การเข้าคุกอย่างไรให้ถูกวิธี ?แลัวอยู่รอดปลอดภัย ตอนที่ 4 “ คนบ้า”

ในวันที่แดดแรงมากของช่วงต้นเดือนเมษายน   ณ  สถานที่ แดนแรกรับ
                กลางสนามปูนที่ใช้ฝึกระเบียบแถวของผู้ต้องขังเข้าใหม่  ความร้อนจากแสงอาทิตย์บวกกับความร้อนระอุจากพื้นปูน  มันทำให้ผู้ต้องขังใหม่ที่ทำการฝึกกลางสนามนี้  รู้สึกไม่ต่างจากการอยู่ในนรกเลยทีเดียว    “เอ้า วิดพื้น 20 ยก” เสียงคำสั่งดังฟังชัดจากครูฝึก  พร้อมเสียงตอบรับอย่างพร้อมเพรียง “ 20 ยก”     “ปฎิบัติ” เสียงครูฝึกอีกครั้ง  “หนึ่ง สอง สาม หนึ่ง หนึ่ง สอง สาม สอง....” เสียงนับการวิดพื้นเป็นจังหว่ะๆ
                “เฮ้ย ๆ  ไอ้โย่งๆ  อย่าเก๋าๆ  วิด  ขึ้นสุด ลงสุด อย่ารู้มาก   เดี๋ยวเจอดี ” เสียงครูฝึกตะโกนลั่น   “เอ้า มีคนอู้  ต่อลุกนั่งอีก 20 ยก”   ครูฝึกสั่งซ้ำ    “ 20 ยก” เสียงตอบพร้อมเพรียง แต่หนักแน่นกว่าเดิม เพราะบวกอารมณ์ โมโหไอ้คนที่มันอู้ด้วย  หลายสายตาหันไปมองต้นเหตุที่ต้องโดนลงโทษนี้  “ ปฎิบัติ” ครูฝึกสั่งซ้ำ    “หนึ่ง สอง สาม หนึ่ง หนึ่ง สอง สาม สอง ....”  ทุกคนลุกนั่งและนับจังหว่ะอย่างแข็งขันจนครบตามคำสั่ง  “เอ้า เหนื่อยยัง” ครูฝึกถาม  “เหนื่อยครับ”  เสียงดังฟังชัดพร้อมแฝงสำเนียงความหวังเล็กๆ  
                สายตาครูฝึกหันมองนาฬิกาที่ติดบนหัวเสาในโรงเลี้ยง เป็นเวลาเกือบจะ 11 โมงครึ่งแล้ว “จ่าขออีกชุดนึงเอาแบบ ปึ๊กๆ นะได้ไหม”  ครูฝึกถาม   “ได้ครับ”  เสียงดังกว่าทุกที   “สก๊อตจั้มพ์   30 ยก” ครูฝึกสั่ง    “30 ยก”  เสียงตอบรับขันแข็ง   “ปฎิบัติ”  ครูฝึกสั่งอีกครั้ง  “หนึ่ง สอง สาม หนึ่ง หนึ่ง สอง สาม สอง ...”เสียงนับดูแข็งขันพร้อมเพรียงกว่าครั้งไหนๆ
              จ่าศักดิ์ ชายร่างใหญ่ผิวคล้ำ  ดูกำยำ น่าเกรงขาม แม้เค้าจะมีอายุถึง 45 ปี แต่ก็ยังดูเข้มแข็ง ตามลักษณะชายชาติทหาร  เค้าได้รับหน้าที่เป็นครูฝึกผู้ต้องขังใหม่ เค้าเป็นครูฝึกที่แดนแรกรับนี้มาได้ 2 ปีแล้ว หลังจากย้ายเรือนจำมาจากเรือนจำต่างจังหวัด  ตามกฎระเบียบของกรมราชทัณฑ์ที่ว่าหากใกล้พ้นโทษ  สามารถขอย้ายมาจำคุกที่เรือนจำตามภูมิลำเนาได้   จ่าศักดิ์ผ่านโทษจำคุกมาแล้วนานนับเกือบ 10 ปี  จากโทษคดีการขนยาเสพติดเพื่อจะนำเข้ามาขายต่อที่กรุงเทพฯ
              จ่าศักดิ์เคยรับข้าราชการทหาร   ก่อนที่จะถูกจับ  “เงินเดือนทหาร มันไม่พอหว่ะ”  นั่นคือเหตุผลการกระทำความผิดที่มาจากปากของเค้า  ถึงตอนนี้เค้าเหลือโทษจำคุกอีกแค่ 15 เดือน จึงทำให้เค้าดูอารมณ์ดีตลอดเวลา เพราะวันที่จะได้รับอิสระภาพ  ใกล้เข้ามาทุกทีๆ
              หลังจากปล่อยแถวผูต้องขังใหม่ให้ได้ไปพักผ่อนแล้ว  จ่าศักดิ์ก็มานั่งพิงหลังที่เก้าอี้ตัวโปรด  มองดูท้องฟ้า  สูดลมเข้าปอด พร้อมนึกในใจถึงวันที่จะได้ออกไปพบกับลูกสาวที่ตนรัก โดยไม่ต้องผ่านกระจกใส และคุยผ่านสายโทรศัพท์อีก    “จ่าครับๆ” เสียงเรียกจากชายหนุ่มร่างเล็กดูไม่ค่อยแข็งแรง  เป็นคนหนึ่งในกลุ่มผู้ต้องขังใหม่  “ว่าไง มีไร” เสียงตอบจากจ่า  ดูเรียบๆ  “เอ่อ ผมว่า...ผมฝึกไม่ไหวหน่ะครับ อยู่ข้างนอกไม่เคยออกกำลังกายเลยครับ ปวดเมื่อยไปทั้งตัวเลย ”  ชายร่างเล็กตอบ   “แล้วจะให้ข้าช่วยยังไง ทุกคนเค้าก็ทำกันได้”  จ่าตอบ พร้อมคิดในใจว่า เหลี่ยมของเค้าได้ผลหล่ะ ฝึกหนักๆ กลางแดดร้อนๆ รับรองติดเบ็ด แน่นอน !!   
               “เอ็งฝึกมากี่วันแล้ว” จ่าถาม “วันนี้  วันที่ 2 แล้วครับ”  เสียงตอบแบบอ่อยๆ  “อะไรหว่ะ แค่วันที่ 2 ก็ถอดใจแล้วหรอ” จ่าตะคอกเบาๆ  “เอาไงดี  อืม...เอางี้ ข้าไม่อ้อมค้อมหล่ะนะ ญาติเอ็งจะมาเยี่ยมไหม วันนี้”  จ่าถามถึงสถานะการเงินก่อน  “มาครับๆ วันนี้เมียผมจะมาตอนบ่ายๆ” ชายหนุ่มตอบด้วยเสียงมั่นอกมั่นใจ   “ อืม ๆ แล้วข้างนอกเอ็งทำไร  แล้วเอ็งโดนคดีอะไรเข้ามาว่ะ ” จ่าถามต่อเพื่อจะได้เรียกค่าธรรมเนียมให้เหมาะสม  “ผมโดนลักทรัพย์นายจ้าง  ตัดสินแล้ว  4 ปีครับ อยู่ข้างนอกเป็นโฟร์แมนครับ  ผมขโมยสายไฟในไซต์งาน  เจ้านายดันจับได้  ซวยชิบเลย !!  คนอื่นทำตั้งเยอะไม่โดน  ผมทำครั้งที่ 2 เอง”  ชายหนุ่มตอบพร้อมส่ายหัวแบบเซ็งๆ   “ อืมๆ”  จ่าตอบพร้อมคำนวนความน่าจะได้   พร้อมเปิดเก๊ะหยิบปากกากับกระดาษขึ้นมา  ก้มลงเขียนรายชื่อ 5 รายชื่อ  ส่งให้ชายหนุ่มผู้ติดกับ  “เดี๋ยวญาติเอ็งมา เอ็งบอกเค้าให้ซื้อบุหรี่ เข้าชื่อพวกนี้ คนละแถว ไหวไหมว่ะ  ทั้งหมด 5 แถว”  จ่าสั่งแบบครึ่งสั่งครึ่งถาม   ชายหนุ่มอึ้งๆ พร้อมคำนวนราคาขึ้นในใจ   “น่าจะไหวครับ”  ตอบแบบมั่นใจนิดหน่อย  
                “แล้วเอ็งจะบอกญาติเอ็งว่าไง  อย่าให้เรื่องถึงข้านะโว้ย”  จ่าสั่งเสียงแข็ง  “ไม่ต้องห่วงครับเมียผมรู้อะไรเป็นอะไรครับ แต่ผมงง  ทำไมไม่เอาเข้าชื่อ จ่าคนเดียว หรือ ชื่อผมคนเดียวหล่ะครับ” ชายหนุ่มถามด้วยความสงสัย  “ทำอย่างนั้น  ก็ซวยกันหมดซิว่ะ  ซื้อบุหรี่เข้าชื่อคนเดียว ทีละ 5แถว โดนสอบแน่  ยิ่งช่วงนี้  เข้มงวด พวกอิทธิพลในคุกอยู่ด้วย”  จ่าตอบข้อสงสัย    “ถ้าได้ของครบ เดี๋ยวข้าจะให้เอ็งไปช่วยงาน  ล้างอ่างน้ำเลย ไม่ต้องฝึกหล่ะ แต่ที่สำคัญห้ามพูดให้ใครฟังนะโว้ย   ถ้ามีไรผิดพลาดขึ้นมา ข้าเอาเอ็งหนักเลยนะ”  จ่าขู่อีกครั้ง  “ได้ครับๆ” ชายหนุ่มรับปากอย่างมั่นใจ
             นี่ไม่ใช่ลูกค้ารายแรกของจ่า  เค้าใช้เหลี่ยมนี้มานับไม่ถ้วนแล้ว  รู้วิธีการหลบหลีกการตรวจสอบได้เป็นอย่างดี พอหลังจากที่เค้าได้บุหรี่เป็นค่าธรรมเนียมแล้ว ก็จะนำบุหรี่แปลงกลับไปเป็นเงินได้  โดยการฝากบุหรี่ที่ได้ให้เจ้าหน้าที่บางคนที่ร่วมขบวนการ  แน่นอนครับต้องเสียค่าทางด่วนด้วย  เพราะการทำเรื่องแบบนี้  ในนี้  ทำด้วยตัวเองไม่ได้แน่ๆครับ   เจ้าหน้าที่ก็จะช่วยนำบุหรี่ออกไปในวันที่ญาติจ่ามาเยี่ยม  แล้วญาติก็จะนำบุหรี่ไปขายต่อตามร้านของชำเจ้าประจำ  ในราคาที่ถูกกว่าทั่วไปนิดหน่อย  
             หรือถ้าไม่มีญาติมาก็ให้เจ้าหน้าที่ไปหาขายแล้วนำเงินกลับเข้ามาฝากในบัญชีของตัวเองก็ได้   เพราะการเป็นครูฝึกในนี้ไม่มีเงินเดือนนะครับ  มีแต่หาเหลี่ยมหาช่องทางของรายได้กันเอง  “ในนี้ใช้เท้าเดินอย่างเดียวไม่ได้ต้องใช้หัวเดินด้วย”  จ่าศักดิ์หารายได้ได้ขนาดนี้ไม่ใช่พอเลี้ยงตัวเองในคุกแล้ว แต่พอที่จะจุนเจือคนทางบ้านได้ด้วย ต้องยอมนับถือจริงๆ   ข่าวลือกันว่าจ่ามีเงินเก็บส่งเข้าบัญชีลูกสาวเป็นหลักแสนเลยทีเดียว   ในส่วนของคนที่ยอมจ่ายก็ไม่น่าแปลกใจอะไรถ้าเป็นคนที่ไม่เคยลำบาก   มาเจอฝึกหนักๆเข้าแบบนี้   ถ้าพอมีกำลังทรัพย์คงจะจ่ายอยู่กระมัง  ยิ่งถ้าหน้าร้อนจ่ายิ่งทำรายได้ได้ดีเลย
                  หลังจากที่จัดแถวส่งผู้ต้องขังใหม่ขึ้นเรือนนอนเป็นที่เรียบร้อย   จ่าศักดิ์ยังมีอีกหนึ่งหน้าที่  คือรอรับคนที่จะเข้ามาใหม่ในทุกวัน  ช่วงระหว่างรอนี้  จ่าก็จะไปทำกิจวัตรส่วนตัว  อาบน้ำ แล้วก็จะมานั่งกินข้าว กับ ลูกน้องคนสนิท อีก 2 คน   “เฮ้ย อ้นไปเอา กุญแจล๊อคเกอร์ให้จ่าที  จ่าลืมไว้ตรงอ่างน้ำ”  จ่าสั่งไอ้อ้น   ไอ้อ้นเป็นลูกชายของเพื่อนสนิทคนนึงของจ่า  ที่เข้ามาเมื่อต้นปีก่อนด้วยคดีลักทรัพย์ อยู่ข้างนอกไอ้อ้นจะขโมยของตามร้านสะดวกซื้อ จำพวกยาสระผม  ครีมทาผิว กาแฟ ฯลฯ เพื่อนำไปขายถูกๆ แล้วเอาเงินไปซื้อยา  ไอ้อ้นมีอายุแค่ 20 กลางๆแต่ผ่านการเข้าออกคุกมาหลายรอบ  พอจะรู้เหลี่ยมรู้ทางหากินในคุกเป็นอย่างดี ช่วยจ่าหาเงินได้คล่องขึ้น เป็นคนโปรดเลยก็ว่าได้
                  “อ้น เอ็งก็ใกล้ปล่อยแล้วนี่ ออกไปจะทำไรว่ะ” จ่าถามระหว่างนั่งกินข้าว  อ้นเคี้ยวข้าวกรึบๆ แล้วกระเดือกลงคอก่อนตอบ “ครับ เหลือ 8 เดือน ออกก่อนจ่า 7 เดือน  ทำไมหรอครับ จะให้ช่วยดูแล ลูกสาวจ่าหรอ”   “นั่นไงๆ มาใกล้ๆข้าหน่อย จะได้ถีบถนัดๆ” จ่าพูดพร้อมยกขาขึ้นพร้อมจะถีบ  “ล้อเล่นๆ ครับ แหมๆ หวงจริง” อ้นรีบตัดบทพร้อมถอยออกห่างระยะ  “เอ้าๆรีบกินเลยพวกเอ็ง จะได้ไปจัดข้าวให้คนใหม่ ไอ้อ๊อด เอ็งไปถามที่หน้าแดนด้วย  เค้าแจ้งยอดคนใหม่มาหรือยังว่ากี่คน”จ่าสั่งแบบเสียอารมณ์   
                   ไอ้อ๊อดเป็นหนุ่มร่างใหญ่ อายุอยู่ราวๆ 30 กลางๆ เข้ามาในคุกด้วยคดีล้อเลื่อน หรือขโมยรถมอเตอร์ไซค์  เป็นจิ๊กโก๋อยู่แถวบ้านจ่าศักดิ์  มันจำจ่าศักดิ์ได้  เมื่อครั้งยังเป็นวัยรุ่นอยู่ แล้วก็เพิ่งมาเจออีกที ก็ที่นี่หล่ะ  “เป็นไง ไอ้อ้น -อยู่ดีๆก็ดีแล้ว ยิ้มไปกวนตีนจ่า”ไอ้อ๊อดหันไปต่อว่า พร้อมส่งสายตาเขม็ง “เอ็ง ไอ้อ้น ล้างจานด้วย ข้อหาเล่นของสูง”  จ่าสั่งแบบหยอกๆแต่ขึงหน้าตึง  “ไรว้า วันนี้เวรพี่นี่หว่า พี่อ๊อด” ไอ้อ้นบ่นงึมงัมๆ  “ฝากด้วยโว้ย กูไปหน้าแดนถามยอดคนใหม่ก่อน” ไอ้อ๊อดพูดจบก็ตักข้าวคำสุดท้ายเข้าปาก แล้ววางจานให้ไอ้อ้น พร้อมส่งสายตา เยาะเย้ยนิดๆ  แล้วรีบวิ่งไปหน้าแดน  
                ยอดคนใหม่วันนี้อยู่ที่ 18 คน  ถือว่าไม่มากนัก เพราะปกติถ้าเป็นวันศุกร์แบบนี้ จะอยู่ที่ 20 คนขึ้น  “เฮ้ย วันนี้ 17 คน รั่ว 1คน นะไอ้ศักดิ์” เสียงเจ้าหน้าที่ที่นำคนใหม่ เข้ามาในแดน  พร้อมทั้งพยักหน้าทักทายจ่าศักดิ์  “ฝากด้วยดูไอ้นี่ด้วย” เจ้าหน้าที่คนเดิมบอก พร้อมทั้งชี้นิ้วไปทางชายหนุ่ม สูง ขาว อายุไม่น่าเกิน 30  จากการแต่งตัวและดูภายนอกแล้ว ไม่น่าจะมีอาการของคนเป็นบ้าได้  “ไอ้นี่หรอพี่” จ่าพูดพร้อมหันไปมอง “เอ็งหน่ะ ออกมาข้างหน้าซิ  เอ็งชื่ออะไร โดนคดีไรมา”  จ่าถามพร้อมเดินเข้าไปใกล้ตัว “..............” ไม่มีเสียงตอบรับจากคู่สนทนา ซึ่งยืนทำหน้าตา เหมือนคนงงๆ บ่นพึมพัมๆอยู่ในลำคอ  เหมือนไม่ได้ยิน หรือสนใจคำถามของจ่าเลย   
                 “มันรั่วจริงครับพี่ เห็นตั้งแต่ใต้ถุนศาลแล้ว ไม่พูดกับใครเลย ญาติมันเรียกมันตั้งนาน มันยังไม่ตอบเลย” เสียงจากคนใหม่คนนึงช่วยยืนยัน “แล้วพวกเอ็งรู้ไหม มันโดนคดีอะไร”จ่าถามต่อ พร้อมทั้งสอดส่าย สายตาไปในกลุ่มคนใหม่   ไม่มีเสียงใครตอบ  “เอ้านี่ใบคำฟ้องมัน...เฮ้ย ไม่ธรรมดาเว้ย คดีทำร้ายร่างกาย  คู่กรณีสาหัสซะด้วย อืม...”เสียงเจ้าหน้าที่คนเดิมตอบแทน พูดจบพร้อมก้มอ่านใบคำฟ้อง “ศาลชั้นต้น ตัดสิน 3 ปี 6 เดือนเลย มันโหดนะเนี้ย เล่นเค้าเกือบตายเลยนี่หว่า”เจ้าหน้าที่อ่านพร้อมออกความเห็น  “บ้าเงียบๆแบบนี้อ่ะหน้ากลัว มันจะทำไรอะไร  เมื่อไหร่  ไม่มีใครรู้เลย มึ๊ง” ไอ้อ้นวิจารณ์
                  “เอ้าๆ บ้าจริงแกล้งบ้าไม่รู้หล่ะ สร้างปัญหากูเตะหายบ้าหล่ะ!!”ไอ้อ๊อดเสียงแข็ง  นี่คือเหตุนึงที่ไอ้อ๊อดเป็นคนสนิทของจ่า  เพราะมันซื่อสัตย์ ออกหน้าแทนจ่าได้ในหลายๆสถานการณ์  “ไปๆๆ กินข้าวๆ   เอ้าจับคู่กันๆ เดินเข้ากินเป็นคู่  ใครไม่กินก็เข้าไปนั่ง รอเพื่อนก่อน แล้วค่อยไปอาบน้ำพร้อมกัน”จ่าตัดบท
                     ค่ำคืนนี้ผ่านไปได้โดยไม่มีเหตุการณ์อะไร แต่จ่าก็ไม่ได้วางใจ  โดยให้ชายเสียสติไปนอนหน้าบล๊อคคนเดียวป้องกันการกระทบกระทั่งกับคนอื่น และ กำชับยามทุกผลัดให้ดูชายเสียสติให้ดี  มีอะไรเรียกเค้าได้ตลอด  ตอนนี้จิตใจจ่าดูไม่ค่อยสบายใจเท่าไหร่เลย แม้จะเคยผ่านคนบ้าเข้าใหม่มาหลายต่อหลายคน  แต่ครั้งนี้เหมือนมีลางสังหรณ์ว่าไอ้บ้านี่มันต้องก่อเรื่องอะไรสักอย่างที่ร้ายแรง  จ่าหันไปมองมัน แล้วพยายามบอกตัวเองว่าคงไม่มีไร เพราะมันก็ดูเงียบๆ นั่งบ่นพึมพัมๆ ไม่มีท่าทีจะทำร้ายครั้ง  ก่อนจะล้มตัวลงนอนยังสั่งยาม “เฮ้ย ยามดูไอ้นี่ดีๆนะ มีไรเรียกจ่าเลยนะ”
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่