เมื่ออาทิตย์ต้นเดือน เราได้ย้ายบ้านจากที่เดิมไปบ้านใหม่ที่จะทำร้านขายเบเกอรี่ด้วย
ซึ่งเป็นหมู่บ้านติดกันค่ะ ระยะห่างประมาณ 1 กิโลเมตร ได้ไปคุยกับแม่บ้านที่ทำงาน
เพื่อจะสอบถามว่ามีใครมีรถที่จะรับขนย้ายของบ้างไหม พี่แม่บ้านจึงบอกเรามาว่า มี
เป็นรถน้องเขย (กะบะมีแคป) และคนยกของ ก็หลานๆ ญาติๆ กันนี่แหละ
เราสอบถามราคากับพี่แม่บ้าน ซึ่งในส่วนของค่ารถ ค่าน้ำมัน แกให้ไปคุยกับน้องเขยเอง
ส่วนคนยกของ ค่าแรงคนละ 500 บาท ยกจนเราจัดบ้านใหม่เสร็จเลยก็ได้
เราก็โอเคตกลง แต่คิดว่าคนยกของ 2 คน น่าจะพอ เพราะของใหญ่ๆ มีเพียง
1. ตู้เสื้อผ้า 2 หลัง ขนาดกลางๆ (ถอดแยกส่วน เพราะยกลงบันไดไม่ได้)
2. ตู้เย็น
3. เตียงนอนเหล็ก (ถอดแยกส่วน)
4. ตู้โชว์ขนม
5. เตาอบทำขนม (ขนาดกลาง)
ประมาณนี้ค่ะ คิดว่า 3 เที่ยวรถกะบะก็น่าจะหมด ส่วนพวกเสื้อผ้า ของใช้เล็กๆ น้อยๆ
เราก็ทยอยขนกับแฟน ด้วยรถเรา ก็น่าจะพอได้
คือก่อนหน้านี้ พี่เค้าบอกว่าบ่ายๆ ต้องไปขนของให้กับน้องอีกคน (คนที่จะมาอยู่บ้านเดิมเรานี่แหละ)
เราเลยถามไปว่า แล้วพี่จะเอาคนที่ไหนไปขน รถคันไหน แกบอกว่า รถแก (กะบะ 4 ประตู)
ขนจากพระราม 5 มาท่าข้าม (มารู้จากน้องทีหลังว่า ค่ารถ 500 ค่าคน 500 จนำวน 3 คน)
เราก็เป็นกังวลว่า มันจะทันกันเหรอ เราเริ่มขนตอนสายๆ คือถ้าไม่ทัน ไม่ไหว เราจะไปจ้างคนอื่น
พี่แกบอกว่า ได้สิ ทัน ไม่มีปัญหาหรอก...เราก็โอเคตามนั้น
เมื่อถึงวันนัด เรานัดพี่เค้าไว้ 10 โมง แต่เค้ามาตั้งกะ 9 โมง พร้อมกับรถกะบะ 2 คัน คนยก 4 คน
เราก็ตกใจ เพราะยังเก็บของอะไรไม่ค่อยเรียบร้อย พี่เค้าก็มาเร่งๆ จะมาช่วยกันขน....
คือภาพที่เรานึกไว้คือทยอยขนไปเรื่อยๆ เหนื่อยก็พัก.....
แต่พี่เค้าเร่งจะให้เสร็จก่อนเที่ยง เอารถมา 2 คัน ขนกันประมาณ 2 เที่ยว และเก็บตกอีก 1 เที่ยว (รถคันเดียว)
เรากับแฟน ทั้งเหนื่อย ทั้งฉุน ของที่ขนไป ก็เอาไปกองๆ ไว้ชั้น 1 ก่อน เพราะจะต้องรีบไปขนให้น้องอีกคน
แล้วบอกว่าตอนเย็นๆ ค่ำๆ จะมาช่วยยกขึ้นชั้น 2 และจัดวางตามจุดที่เราต้องการ
ลืมเล่าค่ะ ค่ารถกะบะมีแคป ตกลงราคากันที่ 800 บาท จะขนกี่เที่ยวก็ได้
ส่วนคนยกของเราขอมา 2-3 คน แต่มา 4 คน (วัยรุ่น 1, วัยกลาง 2, วัยชรา 1)
ก่อนหน้านี้แฟนก็ย้ายบ้าน เราก็ search หารถรับจ้าง ค่าแรงคนยกทุกที่ 300 บาทหมด
แต่ของพี่แม่บ้าน บอก 500 ยกจัดจนเสร็จ เราก็คิดว่าแพงนะ แต่ก็คนรู้จัก และช่วยจัดจนเสร็จ
แต่สิ่งที่เจอ รีบขน รีบย้าย รีบไป ค่ำๆ กลับมาบ้านเราด้วยสภาพแบบ แต่ละคนหมดแรงกันแล้ว
เราก็เลยบอกว่า ไว้เย็นวันอังคาร ค่อยมาช่วยยกขึ้นชั้น 2 ละกัน วันนี้ท่าทางจะหมดแรงกันละ....
และกว่าเค้าจะมากันอีกที ก็เย็นวันพฤหัส....แต่ในระหว่างนี้ เรากับแฟนก็ทนสภาพบ้านชั้น 1 ไม่ไหว
ก็มียกของขึ้นชัน 2 กันเองบ้าง พอให้ได้ใช้งานไปก่อน...
คือเราเสียความรู้สึกตรงที่ว่า จ่ายแพงกว่า แต่ได้รับการบริการที่แย่กว่า
เราเลยบอกพี่เค้าไปว่า ค่ารถ 800 คงไม่ให้แล้วหละ ให้ไปหักกับค่าแรงคนยกของละกัน
ถ้าราคาทั่วไปกับบริการแค่ขนมาให้เท่านี้ 4*300 บาท 1,200 + ค่ารถ 800 ก็ 2,000 บาท
(ตอนที่ขนของเที่ยวที่ 3 เราให้เงินน้องคนที่มายกของ 2,000 ไปละ)
พี่เค้าก็เงียบนิ่งไป ส่วนเราก็บายละ เดือนหน้าบ้านพ่อแม่ก็จะย้ายไปอยู่กับพี่ชาย
คงเลือกใช้บริการรถรับจ้างทั่วไป กับคนงานที่พ่วงมาด้วย น่าจะสบายใจกว่า
ปล.ไว้ว่างๆ จะมา review ให้ดูกับผลงานซ่อมแซมบ้านที่ไม่เคยทำรอบเดียวจบ
ต้องมาซ่อมงานทุกจุด กับน้องเขยพี่แม่บ้านนี่แหละ และกับคำว่าคนกันเองนี่แหละ
เมื่อฉันไม่จ่ายค่ารถขนของ
ซึ่งเป็นหมู่บ้านติดกันค่ะ ระยะห่างประมาณ 1 กิโลเมตร ได้ไปคุยกับแม่บ้านที่ทำงาน
เพื่อจะสอบถามว่ามีใครมีรถที่จะรับขนย้ายของบ้างไหม พี่แม่บ้านจึงบอกเรามาว่า มี
เป็นรถน้องเขย (กะบะมีแคป) และคนยกของ ก็หลานๆ ญาติๆ กันนี่แหละ
เราสอบถามราคากับพี่แม่บ้าน ซึ่งในส่วนของค่ารถ ค่าน้ำมัน แกให้ไปคุยกับน้องเขยเอง
ส่วนคนยกของ ค่าแรงคนละ 500 บาท ยกจนเราจัดบ้านใหม่เสร็จเลยก็ได้
เราก็โอเคตกลง แต่คิดว่าคนยกของ 2 คน น่าจะพอ เพราะของใหญ่ๆ มีเพียง
1. ตู้เสื้อผ้า 2 หลัง ขนาดกลางๆ (ถอดแยกส่วน เพราะยกลงบันไดไม่ได้)
2. ตู้เย็น
3. เตียงนอนเหล็ก (ถอดแยกส่วน)
4. ตู้โชว์ขนม
5. เตาอบทำขนม (ขนาดกลาง)
ประมาณนี้ค่ะ คิดว่า 3 เที่ยวรถกะบะก็น่าจะหมด ส่วนพวกเสื้อผ้า ของใช้เล็กๆ น้อยๆ
เราก็ทยอยขนกับแฟน ด้วยรถเรา ก็น่าจะพอได้
คือก่อนหน้านี้ พี่เค้าบอกว่าบ่ายๆ ต้องไปขนของให้กับน้องอีกคน (คนที่จะมาอยู่บ้านเดิมเรานี่แหละ)
เราเลยถามไปว่า แล้วพี่จะเอาคนที่ไหนไปขน รถคันไหน แกบอกว่า รถแก (กะบะ 4 ประตู)
ขนจากพระราม 5 มาท่าข้าม (มารู้จากน้องทีหลังว่า ค่ารถ 500 ค่าคน 500 จนำวน 3 คน)
เราก็เป็นกังวลว่า มันจะทันกันเหรอ เราเริ่มขนตอนสายๆ คือถ้าไม่ทัน ไม่ไหว เราจะไปจ้างคนอื่น
พี่แกบอกว่า ได้สิ ทัน ไม่มีปัญหาหรอก...เราก็โอเคตามนั้น
เมื่อถึงวันนัด เรานัดพี่เค้าไว้ 10 โมง แต่เค้ามาตั้งกะ 9 โมง พร้อมกับรถกะบะ 2 คัน คนยก 4 คน
เราก็ตกใจ เพราะยังเก็บของอะไรไม่ค่อยเรียบร้อย พี่เค้าก็มาเร่งๆ จะมาช่วยกันขน....
คือภาพที่เรานึกไว้คือทยอยขนไปเรื่อยๆ เหนื่อยก็พัก.....
แต่พี่เค้าเร่งจะให้เสร็จก่อนเที่ยง เอารถมา 2 คัน ขนกันประมาณ 2 เที่ยว และเก็บตกอีก 1 เที่ยว (รถคันเดียว)
เรากับแฟน ทั้งเหนื่อย ทั้งฉุน ของที่ขนไป ก็เอาไปกองๆ ไว้ชั้น 1 ก่อน เพราะจะต้องรีบไปขนให้น้องอีกคน
แล้วบอกว่าตอนเย็นๆ ค่ำๆ จะมาช่วยยกขึ้นชั้น 2 และจัดวางตามจุดที่เราต้องการ
ลืมเล่าค่ะ ค่ารถกะบะมีแคป ตกลงราคากันที่ 800 บาท จะขนกี่เที่ยวก็ได้
ส่วนคนยกของเราขอมา 2-3 คน แต่มา 4 คน (วัยรุ่น 1, วัยกลาง 2, วัยชรา 1)
ก่อนหน้านี้แฟนก็ย้ายบ้าน เราก็ search หารถรับจ้าง ค่าแรงคนยกทุกที่ 300 บาทหมด
แต่ของพี่แม่บ้าน บอก 500 ยกจัดจนเสร็จ เราก็คิดว่าแพงนะ แต่ก็คนรู้จัก และช่วยจัดจนเสร็จ
แต่สิ่งที่เจอ รีบขน รีบย้าย รีบไป ค่ำๆ กลับมาบ้านเราด้วยสภาพแบบ แต่ละคนหมดแรงกันแล้ว
เราก็เลยบอกว่า ไว้เย็นวันอังคาร ค่อยมาช่วยยกขึ้นชั้น 2 ละกัน วันนี้ท่าทางจะหมดแรงกันละ....
และกว่าเค้าจะมากันอีกที ก็เย็นวันพฤหัส....แต่ในระหว่างนี้ เรากับแฟนก็ทนสภาพบ้านชั้น 1 ไม่ไหว
ก็มียกของขึ้นชัน 2 กันเองบ้าง พอให้ได้ใช้งานไปก่อน...
คือเราเสียความรู้สึกตรงที่ว่า จ่ายแพงกว่า แต่ได้รับการบริการที่แย่กว่า
เราเลยบอกพี่เค้าไปว่า ค่ารถ 800 คงไม่ให้แล้วหละ ให้ไปหักกับค่าแรงคนยกของละกัน
ถ้าราคาทั่วไปกับบริการแค่ขนมาให้เท่านี้ 4*300 บาท 1,200 + ค่ารถ 800 ก็ 2,000 บาท
(ตอนที่ขนของเที่ยวที่ 3 เราให้เงินน้องคนที่มายกของ 2,000 ไปละ)
พี่เค้าก็เงียบนิ่งไป ส่วนเราก็บายละ เดือนหน้าบ้านพ่อแม่ก็จะย้ายไปอยู่กับพี่ชาย
คงเลือกใช้บริการรถรับจ้างทั่วไป กับคนงานที่พ่วงมาด้วย น่าจะสบายใจกว่า
ปล.ไว้ว่างๆ จะมา review ให้ดูกับผลงานซ่อมแซมบ้านที่ไม่เคยทำรอบเดียวจบ
ต้องมาซ่อมงานทุกจุด กับน้องเขยพี่แม่บ้านนี่แหละ และกับคำว่าคนกันเองนี่แหละ