ครอบครัวหัวโบราณกับความต้องการของแม่

สวัสดีค่ะ ปกติเราชอบสิงพันทิปบ่อยๆ อ่านปัญหาของหลายๆ คนมานับไม่ถ้วน ไม่คิดว่าวันนึงตัวเองจะต้องมาตั้งกระทู้แบบนี้บ้าง
เราเพิ่งตั้งครั้งแรก แท็กผิกแท็กถูกยังไงก็ต้องขออภัยด้วยนะคะ


กระทู้นี้เราขอระบายเชิงบ่นๆ ค่ะ เม่าฝึกจิต



พูดถึงตัวเราก่อนนะคะ เราเป็นคนต่างจังหวัด ตอนนี้เราทำงานแล้วในกรุงเทพฯ อายุยังไม่เบญจเพศ หน้าตาก็เข้าวัดหมาไม่หอน
แต่ประเด็นมันอยู่ที่เราชอบผู้หญิงด้วยกันค่ะ ในยุคนี้เรื่องแบบนี้มันคงไม่แปลก เพราะคนที่ชอบเพศเดียวกันมีเยอะแยะไป
แต่ครอบครัวของเราค่อนข้างจะหัวโบราณค่ะ ทั้งสองคน ท่านทำงานรับราชการ โดยเฉพาะคุณแม่ คนรู้จักกันทั้งหมู่บ้าน
เป็นคนดังที่ใครๆ ก็รู้จัก เพราะแบบนี้เราเลยถูกเลี้ยงมาในกรอบ แม่จะไม่บังคับให้ทำ แต่จะใช้คำพูดที่ฟังแล้ว ถ้าเราไม่ทำตาม
ชีวิตเราดับตรงนั้นแน่ๆ แต่บางทีเราก็แหกกฎบ้าง แต่เราก็วางตัวดี เรียนดี เชื่อฟังมาตลอด เพราะเรากลัวแม่มากค่ะ 5555
แม่จะพูดกับเราเสมอค่ะว่า “ อย่าเพิ่งมีแฟนนะ ต้องเรียนก่อน ”, “ ผู้ชายนิสัยไม่ดี อย่าไปสนใจ อย่ามีแฟนนะ ” อะไรประมาณนี้


ตั้งแต่เราขึ้นมัธยม มีชอบคนนี้คนนั้นบ้าง แต่ไม่ถึงขั้นแฟน จนเข้าม.ปลาย มีเพื่อนผู้ชายมาจีบเรา เราก็คบค่ะ
ไม่ถึงเดือนเราก็ขอเลิก เพราะเค้ามาจับมือเราตอนเราร้องไห้ (เราทะเลาะกับเพื่อนในกลุ่ม) เรารู้สึกแปลกๆ
มันขนลุกจนค่อนข้างแขยงเลย หลังจากวันนั้นเราเลยขอเลิกค่ะ หลังจากเลิกกัน ก็มีคนจีบ คบๆ เลิกๆ หลายคน
มีผู้ชายมาจีบบ้าง แต่เราปฏิเสธหมด ในส่วนที่เราคบ จะเป็นผู้หญิงทั้งหมดค่ะ เราเลยเข้าใจแล้วว่าเราไม่โอเคกับผู้ชายจริงๆ
เรื่องที่เรามีแฟน แม่เราไม่รู้ค่ะ เราจะแอบคุย แอบโกหกแม่ นิสัยไม่ดีเลยค่ะ 5555


จนเราจบปริญญาตรี แล้วมาทำงานที่กรุงเทพ วันนั้นเราไปดูหนังกับแฟน แล้วแม่โทรมาพอดี แม่ก็ถามว่าไปกับใคร เราก็เงียบ
แม่เลยบอกว่ากับแฟนเหรอ เราก็หัวเราะใส่ แต่ในใจนี่กลัวแม่ว่ามากๆ แต่แม่ก็ไม่พูดอะไร แม่บอกว่าโตแล้ว ยังไงก็รับผิดชอบตัวเองได้
ดูคนดีๆ แล้วกันประมาณนั้น เราโล่งใจมากที่แม่ไม่ว่าอะไรเรื่องที่เรามีแฟน มันรู้สึกดีมากๆ ที่เหมือนแม่ปล่อยให้เราเดินตามทางเราแล้ว
หลังจากตอนนั้นเราก็มีคุยกับแม่บ้างเรื่องแฟน แม่ก็ถามว่าแฟนคนที่ไหน อายุเท่าไร เรียนหรือทำงานแล้ว แค่นั้นค่ะ
แต่แม่ไม่รู้อย่างเดียวคือ แฟนเราเป็นผู้หญิง..


ทุกอย่างก็ปกติดี จนเมื่อเดือนที่แล้ว เรากลับบ้านเพราะว่ามีงาน ญาติๆ มารวมตัวกัน เป็นปกติเวลาเจอหน้าญาติ จะต้องโดนถามเรื่อง
เรียนจบหรือยัง ทำงานที่ไหน เงินเดือนเท่าไร และ “ มีแฟนรึยัง ” ถ้าเป็นเมื่อก่อน เราก็โกหกว่าไม่มีค่ะ แต่ตอนนี้แม่เรารับรู้ว่าเรามีแฟนแล้ว
เราเลยบอกไปว่ามีแล้ว พวกญาติก็ตกใจ  ถามเรื่องแฟนกันใหญ่ แต่แฟนเรายังเรียนมหาลัยอยู่ค่ะ (กินเด็ก) ญาติเลยพูดออกมาประมาณว่า
“ ทำไมไปคบเด็กล่ะ หาคนทำงานแล้วสิ เอาคนรวยๆ เลย ” ไม่ก็ “ หาผั-เป็นฝรั่งเลยสิ จะได้มีเงิน รวยๆ ” ตอนนั้นเรานั่งยิ้มเจื่อนๆ
แล้วไม่พูดอะไรเลย เรารู้ค่ะว่าเค้าหวังดี อยากให้เราสบาย แต่คำพูดแบบนั้นมันก็ดูเห็นแก่ตัวไปค่ะ เหมือนจะหาคนรวยๆ เพื่อเกาะเค้ากินยังไงไม่รู้


จนมาถึงคราวคุณแม่ เราก็คิดว่าเราโตแล้ว แม่คงเข้าใจเรา ในเมื่อเรารับผิดชอบตัวเองได้แล้ว แม่ก็คงยอมรับเราในจุดนี้
แต่พอแม่มาคุยกับเรา แม่ถามถึงเรื่องแฟน ถามว่าแฟนอายุเท่าไร บ้านรวยมั้ย พ่อแม่ทำงานอะไร แล้วก็พูดเน้นกับคำว่า “ รวย ”
เราเบื่อมากกับคำนี้ เราได้ยินจากปากญาติ แล้วยังต้องมาได้ยินจากปากแม่ตัวเอง เหมือนกับแม่ไปโดนคนรอบตัว หรือพวกญาติๆ พูดกัน
เมื่อก่อนแม่บอกเราว่าไม่ต้องแต่งงานก็ได้ แต่พอมาตอนนี้ เค้าคาดหวังกับเรามาก บอกว่างานแต่งต้องเอาสินสอดเยอะๆ
เราพูดอะไรไม่ออก ในใจนี่เราระเบิดตัวเองไปเรียบร้อยแล้วค่ะ กับคำว่า “ ครอบครัวแฟนรวยมั้ย ” คือแบบ.....
เป็นอะไรมากมั้ยกับเรื่องเงินๆ ทองๆ ครอบครัวแฟนเราฐานะปานกลางค่ะ แต่เราเข้าใจ เพราะแฟนเราเรียนอยู่ จะใช้เงินฟุ่มเฟือยไม่ได้
ตัวเราเองด้วยซ้ำที่เป็นคนสอนให้แฟนเซฟเรื่องการใช้จ่ายเงินต่างๆ


ตอนนี้แม่เริ่มกลับมามีบทบาทในชีวิตเรามากขึ้น เริ่มทำให้รู้สึกว่าเราจะต้องทำตามที่เค้าต้องการ ตอนนี้เราไม่อยากกลับบ้านเลย
เราพอใจที่จะอยู่ห่างๆ เค้า มีชีวิตเป็นของตัวเองที่ไม่ต้องคอยเดินตามทางที่เค้าบอก แม่บอกว่าอยากให้เราไปต่างประเทศ
เราก็อยากไปค่ะ แต่เรารู้เหตุผลย่อยๆ ของแม่ว่าเพราะอะไรถึงอยากให้ไปนักหนา เราเข้าใจค่ะว่าแม่หวังดีกับเรา อยากให้เรามีอนาคตที่ดี
แต่หลายๆ ครั้งแม่ก็ไม่สนใจความรู้สึกเราเลยว่าเราโอเคมั้ยกับสิ่งที่เขาต้องการ เรากลัวว่าถ้าแม่รู้ว่าแฟนเราเป็นผู้หญิง แม่จะให้เราเลิก
แล้วส่งเราไปต่างประเทศ ไม่ใช่ว่าเรารักแฟนมากกว่าแม่นะคะ แต่ว่าตอนนี้เรามีความสุขดี เราพอใจที่อยู่แบบนี้ ถ้าต้องทำอย่างที่แม่ต้องการ
เราคงขาดความสุขไป 80% เราไม่ได้คิดไปเองว่าแม่จะทำ แต่เพราะแม่เราอีโก้สูง คนรู้จักเยอะ กลัวโดนคนอื่นนินทา
ถ้าลูกสาวตัวเองชอบเพศเดียวกัน แม่เราต้องรับไม่ได้แน่นอน (เมื่อก่อนเราซอยผมสั้น แมนมาก แม่ยังบอกเลยว่า อย่าเป็นทอม แม่เกลียด)
ตอนนี้เวลาคุยกับแฟน เราอยากจะร้องไห้ใส่ทุกที มันเป็นความรู้สึกที่แย่มากๆ เราไม่กล้าบอกแฟนเลย กลัวว่าเค้าจะรู้สึกแย่ตามเรา


เวิ่นมาซะเต็ม เราก็ไม่คิดว่ามันจะเยอะขนาดนี้ .. คนมันอึดอัดค่ะ เม่าโศก


เราไม่เข้าใจเลยว่า ทำไมเพศเดียวกันจะรักกันไม่ได้ ผู้ชายรักผู้ชาย ผู้หญิงรักผู้หญิง มันผิดมากเลยเหรอ แล้วทำไมต้องหาแฟนรวยๆ
คนจะเป็นครอบครัวเดียวกันจำเป็นต้องหาอีกฝ่ายที่รวยกว่าเหรอคะ ไม่คิดจะช่วยกันทำหามากินกันหรือยังไง อยากให้เลิกโฟกัสเรื่องเงิน
แล้วไปโฟกัส นิสัย ทัศนคติ หรือไลฟ์สไตล์ที่ตรงกัน อยู่ด้วยกันแล้วมีความสุขอะไรแบบนี้มากกว่าค่ะ


ใครที่เจอเรื่องแบบนี้เหมือนเรา แชร์มาค่ะ เราจะได้รู้ว่าเราก็ไม่ได้เจอปัญหาแบบนี้คนเดียว
หรือถ้ามีข้อคิดเห็นอะไรดีๆ ก็บอกกันได้นะคะ


ไม่คิดเลยว่าดูฮอร์โมนตอนดาวก้อยแล้วมันจะดราม่าเหมือนตัวเอง แต่ต่างตรงที่เราทำงานแล้ว 55

ขอบคุณที่อ่านจนจบค่ะ เห้อ


ปล. แท็กวัยรุ่นด้วยนะคะ เพราะเรายังไม่แก่ 555555
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่