คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 7
1. โปะบ้านแบบฉลาด ต้องออมเงินสำรองเลี้ยงชีพ = รายจ่าย+หนี้ 6-12 เดือนก่อนครับ
มีครบแล้วค่อยเอาเงินไปโปะบ้าน
เพราะเอาเงินสดไปโปะบ้านหมด หากเกิดอุบัติเหตุชิวิตขึ้นมา จ่ายหนี้ช้าหรือไม่จ่ายหนี้บ้าง จ่ายบ้าง แบงก์ฟันคุณเลย
เขาไม่สนใจหรอกว่าคุณเป็นลูกหนี้ดีมากี่ปี
2. การโปะบ้าน อย่าไปคิดแต่ time value of money ครับ เพราะบ้านคือ asset ที่ดีมากๆ
และการโปะเงินต้น 1 บาท = คุณมี equity ส่วนความเป็นเจ้าของมากเท่านั้น
ยิ่งโปะต้นเงินได้มาก คุณยิ่งมี equity ในบ้านมากตาม เอควิตี้นี้เอามาทำอะไรก็ได้ครับ
ขายบ้านก็ได้กำไรมากขึ้น จะเอาส่วนความเป็นเจ้าของไปกู้อเนกประสงค์หรือค้ำประกันอะไรก็ได้
ยิ่งมี equity เยอะ ยิ่งดี
พวกที่กู้ 100% ไม่มีดาวน์ กู้ค่าตกแต่ง กู้ประกันสินเชื่อ MRTA
พวกนี้ equity ติดลบตั้งแต่ก้าวเท้าเข้าบ้านเลยครับ
มีครบแล้วค่อยเอาเงินไปโปะบ้าน
เพราะเอาเงินสดไปโปะบ้านหมด หากเกิดอุบัติเหตุชิวิตขึ้นมา จ่ายหนี้ช้าหรือไม่จ่ายหนี้บ้าง จ่ายบ้าง แบงก์ฟันคุณเลย
เขาไม่สนใจหรอกว่าคุณเป็นลูกหนี้ดีมากี่ปี
2. การโปะบ้าน อย่าไปคิดแต่ time value of money ครับ เพราะบ้านคือ asset ที่ดีมากๆ
และการโปะเงินต้น 1 บาท = คุณมี equity ส่วนความเป็นเจ้าของมากเท่านั้น
ยิ่งโปะต้นเงินได้มาก คุณยิ่งมี equity ในบ้านมากตาม เอควิตี้นี้เอามาทำอะไรก็ได้ครับ
ขายบ้านก็ได้กำไรมากขึ้น จะเอาส่วนความเป็นเจ้าของไปกู้อเนกประสงค์หรือค้ำประกันอะไรก็ได้
ยิ่งมี equity เยอะ ยิ่งดี
พวกที่กู้ 100% ไม่มีดาวน์ กู้ค่าตกแต่ง กู้ประกันสินเชื่อ MRTA
พวกนี้ equity ติดลบตั้งแต่ก้าวเท้าเข้าบ้านเลยครับ
แสดงความคิดเห็น
โปะบ้านแบบคนฉลาด โปะแบบไหนดีครับ
เอาแบบตัวเลขกลมๆละกันครับ สมมติผมต้องผ่อน 25 ปี เดือนละ 100 บาท แต่พอดีผมเป็นคนไม่กินไม่เที่ยว มีบ้างแต่ไม่บ่อย และน่าจะมีความสามารถจ่ายเกินได้ 20 บาท ในแต่ละเดือน
ที่ผมคิดเล่นๆดู คือถ้าเงินมันมี time value อยู่ การโปะเข้าไปในปีต้นๆมันจะเป็น optimal solution หรือเปล่าครับ
ผมเข้าใจว่าเงินเฟ้อมันอาจไม่ได้มีอิทธิพลมากขนาดนั้น??? แต่อยากได้ไอเดียเชิงการเงินหน่อยครับ ว่ามันมีจังหวะการจ่ายที่จะทำให้เราเสีย "น้อยลง" เมื่อคิดตาม time value หรือเปล่า
อันนี้ถามด้วยความบริสุทธิ์ใจนะครับ ไม่ค่อยรู้เรื่องเงินๆทองๆเชิงลึกเท่าไหร่เลย