สวัดดีค่ะ อันนี้เป็นกระทู้แรกที่เราเขียนอะไรจริงจัง ถ้าผิดพลาดยังไงก็ชี้แนะด้วยนะคะ
เอาล่ะค่ะท้าวความเดิมก่อนว่า ตอนนั้นพึ่งเรียนจบใหม่ๆ กระแสการไปเวิคก็มาแรงมากๆ
ส่วนตัวเราก็ไม่รู้ว่าจะทำอะไรต่อ เลยลองขอพ่อแม่ไป สรุปว่าอนุมัติค่ะ จากนั้นเราก็เริ่มหาข้อมูลมาเรื่อยๆ
Part 1.
1. ว่าด้วยเรื่องของเอเจนซี่
คำถามสุดฮิตเลยค่ะ เอเจ้นไหนดี?
เราก็เริ่มศึกษาหาข้อมูนไปเรื่อยๆ ทั้งอ่านในพันทิพ บล็อคต่างๆ ประสบการณ์ตรงจากคนที่เคยไปมาแล้ว
เอาเป็นว่าช่วยได้บ้างไม่ได้บ้าง ชะนั้นเอาประสบการณ์ตรงจากเราเลยนะคะ คือจะเชื่อก็ได้ไม่เชื่อก็ได้ค่ะ เอาไว้เป็นแนวคิด
เอาเจนซี่ไหนดี...ไม่ว่าเอเจ้นไหนก็มีทั้งดีและไม่ดีค่ะ ไม่มีใครดีที่สุด ไม่มีเอเจ้นไหนพาเราไปถึงฝั่งได้ทุกคนหลอกค่ะ
เนื่องจากว่าเด็กที่ไปเวิคเยอะมากหลายๆเอเจ้นอาจจะให้ความสำคัญกับแต่ละบุคคลไม่เท่ากัน
ทางที่ดีก็พยายามคุยศึกษาหาข้อมูนจากพี่ๆแต่ละเอเจ้นให้ได้มากที่สุด เอาเป็นว่าถูกใจอันไหนก็เลือกเลยค่ะ
ปล.เอาที่มันน่าเชื่อถือ โดยดูจากผลงานปีก่อนๆด้วยนะคะ
หลายคนคงคิดว่าเห้ยถ้าจะบอกแบบนี้ก็ไม่ต้องบอกก็ได้นะ ก็ได้ค่ะ จะเอาแบบนั้นก็ได้
แต่ที่เราจะสื่อจริงๆคือ "ไม่ว่าจะทำอะไรควรพึ่งพาตัวเองดีกว่าค่ะ"
ถ้าเกิดปัญหาจริงๆ คุณก็หวังพึ่งพาใครไม่ได้เช่นกัน
ชะนั้นก่อนไป ศึกษาหาข้อมูนให้ได้มากๆ อย่างเช่นการตั้งคำถามกับตัวเองว่า "เห้ยแล้วถ้าเราตกเครื่องทำไงอะ" ประมานนั้นค่ะ
2. ทำงานอะไร, ไปเมืองไหนดี อันนี้ก็ยอดฮิตเหมือนกัน
งาน...อะไรก็ได้ค่ะเอาที่เราทำแล้วสบายใจยังไงมันก็ได้งานเหมือนกัน แต่แต่แต่
เหตุผลของการไปเวิคแต่ละคนไม่เหมือนกัน บางคนไปเที่ยว บางคนไปเก็บเงิน บางคนไปหาซัมติงค่ะ รู้ๆกัน 555
เอาล่ะค่ะ แตกประเด็นออกมา สำหรับคนที่ไปเที่ยว ก็เลือกเมืองที่ตรงกับความต้องการของคุณได้เลยค่ะ ถ้าคิดว่าไม่มายเรื่องเงิน
ก็โลดแล่นไปตามความฝันของคุณเลยค่ะ เช่นอาจจะไปหางานแถวๆแอลเอ ก็เก็บที่เที่ยวส่วนนั้นไปเลย
พอหลังจากจบโครงการก็ข้ามฟากมาเที่ยวแถวนิวยอคได้อีก เห็นไหมได้เที่ยวเต็มที่เลย
แต่คนที่มายเรื่องเงินแต่ก็อยากเที่ยวด้วย อันนี้ก็ต้องทำงานนะคะ ... ไปดูวิธีหาเงินกัน
สำหรับคนที่ไปหาเงิน อันนี้ก็ต้องดูหลายอย่างหน่อย 1. ค่าที่พัก 2. ค่าครองชีพ 3. รายได้
ในตัวโครงการจะบอกเลยค่ะ ว่าค่าที่พักเท่าไร บางคนเหมาจ่ายเป็น season
บางคนจ่ายรายเดือน บางคนจ่ายรายอาทิต หรือบางคนไปหาเอาทีหลัง
แต่นั่นไม่สำคัญค่ะ ที่สำคัญคือ จ่ายเท่าไร ลองคำนวนดูค่ะว่า รายรับที่เราจะได้รับ เมื่อหักค่าบ้านแล้ว คุ้มไหม
ส่วนค่าครองชีพของแต่ละเมืองไม่เท่ากันนะคะ ไม่ว่าจะใช้จ่ายอะไรคุณก็ต้องเสียภาษี ควรศึกษาดูค่ะว่าภาษีแต่ละรัฐเป็นยังไง
ฟังดูยากเนอะ จริงๆก็ไม่ต้องซีเรียดหลอกค่ะ ถ้าเราทำงานแล้วได้เงินที่โน่นเอาไปซื้อกินซื้อใช้ที่โน่นอะไรๆมันก็ถูกไปหมดแหละค่ะ
ขนาดเราได้น้อยมากๆ ทำงานวันนึงยังซื้อ coach ได้เลย ทริก เคยได้ยินไหมอยากได้เงินก็ต้องทำงาน
ค่ะทำๆมันไปเถอะถ้าคิดว่าจะไปหาเงิน พอไปถึงเมื่อได้ social security แล้ว ก็เดินหางานสองเลยค่ะ เข้ามันทุกร้าน
รับไม่รับค่อยว่ากันอีกที แต่ที่สำคัญไม่ควรหางานให้ตารางมันชนกันนะคะ ควรเอางานที่เราติดต่อกับเอเจนเป็นงานหลัก
ส่วนคนที่จะไปหาซัมติง ง่ายๆค่ะ เปิดกูเกิ้ลเซิตเลยค่ะ ชอบอะไรยังไง ดูภาพค่ะ ดูจากภาพรวม ช่วยได้เยอะ 555
คนที่อยากไปทำงานจริงๆนะคะ ไปเมืองที่มีคนเยอะๆนี่แหละค่ะ เพราะตอนนี้เราไปกันช่วงซัมเมอร์ เช่น ฟอลิด้า
เมืองอะไรก็ได้ที่เป็นเมืองท่องเที่ยว เพราะอัตราการจ้างงานเยอะ ไม่ต้องไปคิดนะคะว่าจะไปเมืองเงียบๆจะได้ไม่มีแรงแข่งขันสูง
อันนี้คิดผิดอย่างแรง เพราะเราผ่านมาแล้ว เมืองเงียบคนไม่เที่ยวเศรษฐกิจไม่เติบโตอัตราการจ้างงานก็ต่ำนะคะ
งานที่ทำแล้วได้เงินดี เด็กเสริฟค่ะ ติปดี
งานที่มีตารางแน่นอน งานเฮ้าค่ะ ขอเค้าฟิคตารางได้ ส่วนใหญ่ทำตอนเช้า ตอนเย็นก็ไปทำร้านอาหารได้ค่ะ
งานที่ได้ใช้ภาษาเยอะ เด็กเสริฟ แคชเชีย พนักงานต้อนรับ
งานที่สบายๆชิวๆจนน่าเบื่อ ไลฟกาดค่ะ นั่งเฝ้าไปเถอะค่ะทั้งวัน
งานสนุกบ้างไม่สนุกบ้าง เป็นงานในร้านฟาสฟูดค่ะ
อันนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวที่ได้จากการแลกเปลี่ยนประสบการณ์กับเพื่อนที่ไปเวิคเหมือนกันนะคะ
3. สัมภาษณ์กับนายจ้าง / ขอวีซ่า ยากไหม
ไหนใครปี 4 ยกมือขึ้น เรานี่แหละค่ะ จบแล้ว อันนี้ก็เป็นอีกคำถามนึงว่า ปี4แล้วจะไปได้หลอ ค่ะไปได้ ถ้า...
คุณตอบคำถามของเค้าได้ การตอบคำถามง่ายๆแบบฉลาดๆ ไม่ใช่ถามคำตอบคำ
ฝรั่ง ขอบการอธิบาย เช่นถามว่า คุณเรียนจบแล้วหรือยัง ตอบ จบแล้ว อันนี้สั้นไปนะคะ เราต้องอธิบายด้วยว่า
อย่างเช่น จบแล้วค่ะ เราจบสามปีครึ่ง เรียนเมเจอร์นี้มา บลาบลาบลา จริงๆเค้าก็ไม่ได้อยากจะรู้
แต่เพื่อให้ดูน่าภูมิฐานขึ้นค่ะ 555 ทริกนี้ใช้กับการณ์สัมภาษณ์นายจ้างได้นะคะ
ชะนั้นไม่ต้องกลัวค่ะ สัมภาษณ์วีซ่าไม่ยากแค่เราเตรียมให้พร้อม
4. ไม่เก่งภาษาอังกฤษจะไปได้ไหม
ก็ได้ค่ะ ถ้าคุณใจกล้าและไม่ขี้แยร้องไห้กลับบ้านซะก่อน ไปอยู่โน่นอย่างที่บอกอะค่ะต้องพึ่งพาตัวเอง
ก็ถ้าในเมื่อคุณรู้จุดอ่อนของตัวเองแล้วทำไมไม่พัฒนาล่ะคะ ภาษาอังกฤษไม่ยากค่ะ เราก็ไม่ได้เก่ง
ถึงตอนนี้ก็ยังไม่เก่ง อย่างน้อยเราก็ควรรู้คำศัพท์พื้นๆ ในการถามทางถ้าหลง ในการเสนอให้ใครทำอะไรอย่างนึง
หรือขอความช่วยเหลือ เป็นต้น เอาง่ายๆค่ะ ไม่ต้องรู้เยอะก็ไปได้ แค่มั่นใจ
จริงๆเราอยากให้เด็กไทยมีประสปการณ์ในการไปต่างประเทศนะคะ ไม่ใช่ไปเที่ยว
แต่ไปใช้ชีวิต เพราะมันได้มากกว่าไปเที่ยวค่ะ สนุก เบื่อ เซง เศร้า เหงา ไม่ว่าอะไร เราต้องอยู่ให้ได้ ต้องเอาตัวรอดค่ะ
เผื่อไว้เป็นแนวคิดนะคะมีคำถามถามเราได้น้า เดี๋ยวเราจะมาต่อ Part 2 Williamsburg, VA ค่า
Work and travel Williamsburg, Va
เอาล่ะค่ะท้าวความเดิมก่อนว่า ตอนนั้นพึ่งเรียนจบใหม่ๆ กระแสการไปเวิคก็มาแรงมากๆ
ส่วนตัวเราก็ไม่รู้ว่าจะทำอะไรต่อ เลยลองขอพ่อแม่ไป สรุปว่าอนุมัติค่ะ จากนั้นเราก็เริ่มหาข้อมูลมาเรื่อยๆ
Part 1.
1. ว่าด้วยเรื่องของเอเจนซี่
คำถามสุดฮิตเลยค่ะ เอเจ้นไหนดี?
เราก็เริ่มศึกษาหาข้อมูนไปเรื่อยๆ ทั้งอ่านในพันทิพ บล็อคต่างๆ ประสบการณ์ตรงจากคนที่เคยไปมาแล้ว
เอาเป็นว่าช่วยได้บ้างไม่ได้บ้าง ชะนั้นเอาประสบการณ์ตรงจากเราเลยนะคะ คือจะเชื่อก็ได้ไม่เชื่อก็ได้ค่ะ เอาไว้เป็นแนวคิด
เอาเจนซี่ไหนดี...ไม่ว่าเอเจ้นไหนก็มีทั้งดีและไม่ดีค่ะ ไม่มีใครดีที่สุด ไม่มีเอเจ้นไหนพาเราไปถึงฝั่งได้ทุกคนหลอกค่ะ
เนื่องจากว่าเด็กที่ไปเวิคเยอะมากหลายๆเอเจ้นอาจจะให้ความสำคัญกับแต่ละบุคคลไม่เท่ากัน
ทางที่ดีก็พยายามคุยศึกษาหาข้อมูนจากพี่ๆแต่ละเอเจ้นให้ได้มากที่สุด เอาเป็นว่าถูกใจอันไหนก็เลือกเลยค่ะ
ปล.เอาที่มันน่าเชื่อถือ โดยดูจากผลงานปีก่อนๆด้วยนะคะ
หลายคนคงคิดว่าเห้ยถ้าจะบอกแบบนี้ก็ไม่ต้องบอกก็ได้นะ ก็ได้ค่ะ จะเอาแบบนั้นก็ได้
แต่ที่เราจะสื่อจริงๆคือ "ไม่ว่าจะทำอะไรควรพึ่งพาตัวเองดีกว่าค่ะ"
ถ้าเกิดปัญหาจริงๆ คุณก็หวังพึ่งพาใครไม่ได้เช่นกัน
ชะนั้นก่อนไป ศึกษาหาข้อมูนให้ได้มากๆ อย่างเช่นการตั้งคำถามกับตัวเองว่า "เห้ยแล้วถ้าเราตกเครื่องทำไงอะ" ประมานนั้นค่ะ
2. ทำงานอะไร, ไปเมืองไหนดี อันนี้ก็ยอดฮิตเหมือนกัน
งาน...อะไรก็ได้ค่ะเอาที่เราทำแล้วสบายใจยังไงมันก็ได้งานเหมือนกัน แต่แต่แต่
เหตุผลของการไปเวิคแต่ละคนไม่เหมือนกัน บางคนไปเที่ยว บางคนไปเก็บเงิน บางคนไปหาซัมติงค่ะ รู้ๆกัน 555
เอาล่ะค่ะ แตกประเด็นออกมา สำหรับคนที่ไปเที่ยว ก็เลือกเมืองที่ตรงกับความต้องการของคุณได้เลยค่ะ ถ้าคิดว่าไม่มายเรื่องเงิน
ก็โลดแล่นไปตามความฝันของคุณเลยค่ะ เช่นอาจจะไปหางานแถวๆแอลเอ ก็เก็บที่เที่ยวส่วนนั้นไปเลย
พอหลังจากจบโครงการก็ข้ามฟากมาเที่ยวแถวนิวยอคได้อีก เห็นไหมได้เที่ยวเต็มที่เลย
แต่คนที่มายเรื่องเงินแต่ก็อยากเที่ยวด้วย อันนี้ก็ต้องทำงานนะคะ ... ไปดูวิธีหาเงินกัน
สำหรับคนที่ไปหาเงิน อันนี้ก็ต้องดูหลายอย่างหน่อย 1. ค่าที่พัก 2. ค่าครองชีพ 3. รายได้
ในตัวโครงการจะบอกเลยค่ะ ว่าค่าที่พักเท่าไร บางคนเหมาจ่ายเป็น season
บางคนจ่ายรายเดือน บางคนจ่ายรายอาทิต หรือบางคนไปหาเอาทีหลัง
แต่นั่นไม่สำคัญค่ะ ที่สำคัญคือ จ่ายเท่าไร ลองคำนวนดูค่ะว่า รายรับที่เราจะได้รับ เมื่อหักค่าบ้านแล้ว คุ้มไหม
ส่วนค่าครองชีพของแต่ละเมืองไม่เท่ากันนะคะ ไม่ว่าจะใช้จ่ายอะไรคุณก็ต้องเสียภาษี ควรศึกษาดูค่ะว่าภาษีแต่ละรัฐเป็นยังไง
ฟังดูยากเนอะ จริงๆก็ไม่ต้องซีเรียดหลอกค่ะ ถ้าเราทำงานแล้วได้เงินที่โน่นเอาไปซื้อกินซื้อใช้ที่โน่นอะไรๆมันก็ถูกไปหมดแหละค่ะ
ขนาดเราได้น้อยมากๆ ทำงานวันนึงยังซื้อ coach ได้เลย ทริก เคยได้ยินไหมอยากได้เงินก็ต้องทำงาน
ค่ะทำๆมันไปเถอะถ้าคิดว่าจะไปหาเงิน พอไปถึงเมื่อได้ social security แล้ว ก็เดินหางานสองเลยค่ะ เข้ามันทุกร้าน
รับไม่รับค่อยว่ากันอีกที แต่ที่สำคัญไม่ควรหางานให้ตารางมันชนกันนะคะ ควรเอางานที่เราติดต่อกับเอเจนเป็นงานหลัก
ส่วนคนที่จะไปหาซัมติง ง่ายๆค่ะ เปิดกูเกิ้ลเซิตเลยค่ะ ชอบอะไรยังไง ดูภาพค่ะ ดูจากภาพรวม ช่วยได้เยอะ 555
เมืองอะไรก็ได้ที่เป็นเมืองท่องเที่ยว เพราะอัตราการจ้างงานเยอะ ไม่ต้องไปคิดนะคะว่าจะไปเมืองเงียบๆจะได้ไม่มีแรงแข่งขันสูง
อันนี้คิดผิดอย่างแรง เพราะเราผ่านมาแล้ว เมืองเงียบคนไม่เที่ยวเศรษฐกิจไม่เติบโตอัตราการจ้างงานก็ต่ำนะคะ
งานที่ทำแล้วได้เงินดี เด็กเสริฟค่ะ ติปดี
งานที่มีตารางแน่นอน งานเฮ้าค่ะ ขอเค้าฟิคตารางได้ ส่วนใหญ่ทำตอนเช้า ตอนเย็นก็ไปทำร้านอาหารได้ค่ะ
งานที่ได้ใช้ภาษาเยอะ เด็กเสริฟ แคชเชีย พนักงานต้อนรับ
งานที่สบายๆชิวๆจนน่าเบื่อ ไลฟกาดค่ะ นั่งเฝ้าไปเถอะค่ะทั้งวัน
งานสนุกบ้างไม่สนุกบ้าง เป็นงานในร้านฟาสฟูดค่ะ
อันนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวที่ได้จากการแลกเปลี่ยนประสบการณ์กับเพื่อนที่ไปเวิคเหมือนกันนะคะ
3. สัมภาษณ์กับนายจ้าง / ขอวีซ่า ยากไหม
ไหนใครปี 4 ยกมือขึ้น เรานี่แหละค่ะ จบแล้ว อันนี้ก็เป็นอีกคำถามนึงว่า ปี4แล้วจะไปได้หลอ ค่ะไปได้ ถ้า...
คุณตอบคำถามของเค้าได้ การตอบคำถามง่ายๆแบบฉลาดๆ ไม่ใช่ถามคำตอบคำ
ฝรั่ง ขอบการอธิบาย เช่นถามว่า คุณเรียนจบแล้วหรือยัง ตอบ จบแล้ว อันนี้สั้นไปนะคะ เราต้องอธิบายด้วยว่า
อย่างเช่น จบแล้วค่ะ เราจบสามปีครึ่ง เรียนเมเจอร์นี้มา บลาบลาบลา จริงๆเค้าก็ไม่ได้อยากจะรู้
แต่เพื่อให้ดูน่าภูมิฐานขึ้นค่ะ 555 ทริกนี้ใช้กับการณ์สัมภาษณ์นายจ้างได้นะคะ
ชะนั้นไม่ต้องกลัวค่ะ สัมภาษณ์วีซ่าไม่ยากแค่เราเตรียมให้พร้อม
4. ไม่เก่งภาษาอังกฤษจะไปได้ไหม
ก็ได้ค่ะ ถ้าคุณใจกล้าและไม่ขี้แยร้องไห้กลับบ้านซะก่อน ไปอยู่โน่นอย่างที่บอกอะค่ะต้องพึ่งพาตัวเอง
ก็ถ้าในเมื่อคุณรู้จุดอ่อนของตัวเองแล้วทำไมไม่พัฒนาล่ะคะ ภาษาอังกฤษไม่ยากค่ะ เราก็ไม่ได้เก่ง
ถึงตอนนี้ก็ยังไม่เก่ง อย่างน้อยเราก็ควรรู้คำศัพท์พื้นๆ ในการถามทางถ้าหลง ในการเสนอให้ใครทำอะไรอย่างนึง
หรือขอความช่วยเหลือ เป็นต้น เอาง่ายๆค่ะ ไม่ต้องรู้เยอะก็ไปได้ แค่มั่นใจ
จริงๆเราอยากให้เด็กไทยมีประสปการณ์ในการไปต่างประเทศนะคะ ไม่ใช่ไปเที่ยว
แต่ไปใช้ชีวิต เพราะมันได้มากกว่าไปเที่ยวค่ะ สนุก เบื่อ เซง เศร้า เหงา ไม่ว่าอะไร เราต้องอยู่ให้ได้ ต้องเอาตัวรอดค่ะ