[CR] รักเลย “เชียงคาน” 23-24-25 Oct. 2015

รักเลย “เชียงคาน” 23-24-25 Oct. 2015

สวัสดีเพื่อนๆ Pantip ทุกคน หลังจากที่เราได้ไปเที่ยวเชียงคานเมื่อวันหยุดปิยะ ที่ผ่านมา เลยอยากจะมารีวิวให้เพื่อนๆฟัง เผื่อจะเป็นประโยชน์ในการเดินทางสำหรับคนที่อยากไปเนอะ^^
ปล.เป็นกระทู้รีวิวแรกของเรา ผิดพลาดประการใดต้องขออภัยด้วยน๊า

เชียงคาน ^^ จังหวัด เลย
อันดับแรกเลยนั้น เราต้องหาข้อมูล ก็Google เลยค่ะ ห้องบลูใน Pantip ก็มีหลายรีวิว เพื่อนๆสามารถหาข้อมูลได้เลยนะ
จากนั้นก็เริ่มจากที่พัก ที่พักที่เราไปพักในคราวนี้ ชื่อว่า บ้านพักตากะยาย มี Web ของที่นี่ด้วยนะ ตามนี้เลย
http://www.baantakayai-chiangkhan.com

สำหรับที่พัก เป็นแบบโฮมสเตย์ มีตากะยาย (ตามชื่อเลย) อยู่กัน 2 คน เป็นบ้านไม้+ปูน 2 ชั้น ข้างล่างหน้าบ้านตอนเช้าๆ ตาจะเปิด เป็นร้านขายหมวก ให้เช่าจักรยาน แล้วตาก็ นั่งอยู่ตรงเก้าอี้เอนหลังหน้าบ้าน ยายก็นั่งดูทีวี ส่วนเราก็พักอยู่ชั้นสองค่ะ ห้องพักมี หลายแบบ ดูในเว็บไซด์ของบ้านตากะยายได้เลยนะ

สำหรับการเดินทาง เราเลือก เดินทางด้วยรถทัวร์ค่ะ บขส. กรุงเทพ-เชียงคาน สำหรับการจอง เราจองออนไลน์ค่ะ ตาม Link นี้เลย http://www.busticket.in.th/
รถวิ่งประมาณ 9-10 ชม. จากกรุงเทพฯไปถึงเชียงคานค่ะ มีแวะพักกินข้าว1 ครั้ง (สามารถนำหางตั๋วลงไปกินข้าวได้ฟรีค่ะ)


รถทัวร์ บขส. นี้จะไปจอดให้เราลงที่เชียงคานเลยค่ะ สะดวกมากเพราะ เป็นสุดเส้นทางการวิ่งพอดี
วันแรก “เฮ้ยๆ ถึงเชียงคานแล้วแก” ^^ 23/10/2015
    พอลงจากรถทัวร์ ด้วยความที่ว่าถึงเช้ามากเราถึงประมาณ 6 โมง ค่ะ พอลงจากรถจะมีรถสามล้ออยู่เต็มเลยค่ะสามารถต่อรองราคาได้ตามสะดวกเลยค่ะ หรอถ้าใครไม่รู้จะเที่ยวอะไรยังไง ถามพี่ๆ สามล้อได้เลยค่ะ ไกดได้เป็นอย่างดี  เวลา6.30 น. เราขึ้นภูทอกก่อนเลยค่ะ กระเป๋านี่ก็แบกไปด้วย ไม่ได้แบกขึ้นภูนะคะ ฝากไว้ในรถสามล้อนั่นแหละค่ะ ลุงเค้าจะเฝ้าให้ตลอด
ภูทอก


วันที่เราขึ้นไป ไมเห็นทะเลหมอก ค่ะ เห็นแต่หมอก หมอก เยอะมากค่ะ หนาวด้วย มีคนขึ้นไปเยอะเหมือนกันค่ะ สำหรับคนที่อยากเห็นทะเลหมอกหรืออยากเห็นพระอาทิตย์ขึ้น แนะนำให้ขึ้นไปตั้งแต่ ตี 5 เลยค่ะ น่าจะเห็นแล้วก็ทันพระอาทิตย์ขึ้นด้วยค่ะ บนภูทอกก็จะ มีมุมให้เราถ่ายรูปค่ะ มีชิงช้า ศาลา ละก็ ป้าย ให้เราได้ถ่ายรูปกัน
ปล.วันที่เราไปมีคนเอาน้องหมาโกลเด้น ขึ้นไปด้วยน่ารักมากๆ ^^


พอถ่ายรูปไปสักพักเริ่มหิวค่ะ ยังไม่ได้กินข้าวเช้าเลย บนทางขึ้นภูทอกจะมี ร้านข้าวค่ะ น่ากิน รสชาติก็พอได้ค่ะ สำหรับมื้อแรกที่เชียงคาน

อ้อ ลืมบอกค่ะ จะมีรถพาขึ้นภูทอกนะคะ คนละ 25 บาท

จากนั้นค่ะเราก็เดินทางไปวัดพระพุทธบาทภูควายเงินค่ะ
วัดพระพุทธบาทภูควายเงิน
รถสามล้อจะมาส่งที่ทางขึ้นค่ะ แล้วเราก็โทรเรียกรถมารับค่ะ ตามป้าย คนละ 25 บาท เหมือนเดิม
ข้างบนก็จะมีรอยพระพุทธบาทค่ะ แล้วก็วัดสวยมากกกก ค่ะ ตอนเราขึ้นไปยังมีหมอกบางๆให้เห็นค่ะ และก็เริ่มมีแสงแดดจากพระอาทิตย์ส่องลงมา



มีฟาร์มกระต่ายให้เราได้เข้าไปถ่ายรูปหรือ ให้อาหารได้ค่ะ  กระต่ายเยอะมากๆๆๆๆๆๆ

แก่งคุดคู้
ตอนแรกที่วางแผนไว้เรากะมาที่นี่ตอนเช้าๆ ค่ะ เพื่อจะได้เห็นทะเลหมอกบนสายน้ำ แต่พอมาถึง ก็ไปไปเกือบเที่ยงแล้วค่ะ 5555 หมอกนี่กลายเป็น แดด ค่ะ ร้อนเลย แต่ก็ไม่เป็นอุปสรรคค่ะ เราก็ได้เห็นแก่งคุดคู้แบบ ชัดเจนค่ะ วันที่เราไป บริเวณที่เป็นแก่งค่ะ น้ำยังไม่ลดค่ะ จึงไม่เห็นหาดทราย ถ้าใครอยากมาเห็นหาดทรายทอดยาวลงแม่น้ำ แนะนำว่าให้มาช่วงเดือนกุมภาพันธ์-พฤษภาคม ค่ะ บริเวณแก่งคุดคู้มีบริการร่องเรือชมแม่น้ำโขงด้วยนะคะ ราคาก็ตามแต่จะต่อรอง นอกจากนี้ยังมีร้านค้ามากมายให้เราได้เลือกซื้อของ และที่สำคัญถ้ามาแก่งคุดคู้แล้วไม่ได้กินถือว่า ไม่ถึงนะคะ นั่นคือ “มะพร้าวแก้ว” จะมีขายหลายร้านมากค่ะ  สำหรับเรา เราว่าร้านไหนก็อร่อยค่ะ แม่ค้าบอกว่า จะมี เกรด A เกรด B ซึ่งราคาก็จะต่างกันเล็กน้อยค่ะ เกรด A มะพร้าวจะนิ่มกว่า ส่วนเกรด B มะพร้าวจะแข็งกว่าหน่อยหน่อย แต่เราว่า เกรด A อร่อยมากค่ะ หาซื้อไม่ได้ในกรุงเทพ ฯ เราเลยจัดไปหลายถุงเลยค่ะ ซื้อกลับไปฝากที่บ้าน ด้วย ^^



จากนั้นเราก็มา เช็คอินที่บ้านพักตากะยายเลยค่ะ เรามาถึงที่ถนนคนเดิน ก็เป็นเวลาเกือบๆ บ่ายแล้ว เราเลยจัดแจง อาบน้ำ แปรงฟันเปลี่ยนเสื้อผ้า ค่ะ (ตั้งแต่เมื่อวาน ยังไม่ได้อาบน้ำ555 )เตรียมออกไปเดินถนนคนเดิน (ยามเย็น)  

ก็จัดแจงเดินหาอะไรกินค่ะ ก็มาลงที่ร้าน “ผัดไทปล่อยแสง” แค่ชื่อก็สนุกละ ^^ ผัดไทร้านนี้อร่อยค่ะ เครื่องนี่มาเต็ม จัดว่า OK เลยค่ะ ตอนเย็นๆ ร้านนี้จะขายผัดไท ค่ะ พอดึกหน่อยก็เปิดบาร์ให้นั่งด้านใน บาร์ริมแม่น้ำโขงกันเลยทีเดียว

พอเริ่มเย็น เราอยากไปดูพระอาทิตย์ตกค่ะ เลยโทรไปถามลุงสามล้อเมื่อเช้าค่ะลุงแนะนำให้ไปภูช้างน้อยค่ะ พอสัก 5 โมงเย็นลุงก็มารับค่ะพอไปถึงที่ภูช้องน้อย เงียบมากๆเลยค่ะ ไม่มีใครมาเลยเราก็แอบกลัวนี่ลุงพาเรามาปล่อยรึป่าว ลุงมาส่งที่หน้าทางขึ้นภูค่ะ ลุงบอกว่า รถขึ้นไปไม่ไหวทางชันมากให้เดินขึ้นไปเอง เรากับเพื่อนก็เลยเดินขึ้นไปค่ะ ระหว่างที่กำลังเดินขึ้นไป ก็เจอพี่ 2 คนค่ะ เค้าก็กำลังเดินขึ้นเหมือนกัน เย้ๆ มีเพื่อนแล้ว พอขึ้นไปถึงปรากฏว่า พระอาทิตย์ตกไปแล้วค่ะ ถ่ายรูปทันแค่แสงสุดท้ายของพระอาทิตย์ T_T เสียใจ 5 โมงกว่าๆ เองค่ะ พระอาทิตย์ตกไปเสียแล้วสงสัยหน้าหนาวพระอาทิตย์เลยตกเร็ว ไม่เป็นไรค่ะ บนภูช้างน้อยนี้สามารถมองเห็นวิว ภูเขาได้ชัดเจนค่ะ ข้างบนมีวัดและพระพุทธรูปขนาดใหญ่ให้ไหว้ได้ค่ะ



เราอยู่บน ภูช้างน้อยแค่แป็บเดียวค่ะ เนื่องจาก “หิว” 555 เย็นแล้วค่ะ เราต้องหาอะไรกิน ก็เลยกลับมาที่ถนนคนเดิน บรรยากาศช่วงทุ่มนึงต่างจากช่วงบ่ายๆ มากค่ะ



คนเดินกันเยอะมาก นี่นึกว่าอยู่พัทยา  ^^ แต่อากาศเย็นกำลังดีค่ะ เลยไม่หงุดหงิด (เอ๊ะ?)
อีกร้านแนะนำค่ะ  “งอยโขง”

หลังจากกินเสร็จเราก็เดินเก็บบรรยากาศไปเรื่อยๆ ค่ะ มีหลายร้านที่เราอยากเข้าไปนั่งทานอาหาร แต่ คือ อิ่ม อืด อ้วนมากเลยค่ะเลยได้แต่ถ่ายรูปไว้

พอเริ่มดึกอากาศเริ่มหนาวค่ะ เราเลยกลับเข้าห้องพัก พรุ่งนี้ตื่นแต่เช้า มาตักบาตรข้าวเหนียวกันค่ะ

ตักบาตรข้าวเหนียว ณ เชียงคาน
เช้าแล้วค่ะ เวลา 5.45 น. นี่รีบตื่นมากเลยค่ะ อยากตักบาตรข้าวเหนียว เดินไปชะโงกดู ตรงระเบียง เห็นตากำลังปูเสื่ออยู่หน้าบ้านค่ะ เราเลยรีบ ลงไปข้างล่างค่ะ คุณตากำลังหุงข้าวเหนียวกลิ่นหอมมากเลยค่ะ ชุดตักบาตร ชุดละ 20 บาทค่ะ  เราได้แจ้งคุณตาไว้ตั้งแต่เมื่อคืนค่ะ พอเริ่ม 6 โมงกว่าๆ หลายๆ บ้านเริ่มเปิด ประตูแล้วก็ปูเสื่อหน้าบ้านค่ะ เป็นภาพที่หาดูไม่ได้ที่กรุงเทพฯ แน่นอนค่ะ ทุกคนเริ่มทยอยกันมานั่งเสื่อ หน้าบ้านเป็นทางยาวตลอดถนน

หลังจากตักบาตรข้าวเหนียวเสร็จ ก็ถึงเวลา........ นอนค่ะ 5555 ขอนอนต่ออีกสักงีบนะคะ ZZZzzzz…
ตื่นมาพอดีเที่ยงเลยค่ะ 555 งีบนานไปหน่อย ตื่นมาสิ่งแรกที่คิดได้คือ ข้าวเที่ยงค่ะ เที่ยงนี้ฝากท้องไว้กับ ก๋วยเตี๋ยวไก่ตุ๋นค่ะ ร้านอยู่ติดกับจุดชมวิวแม่น้ำโขงเลยค่ะ พอเรากินเสร็จก็ได้เวลาเดินถ่ายรูปค่ะ จริงๆวันนี้เราแทบไม่มีโปรแกรมเที่ยวเลยค่ะ เนื่องจากเราเที่ยวเมื่อวานจนหมดแล้ว ก็เลยอยู่ที่ถนนคนเดินตลอดทั้งวันเลยค่ะ เดินหาของฝากแวะหลายร้านมากค่ะ อ่อ ลืมบอกไป ถ้าใครขี้เกียจเดิน มีหลายร้านมากเลยค่ะ ที่ให้เช่าจักรยานปั่นริมแม่น้ำโขง รับรองบรรยากาศฟินแน่เลย ค่ะ แต่เนื่องจากเพื่อนเรา ปั่นจักรยานไม่เป็นค่ะ เลยเดินเป็นเพื่อนกัน ^^
ช่วงวันที่เราไป มีงานเทศกาล แห่สีผึ้งพอดีเลยค่ะ

เวลาสัก 3- 4 โมงก็เดินกลับมาเก็บกระเป๋าแล้วเช็คเอ้ากับคุณตาคุณยาย แต่เราฝากกระเป๋าไว้กับคุณตาก่อนเนื่องจากเรามีอีกภารกิจที่ต้องทำค่ะ นั่นคือ ชมพระอาทิตย์ตกริมแม่น้ำโขงค่ะ เนื่องจากเมื่อวานไปไม่ทันดูพระอาทิตย์ตกบนภูเขา วันนี้เราเลยขอดูพระอาทิตย์ตก ริมแม่น้ำโขง ค่ะ พอไป ถึงคน เยอะมากเลยค่ะ ตั้งขาตั้งกล้องกันเยอะเลย
และแล้ว ^^

สวยมากกกค่ะ บรรยากาศแบบ ดี๊ดี นี่ถ้ามากับแฟนคง สวีทน่าดู 55555
จากนั้นเราก็แอบไปซื้อขนม ตุนไว้ก่อนกลับค่ะ
ทางที่จะไปขึ้นรถทัวร์ กลับกรุงเทพฯ อยู่บริเวณซอย 9 ค่ะ สามารถเดินจากถนนไปได้ค่ะไม่ไกล หรือใครที่มีของเยอะ ก็เรียก สามล้อไปส่งก็ได้เหมือนกัน
และแล้วเราก็กลับมาถึง กรุงเทพฯ ค่ะ กลับมาดูพระอาทิตย์ขึ้นที่กรุงเทพฯ  555
พระอาทิตย์ดวงเดียวกัน แต่ดูคนละ สถานที่ อารมณ์ก็ต่างกันค่ะ ได้แต่บอกตัวเองว่า ไม่เป็นไรชีวิตต้องดำเนินต่อไป (จะดราม่าทำไม) 555  

จบแล้วจ้า รีวิวครั้งแรก หวังว่าจะมีประโยชน์กับเพื่อนๆที่อยากจะไปเชียงคานนะ
ชื่อสินค้า:   เชียงคาน
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่