คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 5

ครอสเกม เป็นเรื่องราวของคิตะมูระ โค และสี่สาวพี่น้องตระกูลซึกิชิมะ อิจิโยะ พี่คนโต วาคาบะ น้องคนที่ 2 อาโอบะ น้องคนที่ 3 และ โมมิจิ น้องเล็ก วาคาบะและโคต่างเกิดในวันเดียวกัน โรงพยาบาลเดียวกัน และใกล้ชิดกันพอที่จะให้วาคาบะคิดกับโคเหมือนดังคนรัก ทั้งคู่แลกเปลี่ยนของขวัญวันเกิดกันทุกปี และวาคาบะก็วางแผนให้โคที่ไม่ค่อยรู้ว่าจะซื้ออะไรให้เป็นของขวัญวันเกิดสำหรับตัวเอง ไปจนถึงอายุ 20 ซึ่งกำหนดให้โคซื้อแหวมั้นให้กับตัวเอง
แต่ก็ไม่มีอะไรที่จะยืนยาวตลอดกาล ในขณะที่วาคาบะไปเข้าค่ายฝึกซ้อมว่ายน้ำกับทางโรงเรียนนั้นเอง ก็ได้เกิดอุบัติเหตุที่พรากชีวิตของวาคาบะไป ในขณะที่อาโอบะซึ่งอายุน้อยกว่าโค 1 ปี ก็เกลียดโคเข้ากระดูกดำที่แย่งพี่สาวไปจากตน หลังจากที่วาคาบะตายไป โคและอาโอบะก็ได้มีโอกาสใกล้ชิดกันมาก เพื่อสืบทอดความฝันสุดท้ายของวาคาบะที่จะมีโอกาสเห็นทั้งสองคนบนสนามของโคชิเอ็ง
แม้ว่า วาคาบะจะจากไปตั้งแต่ตอนอยู่ชั้นประถม 5 แต่ไม่มีเลยสักปี ที่ โคจะลืมซื้อของขวัญวันเกิดให้กับเธอผู้จากไป
นี้คือการ์ตูนที่ผมชอบมากที่สุดเรื่องหนึ่ง ของ อาดาจิ มิซึรุ นักเขียนการ์ตูนยุค 90 อ่านการ์ตูนเรื่องนี้แล้วรู้เลยว่า ความรักไม่มีวันจะพรากจากไปได้ ถ้าตราบใดยังมีความคิดถึงให้กันอยู่เสมอ
ปล เปลี่ยนแนวมาเขียนอะไรใสๆให้เข้ากับสารรูปตัวเองสักวัน ก็คงไม่มีใครว่าอะไรนะครับ

ครอสเกม เป็นเรื่องราวของคิตะมูระ โค และสี่สาวพี่น้องตระกูลซึกิชิมะ อิจิโยะ พี่คนโต วาคาบะ น้องคนที่ 2 อาโอบะ น้องคนที่ 3 และ โมมิจิ น้องเล็ก วาคาบะและโคต่างเกิดในวันเดียวกัน โรงพยาบาลเดียวกัน และใกล้ชิดกันพอที่จะให้วาคาบะคิดกับโคเหมือนดังคนรัก ทั้งคู่แลกเปลี่ยนของขวัญวันเกิดกันทุกปี และวาคาบะก็วางแผนให้โคที่ไม่ค่อยรู้ว่าจะซื้ออะไรให้เป็นของขวัญวันเกิดสำหรับตัวเอง ไปจนถึงอายุ 20 ซึ่งกำหนดให้โคซื้อแหวมั้นให้กับตัวเอง
แต่ก็ไม่มีอะไรที่จะยืนยาวตลอดกาล ในขณะที่วาคาบะไปเข้าค่ายฝึกซ้อมว่ายน้ำกับทางโรงเรียนนั้นเอง ก็ได้เกิดอุบัติเหตุที่พรากชีวิตของวาคาบะไป ในขณะที่อาโอบะซึ่งอายุน้อยกว่าโค 1 ปี ก็เกลียดโคเข้ากระดูกดำที่แย่งพี่สาวไปจากตน หลังจากที่วาคาบะตายไป โคและอาโอบะก็ได้มีโอกาสใกล้ชิดกันมาก เพื่อสืบทอดความฝันสุดท้ายของวาคาบะที่จะมีโอกาสเห็นทั้งสองคนบนสนามของโคชิเอ็ง
แม้ว่า วาคาบะจะจากไปตั้งแต่ตอนอยู่ชั้นประถม 5 แต่ไม่มีเลยสักปี ที่ โคจะลืมซื้อของขวัญวันเกิดให้กับเธอผู้จากไป
นี้คือการ์ตูนที่ผมชอบมากที่สุดเรื่องหนึ่ง ของ อาดาจิ มิซึรุ นักเขียนการ์ตูนยุค 90 อ่านการ์ตูนเรื่องนี้แล้วรู้เลยว่า ความรักไม่มีวันจะพรากจากไปได้ ถ้าตราบใดยังมีความคิดถึงให้กันอยู่เสมอ
ปล เปลี่ยนแนวมาเขียนอะไรใสๆให้เข้ากับสารรูปตัวเองสักวัน ก็คงไม่มีใครว่าอะไรนะครับ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 36
สวัสดีพี่ MC สาวเหลือน้อยและเพื่อนๆห้องเพลงทุกท่านครับ ไปแอบอัดเพลงมาให้ฟังเมื่อกี๊ครับ อัดใหม่ๆร้อนๆจากเตาเลยครับ
ในแววตาทั้งคู่ไม่รับรู้อะไร
เธอคงยังไม่เข้าใจ ว่าฉันไม่ใช่คนเก่า
เรายังคงเหมือนเพื่อน หยอกล้อเหมือนวันวาน
แต่ฉันคือคนใจสั่น แต่ฉันคือคนหวั่นไหว
ช่างไม่รู้อะไรบ้างเลย
ในความคุ้นเคยกันอยู่
มันแฝงอะไรบ้างอย่างที่มากกว่านั้น
ช่างไม่รู้อะไรบ้างเลย
ว่าเพื่อนคนหนึ่งมันแอบมันคิดอะไรไปไกล
กว่าเป็นเพื่อนกัน
กลายเป็นคนฝันใฝ่อยู่ใกล้ใกล้เธอ
กลายเป็นคนที่รอเก้อ
เหมือนหนังสือที่เธอไม่อ่าน
ตาคอยมองจ้องอยู่อยากให้รู้ใจกัน
แต่แล้วเธอยังมองผ่าน และฉันก็ยังหวั่นไหว....
เธอคงยังไม่เข้าใจ ว่าฉันไม่ใช่คนเก่า
เรายังคงเหมือนเพื่อน หยอกล้อเหมือนวันวาน
แต่ฉันคือคนใจสั่น แต่ฉันคือคนหวั่นไหว
ช่างไม่รู้อะไรบ้างเลย
ในความคุ้นเคยกันอยู่
มันแฝงอะไรบ้างอย่างที่มากกว่านั้น
ช่างไม่รู้อะไรบ้างเลย
ว่าเพื่อนคนหนึ่งมันแอบมันคิดอะไรไปไกล
กว่าเป็นเพื่อนกัน
กลายเป็นคนฝันใฝ่อยู่ใกล้ใกล้เธอ
กลายเป็นคนที่รอเก้อ
เหมือนหนังสือที่เธอไม่อ่าน
ตาคอยมองจ้องอยู่อยากให้รู้ใจกัน
แต่แล้วเธอยังมองผ่าน และฉันก็ยังหวั่นไหว....
ความคิดเห็นที่ 21
“นางโลมกับแท็กซี่” ยิ่งยง ยอดบัวงาม

มีผู้ใหญ่ที่ปรารถนาดีท่านหนึ่งเมตตาสะกิดผมเกี่ยวกับข้อมูลที่ผมได้แสดงไปเกี่ยวกับมารดาของท่าน “หมอชีวก” ว่าที่ถูกควรจะเป็นนางสาลวดี ไม่ใช่นางสิริมา ส่วนนางสิริมาก็คือน้องสาวของหมอชีวก....ผมขอน้อมรับความสะเพร่าในข้อมูลของผมที่ได้ให้ไปมาณ ตรงนี้ครับ ได้ไปแก้ข้อมูลตรงนั้นแล้ว พร้อมทั้งถือโอกาสขอบพระคุณผู้ที่ท่านนั้นด้วย(ท่านไม่ได้บอกชื่อ)และขอบคุณผู้ส่งข่าว
วันนี้เสี่ยงพิมพ์สดๆ (เพราะเวลามีไม่มาก)บอกเล่าเก้าสิบเรื่องโสเภณี(วันนี้เป็นวันที่สาม)ต่อ ....ความจริงในพระไตรปิฏกนอกจากจะกล่าวถึงนางอัมพปาลี นางสาลวดี นางสิริมา ยังมีโสเภณีนางหนึ่งที่ไม่ได้ระบุชื่อเอาไว้ เรื่องมีอยู่ว่าหลังจากที่พระพุทธเจ้าทรงตรัสรู้ใหม่ๆ ....ช่วงนั้นบรรดาลูกเศรษฐี มหาเศรษฐี และอภิมหาเศรษฐี (ไม่เกี่ยวกับโครตอภิมหาเศรษฐีคนหนึ่งในห้องราชดำเนินแห่งนี้นะครับ...อุ๊บส์)จำนวนสามสิบคน ได้ว่าจ้างเหล่านางบำเรอไปเล่นซ่อนหาและจ้ำจี้มะเขือเปาะแปะกันที่ที่ป่าละ.....มีนางโสเภณีนางหนึ่ง...สบโอกาสขโมยเครื่องเพชรนิลจินดาของเหล่าเศรษฐีแล้วหลบหนีออกมา บรรดาลูกเศรษฐีรู้ตัวก็พยายามไล่ตามนางโสเภณีนางนั้น
บังเอิญพระพุทธเจ้าทรงเสด็จผ่านทางนั้นเข้ามาพอดี....ลูกเศรษฐีก็เลยซักถามพระพุทธเจ้าว่าเป็นการใหญ่ว่า เห็นผู้หญิงหิ้วข้าวของเงินทองผ่านมาทางนี้ไหมขอรับ.? พร้อมกับสบถด่าโสเภณีนางนั้นเสียๆ หายๆ ใส่พระกรรณของพระพุทธองค์ พระพุทธองค์จึงทรงตรัสแก่กุมารเหล่านั้นว่า
“นี่แน่ะ....ท่านจะมามัวเสียเวลาค้นหาคนอื่นอยู่ให้ป่วยการไปทำไม สู้ท่านมาค้นหาตัวเองไม่ดีกว่าหรือ?”
อึ้ง.! อึ้งสิครับ เจอสวนตรงๆ นุ่มๆ เข้าแบบนี้.....เหล่ากุมารลูกเศรษฐีเหล่านั้นถึงกับทรุดเข่าก้มกราบแทบพระบาทของพระองค์แล้วขอให้พระองค์แสดงพระธรรมเทศนา....จากนั้นพวกเขาก็ขอบวชเข้าในพระพุทธศาสนา แทบจะเรียกได้ว่าเป็นพระสงฆ์รุ่นแรกๆ ที่เป็นกำลังสำคัยในการช่วยพระพุทธองค์ประกาศและเผยแพร่พระพุทธศาสนาในช่วงที่พระองค์ทรงตรัสรู้ใหม่ๆ.......จะว่าเพราะส่วนหนึ่งนั้นเกิดจากนางโสเภณีก็ว่าได้
ในทางศาสนาคริสต์เองก็มีแทรกอยู่พอหอมปากหอมคอ...แต่ไม่ขอก้าวล่วง และคลับคล้ายคลับคลาว่าประวัติศาสตร์จีนเองก็มีเหตุการณ์พลิกผันที่องค์รัชทายาทพระองค์หนึ่งปลอมพระองค์ออกไปเที่ยวซ่องจนติดเชื้อกามโรคต่อมาสิ้นพระชมม์เพราะเชื้อร้าย เลยไม่ได้ครองราชย์ เชื่อว่าเซียนประวัติศาสตร์อย่างคุณพระรองหรือหนูชุนเทียนคงพอจะรู้ และถ้าจะกรุณาเสริมร่วมแจมตรงนี้ก็ดีไม่น้อย

มีผู้ใหญ่ที่ปรารถนาดีท่านหนึ่งเมตตาสะกิดผมเกี่ยวกับข้อมูลที่ผมได้แสดงไปเกี่ยวกับมารดาของท่าน “หมอชีวก” ว่าที่ถูกควรจะเป็นนางสาลวดี ไม่ใช่นางสิริมา ส่วนนางสิริมาก็คือน้องสาวของหมอชีวก....ผมขอน้อมรับความสะเพร่าในข้อมูลของผมที่ได้ให้ไปมาณ ตรงนี้ครับ ได้ไปแก้ข้อมูลตรงนั้นแล้ว พร้อมทั้งถือโอกาสขอบพระคุณผู้ที่ท่านนั้นด้วย(ท่านไม่ได้บอกชื่อ)และขอบคุณผู้ส่งข่าว
วันนี้เสี่ยงพิมพ์สดๆ (เพราะเวลามีไม่มาก)บอกเล่าเก้าสิบเรื่องโสเภณี(วันนี้เป็นวันที่สาม)ต่อ ....ความจริงในพระไตรปิฏกนอกจากจะกล่าวถึงนางอัมพปาลี นางสาลวดี นางสิริมา ยังมีโสเภณีนางหนึ่งที่ไม่ได้ระบุชื่อเอาไว้ เรื่องมีอยู่ว่าหลังจากที่พระพุทธเจ้าทรงตรัสรู้ใหม่ๆ ....ช่วงนั้นบรรดาลูกเศรษฐี มหาเศรษฐี และอภิมหาเศรษฐี (ไม่เกี่ยวกับโครตอภิมหาเศรษฐีคนหนึ่งในห้องราชดำเนินแห่งนี้นะครับ...อุ๊บส์)จำนวนสามสิบคน ได้ว่าจ้างเหล่านางบำเรอไปเล่นซ่อนหาและจ้ำจี้มะเขือเปาะแปะกันที่ที่ป่าละ.....มีนางโสเภณีนางหนึ่ง...สบโอกาสขโมยเครื่องเพชรนิลจินดาของเหล่าเศรษฐีแล้วหลบหนีออกมา บรรดาลูกเศรษฐีรู้ตัวก็พยายามไล่ตามนางโสเภณีนางนั้น
บังเอิญพระพุทธเจ้าทรงเสด็จผ่านทางนั้นเข้ามาพอดี....ลูกเศรษฐีก็เลยซักถามพระพุทธเจ้าว่าเป็นการใหญ่ว่า เห็นผู้หญิงหิ้วข้าวของเงินทองผ่านมาทางนี้ไหมขอรับ.? พร้อมกับสบถด่าโสเภณีนางนั้นเสียๆ หายๆ ใส่พระกรรณของพระพุทธองค์ พระพุทธองค์จึงทรงตรัสแก่กุมารเหล่านั้นว่า
“นี่แน่ะ....ท่านจะมามัวเสียเวลาค้นหาคนอื่นอยู่ให้ป่วยการไปทำไม สู้ท่านมาค้นหาตัวเองไม่ดีกว่าหรือ?”
อึ้ง.! อึ้งสิครับ เจอสวนตรงๆ นุ่มๆ เข้าแบบนี้.....เหล่ากุมารลูกเศรษฐีเหล่านั้นถึงกับทรุดเข่าก้มกราบแทบพระบาทของพระองค์แล้วขอให้พระองค์แสดงพระธรรมเทศนา....จากนั้นพวกเขาก็ขอบวชเข้าในพระพุทธศาสนา แทบจะเรียกได้ว่าเป็นพระสงฆ์รุ่นแรกๆ ที่เป็นกำลังสำคัยในการช่วยพระพุทธองค์ประกาศและเผยแพร่พระพุทธศาสนาในช่วงที่พระองค์ทรงตรัสรู้ใหม่ๆ.......จะว่าเพราะส่วนหนึ่งนั้นเกิดจากนางโสเภณีก็ว่าได้
ในทางศาสนาคริสต์เองก็มีแทรกอยู่พอหอมปากหอมคอ...แต่ไม่ขอก้าวล่วง และคลับคล้ายคลับคลาว่าประวัติศาสตร์จีนเองก็มีเหตุการณ์พลิกผันที่องค์รัชทายาทพระองค์หนึ่งปลอมพระองค์ออกไปเที่ยวซ่องจนติดเชื้อกามโรคต่อมาสิ้นพระชมม์เพราะเชื้อร้าย เลยไม่ได้ครองราชย์ เชื่อว่าเซียนประวัติศาสตร์อย่างคุณพระรองหรือหนูชุนเทียนคงพอจะรู้ และถ้าจะกรุณาเสริมร่วมแจมตรงนี้ก็ดีไม่น้อย
แสดงความคิดเห็น
ห้องเพลง**คนรากหญ้า** พักยกการเมือง มุมเสียงเพลง มุมนี้ไม่มีสี ไม่มีกลุ่ม....มีแต่เสียง 16/11/2015.../sao..เหลือ..noi
***สวัสดีค่ะเพื่อนๆ ห้องราชดำเนินทุกคน***
กระทู้นี้ เป็นมุมพักผ่อน มุมนี้ไม่มีสี ไม่มีกลุ่ม....แต่มีเสียง.........
ห้องเพลงคนรากหญ้าเปิดขึ้นมามีวัตถุประสงค์ เพื่อ
1. มีพื้นที่ให้เพื่อนๆ ได้มาพบปะ พูดคุยระหว่างกัน ในภาวะที่ต้องระมัดระวังการโพสการเมืองอย่างเคร่งครัด
2. เป็นพื้นที่ พักผ่อน ลดความเครียดทางการเมือง ให้เพื่อนๆ มีกิจกรรมสนุกๆ ร่วมกัน
3. สร้างมิตรภาพและความปรองดอง ซึ่งเราหวังให้สังคมไทยเป็นเช่นนี้ แม้นคิดต่างกัน แต่เมื่อคุยกัน
แล้วก็เป็นเพื่อนกันเหมือนเดิม
วันนี้ พี่สาวขอแนะนำนางแบบ นักร้อง นักแสดง ที่ได้ชื่อว่าสุดเซ็กซี่ เมื่อวันวาน[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
และสุดยอดที่คุณเธอยังคงความเซ็กซี่ ชนิด Play BoY เสนอให้ขึ้นเป็นปกหน้าได้
หลายๆ คนอาจ จะโตไม่ทันความดังของคุณเธอ ....
แนะนำประวัติ สั้นๆ จาก วิกิพีเดีย
เพ็ญพักตร์ ศิริกุล (ชื่อเล่น: ต่าย เกิดเมื่อวันที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2498) เป็นนักแสดง,
นางแบบ และนักร้องชาวไทย โด่งดังจากการถ่ายแบบเปลือย
เพ็ญพักตร์ ศิริกุล
ชื่อเกิด วันเพ็ญ เขื่อนแก้ว
ชื่อเล่น ต่าย
เกิด 31 มกราคม พ.ศ. 2498 (60 ปี)
อำเภอสันทราย, จังหวัดเชียงใหม่
คู่สมรส สามารถ บริบูรณ์เวช (2521-2523)
ธีรพงศ์ เหลียวรักวงศ์ (2524-2526)
อนิรุทธ์ เถรว่อง
นำพล รักษาพงษ์ (2540-2548)
อาชีพ นักแสดง, นักร้อง, นางแบบ
ปีที่แสดง พ.ศ. 2523 - ปัจจุบัน
ผลงานเด่น ดอกโสนบานเช้า (2523)
ไฟนรกขุมโลกันต์ (2523)
รางวัลพระราชทานพระสุรัสวดี
นักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม
พ.ศ. 2555 - Home ความรัก ความสุข ความทรงจำ
รางวัลภาพยนตร์แห่งชาติ สุพรรณหงส์
นักแสดงประกอบหญิงยอดเยี่ยม
พ.ศ. 2529 - พิศวาสซาตาน (เข้าชิง)
พ.ศ. 2542 - รัก-ออกแบบไม่ได้ (เข้าชิง)
พ.ศ. 2549 - ผีคนเป็น (เข้าชิง)
รางวัลชมรมวิจารณ์บันเทิง
นักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม
พ.ศ. 2555 - Home ความรัก ความสุข ความทรงจำ
นักแสดงประกอบหญิงยอดเยี่ยม
“เพ็ญพักตร์” กับหุ่นสุดเฟิร์มในวัย 54 บนปกเพลย์บอย
แม้จะล่วงเลยเข้าวัย 54 ไปแล้ว แต่ยังคงมีทีเด็ดอยู่สำหรับนักแสดงสาวชื่อดัง “ต่าย เพ็ญพักตร์ ศิริกุล”
ที่ล่าสุดก็ได้ไปปรากฏตัวอวดหุ่นเชี้ยะบนปกนิตสารชื่อดังอย่าง “เพลย์บอย” ฉบับเมื่อเดือนกรกฎาคม
ชนิดที่เห็นแล้วต้องบอกว่าดารารุ่นใหม่ต้องมีอายกับหุ่นสุดเฟิร์มของเจ้าตัวอย่างแน่นอน
ย้อนไปในอดีต “เพ็ญพักตร์ ศิริกุล” ได้ชื่อว่าเป็นเซ็กซี่สตาร์คนหนึ่งที่โด่งดังมาก ๆ ของวงการ
บันเทิงบ้านเราโดยมีผลงานในแนวนี้ออกมามากมาย ทั้งงานถ่ายแบบ ภาพยนตร์ ก่อนที่เจ้าตัวจะค่อย ๆ
ผันตัวเองออกมาในระยะหลัง ๆ นอกจากนี้ ด้วยความสวย การดูแลสุขภาพเป็นอย่างดี ประกอบกับยังคง
เป็นนักแสดงรุ่นใหญ่ที่มีผลงานออกมาอย่างต่อเนื่องนั่นเองที่ทำให้เธอได้รับฉายาว่า“นักแสดงสาวสองพันปี”
http://www.manager.co.th/Entertainment/ViewNews.aspx?NewsID=9580000078373
สวยหุ่นดีแบบ "ต่าย เพ็ญพักตร์"
"มีออกกำลังกายบ้าง แต่พี่เป็นคนไม่ออกกำลังกายหักโหมนะคะ เป็นคนที่ชอบทำงานบ้านเอง มันเหมือนเราได้
เคลื่อนไหวตัวเองตลอดเวลา ทำแบบนี้มานานแล้ว 30 กว่าปีที่เราทำอยู่ เลยไม่ต้องไปออกกำลังกายถึงขนาดนั้น การที่เราทำอยู่ที่บ้านก็เหมือนได้ออกแรง เพราะเมื่อก่อนเราไม่ค่อยสนใจหรอก เหมือนเรายังอายุน้อยๆ แต่อายุมากขึ้นเหมือนต้องดูแลตัวเองมากขึ้น"
ประเด็นที่หยิบนักแสดงนี้มาแนะนำกัน เพราะไปดูที่ คุณเธอแสดงคอนเสริตเพลง "ฉันเลยโอเค" ในยูทูป
และจำได้ว่า วันทีเธอออกอัลบั้มเพลงนี้ครั้งแรก เธอแต่งตัวมิดชิดค่ะ ใส่กางเกงยีนขาสั้น กับเสื้อเชิตขาวเท่านั้น
แต่คุณสามี ก็ชมว่า "เซ็กซี่" ... คนมันมี sex appeal นะ แต่งยังไง ก็ เซ็กชี่ แล้วดูเถอะ อายุ 54 ปีก็ยังขาย ความเซ็กซี่ได้ ก็เป็นอีก 1 นางแบบ นักแสดง ที่มิได้ตกไปตามวัย
ฉันเลยโอเค ต่าย เพ็ญพักตร์
https://www.youtube.com/watch?v=o3lXhzDFZGs
เป็นไงคะ ดูแล้ว "ใจสยิว" กันบ้างไหม อย่าลืมนึกย้อนไปด้วย 54 ยังขนาดนี้ แล้วเมื่อ 30 ปีที่แล้ว
จะขนาดไหน
ใจสยิว - The Innocent, Reunite of the Legend
https://www.youtube.com/watch?v=MyHhqQY9aSU
โทษที ...วาบหวิว ของพี่สาวแปะ ก็ต้องจินตนาการย้อนยุคด้วย นะคะ
เออ ... ต้องถามหนุ่ม ๆ ที่พอจะเป็นหนุ่มทันสาวแบบ คุณเธอ มีใครบ้างคะ อ.จ.บี ..
น่าจะพอทัน นะ คุณ วัชรนนท์ ทันไหม ?