรกที่เกิดขึ้นในหัว คือ แล้วทำอะไรวะ อาชีพอิสระ ธุรกิจส่วนตัว จะทำอะไรแล้วสามารถเลี้ยงชีพให้อยู่รอดบนโลกแห่งความ
เป็นจริงได้ ก็เริ่มคิดเริ่มทำ ทำระหว่างทำงานอยู๋นี่แหล่ะ ทำหลายๆอย่างเอาที่เป็นชิ้นเป็นอันเริ่มจากอยากทำเสื้อขาย ตัดเสื้อขาย
สกรีนเสื้อขาย คิดไปไกลมาก สรุปแล้วทำได้แค่ LOT เดียวต้องเลิกครับ ด้วยปัญหาหลายๆอย่าง อีกอย่างอาชีพนี้เป็นอาชีพที่ต้อง
ใช้ทั้งเวลาใช้ทั้งทุนมาก สิ่งที่ได้มาคือกองผ้าและอุปกรณ์ Garment ชุดเล็กๆหนึ่งชุด มันไม่ง่ายหลอกครับอาชีพอิสระ 55+
เริ่มหวั่นไหว แต่สวรรค์ก็เห็นความพยายามของเด็กหนุ่มตาดำๆ คนนี้ ดลบรรดารให้เห็นถึงอาชีพที่น่าสนใจสามารถทำต่อหลังจาก
เลิกงานได้ เพื่อทดลองว่า "อิสระ" แล้วมันดีไหม คืออาชีพค้าขาย ค้าขายตลาดนัดนี่ล่ะครับที่มองเห็น อ้าวแล้วทีนี้กูจะขายอะไร
ที่มันไม่เหมือนชาวบ้านชาวช่อง แล้วคนเห็นต้องซื้อของกู เครียดกว่านั่งเขียนงานอีกครับ T T แต่สวรรค์ก็ยังเข้าข้างเราอีกจนผม
กับแฟนไปดูรายการหรือหนังสืออะไรสักอย่างเจออาชีพที่น่าสนใจ เลยเกิดไอเดียอันนี้ล่ะวะ แล้วก็เป็นที่มา ของ แต่น แต่น แต๊น
" FOOD TRUCK " นี่ล่ะครับ
(ซึ่งตอนนี้กำลังฮิตมากๆ)
แต่ช่วงที่ผมทำใหม่ๆนั้นเป็นช่วงยุคแรกๆ ยังมีไม่กี่คันหลอกครับผมมั่นใจ ผมเลือกที่จะใช้รถเป็นเครื่องมือช่วยทำมาหากิน
ผมจะขายพวกเครื่องดื่มนมสด ชาเขียว กาแฟ ฯลฯ การตกแต่งรถผมก็ตกแต่งให้เป็นจุดดึงดูดคนซึ่งก็ตอบโจทย์ครับใครเดิน
ผ่านรถผมต้องเคาะรถตลอดคงสงสัยว่าลายมันของแท้หรือของปลอม 55 เคาะจนคิดในใจว่าเอากลับไปเล่นบ้านไหม
(ไอ้ที่บอกว่าเคาะรถผมเพราะผมออกแบบลวดลายเหมือนอิฐที่สร้างบ้านอะนะครับ เผื่องงว่าเคาะทำไม) ที่ไม่แนบรูปด้วยเดี๊ยว
จะเป็นการโฆษณานะครับต้องขออภัย ส่วนเรื่องรายได้ถือว่าโอเคเลยครับ เป็นอาชีพที่ไม่ต้องพบกับวงจรคลาสสิค
แต่ไปพบกับอีกวงจร 555555+ อีกเรื่องนะครับทำเลนี่สำคัญมากครับ อย่าคิดว่าที่ไหนก็ขายได้ ขายอะขายได้ครับ
ขายให้รวยอะครับมันอยู่ที่ทำเล
ทุกวันนี้ผมก็ยังทำงานประจำอยู่ และก็เป็นพ่อค้าตามตลาดนัดด้วย ก็มันได้รายได้สองทางนี่ มันจะดีแค่ไหน
ถ้าคุณได้รับเงินทั้งรายวัน และรายเดือน ฟินไหมล่ะ เริ่มงก 5555+
การเป็นพ่อค้าผมก็เป็นหลังเลิกงาน 17.30-21.00 โดยประมาณ ผมเริ่มขายมาตั้งแต่ประมาณปลายเดือนเมษายน 2558
ถ้าหากว่าสมมุติโรงงานที่ผมและแฟนทำงานอยู่ปิดตัวลงกะทันหัน ผมก็ยังมีรายได้นี้รองรับอยู่ ทั้งนี้ทั้งนั้นผมโชคดีที่ว่า
โรงงาน ที่พัก และตลาดนัด มันอยู่ไม่ไกลกันมากเท่าใหร่ ใช้เวลาไม่เกิน 1 ช.ม.สามารถเปลี่ยนจากอาชีพวิศวกรโรงงานเป็น
อาชีพค้าขายได้
ขอบอกเลยครับใครบอกว่าทำธุรกิจส่วนตัวมันสบาย จริงหรอครับ ทุกวันนี้ก็ยังมีปัญหาตลอด 555+
ขนาดของผมธุรกิจเล็กๆ กว่าจะมาเป็น FOOD TRUCK คันนี้ได้นี่ ท้อเหมือนกันนะครับ
ตั้งแต่วันแรกที่ต้องยืมเงินป้าเพื่อไปดาวน์รถ แล้วต้องใช้เงินเก็บตัวเองเพื่อตกแต่ง ออกแบบ ไหนจะต้องฝึกชงเครื่องดื่ม
เองอีก ตอนคิดค้นสูตรนี่สุด ๆ เรียกว่าเบาหวานขึ้นตากลั่นมาเป็นน้ำใสๆ หยด ตริ๊ง ตริ๊ง ถถถถ นั่นมันน้ำตาคอเบ้า T T
ขอบอกเลยครับ ไม่มีขั้นตอนไหนที่ไม่มีปัญหาให้คิด ไม่อยากจะบอกว่ามันมีอะไรมั่ง
เดี้ยวคนที่อยู่ในวงจรคลาสสิคที่คิดจำทำธุรกิจส่วนตัวจะหมดกำลังใจ 555+ อาชีพธุรกิจส่วนตัวอื่นก็คงเป็นเช่นกัน
ที่เขียนมาทั้งหมดทั้งมวล ไม่ได้บอกว่าการทำธุรกิจส่วนตัวไม่ดี การทำงานประจำไม่ดี หรือบอกว่าอะไรดีหรือไม่ดี
เพียงแค่อยากจะให้พี่ๆ น้องๆ ที่อยากทำธุรกิจส่วนตัว ลองเริ่มทำไปพร้อมกับงานประจำก่อนก็ได้ครับ
ถ้ายังไม่พร้อมเต็มที่ จะได้รู้ว่ามัน " ใช่ " หรือ " ไม่ใช่ " หรือใครพร้อมที่จะลุยก็ตามสบายครับ มั่นใจแล้วลุยเลยครับ
ให้คิดไว้เสมอนะครับว่า โลกแห่งความเป็นจริงแล้วมันไม่ได้สวยงามเหมือนดอกไม้ที่งานพืชสวนโลกที่เชียงใหม่นะ
เกี่ยวไรกันวะ 555
จากที่เคยทำงานเป็นพนักงานนั่งทำงาน สบายๆ แต่พอเริ่มทำของตัวเองต้องทุ่มทั้งแรง ทั้งสมองและทั้งใจ
ไปกับคำว่าธุรกิจส่วนตัว เพื่ออาชีพอิสระที่พูดมาไม่ได้ตัดกำลังใจนะครับ เป็นประสบการณ์ที่ผมสัมผัสมาและอยาก
มาเล่าให้ฟังเป็นแนวทาง ที่เขียนมาให้อ่านผมไม่ได้มีจุดมุ่งหมายเพื่อให้คนออกจาก "วงจรคลาสสิค" หรือให้ออกมา
ทำธุรกิจส่วนตัวแต่อย่างใด
เพียงแต่อยากแชร์ประสบการณ์
เผื่อว่าจะเป็นแนวทางให้ใครหลายๆคนได้มองเห็นช่องทางการหารายได้เพิ่มขึ้นและอาจทำให้ชีวิตดีขึ้นกว่าเดิมก็ได้ครับ
ด้วยความเคารพ
ปล.
+ ข้อดีของงานประจำ การเงินมั่นคง การงานมั่นคั่ง ทำงานจะเต็มร้อยหรือไม่เต็มร้อยก็ได้
- ข้อเสียของงานประจำ วงจรคลาสสิค (แค่นี้ก็ขยายความเอาเองนะครับ)
+ ข้อดีของธุรกิจส่วนตัว ทำมากได้มาก ทำน้อยได้น้อย มีความเป็นอิสระ
- ข้อเสียของธุรกิจส่วนตัว เรื่องเงินไม่แน่ไม่นอน อาจจะเจ๊ง อาจจะรุ่ง ไม่มีใครบอกได้ เหนื่อยสามเท่าสี่เท่า ร้อยเท่า
ปล.2
ผมเขียนเนื้อเรื่องไม่เก่งอาจจะอ่านแล้วขัดใจ ก็โปรดอภัยไว้ด้วย
ปล.3
ที่ผมทำได้ทุกวันนี้ก็มีผู้ช่วยที่เรียกว่า มนุษย์เมีย ด้วยนะครับ (ตอนนี้ก็ยังเป็นวงจรเดียวกับผม)
สวัสดี
แชร์ประสบการณ์สำหรับการทำงานประจำและการทำธุรกิจส่วนตัว
อยากแชร์ประสบการณ์สำหรับการทำงานประจำและการทำธุรกิจส่วนตัว
สำหรับการทำงานโรงงานแน่นอนว่ามีน้อยคนมากที่ทำงานโรงงานแล้วรู้สึกมีความสุขกับ "วงจรคลาสสิค"
สำหรับวงจรคลาสสิคนี้มันคือวงจรที่ผมตั้งชื่อมาเอง การทำงานของวงจรมันก็คือ การตื่นเช้าจากที่พักไม่ว่าจะเป็นห้องเช่า หอพัก
หรือบ้านส่วนตัว จะตั้งใจตื่นบ้างหรือไม่อยากจะตั้งใจตื่นบ้าง บ้างตื่นตีห้ามั่ง หกโมงมั่ง เจ็ดโมงมั่ง หรือบางคนก็ตื่นขึ้นมาจากที่นอน
ภายในสามสิบนาทีก็ไปถึงที่ทำงานได้อย่างเจ้าของกระทู้ 55+ นอกเรื่องๆ ต่อๆ บางคนการไปทำงานอาจจะต้องนั่งรถเป็นชั่วโมงๆ
เพื่อไปทำงาน แล้วไงต่อครับพอถึงที่ทำงานก็รูดบัตร สแกนนิ้ว ฯลฯ หลังจากนั้นก็เข้าไปในกล่องสี่เหลี่ยม ปิดหู ปิดปาก ปิดจมูก
ทำ ทำ ทำ แล้วก็ทำ พอถึงเวลาก็มีเสียงสวรรค์ดัง กริ๊ง!!!!! เพื่อพักกินข้าว กินข้าวยังไม่ทันย่อยก็มีเสียงนรกส่งสัญญาณว่าหมดเวลา
พักแล้ว แกร๊ง!!!!! แทบจะยังไม่ได้คุยกับใคร เวลานอนก็แทบไม่มี หลังจากเสียงนรกผ่านไป ก็ทำ ทำ ทำ แล้วก็ทำงานต่อ จนเสียง
สวรรค์ดังอีกแล้วได้เวลาเลิกงาน กริ๊ง!!! แต่ แต่ แต่บางคนยังเลิกไม่ได้ต้องทำโอทีต่อ บางคนก็โดนบังคับทำ บางคนก็ทำเพื่อความ
อยู่รอด แล้วไงต่อครับ เลิกงาน สแกนนิ้ว รูดบัตร ฯลฯ เดินทางกลับบ้าน หมดแรง นอน แล้วยังไงต่อน่ะหรอ หึหึ เช้าแล้ว ตื่นสิครับ ตื่น
ไปทำงาน 555+ วงจรอันแสนสุดจะคลาสสิคของใครหลายๆคน
ตื่นเช้า > เดินทาง > สแกนนิ้ว > ทำงาน > พัก > ทำงาน > สแกนนิ้ว > เดินทาง > นอน >ตื่นเช้า ....+ ๆ ๆ ไม้ยมกล้านตัว 5555+
นั่นแหล่ะครับเป็นที่มาของคนยุคสมัยนี้ที่ไม่อยากทำงานประจำ อยากมีอาชีพอิสระ อยากทำธุรกิจส่วนตัว
เพื่อหลีกเลี่ยงวงจรอันคลาสสิคนี้
เข้าเรื่องประสบการณ์ของผมสักทีนะครับ 55+ เอาเรื่องหน้าที่การงานก่อนนะครับ ผมทำงานในบริษัทแห่งหนึ่งใน
สวนอุตสาหกรรมเครือสหพัฒน์ ชลบุรี ทำงานวันจันทร์ - เสาร์ 08.00-17.00 หยุดวันอาทิตย์วันเดียว ไมถงไม่ถามสุขภาพผมสักคำ
เวลาเอย สังคมเอย ผมจะไปหาจากไหน T T ทำมาประมาณสองปีครึ่ง เงินเดือนเฉลี่ยก็เกือบสองหมื่นบาทไทย ผมทำงานในส่วน
ด้านซอฟท์ซะส่วนใหญ่ หมายถึง ด้านใช้ความคิดมากกว่าแรงนะครับอันที่จริงถามว่าชอบไหม ตอบเลยนะครับ ไม่รู้ ชอบไม่ชอบก็ไม่รู้
บอกไม่ถูก เขารับมาทำอะไรก็ทำๆตามที่ได้รับมอบหมาย หน้าที่การงานผมจะได้ทำงานกับระดับผู้บริหารเป็นส่วนใหญ่ เรื่องความกดดัน
ในโรงงานผมสัมผัสไม่ได้เลย นานๆ จะรู้สึก สังคมในแผนกก็ดีเยี่ยม นอกแผนกก็โอเค มันก็มีมั่งพวกที่เรียกว่า ขวางโลก แต่มันก็มีทุกที่
แหละครับ อยู๋ที่เราจะใส่ใจมากน้อยเพียงใด ที่ไหนมีสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่า " มนุษย์ " ที่นั่นย่อมมีทั้งมนุษย์ป้าและมนุษย์ลุง 555+
แล้วเรื่องหัวหน้างาน นี่บอกเลยครับ หาแบบนี้ยาก ไม่เคยโดนบ่นสักครั้งตั้งแต่เข้ามาทำงาน หยุดงานก็หยุดเกินโควต้า จนบางทีก็ระอายใจเอง
T T สำหรับโอทีก็แล้วแต่ว่าจะทำหรือไม่ทำไม่บังคับ หัวหน้าผมมีแนวคิดที่ว่า จะหยุดจะทำโอไม่ทำโอ ขอให้งานเสร็จตามกำหนด
ก็พอ หลายคนอ่านแล้วก็คงบอกว่ามันก็ดีแล้วจะไปไหนทำไม
นั่นแหล่ะครับตามที่กล่าวมาก่อนหน้า วงจรอุบาทก์ เฮ้ย "วงจรคลาสสิค"
ผมเป็นคนที่ค่อนข้างชอบแหกกฎ เป็นอะไรที่เซงมากสำหรับวงจรนี้ ก็เลยเป็นที่มาของคำว่าอยากทำงานอิสระ อยากมีธุรกิจส่วนตัว
ความคิดแรกที่เกิดขึ้นในหัว คือ แล้วทำอะไรวะ อาชีพอิสระ ธุรกิจส่วนตัว จะทำอะไรแล้วสามารถเลี้ยงชีพให้อยู่รอดบนโลกแห่งความ
เป็นจริงได้ ก็เริ่มคิดเริ่มทำ ทำระหว่างทำงานอยู๋นี่แหล่ะ ทำหลายๆอย่างเอาที่เป็นชิ้นเป็นอันเริ่มจากอยากทำเสื้อขาย ตัดเสื้อขาย
สกรีนเสื้อขาย คิดไปไกลมาก สรุปแล้วทำได้แค่ LOT เดียวต้องเลิกครับ ด้วยปัญหาหลายๆอย่าง อีกอย่างอาชีพนี้เป็นอาชีพที่ต้อง
ใช้ทั้งเวลาใช้ทั้งทุนมาก สิ่งที่ได้มาคือกองผ้าและอุปกรณ์ Garment ชุดเล็กๆหนึ่งชุด มันไม่ง่ายหลอกครับอาชีพอิสระ 55+
เริ่มหวั่นไหว แต่สวรรค์ก็เห็นความพยายามของเด็กหนุ่มตาดำๆ คนนี้ ดลบรรดารให้เห็นถึงอาชีพที่น่าสนใจสามารถทำต่อหลังจาก
เลิกงานได้ เพื่อทดลองว่า "อิสระ" แล้วมันดีไหม คืออาชีพค้าขาย ค้าขายตลาดนัดนี่ล่ะครับที่มองเห็น อ้าวแล้วทีนี้กูจะขายอะไร
ที่มันไม่เหมือนชาวบ้านชาวช่อง แล้วคนเห็นต้องซื้อของกู เครียดกว่านั่งเขียนงานอีกครับ T T แต่สวรรค์ก็ยังเข้าข้างเราอีกจนผม
กับแฟนไปดูรายการหรือหนังสืออะไรสักอย่างเจออาชีพที่น่าสนใจ เลยเกิดไอเดียอันนี้ล่ะวะ แล้วก็เป็นที่มา ของ แต่น แต่น แต๊น
" FOOD TRUCK " นี่ล่ะครับ
(ซึ่งตอนนี้กำลังฮิตมากๆ)
แต่ช่วงที่ผมทำใหม่ๆนั้นเป็นช่วงยุคแรกๆ ยังมีไม่กี่คันหลอกครับผมมั่นใจ ผมเลือกที่จะใช้รถเป็นเครื่องมือช่วยทำมาหากิน
ผมจะขายพวกเครื่องดื่มนมสด ชาเขียว กาแฟ ฯลฯ การตกแต่งรถผมก็ตกแต่งให้เป็นจุดดึงดูดคนซึ่งก็ตอบโจทย์ครับใครเดิน
ผ่านรถผมต้องเคาะรถตลอดคงสงสัยว่าลายมันของแท้หรือของปลอม 55 เคาะจนคิดในใจว่าเอากลับไปเล่นบ้านไหม
(ไอ้ที่บอกว่าเคาะรถผมเพราะผมออกแบบลวดลายเหมือนอิฐที่สร้างบ้านอะนะครับ เผื่องงว่าเคาะทำไม) ที่ไม่แนบรูปด้วยเดี๊ยว
จะเป็นการโฆษณานะครับต้องขออภัย ส่วนเรื่องรายได้ถือว่าโอเคเลยครับ เป็นอาชีพที่ไม่ต้องพบกับวงจรคลาสสิค
แต่ไปพบกับอีกวงจร 555555+ อีกเรื่องนะครับทำเลนี่สำคัญมากครับ อย่าคิดว่าที่ไหนก็ขายได้ ขายอะขายได้ครับ
ขายให้รวยอะครับมันอยู่ที่ทำเล
ทุกวันนี้ผมก็ยังทำงานประจำอยู่ และก็เป็นพ่อค้าตามตลาดนัดด้วย ก็มันได้รายได้สองทางนี่ มันจะดีแค่ไหน
ถ้าคุณได้รับเงินทั้งรายวัน และรายเดือน ฟินไหมล่ะ เริ่มงก 5555+
การเป็นพ่อค้าผมก็เป็นหลังเลิกงาน 17.30-21.00 โดยประมาณ ผมเริ่มขายมาตั้งแต่ประมาณปลายเดือนเมษายน 2558
ถ้าหากว่าสมมุติโรงงานที่ผมและแฟนทำงานอยู่ปิดตัวลงกะทันหัน ผมก็ยังมีรายได้นี้รองรับอยู่ ทั้งนี้ทั้งนั้นผมโชคดีที่ว่า
โรงงาน ที่พัก และตลาดนัด มันอยู่ไม่ไกลกันมากเท่าใหร่ ใช้เวลาไม่เกิน 1 ช.ม.สามารถเปลี่ยนจากอาชีพวิศวกรโรงงานเป็น
อาชีพค้าขายได้
ขอบอกเลยครับใครบอกว่าทำธุรกิจส่วนตัวมันสบาย จริงหรอครับ ทุกวันนี้ก็ยังมีปัญหาตลอด 555+
ขนาดของผมธุรกิจเล็กๆ กว่าจะมาเป็น FOOD TRUCK คันนี้ได้นี่ ท้อเหมือนกันนะครับ
ตั้งแต่วันแรกที่ต้องยืมเงินป้าเพื่อไปดาวน์รถ แล้วต้องใช้เงินเก็บตัวเองเพื่อตกแต่ง ออกแบบ ไหนจะต้องฝึกชงเครื่องดื่ม
เองอีก ตอนคิดค้นสูตรนี่สุด ๆ เรียกว่าเบาหวานขึ้นตากลั่นมาเป็นน้ำใสๆ หยด ตริ๊ง ตริ๊ง ถถถถ นั่นมันน้ำตาคอเบ้า T T
ขอบอกเลยครับ ไม่มีขั้นตอนไหนที่ไม่มีปัญหาให้คิด ไม่อยากจะบอกว่ามันมีอะไรมั่ง
เดี้ยวคนที่อยู่ในวงจรคลาสสิคที่คิดจำทำธุรกิจส่วนตัวจะหมดกำลังใจ 555+ อาชีพธุรกิจส่วนตัวอื่นก็คงเป็นเช่นกัน
ที่เขียนมาทั้งหมดทั้งมวล ไม่ได้บอกว่าการทำธุรกิจส่วนตัวไม่ดี การทำงานประจำไม่ดี หรือบอกว่าอะไรดีหรือไม่ดี
เพียงแค่อยากจะให้พี่ๆ น้องๆ ที่อยากทำธุรกิจส่วนตัว ลองเริ่มทำไปพร้อมกับงานประจำก่อนก็ได้ครับ
ถ้ายังไม่พร้อมเต็มที่ จะได้รู้ว่ามัน " ใช่ " หรือ " ไม่ใช่ " หรือใครพร้อมที่จะลุยก็ตามสบายครับ มั่นใจแล้วลุยเลยครับ
ให้คิดไว้เสมอนะครับว่า โลกแห่งความเป็นจริงแล้วมันไม่ได้สวยงามเหมือนดอกไม้ที่งานพืชสวนโลกที่เชียงใหม่นะ
เกี่ยวไรกันวะ 555
จากที่เคยทำงานเป็นพนักงานนั่งทำงาน สบายๆ แต่พอเริ่มทำของตัวเองต้องทุ่มทั้งแรง ทั้งสมองและทั้งใจ
ไปกับคำว่าธุรกิจส่วนตัว เพื่ออาชีพอิสระที่พูดมาไม่ได้ตัดกำลังใจนะครับ เป็นประสบการณ์ที่ผมสัมผัสมาและอยาก
มาเล่าให้ฟังเป็นแนวทาง ที่เขียนมาให้อ่านผมไม่ได้มีจุดมุ่งหมายเพื่อให้คนออกจาก "วงจรคลาสสิค" หรือให้ออกมา
ทำธุรกิจส่วนตัวแต่อย่างใด
เพียงแต่อยากแชร์ประสบการณ์
เผื่อว่าจะเป็นแนวทางให้ใครหลายๆคนได้มองเห็นช่องทางการหารายได้เพิ่มขึ้นและอาจทำให้ชีวิตดีขึ้นกว่าเดิมก็ได้ครับ
ด้วยความเคารพ
ปล.
+ ข้อดีของงานประจำ การเงินมั่นคง การงานมั่นคั่ง ทำงานจะเต็มร้อยหรือไม่เต็มร้อยก็ได้
- ข้อเสียของงานประจำ วงจรคลาสสิค (แค่นี้ก็ขยายความเอาเองนะครับ)
+ ข้อดีของธุรกิจส่วนตัว ทำมากได้มาก ทำน้อยได้น้อย มีความเป็นอิสระ
- ข้อเสียของธุรกิจส่วนตัว เรื่องเงินไม่แน่ไม่นอน อาจจะเจ๊ง อาจจะรุ่ง ไม่มีใครบอกได้ เหนื่อยสามเท่าสี่เท่า ร้อยเท่า
ปล.2
ผมเขียนเนื้อเรื่องไม่เก่งอาจจะอ่านแล้วขัดใจ ก็โปรดอภัยไว้ด้วย
ปล.3
ที่ผมทำได้ทุกวันนี้ก็มีผู้ช่วยที่เรียกว่า มนุษย์เมีย ด้วยนะครับ (ตอนนี้ก็ยังเป็นวงจรเดียวกับผม)
สวัสดี