สวัสดีค่าาาา วันนี้เราจะมาเเชร์ประสบการณ์ความรักในวัยเรียนที่โหดร้ายให้ได้ลองอ่านกันดูเน้อออ

มาาาาาาา เริ่มกันเลอ เราก็เป็นผู้หญิงคนนึงที่มีความรักในวัยเรียนเหมือนคนอื่นทั่วไป รักครั้งนั้นของเราเริ่มเกิดขึ้นตอนเราเรียนนอยู่ม.3 เราได้ไปเที่ยว
กับพวกพี่ชายที่บ้านปกติทั่วไป เเต่ได้มีเพื่อนของพี่คนนึงได้ไปด้วยขอเเทนชื่อผู้ชายคนนั้นว่านายบีนะค่ะ(นายบีจะเป็นเพื่อนที่สนิทกับพี่ชายของเราพี่ชายไม่เเท้นะค่ะ) เป็นทริปทะเลครั้งเเรกที่เราได้เริ่มเจอนายบี ระหว่างที่ไปเที่ยวนายบีก็จะชวนเราคุยถามนู้นนี่นั่นไปเรื่อยเล่นน้ำทะเลก็มาเล่นใกล้ๆเรา เเต่เราก็ยังไม่ได้รู้สึกว่านายบีชอบเรา เพราะด้วยนายบีเป็นคนที่ขี้หม้อก็จะเเอบหยอดหรือเเซวคนอื่นไปเรื่อย เเละเมื่อกลับจากทะเลนายบีก็ยังได้อยู่ที่บ้านของพี่ชายเราก็นั่งเล่นเกมส์รถเเข่งกับพวกพี่ๆของเรา ละนายบีก็ได้ชวนเราเล่นเกมส์รถเเข่งเเต่มีกติกาคือ ถ้านายบีชนะเราเราต้องเเลกกับการให้เบอร์โทรศัพท์นายบีหนึ่งตัว
ตอนนั้นก็เล่นเกมส์กันเราจำได้ว่าก็เเพ้ไปหลายรอบอยู่

เเต่ก็ให้เบอร์ไปไม่ครบเหมือนกับที่เหลือให้ไปสุ่มเอาเอง สมัยนั้นจำได้อยู่ว่าเราใช้โทรศัพท์PCT เเละคืนวันนั้นก็มีเบอร์แปลกโทรมาเราก็ไม่นึกว่านายบีจะนั่งสุ่มเบอร์เราจริงๆ เราก็รับเเละก็คุยกับนายบีมาสักพักโดยที่ไม่มีพี่ชายคนไหนรู้เลยเรียกได้ว่าเเอบคุยกัน

นายบีก็จีบเรามาเรื่อยๆ เเล้วก็มีนัดเจอกันตอนเย็นหลังเลิกเรียนบ้างไปกินข้าวกันหลังเรียนเสร็จละก็กลับบ้าน
เเล้วเราก็เริ่มไปหาประวัติของนายบีว่าเเท้จริงเเละนายบีมีเเฟนหรือยัง เพราะตอนนั้นก็เริ่มรู้สึกดีจากที่ได้คุยกันมาสักระยะนายบีเป็นคนที่ปากหวานเอาใจเก่งดูเเลดีเป็นคนค่อนข้างตลกอยู่ด้วยเเละเฮฮา เราเลยให้เพื่อนเราที่เรียนโรงเรียนเดียวกับนายบีได้มาเล่านิสัยของนายบีให้เราฟัง เพื่อนเราก็เล่าว่านายบีอ่ะชอบหม้อผู้หญิงไปเรื่อยเป็นคนเจ้าชู้ ชอบนั่งเเซวผู้หญิงในโรงอาหาร ชอบเตะตะกร้อในโรงเรียนกินเงินกับเพื่อน ชอบเเอบเล่นไพ่ชั้น6ในโรงเรียน
ไม่ค่อยเข้าเรียน เรียกได้ว่าคือ หน้าตาเห้ เเล้วนิสัยนี่เห้กว่าอีกเยอะมาก พอเราได้ฟังเพื่อนเรานิสัยนายบีเราก็รู้สึกไม่อยากคุยหรือไม่อยากยุ่งเเล้ว พอนายบีโทรมาหาเราตอนบ่ายเราก็ไม่รับโทรศัพท์ก็โทรมาเรื่อยๆ จนเรารับเเละบอกว่าเรียนอยู่ไม่ว่าง นายบีก็เริ่มรู้สึกว่าเราเเปลกๆไปเหมือนงอนหรือเป็นอะไรสักอย่าง นายบีก็บอกว่าให้บอกมาว่าเป็นไรถ้าไม่บอกก็จะโทรไปเเบบนี้เรื่อยๆ เเล้วเราก็ตัดสายทิ้งไม่ได้สนใจอะไรจนตอนเย็นนายบีก็มาหาเราหน้าโรงเรียนเเล้วก็พยายามคุยกับเราถามว่าเราเป็นอะไร จนเราได้บอกว่าเราให้เพื่อนเราคอยดูนิสัยของนายบีว่าเป็นยังไงตอนอยู่ในโรงเรียนเเละให้มาบอกเรา พอเรารู้เราก็ไม่อยากยุ่งกับพี่เเล้ว เราก็ตอบนายบีไป เเละนายบีก็โมโหมากว่าใครเป็นคนเราใครมายุ่งหรือมาเจือกเรื่องของเค้า เเต่เราก็ไม่ได้บอกจนนายบีก็ขอร้องเราเเละพูดกับเราว่าอย่ามัวเเต่ไปฟังคนอื่นเลย ถ้าอยากรู้นิสัยจริงๆทำไมเราไม่ลองคบกันไปเลยจะได้รู้ว่าเเท้จริงเเล้วพี่เป็นคนยังไง นายบีก็บอกเรา เราก็คิดอยู่หลายวันว่าจะเอายังไงกับนายบีดี คิดว่าถ้านายบีเป็นอย่างที่เพื่อนเราเล่าจริงๆ เราก็เเค่เลิกเเละเสียใจ ถามว่าซีเรียสป่ะเรื่องเสียใจก็คิดมาเสมอนะว่าความรักมักมาพร้อมความเสียใจเสมอ เเต่ถ้านายบีไม่ได้เป็นเเบบที่เพื่อนเราพูดก็ถือว่าเราไม่ได้ให้โอกาสในรักครั้งนี้55555555555 เราก็เลยลองเสี่ยงที่จะคบกับนายบีดู ก็คบกับนายบีมาเรื่อยๆ เสาร์อาทิตย์มีไปดูหนังกันบ้างไปเที่ยวเขาดิน ไปเที่ยวนู้นนี่นั่นตามภาษาเเเฟนกัน ตอนเย็นหลังเลิกเรียนก็ต้องนัดเจอกันก่อนทุกวันเเละไปกินข้าวด้วยกันเสร็จถึงได้กลับบ้าน ใช้ชีวิตเเบบนี้มาเกือบปี พอผ่านไปสักระยะพ่อกับเเม่เราก็ไม่ค่อยชอบผู้ชายคนนี้คือเรามีอะไรจะเล่าเเละจะคุยกับเเม่ตลอด เเต่เราไม่เคยเล่าหรือคุยกับพ่อเลยไม่ค่อยสนิทกับพ่อเพราะเรานอนกับเเม่มาตลอด
จนวันนึงพ่อก็ได้ดูพฤติกรรมเรามาเรื่อยๆ ก็เห็นว่าเราชอบกลับบ้านเย็น ชอบคุยโทรศัพท์เยอะกลับบ้านปุ้บก็คุยโทรศัพท์กว่าจะนอนก็ดึก พ่อจึงได้ยึดโทรศัพท์เราเเล้วก็คอยเฝ้าดูว่าใครมาส่งเราตอนกลับบ้าน พ่อก็ได้เห็นว่านายบีขับมอไซค์มาส่งเรา พอเราเข้าบ้านมาพ่อก็ได้บอกว่าพรุ่งนี้ให้ชวนนายบีมาบ้านหน่อยพ่อมีอะไรจะคุยด้วย วันรุ่งขึ้นเราก็พานายบีมาคุยกับพ่อ พ่อเราก็ถามว่าเลิกเรียนเเละไปไหนกันทำไมเราถึงกลับบ้านเย็นทุกวันเลย นายบีก็บอกไปกินข้าวกันเเละก็มาส่งเเต่ระหว่างที่พูดกับพ่อเรานายบีไม่มีสัมมาคาระเลย ยืนกอดอก พูดจาห้วนๆ ทำสีหน้ากวนๆ ใส่พ่อเรา พ่อเราก็เลยโมโหเเละก็ไล่นายบีว่า "กลับบ้านไปเลยป่ะ อย่ามาให้กุเห็นหน้าอีกนะ" เเล้วนายบีก็พูดบอกเออกลับก็ได้
พ่อเรานี่ยื่งปี๊ดเเตกโมโหมากบอกกับเราว่าห้ามยุ่งกับผู้ชายคนนี้อีก

เราก็ถามพ่อว่าทำไมต้องโมโหอะไรขนาดนี้ พ่อก็บอกว่ามันไม่มีสัมมาคาระมันไม่เคารพพ่อ มันไม่ใช่ผู้ชาย พอพ่อพูดจบเราก็ไม่ได้พูดไรต่อ เเต่คิดในใจว่าจะไม่เลิกยุ่งเพราะตอนนั้นเราก็รู้สึกรักนายบี เราก็เเอบคุยกับนายบีมาเรื่อยๆ ผ่านไปประมาณ4-5 เดือน ก็ใกล้ถึงวันเกิดนายบี นายบีก็เลยชวนเราไปชะอำกับพวกเพื่อนของนายบี เเต่เพื่อนของนายบีเราก็รู้จักเกือบหมด เราก็เลยลองไปขอเเม่บอกเเม่ว่าขอไปเที่ยวทะเลกับเพื่อน เเม่ก็บอกไม่ให้เพราะตั้งเเต่เราคบกับนายบีเเม่เราก็คอยสังเกตพฤติกรรมของนายบีมาโดยตลอด เเละเเม่ก็ไม่ไว้ใจกลัวเราเเอบไปเที่ยวกับนายบีจึงไม่ให้เราไป เราก็ด้วยความเเบบอยากไปอ่ะคือดื้อไงถ้าจะไปต้องได้ไปก็เลยหาเหตุผลร้อยเเปดมาบอกกับเเม่ ขอร้องเเม่บอกถ้าให้ไปเที่ยวกับเพื่อต่อไปจะไม่กลับบ้านเย็นอีกขอไปเเค่คืนเดียวเองนู้นนี่นั่นพูดไปเรื่อย
จนเเม่ยอมให้เราไป เเต่เเม่ก็พยายามโทรหาเราตลอด ก็ไปเที่ยวกันปกติเล่นน้ำทะเลดึกๆก็ย่างอาหารทะเลกินกัน ตอนเราเล่นน้ำทะเลเเม่โทรมาหาเราเยอะมากเราไม่ได้รับเเละพอโทรกลับไปเเม่ก็บอกว่า เเม่รู้นะว่าเราไปกับนายบี เพราะเเม่ไปถามพี่ชายเราว่านายบีมันอยู่ไหน พี่ชายเราไม่รู้ก็เลยตอบว่าเห็นนายบีบอกจะไปเที่ยวทะเลกับพวกเพื่อนที่มหาลัย จากนั้นเเม่เราก็โมโหโทรมาหาเราบอกจะมารับเราเดี๋ยวนั้นเลย เราก็พยายามให้เพื่อนนายบีที่เป็นผู้หญิงช่วยคุยกับเเม่เราให้ บอกว่าวันนี้เรานอนกับพี่ผู้หญิง จะดูเเลเราให้ เเม่เราก็เลยคิดว่าเเค่คืนเดียวคงไม่มีปัญหาอะไร ตอนกลางคืนก็ได้ตั้งวงกินเหล้าร้องเพลงกันเราก็นั่งร่วมวงด้วยเเต่เพื่อนนายบีก็ชอบเเซวเรา เราก็ไม่ค่อยชอบ นายบีก็ชอบพูดจากับเพื่อนไม่ให้เกียรติเราเราก็อายเลยลุกเข้าห้องมานอนเล่นโทรศัพท์เเล้วก็ล๊อคห้อง สักพักนายบีก็ลุกมาตามเรามาเคาะประตูห้องเราเราก็ไม่ได้เปิดนายบีก็ตะโกนโวยวายเหมือนว่าเริ่มเมาเเล้ว เราก็เลยลุกไปเปิดประตูให้เพราะรำคาญ พอนายบีเข้ามาในห้องก็พูดจาไม่ดีใส่เราบอก จะล๊อคห้องทำไมว่ะ เป็นเห้ไรมากป่ะ เราก็เงียบเเละนายบีก็มาเขย่าตัวเราเเรงจนเราโมโหเราก็บอก เเละอ่ะเป็นเห้ไรเมาเเละก็ไปนอนเเละก็มีปากเสียงกัน จากนั้นนายบีก็ง้างมือจะตบเราเเล้วพูดว่าเงียบไปเลยเดี๋ยวกุตบเเม่มเลย เราก็ปากเก่งไงพูดว่า เออก็ตบดิ นายบีก็เลยตบหน้าเราเเรงมากหนึ่งทีเราก็เลยผลักนายบีออกเเละก็จะตบคืนเเละก็มีพวกเพื่อนนายบีมาห้าม ความรู้สึกตอนนั้นเราไม่เจ็บเลยนะเเต่เราเเค้นมากจนอยากกลับบ้าน เราเก็บเสื้อผ้าเเละจะเดินออกจากที่พักตอนนั้นเลยก็มีพวกเพื่อนนายบีมาห้าม บอกว่าให้นอนนี่ก่อนหนึ่งคืนดึกเเล้วมันอันตรายรถก็ไม่มีเเละเราเป็นผู้หญิง ตอนนั้นเราก็รู้สึกกลัวด้วยเพราะที่ชะอำมันมืดมากเเละเปลี่ยวมากเเล้วเราก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะกลับยังไง เดินไปขึ้นรถที่ไหน เราก็เลยตัดสินใจนอนที่นั่นหนึ่งคืน ตื่นเช้ามานายบีก็มาขอโทษกับเราพูดดีกับเราทำดีกับเราทุกอย่างบอกว่าเมื่อคืนเมาไม่ได้ตั้งใจเเละก็สัญญาว่าจะไม่ทำอีก เเล้วพวกเพื่อนนายบีก็มาพูดกับเราว่าให้อภัยนายบีเถอะมันเมาเนี่ยมันก็รู้สึกผิดเเล้ว เราก็คิดว่าเออนี่คงเป็นครั้งเเรกเเล้วนายบีอาจจะเมาจริงๆเเล้วด้วยความรักเราเองก็ยังไม่ได้อยากเลิกกับนายบี เราก็เลยตัดสินใจให้อภัยนายบี เเละเราก็คุยกับนายบีต่อมาเรื่อยๆ เเละระหว่างที่คุยกันก็ยังมีเหตุการณ์เเบบนี้อีกหลายครั้งเวลาเราทะเลาะกันมีปากเสียงกันต่างคนต่างไม่ยอมกันนายบีก็เลยมีลงไม้ลงมือกับเราอีกประมาณ 3 ครั้ง เเต่เเปลกที่เราก็ให้อภัยนายบีมาโดยตลอด
จนมีครั้งหนึ่งที่พีคที่สุด วันนั้นเราได้บอกเลิกนายบีด้วยสาเหตุที่มีปากเสียงกันเนี่ยเเหละเเล้วจากเหตุการณ์หลายครั้งที่นายบีทำร้ายร่างกายเราจนเราตัดสินใจเเล้วว่าจะไม่ทนเเล้วเราจะเลิก พอเราบอกเลิกนายบีไปนายบีก็บอกว่าก่อนเลิกกันครั้งนี้ขอไปส่งที่บ้านเป็นครั้งสุดท้ายได้ไหมเเล้วจะยอมเลิก นายบีพูดเเบบนี้เราก็เลยยอมให้นายบีไปส่ง บ้านเรากับบ้านนายบีอยู่คนละฝั่งกันมีเเม่น้ำเจ้าพระยากั้นระหว่างทาง เราต้องข้ามสะพานภูมิพลเป็นสะพานข้ามเเม่น้ำที่สูงมาก เเละเมื่อขับรถถึงกลางสะพานนายบีก็ได้จอดรถเเละทำหน้าโกธรใส่เราเเละดึงเเขนเราบอกว่าอยากเลิกใช่ไหมงั้นมานี่ นายบีจับมือเราเเละบอกเราว่า
"ถ้าอยู่เเล้วเราไม่ได้รักกันงั้นก็ตายไปพร้อมๆ กันเนี่ยเเหละ" เราตกใจมากกลัวมากตอนนั้นขาสั่นเราเลยสะบัดมือเเล้ววิ่งหนีคิดจะไปเรียกเเท๊กซี่ เเต่ด้วยทางขึ้นสะพานรถก็ขับเร็วมากพอเราโบกก็ไม่มีคันไหนจอดเลยพอจอดก็จอดไกลจากเรา เเล้วนายบีก็พยายามขับรถตามเรา(ขับมอไซ) พอเราวิ่งหนีก็มียามคนหนึ่งเดินออกมาจากป้อมที่อยู่กลางสะพานภูมิพล เราก็วิ่งไปหายามบอกพี่ค่ะช่วยหนูด้วย ผู้ชายคนนั้นมันจะพาหนูมากระโดดสะพาน เเล้วนายบีก็จอดรถเเละเดินมากระชากเเขนเราพร้อมชี้หน้าด่ายามว่า
ไม่ใช่เรื่องของอย่าเจือก ยามก็เดินเข้าป้อมไปเลยค่ะ ไม่ได้สงสารหรือช่วยอะไรเราเลย เเล้วนายบีก็ลากเเขนเราบอกเราว่า กลัวหรือยังเเล้ว
ยังอยากจะเลิกกับกุอยู่ไหม เราก็ร้องไห้บอกกลัวเเล้วขอโทษจะไม่เลิกเเล้วพากลับบ้านหน่อย(ตอนนั้นเราก็คิดอย่างเดียวว่าขอให้นายบีพาเรากลับบ้าน) นายบีก็เลยพาเราไม่ส่งบ้านจากนั้นเราก็พยายามหาวิธีห่างกับนายบีเเต่เราไม่กล้าจะไม่รับโทรศัพท์เลิกติดต่อเลิกคุยไปเลยเพราะเรากลัว เราก็พยายามอ้างว่าทำงานที่โรงเรียนเลิกเย็นบ้าง ซ้อมหลีดบ้าง ทำเเสตนบ้างไม่ต้องมารับเราหรอก เราอ้างเเบบนี้เกือบทุกวันจนนายบีได้มาดักหน้าโรงเรียนเราบ่อยมาก เราก็พยายามออกประตูข้างของโรงเรียน พยายามไม่ค่อยรับโทรศัพท์อ้างว่าโทรมาไม่ได้ยินบ้างโทรศัพท์ไม่สั่นบ้าง จนนายบีก็เริ่มรู้ว่าเราทำตัวห่างๆเหมือนอยากจะเลิกนายบีก็พยายามดักตามเราตลอด เเละมีวันนึงเรามีนัดออกไปกินเหล้ากับเพื่อนเเถวบ้านเพื่อนผู้ชายก็มารับเรา นายบีขับรถสวนทางมาพอดีก็เห็นว่าเรานั่งซ้อนมอไซค์เพื่อนนายบีจึงวนรถกลับมาดักหน้ารถเพื่อนเราเเละต่อยเพื่อนเรา ซึ่งตอนนั้นเราก็งงมากว่าทำไมนายบีถึงอาการหนักขนาดนี้ พอต่อยเพื่อนเราเสร็จเราบอกเเม่ เเม่ก็พาไปแจ้งความไว้ เเล้วจากนั้นนายบีกับเราก็ไม่เคยคุยหรือยุ่งข้องเกี่ยวกันอีก จากเรื่องราวที่เล่ามาทั้งหมดได้ผ่านมาประมาณ4-6 ปีเเล้วเรายังเจอนายบีบ้างเป็นบางครั้งเพราะนายบีเป็นเพื่อนสนิทพี่ชายเราก็ชอบมากินเหล้าที่บ้านพี่เราบ้าง เเต่เราไม่เคยเล่าเรื่องนี้ให้พี่ชายเราคนไหนฟังเลย ทุกวันนี้เวลาเจอหน้าเราก็ทำเป็นไม่รู้จักเหมือนว่ามองไม่ให้นายบีอยู่บนโลกใบนี้
นี่คือประสบการณ์ความรักในวัยเรียนที่มันคอยเตือนสำหรับการเริ่มรักครั้งใหม่ของเรามาโดยตลอด เลยอยากเเชร์ให้เป็นบทเรียนของเพื่อนๆในการจะเลือกรักใครสักคน
ประสบการณ์ความรักในวัยเรียน อุทาหรณ์สอนใจความรักเกือบพาตาย
มาาาาาาา เริ่มกันเลอ เราก็เป็นผู้หญิงคนนึงที่มีความรักในวัยเรียนเหมือนคนอื่นทั่วไป รักครั้งนั้นของเราเริ่มเกิดขึ้นตอนเราเรียนนอยู่ม.3 เราได้ไปเที่ยว
กับพวกพี่ชายที่บ้านปกติทั่วไป เเต่ได้มีเพื่อนของพี่คนนึงได้ไปด้วยขอเเทนชื่อผู้ชายคนนั้นว่านายบีนะค่ะ(นายบีจะเป็นเพื่อนที่สนิทกับพี่ชายของเราพี่ชายไม่เเท้นะค่ะ) เป็นทริปทะเลครั้งเเรกที่เราได้เริ่มเจอนายบี ระหว่างที่ไปเที่ยวนายบีก็จะชวนเราคุยถามนู้นนี่นั่นไปเรื่อยเล่นน้ำทะเลก็มาเล่นใกล้ๆเรา เเต่เราก็ยังไม่ได้รู้สึกว่านายบีชอบเรา เพราะด้วยนายบีเป็นคนที่ขี้หม้อก็จะเเอบหยอดหรือเเซวคนอื่นไปเรื่อย เเละเมื่อกลับจากทะเลนายบีก็ยังได้อยู่ที่บ้านของพี่ชายเราก็นั่งเล่นเกมส์รถเเข่งกับพวกพี่ๆของเรา ละนายบีก็ได้ชวนเราเล่นเกมส์รถเเข่งเเต่มีกติกาคือ ถ้านายบีชนะเราเราต้องเเลกกับการให้เบอร์โทรศัพท์นายบีหนึ่งตัว
ตอนนั้นก็เล่นเกมส์กันเราจำได้ว่าก็เเพ้ไปหลายรอบอยู่
เเล้วเราก็เริ่มไปหาประวัติของนายบีว่าเเท้จริงเเละนายบีมีเเฟนหรือยัง เพราะตอนนั้นก็เริ่มรู้สึกดีจากที่ได้คุยกันมาสักระยะนายบีเป็นคนที่ปากหวานเอาใจเก่งดูเเลดีเป็นคนค่อนข้างตลกอยู่ด้วยเเละเฮฮา เราเลยให้เพื่อนเราที่เรียนโรงเรียนเดียวกับนายบีได้มาเล่านิสัยของนายบีให้เราฟัง เพื่อนเราก็เล่าว่านายบีอ่ะชอบหม้อผู้หญิงไปเรื่อยเป็นคนเจ้าชู้ ชอบนั่งเเซวผู้หญิงในโรงอาหาร ชอบเตะตะกร้อในโรงเรียนกินเงินกับเพื่อน ชอบเเอบเล่นไพ่ชั้น6ในโรงเรียน
ไม่ค่อยเข้าเรียน เรียกได้ว่าคือ หน้าตาเห้ เเล้วนิสัยนี่เห้กว่าอีกเยอะมาก พอเราได้ฟังเพื่อนเรานิสัยนายบีเราก็รู้สึกไม่อยากคุยหรือไม่อยากยุ่งเเล้ว พอนายบีโทรมาหาเราตอนบ่ายเราก็ไม่รับโทรศัพท์ก็โทรมาเรื่อยๆ จนเรารับเเละบอกว่าเรียนอยู่ไม่ว่าง นายบีก็เริ่มรู้สึกว่าเราเเปลกๆไปเหมือนงอนหรือเป็นอะไรสักอย่าง นายบีก็บอกว่าให้บอกมาว่าเป็นไรถ้าไม่บอกก็จะโทรไปเเบบนี้เรื่อยๆ เเล้วเราก็ตัดสายทิ้งไม่ได้สนใจอะไรจนตอนเย็นนายบีก็มาหาเราหน้าโรงเรียนเเล้วก็พยายามคุยกับเราถามว่าเราเป็นอะไร จนเราได้บอกว่าเราให้เพื่อนเราคอยดูนิสัยของนายบีว่าเป็นยังไงตอนอยู่ในโรงเรียนเเละให้มาบอกเรา พอเรารู้เราก็ไม่อยากยุ่งกับพี่เเล้ว เราก็ตอบนายบีไป เเละนายบีก็โมโหมากว่าใครเป็นคนเราใครมายุ่งหรือมาเจือกเรื่องของเค้า เเต่เราก็ไม่ได้บอกจนนายบีก็ขอร้องเราเเละพูดกับเราว่าอย่ามัวเเต่ไปฟังคนอื่นเลย ถ้าอยากรู้นิสัยจริงๆทำไมเราไม่ลองคบกันไปเลยจะได้รู้ว่าเเท้จริงเเล้วพี่เป็นคนยังไง นายบีก็บอกเรา เราก็คิดอยู่หลายวันว่าจะเอายังไงกับนายบีดี คิดว่าถ้านายบีเป็นอย่างที่เพื่อนเราเล่าจริงๆ เราก็เเค่เลิกเเละเสียใจ ถามว่าซีเรียสป่ะเรื่องเสียใจก็คิดมาเสมอนะว่าความรักมักมาพร้อมความเสียใจเสมอ เเต่ถ้านายบีไม่ได้เป็นเเบบที่เพื่อนเราพูดก็ถือว่าเราไม่ได้ให้โอกาสในรักครั้งนี้55555555555 เราก็เลยลองเสี่ยงที่จะคบกับนายบีดู ก็คบกับนายบีมาเรื่อยๆ เสาร์อาทิตย์มีไปดูหนังกันบ้างไปเที่ยวเขาดิน ไปเที่ยวนู้นนี่นั่นตามภาษาเเเฟนกัน ตอนเย็นหลังเลิกเรียนก็ต้องนัดเจอกันก่อนทุกวันเเละไปกินข้าวด้วยกันเสร็จถึงได้กลับบ้าน ใช้ชีวิตเเบบนี้มาเกือบปี พอผ่านไปสักระยะพ่อกับเเม่เราก็ไม่ค่อยชอบผู้ชายคนนี้คือเรามีอะไรจะเล่าเเละจะคุยกับเเม่ตลอด เเต่เราไม่เคยเล่าหรือคุยกับพ่อเลยไม่ค่อยสนิทกับพ่อเพราะเรานอนกับเเม่มาตลอด
จนวันนึงพ่อก็ได้ดูพฤติกรรมเรามาเรื่อยๆ ก็เห็นว่าเราชอบกลับบ้านเย็น ชอบคุยโทรศัพท์เยอะกลับบ้านปุ้บก็คุยโทรศัพท์กว่าจะนอนก็ดึก พ่อจึงได้ยึดโทรศัพท์เราเเล้วก็คอยเฝ้าดูว่าใครมาส่งเราตอนกลับบ้าน พ่อก็ได้เห็นว่านายบีขับมอไซค์มาส่งเรา พอเราเข้าบ้านมาพ่อก็ได้บอกว่าพรุ่งนี้ให้ชวนนายบีมาบ้านหน่อยพ่อมีอะไรจะคุยด้วย วันรุ่งขึ้นเราก็พานายบีมาคุยกับพ่อ พ่อเราก็ถามว่าเลิกเรียนเเละไปไหนกันทำไมเราถึงกลับบ้านเย็นทุกวันเลย นายบีก็บอกไปกินข้าวกันเเละก็มาส่งเเต่ระหว่างที่พูดกับพ่อเรานายบีไม่มีสัมมาคาระเลย ยืนกอดอก พูดจาห้วนๆ ทำสีหน้ากวนๆ ใส่พ่อเรา พ่อเราก็เลยโมโหเเละก็ไล่นายบีว่า "กลับบ้านไปเลยป่ะ อย่ามาให้กุเห็นหน้าอีกนะ" เเล้วนายบีก็พูดบอกเออกลับก็ได้
พ่อเรานี่ยื่งปี๊ดเเตกโมโหมากบอกกับเราว่าห้ามยุ่งกับผู้ชายคนนี้อีก
จนเเม่ยอมให้เราไป เเต่เเม่ก็พยายามโทรหาเราตลอด ก็ไปเที่ยวกันปกติเล่นน้ำทะเลดึกๆก็ย่างอาหารทะเลกินกัน ตอนเราเล่นน้ำทะเลเเม่โทรมาหาเราเยอะมากเราไม่ได้รับเเละพอโทรกลับไปเเม่ก็บอกว่า เเม่รู้นะว่าเราไปกับนายบี เพราะเเม่ไปถามพี่ชายเราว่านายบีมันอยู่ไหน พี่ชายเราไม่รู้ก็เลยตอบว่าเห็นนายบีบอกจะไปเที่ยวทะเลกับพวกเพื่อนที่มหาลัย จากนั้นเเม่เราก็โมโหโทรมาหาเราบอกจะมารับเราเดี๋ยวนั้นเลย เราก็พยายามให้เพื่อนนายบีที่เป็นผู้หญิงช่วยคุยกับเเม่เราให้ บอกว่าวันนี้เรานอนกับพี่ผู้หญิง จะดูเเลเราให้ เเม่เราก็เลยคิดว่าเเค่คืนเดียวคงไม่มีปัญหาอะไร ตอนกลางคืนก็ได้ตั้งวงกินเหล้าร้องเพลงกันเราก็นั่งร่วมวงด้วยเเต่เพื่อนนายบีก็ชอบเเซวเรา เราก็ไม่ค่อยชอบ นายบีก็ชอบพูดจากับเพื่อนไม่ให้เกียรติเราเราก็อายเลยลุกเข้าห้องมานอนเล่นโทรศัพท์เเล้วก็ล๊อคห้อง สักพักนายบีก็ลุกมาตามเรามาเคาะประตูห้องเราเราก็ไม่ได้เปิดนายบีก็ตะโกนโวยวายเหมือนว่าเริ่มเมาเเล้ว เราก็เลยลุกไปเปิดประตูให้เพราะรำคาญ พอนายบีเข้ามาในห้องก็พูดจาไม่ดีใส่เราบอก จะล๊อคห้องทำไมว่ะ เป็นเห้ไรมากป่ะ เราก็เงียบเเละนายบีก็มาเขย่าตัวเราเเรงจนเราโมโหเราก็บอก เเละอ่ะเป็นเห้ไรเมาเเละก็ไปนอนเเละก็มีปากเสียงกัน จากนั้นนายบีก็ง้างมือจะตบเราเเล้วพูดว่าเงียบไปเลยเดี๋ยวกุตบเเม่มเลย เราก็ปากเก่งไงพูดว่า เออก็ตบดิ นายบีก็เลยตบหน้าเราเเรงมากหนึ่งทีเราก็เลยผลักนายบีออกเเละก็จะตบคืนเเละก็มีพวกเพื่อนนายบีมาห้าม ความรู้สึกตอนนั้นเราไม่เจ็บเลยนะเเต่เราเเค้นมากจนอยากกลับบ้าน เราเก็บเสื้อผ้าเเละจะเดินออกจากที่พักตอนนั้นเลยก็มีพวกเพื่อนนายบีมาห้าม บอกว่าให้นอนนี่ก่อนหนึ่งคืนดึกเเล้วมันอันตรายรถก็ไม่มีเเละเราเป็นผู้หญิง ตอนนั้นเราก็รู้สึกกลัวด้วยเพราะที่ชะอำมันมืดมากเเละเปลี่ยวมากเเล้วเราก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะกลับยังไง เดินไปขึ้นรถที่ไหน เราก็เลยตัดสินใจนอนที่นั่นหนึ่งคืน ตื่นเช้ามานายบีก็มาขอโทษกับเราพูดดีกับเราทำดีกับเราทุกอย่างบอกว่าเมื่อคืนเมาไม่ได้ตั้งใจเเละก็สัญญาว่าจะไม่ทำอีก เเล้วพวกเพื่อนนายบีก็มาพูดกับเราว่าให้อภัยนายบีเถอะมันเมาเนี่ยมันก็รู้สึกผิดเเล้ว เราก็คิดว่าเออนี่คงเป็นครั้งเเรกเเล้วนายบีอาจจะเมาจริงๆเเล้วด้วยความรักเราเองก็ยังไม่ได้อยากเลิกกับนายบี เราก็เลยตัดสินใจให้อภัยนายบี เเละเราก็คุยกับนายบีต่อมาเรื่อยๆ เเละระหว่างที่คุยกันก็ยังมีเหตุการณ์เเบบนี้อีกหลายครั้งเวลาเราทะเลาะกันมีปากเสียงกันต่างคนต่างไม่ยอมกันนายบีก็เลยมีลงไม้ลงมือกับเราอีกประมาณ 3 ครั้ง เเต่เเปลกที่เราก็ให้อภัยนายบีมาโดยตลอด
จนมีครั้งหนึ่งที่พีคที่สุด วันนั้นเราได้บอกเลิกนายบีด้วยสาเหตุที่มีปากเสียงกันเนี่ยเเหละเเล้วจากเหตุการณ์หลายครั้งที่นายบีทำร้ายร่างกายเราจนเราตัดสินใจเเล้วว่าจะไม่ทนเเล้วเราจะเลิก พอเราบอกเลิกนายบีไปนายบีก็บอกว่าก่อนเลิกกันครั้งนี้ขอไปส่งที่บ้านเป็นครั้งสุดท้ายได้ไหมเเล้วจะยอมเลิก นายบีพูดเเบบนี้เราก็เลยยอมให้นายบีไปส่ง บ้านเรากับบ้านนายบีอยู่คนละฝั่งกันมีเเม่น้ำเจ้าพระยากั้นระหว่างทาง เราต้องข้ามสะพานภูมิพลเป็นสะพานข้ามเเม่น้ำที่สูงมาก เเละเมื่อขับรถถึงกลางสะพานนายบีก็ได้จอดรถเเละทำหน้าโกธรใส่เราเเละดึงเเขนเราบอกว่าอยากเลิกใช่ไหมงั้นมานี่ นายบีจับมือเราเเละบอกเราว่า "ถ้าอยู่เเล้วเราไม่ได้รักกันงั้นก็ตายไปพร้อมๆ กันเนี่ยเเหละ" เราตกใจมากกลัวมากตอนนั้นขาสั่นเราเลยสะบัดมือเเล้ววิ่งหนีคิดจะไปเรียกเเท๊กซี่ เเต่ด้วยทางขึ้นสะพานรถก็ขับเร็วมากพอเราโบกก็ไม่มีคันไหนจอดเลยพอจอดก็จอดไกลจากเรา เเล้วนายบีก็พยายามขับรถตามเรา(ขับมอไซ) พอเราวิ่งหนีก็มียามคนหนึ่งเดินออกมาจากป้อมที่อยู่กลางสะพานภูมิพล เราก็วิ่งไปหายามบอกพี่ค่ะช่วยหนูด้วย ผู้ชายคนนั้นมันจะพาหนูมากระโดดสะพาน เเล้วนายบีก็จอดรถเเละเดินมากระชากเเขนเราพร้อมชี้หน้าด่ายามว่า
ไม่ใช่เรื่องของอย่าเจือก ยามก็เดินเข้าป้อมไปเลยค่ะ ไม่ได้สงสารหรือช่วยอะไรเราเลย เเล้วนายบีก็ลากเเขนเราบอกเราว่า กลัวหรือยังเเล้ว
ยังอยากจะเลิกกับกุอยู่ไหม เราก็ร้องไห้บอกกลัวเเล้วขอโทษจะไม่เลิกเเล้วพากลับบ้านหน่อย(ตอนนั้นเราก็คิดอย่างเดียวว่าขอให้นายบีพาเรากลับบ้าน) นายบีก็เลยพาเราไม่ส่งบ้านจากนั้นเราก็พยายามหาวิธีห่างกับนายบีเเต่เราไม่กล้าจะไม่รับโทรศัพท์เลิกติดต่อเลิกคุยไปเลยเพราะเรากลัว เราก็พยายามอ้างว่าทำงานที่โรงเรียนเลิกเย็นบ้าง ซ้อมหลีดบ้าง ทำเเสตนบ้างไม่ต้องมารับเราหรอก เราอ้างเเบบนี้เกือบทุกวันจนนายบีได้มาดักหน้าโรงเรียนเราบ่อยมาก เราก็พยายามออกประตูข้างของโรงเรียน พยายามไม่ค่อยรับโทรศัพท์อ้างว่าโทรมาไม่ได้ยินบ้างโทรศัพท์ไม่สั่นบ้าง จนนายบีก็เริ่มรู้ว่าเราทำตัวห่างๆเหมือนอยากจะเลิกนายบีก็พยายามดักตามเราตลอด เเละมีวันนึงเรามีนัดออกไปกินเหล้ากับเพื่อนเเถวบ้านเพื่อนผู้ชายก็มารับเรา นายบีขับรถสวนทางมาพอดีก็เห็นว่าเรานั่งซ้อนมอไซค์เพื่อนนายบีจึงวนรถกลับมาดักหน้ารถเพื่อนเราเเละต่อยเพื่อนเรา ซึ่งตอนนั้นเราก็งงมากว่าทำไมนายบีถึงอาการหนักขนาดนี้ พอต่อยเพื่อนเราเสร็จเราบอกเเม่ เเม่ก็พาไปแจ้งความไว้ เเล้วจากนั้นนายบีกับเราก็ไม่เคยคุยหรือยุ่งข้องเกี่ยวกันอีก จากเรื่องราวที่เล่ามาทั้งหมดได้ผ่านมาประมาณ4-6 ปีเเล้วเรายังเจอนายบีบ้างเป็นบางครั้งเพราะนายบีเป็นเพื่อนสนิทพี่ชายเราก็ชอบมากินเหล้าที่บ้านพี่เราบ้าง เเต่เราไม่เคยเล่าเรื่องนี้ให้พี่ชายเราคนไหนฟังเลย ทุกวันนี้เวลาเจอหน้าเราก็ทำเป็นไม่รู้จักเหมือนว่ามองไม่ให้นายบีอยู่บนโลกใบนี้
นี่คือประสบการณ์ความรักในวัยเรียนที่มันคอยเตือนสำหรับการเริ่มรักครั้งใหม่ของเรามาโดยตลอด เลยอยากเเชร์ให้เป็นบทเรียนของเพื่อนๆในการจะเลือกรักใครสักคน