เป็นอายุรแพทย์ เพิ่งจบเฉพาะทางมา ไม่ได้เอาทุนที่ไหนมาทั้งนั้น เพราะเข้าโครงการเรียนจบแล้วเพิ่มพูนทักษะหนึ่งปี ทำงานที่อายุรศาสตร์ต่อแล้วสอบวุฒิบัติเลย
สอบเสร็จ มิถุนายน หลังสอบมาก็ยังรับราชการทำงานอยู่ที่เดิมที่ห่างจากบ้านไป 500 กิโลเมตร
วางแผนจะย้ายกลับมาอยู่โรงพยาบาลจังหวัดใกล้บ้าน 70 กิโลเมตร ต้องรอย้ายตามรอบการย้ายของระบบราชการ
ระหว่างนี้ชีวิตการเงินเข้าขั้นวิกฤต เพราะเวรนอกเวลาราชการไม่มีให้อยู่ รายได้หดหายเหลือแค่เดือนละสามหมื่นสาม
จากเมื่อก่อนที่ได้สี่หมื่นถึงห้าหมื่น ค่าผ่อนรถ ค่าหอ ทำให้เหลือกินไม่มาก ปลายเดือนจะต้องจ่ายตังค่าข้าวด้วยเหรียญทั้งหมด จนแม่ค้าจำได้
ประกอบกับที่บ้านถูกญาติโกงเงินไปเยอะมาก ทำให้เป็นหนี้ก้อนโต ต้องออกไปหาเงินโดนทำงานพาร์ททาม รพ เอกชน ที่จังหวัดที่อยู่ซึ่งก็หาแทบไม่ได้อีก เพราะมีหมอเดิมอยู่เต็ม จึงต้องบินมาทำที่กรุงเทพทุกสัปดาห์ ใกล้ไกลไปหมด เคยข้ามฟาก เสาร์เช้าอยู่พระประแดง เสาร์กลางคืนอยู่มีนบุรี อาทิตย์กลางวันอยู่บางบัวทอง อาทิตย์กลางคืนอยู่ลาดกระบัง เช้าต้องรีบออกมาไปขึ้นเครื่องบินกลับไปทำงานราชการต่อ
ความเปลี่ยนแปลงก็เริ่มอีกเมื่อยายเริ่มป่วย เข้าโรงพยาบาลทุกสองสัปดาห์ แต่ตัวเองไม่มีเวลาไปดูเลย เพราะต้องทำงานหาเงินมาปิดหนี้
ที่ทำงานราชการก็มีปัญหา อาจจะเพราะตัวเองนิสัยไม่ค่อยดีด้วย ไม่มีคนชอบสักเท่าไร ความตึงเครียดในทุกสิ่งรอบตัวมันมากขึ้นเรื่อย ๆ
สุดท้ายจึงตัดสินใจว่าจะลาออก ท่ามกลางความไม่เห็นด้วยของที่บ้าน ไปลองสัมภาษณ์งานดู ตัดสินใจได้สองวันก็ไปเขียนใบลาออก
แม้ใบหน้ายิ้ม ๆ เพราะปกติเป็นคนไม่ค่อยคิดอะไรมาก ดูสดใสร่าเริง แต่ตอนนั้นใจสลายมาก เพราะไม่เคยคิดเลยว่าชีวิตนี้จะต้องลาออกจากราชการเพราะทั้งบ้านเป็นข้าราชการหมด เรียนจนจบก็เงินเดือนราชการจากพ่อแม่ทั้งนั้น
ทำงานแป๊บครับ
ทำงานรัฐบาล หรือทำงานเอกชนดีครับ ช่วยกันคิดหน่อย
สอบเสร็จ มิถุนายน หลังสอบมาก็ยังรับราชการทำงานอยู่ที่เดิมที่ห่างจากบ้านไป 500 กิโลเมตร
วางแผนจะย้ายกลับมาอยู่โรงพยาบาลจังหวัดใกล้บ้าน 70 กิโลเมตร ต้องรอย้ายตามรอบการย้ายของระบบราชการ
ระหว่างนี้ชีวิตการเงินเข้าขั้นวิกฤต เพราะเวรนอกเวลาราชการไม่มีให้อยู่ รายได้หดหายเหลือแค่เดือนละสามหมื่นสาม
จากเมื่อก่อนที่ได้สี่หมื่นถึงห้าหมื่น ค่าผ่อนรถ ค่าหอ ทำให้เหลือกินไม่มาก ปลายเดือนจะต้องจ่ายตังค่าข้าวด้วยเหรียญทั้งหมด จนแม่ค้าจำได้
ประกอบกับที่บ้านถูกญาติโกงเงินไปเยอะมาก ทำให้เป็นหนี้ก้อนโต ต้องออกไปหาเงินโดนทำงานพาร์ททาม รพ เอกชน ที่จังหวัดที่อยู่ซึ่งก็หาแทบไม่ได้อีก เพราะมีหมอเดิมอยู่เต็ม จึงต้องบินมาทำที่กรุงเทพทุกสัปดาห์ ใกล้ไกลไปหมด เคยข้ามฟาก เสาร์เช้าอยู่พระประแดง เสาร์กลางคืนอยู่มีนบุรี อาทิตย์กลางวันอยู่บางบัวทอง อาทิตย์กลางคืนอยู่ลาดกระบัง เช้าต้องรีบออกมาไปขึ้นเครื่องบินกลับไปทำงานราชการต่อ
ความเปลี่ยนแปลงก็เริ่มอีกเมื่อยายเริ่มป่วย เข้าโรงพยาบาลทุกสองสัปดาห์ แต่ตัวเองไม่มีเวลาไปดูเลย เพราะต้องทำงานหาเงินมาปิดหนี้
ที่ทำงานราชการก็มีปัญหา อาจจะเพราะตัวเองนิสัยไม่ค่อยดีด้วย ไม่มีคนชอบสักเท่าไร ความตึงเครียดในทุกสิ่งรอบตัวมันมากขึ้นเรื่อย ๆ
สุดท้ายจึงตัดสินใจว่าจะลาออก ท่ามกลางความไม่เห็นด้วยของที่บ้าน ไปลองสัมภาษณ์งานดู ตัดสินใจได้สองวันก็ไปเขียนใบลาออก
แม้ใบหน้ายิ้ม ๆ เพราะปกติเป็นคนไม่ค่อยคิดอะไรมาก ดูสดใสร่าเริง แต่ตอนนั้นใจสลายมาก เพราะไม่เคยคิดเลยว่าชีวิตนี้จะต้องลาออกจากราชการเพราะทั้งบ้านเป็นข้าราชการหมด เรียนจนจบก็เงินเดือนราชการจากพ่อแม่ทั้งนั้น
ทำงานแป๊บครับ