สวัสดีค่ะ วันนี้ขอตั้งกระทู้เตือนภัยให้เพื่อนๆในพันทิปได้ลองอ่านกัน จขกท.เพิ่งเจอมากับตัว เมื่อวันเสาร์ที่ 31 ต.ค. ค่ะ
วันนั้นเป็นเวลาประมาณ 3-4 ทุ่มแล้วค่ะ เราเพิ่งกลับจากไปทานข้าว-ดูหนังกับเพื่อน
ทีนี้เราต้องมาเอารถที่จอดไว้หน้าออฟฟิศ ที่แถวๆสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินสุทธิสาร
ปกติเราเป็นคนกลับบ้านดึกตลอด จึงค่อนข้างระวังตัวและสังเกตสิ่งรอบข้างอยู่บ้างแล้ว เราเดินกอดกระเป๋าขึ้นมาจากสถานีใต้ดิน เห็นผู้ชายคนนี้ยืนมองไปทางถนนแบบเครียดๆ แต่เราไม่คิดอะไร เพราะตรงนั้นมีป้อมยามอยู่
เดินผ่านป้อมยามมาสักพัก ผู้ชายคนนี้ก็เดินตามมาเรียกประมาณว่าขอความช่วยเหลือ
เขาเพิ่งทะเลาะกับแฟนแล้วลงมาจากรถโดยที่ไม่มีอะไรติดตัวลงมาเลยทั้งโทรศัพท์ กระเป๋าสตางค์ (ทำท่าควักกระเป๋ากางเกงให้ดู)
เราก็หยุดมอง เค้าก็ดูเป็นคนธรรมดาทั่วไปนะคะ แต่งตัวธรรมดา ผิวขาว ค่อนข้างไปทางตี๋ๆ ไม่ได้มีท่าทางไม่น่าไว้ใจ และก็ไม่ได้ดูภูมิฐานจนโอเว่อร์
เรา ซึ่ง ปกติเป็นคนคุยกับคนแปลกหน้าบ่อยและชอบช่วยเหลือคนอยู่แล้ว เลยถามเค้าว่าจะให้ช่วยอะไร
เค้าเลยบอกขอยืมเงินค่ารถกลับบ้าน 200 บาท แล้วให้เราจดเบอร์ให้เค้า วันรุ่งขึ้นเค้าจะโทรมาขอเลขบัญชีเพื่อโอนเงินคืน
ตอนนั้นก็คิดค่ะ 50-50 ระหว่าง พวกต้มตุ๋นหลอกเอาเงินคน กับ คนเดือดร้อนจริงๆ
เราก็ชั่งใจสักพัก เอาวะ 200 ไม่ได้มากอะไร คืน-ไม่คืนก็ช่าง ถ้าหลอกเอาเงินเราก็จะได้รู้ไว้ แต่ถ้าคนเค้าเดือดร้อนจริงก็ถือว่าได้ช่วยคน
เราเลยเอากระเป๋าสตางค์ออกมาเพื่อหยิบเงินให้ แล้วจังหวะนั้นดันมีแต่แบงค์พันกับเศษ 40 บาท
เราเลยขอโทษเขาไปเพราะไม่มีแบงค์ร้อยเลย เขาก็ดูหน้าเจื่อนๆ แล้วก็ถามเราว่าพอจะกดเอทีเอ็มให้เขาได้ไหมแค่ 200 เอง
เราคิดในใจว่า ชั่นคงไม่ไปยืนกดเงินหน้าตู้ ATMให้ชายแปลกหน้าแน่นอนอ่ะ เลยบอกเขาให้เดินไปด้วยกัน เดี๋ยวเราหยิบเงินในรถให้
เพราะปกติเราแบ่งเงินไว้ในรถเพื่อเอาไว้เติมน้ำมัน แล้วเราก็มั่นใจว่าที่ลานจอดรถเราปลอดภัย มี รปภ.อยู่ เรากับ รปภ.รู้จักทักทายกันประจำ
พอมาเอาเงินในรถ ก็ดันมีเศษไม่พออีก มีแต่แบงค์ 500-1000 และ แบงค์ 20 อีก 3-4 ใบ รวมกับของเดิมที่เรามีก็น่าจะได้ประมาณ 120 บาท
เราเลยกะให้ไปแค่นั้น แต่ดันหลุดปากถามไปด้วยความเป็นห่วงว่า แค่นี้พอกลับบ้านไหมคะ (55555 โอยยยย แม่คุณ)
จังหวะที่เราหาแบงค์ร้อย เขาคงเห็นว่าในกระเป๋านั้นมีเงิน เขาเลยบอกว่ากลัวไม่พอเพราะบ้านอยู่แถวเอแบค ขอเป็น 500 เลยได้ไหม
เดี๋ยวพรุ่งนี้เที่ยงรีบโอนคืนเลยจริงๆ
เราก็พูดขำขำว่า แหม..เอาไป 500 ถ้าไม่คืน ก็หายไปเลยนะเนี่ยยย
เขาก็ยังขำ แล้วบอกว่า คืนแน่นอนครับ ไม่ต้องห่วงเลย พี่เอาเบอร์ผมไปได้เลย
ต้องบอกก่อนว่า ทุกการกระทำ และคำพูดของเรา เราคิด 50-50 ตลอด คือไม่ได้เชื่อสนิท แต่ก็ไม่ชัวร์ว่าหลอกแน่ๆมั้ย
แต่ก็ไม่รู้ทำไมวันนั้นถึงใจดี สุดท้ายก็ให้ไป 500 (ถือคติกล้าขอ กล้าให้)
แต่ก่อนให้ เราให้เค้าจดชื่อ-นามสกุลและเบอร์โทรศัพท์ ให้เรา เค้าก็จดให้แต่โดยดี พร้อมขอบคุณเราเป็นการใหญ่
และพูดซ้ำอีกว่า พรุ่งนี้เที่ยงจะโทรหา จะรีบโอนเงินคืน
เราก็เออ โอเคค่ะแล้วก็ ขึ้นรถ
จังหวะขึ้นรถ คิดๆว่าเฮ้ยๆๆ ขอถ่ายรูปไว้ดีกว่า ให้เขาถือเงินเราด้วย เราเลยก้มหาโทรศัพท์พอเจอปุ๊บกำลังจะเปิดประตูเพื่อเรียกชายคนนั้นอีกครั้ง
แต่ปรากฏ...เขาหายไปแล้ว!!
หายไปทางไหน? ลานจอดรถโล่งๆ ยาวๆ ริมถนนรัชดาภิเษก ไม่น่าเดินหายไปได้ไวขนาดนั้น
จากที่ก้ำกึ่งว่าหลอกไม่หลอก จังหวะนั้นรู้ทันที โดนต้ม 100%
คือ ขำก็ขำค่ะ รู้ทั้งรู้ คนเราสมัยนี้ แต่เราก็ยังไปเจรพาทีกับเขา ทั้งๆที่เราเลือกจะเดินหนีก็ได้
เรายังไปใจกว้างกับเขา ทั้งๆที่เราจะให้แค่ 40 ก็ได้ให้มันจบๆ
หลังจากนั้นความฉลาดพรั่งพรูออกมาเลยค่ะ
- คนปกติที่ไหน เวลาขอความช่วยเหลือคนแปลกหน้า มันจะกล้าขอให้เราไปกดตังATMให้มันวะคะ
- คนปกติที่ไหน มันกล้าขอเพิ่มวงเงิน จาก 200 เป็น 500 วะ ปกติมันต้องเกรงใจซิ 5555
- คนสุจริตที่ไหนจะสังเกตเงินในกระเป๋าคนอื่นตอนหยิบวะคะ เห็นด้วยว่ามีแบงค์อะไร
- เออ แล้วทำไม ทั้งๆที่ สน.สุทธิสาร อยู่ใกล้แค่เดินข้ามแยกไปได้ ทำไมเราไม่บอกเขาว่า โน่นเลยค่ะ สน. ไปขอให้ตำรวจช่วยเถอะค่ะ
สรุปวันรุ่งขึ้น ไม่มีใครโทรมา
เราโทรหาตามเบอร์ที่ให้ ไม่ติดค่ะ ไม่เปิดให้บริการ
ชื่อนามสกุลที่เขาเขียนนั้น ไอ้ตอนที่เขาเขียนและยื่นมามันมืดด้วยและเราไม่ได้เช็คด้วย ไม่ได้ดูว่าลายมือมันอ่านไม่ออก พยายามแกะแล้ว จริงๆ
ก็ถือเป็นเคสเบาๆ โดนไปหลักร้อย ดีกว่าโดนจี้ โดนกระชากกระเป๋า ถึงแม้จะทิ้งความเจ็บใจไว้ให้ เพราะจริงๆเราเลือกสถานการณ์ได้ เงินในมือเราแท้ๆ จะให้เขาเท่าไหร่ก็ได้ 10-20 บาทก็ยังได้ แต่ทำไมเราต้องให้มากตามที่เขาขอขนาดนั้น นี่แหละที่เราเคืองตัวเอง มีสตินะ แต่ตัดสินใจผิดเอง
ยังไงก็เก็บไว้เป็นบทเรียนสำหรับเราค่ะ ถือว่ายังโชคดีที่ผู้ชายคนนั้นไม่กระชากกระเป๋าเราไป ไม่จี้เรา ทั้งที่มีโอกาสสูงมากกกก
จบแล้วค่ะ
ปล. คิดอยู่นานว่าจะมาเล่าดีไหม ...บอกตรงๆค่ะว่ากลัวเป็นการโชว์โง่ให้คนในนี้ขำเล่น 5555 แต่เพื่อช่วยให้อีกหลายๆคนรู้เท่าทัน จากการถูกมิจฉาชีพหลอก เรายอมเล่าก็ได้ บอกก่อนเลยนะคะว่า #ด่าได้แต่อย่าแรง 555555555
แทคติกใหม่(มั้ย?)ของมิจฉาชีพในเมืองกรุง เจอเอง ให้เอง เจ็บเอง
วันนั้นเป็นเวลาประมาณ 3-4 ทุ่มแล้วค่ะ เราเพิ่งกลับจากไปทานข้าว-ดูหนังกับเพื่อน
ทีนี้เราต้องมาเอารถที่จอดไว้หน้าออฟฟิศ ที่แถวๆสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินสุทธิสาร
ปกติเราเป็นคนกลับบ้านดึกตลอด จึงค่อนข้างระวังตัวและสังเกตสิ่งรอบข้างอยู่บ้างแล้ว เราเดินกอดกระเป๋าขึ้นมาจากสถานีใต้ดิน เห็นผู้ชายคนนี้ยืนมองไปทางถนนแบบเครียดๆ แต่เราไม่คิดอะไร เพราะตรงนั้นมีป้อมยามอยู่
เดินผ่านป้อมยามมาสักพัก ผู้ชายคนนี้ก็เดินตามมาเรียกประมาณว่าขอความช่วยเหลือ
เขาเพิ่งทะเลาะกับแฟนแล้วลงมาจากรถโดยที่ไม่มีอะไรติดตัวลงมาเลยทั้งโทรศัพท์ กระเป๋าสตางค์ (ทำท่าควักกระเป๋ากางเกงให้ดู)
เราก็หยุดมอง เค้าก็ดูเป็นคนธรรมดาทั่วไปนะคะ แต่งตัวธรรมดา ผิวขาว ค่อนข้างไปทางตี๋ๆ ไม่ได้มีท่าทางไม่น่าไว้ใจ และก็ไม่ได้ดูภูมิฐานจนโอเว่อร์
เรา ซึ่ง ปกติเป็นคนคุยกับคนแปลกหน้าบ่อยและชอบช่วยเหลือคนอยู่แล้ว เลยถามเค้าว่าจะให้ช่วยอะไร
เค้าเลยบอกขอยืมเงินค่ารถกลับบ้าน 200 บาท แล้วให้เราจดเบอร์ให้เค้า วันรุ่งขึ้นเค้าจะโทรมาขอเลขบัญชีเพื่อโอนเงินคืน
ตอนนั้นก็คิดค่ะ 50-50 ระหว่าง พวกต้มตุ๋นหลอกเอาเงินคน กับ คนเดือดร้อนจริงๆ
เราก็ชั่งใจสักพัก เอาวะ 200 ไม่ได้มากอะไร คืน-ไม่คืนก็ช่าง ถ้าหลอกเอาเงินเราก็จะได้รู้ไว้ แต่ถ้าคนเค้าเดือดร้อนจริงก็ถือว่าได้ช่วยคน
เราเลยเอากระเป๋าสตางค์ออกมาเพื่อหยิบเงินให้ แล้วจังหวะนั้นดันมีแต่แบงค์พันกับเศษ 40 บาท
เราเลยขอโทษเขาไปเพราะไม่มีแบงค์ร้อยเลย เขาก็ดูหน้าเจื่อนๆ แล้วก็ถามเราว่าพอจะกดเอทีเอ็มให้เขาได้ไหมแค่ 200 เอง
เราคิดในใจว่า ชั่นคงไม่ไปยืนกดเงินหน้าตู้ ATMให้ชายแปลกหน้าแน่นอนอ่ะ เลยบอกเขาให้เดินไปด้วยกัน เดี๋ยวเราหยิบเงินในรถให้
เพราะปกติเราแบ่งเงินไว้ในรถเพื่อเอาไว้เติมน้ำมัน แล้วเราก็มั่นใจว่าที่ลานจอดรถเราปลอดภัย มี รปภ.อยู่ เรากับ รปภ.รู้จักทักทายกันประจำ
พอมาเอาเงินในรถ ก็ดันมีเศษไม่พออีก มีแต่แบงค์ 500-1000 และ แบงค์ 20 อีก 3-4 ใบ รวมกับของเดิมที่เรามีก็น่าจะได้ประมาณ 120 บาท
เราเลยกะให้ไปแค่นั้น แต่ดันหลุดปากถามไปด้วยความเป็นห่วงว่า แค่นี้พอกลับบ้านไหมคะ (55555 โอยยยย แม่คุณ)
จังหวะที่เราหาแบงค์ร้อย เขาคงเห็นว่าในกระเป๋านั้นมีเงิน เขาเลยบอกว่ากลัวไม่พอเพราะบ้านอยู่แถวเอแบค ขอเป็น 500 เลยได้ไหม
เดี๋ยวพรุ่งนี้เที่ยงรีบโอนคืนเลยจริงๆ
เราก็พูดขำขำว่า แหม..เอาไป 500 ถ้าไม่คืน ก็หายไปเลยนะเนี่ยยย
เขาก็ยังขำ แล้วบอกว่า คืนแน่นอนครับ ไม่ต้องห่วงเลย พี่เอาเบอร์ผมไปได้เลย
ต้องบอกก่อนว่า ทุกการกระทำ และคำพูดของเรา เราคิด 50-50 ตลอด คือไม่ได้เชื่อสนิท แต่ก็ไม่ชัวร์ว่าหลอกแน่ๆมั้ย
แต่ก็ไม่รู้ทำไมวันนั้นถึงใจดี สุดท้ายก็ให้ไป 500 (ถือคติกล้าขอ กล้าให้)
แต่ก่อนให้ เราให้เค้าจดชื่อ-นามสกุลและเบอร์โทรศัพท์ ให้เรา เค้าก็จดให้แต่โดยดี พร้อมขอบคุณเราเป็นการใหญ่
และพูดซ้ำอีกว่า พรุ่งนี้เที่ยงจะโทรหา จะรีบโอนเงินคืน
เราก็เออ โอเคค่ะแล้วก็ ขึ้นรถ
จังหวะขึ้นรถ คิดๆว่าเฮ้ยๆๆ ขอถ่ายรูปไว้ดีกว่า ให้เขาถือเงินเราด้วย เราเลยก้มหาโทรศัพท์พอเจอปุ๊บกำลังจะเปิดประตูเพื่อเรียกชายคนนั้นอีกครั้ง
แต่ปรากฏ...เขาหายไปแล้ว!!
หายไปทางไหน? ลานจอดรถโล่งๆ ยาวๆ ริมถนนรัชดาภิเษก ไม่น่าเดินหายไปได้ไวขนาดนั้น
จากที่ก้ำกึ่งว่าหลอกไม่หลอก จังหวะนั้นรู้ทันที โดนต้ม 100%
คือ ขำก็ขำค่ะ รู้ทั้งรู้ คนเราสมัยนี้ แต่เราก็ยังไปเจรพาทีกับเขา ทั้งๆที่เราเลือกจะเดินหนีก็ได้
เรายังไปใจกว้างกับเขา ทั้งๆที่เราจะให้แค่ 40 ก็ได้ให้มันจบๆ
หลังจากนั้นความฉลาดพรั่งพรูออกมาเลยค่ะ
- คนปกติที่ไหน เวลาขอความช่วยเหลือคนแปลกหน้า มันจะกล้าขอให้เราไปกดตังATMให้มันวะคะ
- คนปกติที่ไหน มันกล้าขอเพิ่มวงเงิน จาก 200 เป็น 500 วะ ปกติมันต้องเกรงใจซิ 5555
- คนสุจริตที่ไหนจะสังเกตเงินในกระเป๋าคนอื่นตอนหยิบวะคะ เห็นด้วยว่ามีแบงค์อะไร
- เออ แล้วทำไม ทั้งๆที่ สน.สุทธิสาร อยู่ใกล้แค่เดินข้ามแยกไปได้ ทำไมเราไม่บอกเขาว่า โน่นเลยค่ะ สน. ไปขอให้ตำรวจช่วยเถอะค่ะ
สรุปวันรุ่งขึ้น ไม่มีใครโทรมา
เราโทรหาตามเบอร์ที่ให้ ไม่ติดค่ะ ไม่เปิดให้บริการ
ชื่อนามสกุลที่เขาเขียนนั้น ไอ้ตอนที่เขาเขียนและยื่นมามันมืดด้วยและเราไม่ได้เช็คด้วย ไม่ได้ดูว่าลายมือมันอ่านไม่ออก พยายามแกะแล้ว จริงๆ
ก็ถือเป็นเคสเบาๆ โดนไปหลักร้อย ดีกว่าโดนจี้ โดนกระชากกระเป๋า ถึงแม้จะทิ้งความเจ็บใจไว้ให้ เพราะจริงๆเราเลือกสถานการณ์ได้ เงินในมือเราแท้ๆ จะให้เขาเท่าไหร่ก็ได้ 10-20 บาทก็ยังได้ แต่ทำไมเราต้องให้มากตามที่เขาขอขนาดนั้น นี่แหละที่เราเคืองตัวเอง มีสตินะ แต่ตัดสินใจผิดเอง
ยังไงก็เก็บไว้เป็นบทเรียนสำหรับเราค่ะ ถือว่ายังโชคดีที่ผู้ชายคนนั้นไม่กระชากกระเป๋าเราไป ไม่จี้เรา ทั้งที่มีโอกาสสูงมากกกก
จบแล้วค่ะ
ปล. คิดอยู่นานว่าจะมาเล่าดีไหม ...บอกตรงๆค่ะว่ากลัวเป็นการโชว์โง่ให้คนในนี้ขำเล่น 5555 แต่เพื่อช่วยให้อีกหลายๆคนรู้เท่าทัน จากการถูกมิจฉาชีพหลอก เรายอมเล่าก็ได้ บอกก่อนเลยนะคะว่า #ด่าได้แต่อย่าแรง 555555555