ทำไม"บุรีรัมย์ถึงเก่ง"

เจ้าของกระทู้เป็นเเฟน ดอร์ทมุนด์ ชอบ รอย กับ เกิทเซ่ มาก และเหมือนเคยอ่านสัมภาษ์ณของคุณเนวินว่า "อยากให้บุรีรัมย์เล่นเหมือนดอร์ทมุนด์ สไตล์"
เจ้าของกระทู้ดู ดอร์ทมุนด์ เล่นมาก็เยอะนะ เเต่ไม่ค่อยรู้หรอกว่าเล่นระบบอะไร ส่วนใหญ่ดูเเต่นักบอล รู้เเต่ว่าเตะส่งกันเร็วอะ

ติดกับช่วงนี้ได้มีโอกาสดูฟุตบอลภายในประเทศเยอะมาก เลยว่าจะหาทีมเชียร์ เลยคิดว่า "บุรีรัมย์นี่เล่นเหมือนดอร์ทมุนด์หรอ งั้นดูสักหน่อยละกัน"
นัดแรกที่ดูเจอทีมอะไรจำไม่ได้ละ แฮะๆ เเค่รู้สึกว่า "แม่เจ้า ทีมนี้มันหมาล่าเนื้อชัดๆ" บอกไม่ถูกว่าเหมือนดอร์ทมุนด์มั้ย เเค่รู้สึกว่า aggressive คล้ายๆกัน
ทีมบ้าอะไรวิ่งเป็นบ้าเป็นหลัง ยิ่งช่วงหลังๆ ชนะที 5-0'6-0 แบบทีมในลีคสู้ไม่ได้เลย

คำถามก็คือ ระบบแบบบุรีรัมย์นี่คือแบบดอร์ทมุนด์หรอ ? แล้วระบบแบบนี้มันคือระบบอะไรอะ ทีมอื่นในไทยเอาไปใช้มั่งไม่ได้หรอ แบบบ้างทีเรางงนักเตะก็คนไทยเท่ากัน ต่างชาติก็ใช้กันทุกสโมสร หรือนักเตะของบุรีรัมย์มันเป็นนักเตะแบบพิเศษใส่ไข่ -...- นั้นแหละ ทำไมมันถึงเก่งเเบบเกินหน้าเกินตาจัง

ถ้างั้นทีมอื่นเอา "ระบบ บาเยิร์น" มาใช้มั่งได้มะ เพื่อจะเก่งกว่า ฮ่าๆๆๆๆ

เเค่สังสัยอะว่าทำไมทีมนี้ โดดเด่นออกมาจากทีมในลีคจัง มีปัจจัยอะไรบ้าง (ช่วงนี้เรียนวิจัยเยอะ ตั้งคำถามยังกะทำงานวิจัย -...-)
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 23
ขอตอบในฐานะผู้หญิงที่เตะบอลไม่เป็นได้ไหมคะ ไม่รู้เจ้าของกระทู้จะรับฟังเราหรือไม่ แต่ถ้าตามที่เราเข้าใจระบบของบุรีรัมย์คือจะเล่น Modern Football หรือที่เรียกว่าฟุตบอลสมัยใหม่ซึ่งจะประกอบด้วยหลายๆศาสตร์ฟุตบอลมารวมๆกันได้แก่

1) Total Football System คือผู้เล่นทุกคนในสนามสามารถทดแทนตำแหน่งกันได้หมด ไม่ว่าจะเป็นกองหน้า กองกลาง กองหลัง สามารถยืดหยุ่นตำแหน่งกันได้จะไม่มีตำแหน่งตายตัว เห็นได้จาก หลัง กลาง หน้าบุรีรัมย์สลับตำแหน่งกันบ่อยๆ และทุกคนต้องยิงได้ไม่จำเป็นต้องเป็นกองหน้าเท่านั้น ถ้ายังนึกภาพไม่ออกให้ดูเกมส์ล่าสุดกับเซียงรายที่ธีราทรตอนแรกอยู่ฝั่งแบคซ้ายเจาะยังไงก็ไม่เข้าแล้วธีราทรก็หุบเข้ามาเล่นตรงกลางดันสุรัตไปอยู่ฝั่งซ้ายแทนจากนั้นรูปเกมก็ดีขึ้นและได้ประตูนำ 1-0 นี้เป็นสไตน์ที่เนวินอยากจะให้ลูกทีมเล่นอย่างมาก

2) Pressing Football System คือการเพรสซี่งอย่างมีระบบให้ได้ตลอด 90 นาทีที่อยู่ในสนาม โดยนักเตะต้องไล่บอลทั้งแผงถ้ามีคนใดคนหนึ่งไม่ไล่บอลตามระบบหรือไล่ได้ไม่ดีพอจะเกิดช่องว่างทันที นี้จึงเป็นเหุตผลที่ว่าทำไมบุรีรัมย์ต้องวิ่งตลอด ต้องไล่บอลไม่หยุดเพราะในแผงกลองกลางเคลื่อนที ทุกคนก็ต้องเคลื่อนไปพร้อมๆกัน ใครทำไมได้ส่วนใหญ่จะหมดอนาคตกับบุรีรัมย์เพราะเรื่องนี้เนวินให้ความสำคัญอันดับ 1 เลยใครเพรสซิ่งไม่ได้หมดอนาคตทันที

3) Catenaccio System จริงๆจะเรียนว่าเป็นบอล Catenaccio ก็ไม่ถูกเท่าใดนัก แต่บอลบุรีรัมย์จะมีสิ่งที่คล้ายคลึ่งกันมากคือ Catenaccio  เป็นศาสตร์ฟุตบอลที่เน้นเกมรับที่เหนียวแน่นแล้วโต้กลับอย่างเป็นระบบโดยศาสตร์นี้เริ่มต้นที่อิตาลีระบบนี้จะมีสวีปเปอร์ที่อยู่ในตำแหน่งด้านหลังของเซ็นเตอร์แบ็คมีหน้าที่ในการเก็บกวาดบอลที่หลุดจากเซ็นเตอร์มาเหมือนเป็นกำแพงชั้นที่สองถ้ามองโดยอิงระบบนี้ สุรีย์กับกรวิทย์จะเป็นเซ็นเตอร์แถวแรกและมีตูเญชเป็นเซ็นเตอร์ตัวสุดท้ายที่จะค่อยเก็บตัวที่หลุดจากสุรีย์กับกรวิทย์อีกที  เกาหลี หรือญี่ปุ่นก็จะเน้นความเหนียวแน่นของเกมรับเป็นหลักเช่นกันแต่อาจจะไม่ได้ใช้ระบบนี้

4) Direct Football เป็นการเล่นบอลโยนยาวหรือบนพื้นยาว เพื่อข้ามแดงกลางให้เร็วที่สุดเป็นการนำบอลจากหลังสู่หน้าอย่างรวดเร็ววิธีนี้จะใช้ก็ต่อเมื่อทีมตนเองกำลังอยู่ในการตั้งรับเมื่อตัดบอลได้ก็จะโต้กลับอย่างเป็นระบบ น้อยจังหวะ และต้องจบด้วยการยิง บุรีรัมย์ชอบนักเตะเกมรับที่เล่นไดเร็คบอลได้ดีไม่ว่าจะเป็นธีราทร กรวิทย์ สุเชาว์ ตูเญช โกซุนกีหรือเด็กรุ่นใหม่อย่างสรรเสริญนักเตะเหล่านี้จะว่างบอลไกลแม่นมาก หาพื้นที่ว่างและว่างบอลไปตรงนั้นได้เก่งและการโต้กลับของบุรีรัมย์นี้ละอันตรายที่สุด ถ้าหากไปดูประตูที่บุรีรัมย์ทำได้ อันดับหนึ่งมาจากการโต้กลับนี้และค่ะ ค่อยตามมาด้วยการทำประตูจากลูกตั้งแตะ มีไม่บ่อยครั้งนักที่บุรีรัมย์จะทำประตูจากครองเกมและสร้างสรรค์โอกาสการเข้าทำอย่างสมบูรณ์แบบถ้านึกไม่ออกว่าแบบนี้คืออะไรให้นึกถึง Tiki taka หรือ Tik tok ไทยแลน์จะ 16จังหวะ หรือ27 จังหวะก็ว่าไป

5) Simple Football ,Give and Go หรือบางแห่งเรียงว่า Pass and Move การเล่นบอลที่เรียบง่ายเป็นสิ่งที่เนวินย้ำเสมอแต่ยังทำได้ไม่ดีนัก โดยเนวินจะบอกตลอดว่าอยู่ในบุรีรัมย์ต้องเล่นบอลง่ายๆ ต้องเล่นบอล วันทัช ทูทัช เท่านั้น การจะเล่นบอลให้เรียบง่ายมันต้องเกิดจากการเคลื่อนที่ของนักบอลตลอดเวลา ถ้านักบอลมั่วแต่ยืนไม่เคลื่อนที่หาที่ว่างเพื่อนก็เล่นบอลได้ยาก ฉะนั้นนอกจากจะเล่นบอล One-Touch ,Two-Touch ให้ดีแล้วสิ่งสำคัญที่สุดคือการให้แล้วไปหรือที่เรียกว่า Give and Go,Pass and Move เพื่อให้เกิดช่องว่างให้เพื่อนได้เล่นง่ายๆไม่ใช่ให้แล้วยืน

สรุปง่ายๆนะคะ บุรีรัมย์พยายามจะเล่นบอลสมัยใหม่ที่เนวินเรียกว่า Modern Football โดยรวมหลายๆศาสตร์เข้ามาด้วยกันทำให้สไตน์ของบุรีรัมย์เป็นฟุตบอลที่มีเกมรับเหนียวแน่นเสียประตูยาก โดยเสียประตูน้อยสุดในลีก นักบอลไล่เพรสซิ่งทุกตำแหน่งอย่างเป็นระบบ ไม่ได้เน้นว่าจะต้องเล่นบอลกับพื้นหรือโยนเท่านั้น แต่เน้นว่าต้องเล่นบอลง่าย ออกบอลไว ไม่เก็บบอลไวกับตัวนานเล่นบอลกัน 2-3 จังหวะก็สามารถพังประตูได้  ซึ่งหนูก็ไม่รู้เหมือนดอร์ทมูนไหมเพราะหนูไม่เคยดู เคยดูแต่บุรีรัมย์ ก็ลองๆเทียบดูนะคะว่าเหมือนไหม

ส่วนแผนการเล่นไม่ว่าจะเป็น 4-4-2, 4-3-3, 4-5-1, 5-3-2, 3-5-2, 3-4-3 ทั้งหมดนี้เป็นแค่ตัวเลขฟอร์แมตการยืนเท่านั้น ไม่ได้เป็นสิ่งสำคัญเท่าสไตน์การเล่นบอล จะเล่นแผนไหนอยู่ที่ความเหมาะสมในแมตท์นั้นๆค่ะ แต่สิ่งสำคัญคือไสตน์บอลต้องไม่เปลี่ยน ส่วนบุรีรัมย์ 2 ปีหลังนี้จะใช้ฟอร์แมต์ 3-5-2 เป็นหลักแต่ก็มีบ่อยๆที่บุรีรัมย์เล่น5-3-2หรือ3-4-3 ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการปรับเปลี่ยนในเกมส์ แต่หลักๆจะยืน 3-5-2 ค่ะ อย่างนัดล่าสุดกับเชียงรายช่วงท้ายเกมบุรีรัมย์ก็เล่น 3-4-3 โดยใช้ 3 กองหน้าบราซิล

ปล.หนูเดามั่วๆนะว่าบุรีรัมย์น่าจะเล่นบอลแบบนี้ถ้าผิดยังไงก็อย่าว่าหนูนะ เดียวหนูร้องไห้ T_T
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่