ย่ำเท้าผ่านกาลเวลา... ท่องหาวิถีบนภูเขาไฟ... โฮมสเตย์บ้านโคกเมือง
ถนนสีดำคดเคี้ยวและตรงดิ่งเป็นเส้นทางเข้าสู่หมู่บ้านเล็กๆ ทุ่งนาแห้งกรังที่รอเวลาหน้าฝนจะกลับมาชุ่มชื้นอีกครั้ง แม้ฤดูร้อนที่อบระอุแสนยาวนานยังคงดำเนินต่อเนื่องไปจนถึงเดือนพฤษภาคม แต่ก็ยังมีสถานที่พักพิงหลบไอแดดมากด้วยน้ำใจไมตรี ซึ่งเป็นจุดหมายปลายทางในครั้งนี้ ซุกซ่อนอยู่ใต้เงาหลืบของภูเขาไฟที่ดับสนิท แอบแนบอิงกับปราสาทหินประวัติศาสตร์ และพร้อมจะต้อนรับดูแลตลอดเวลาที่อยู่ ณ ที่แห่งนี้
บ้านโคกเมือง เป็นหมู่บ้านเล็กๆในจังหวัดบุรีรัมย์ แต่มากด้วยประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม เพราะเพียงแค่เดินจากตลาดใจกลางหมู่บ้านเพียง 1 นาที เสมือนได้ย้อนอดีตไปกว่าพันปี เมื่อปราสาทหินเมืองต่ำ หนึ่งในเทวสถานที่สำคัญและสูงส่งของอาณาจักรขอมในอดีต
ชุมชนโคกเมือง ประกอบด้วย 4 หมู่บ้าน ที่รวมตัวกันเปิดเป็นโฮมสเตย์ต้อนรับนักท่องเที่ยวเรื่อยมาตั้งแต่ปี 2549 จนได้รับรางวัล หมู่บ้าน OVC (OTOP Village Champion) ประเภทหมู่บ้านท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม เพราะด้วยความเอาใจใส่ในงานบริการ และความเป็นกันเองของผู้คนในหมู่บ้าน ซึ่งไม่ว่าจะเดินไปทางไหน อากาศจะร้อนเพียงใด เมื่อได้อยู่ที่นี่จะเย็นกายเย็นใจเสมอ
ชาวบ้านที่บ้านโคกเมืองแห่งนี้ มีรากเหง้าเดิมจากลาวและเขมร ซึ่งมีเอกลักษณ์ทางภาษาพูดที่เป็นภาษาเฉพาะ โดยภาษาเขมรที่พูดกันนั้น จะมีความแตกต่างกับเขมรทางกัมพูชาอยู่พอสมควร หากมีโอกาสเดินเล่นที่ตลาด แอบฟังคุณตาคุณยายคุยกัน จะรู้ได้ว่าคนที่นี่พูดจากันฟังแล้วเป็นทำนองให้เพลินหูอยู่พอสมควร
หลังจากที่เดินทางมาถึงบ้านโคกเมือง ก็ได้รับการต้อนรับอย่างดีจากเจ้าบ้าน มีมาลัยดอกไม้ต้อนรับ และยังได้มีโอกาสไปเดินเล่นที่ตลาดเย็นของหมู่บ้านอีกด้วย ของดีของเด็ดในช่วงฤดูร้อนของที่นี่หนีไม่พ้นไข่มดแดง 10 บาท 20 บาท ใส่ถุงรอคิดเมนูสารพัด ซึ่งวันนั้นก็ได้เมนูยำไข่มดแดง ให้ได้ลิ้มลอง
หลังจากแยกย้ายกันเก็บสัมภาระกันตามบ้านหลังต่างๆ ก็พบว่าโฮมสเตย์ที่นี่สะอาดสะอ้าน เหมาะแก่การเข้าพักอย่างยิ่ง หากคิดจะเดินเล่นรอบๆหมู่บ้านก็สะดวก มีสถานที่ท่องเที่ยวห่างจากตลาดเพียงแค่หนึ่งนาที เราก็อยู่กันตรงหน้าปราสาทหินเมืองต่ำแล้ว
มื้อเย็นเติมพลังหลังจากกรำการเดินทางมาไกล กุ้งจ่อม ยำไข่มด- แกงจืดลูกกรอก ปลาน้ำจืดทอด ไข่เจียวไข่มดแดงและแจ่วบองกับผักเคียงสารพัด กุ้งจ่อม อาหารขึ้นชื่อของอำเภอประโคนชัย ที่ทำมาจากกุ้งตัวเล็กๆ ที่ผ่านการดองจะใช้น้ำปลาดองและคลุกข้าวคั่ว เมื่อผ่านการปรุงแล้วจะมีหน้าตาละม้ายคล้ายกับคั่วกลิ้ง แต่รสชาติจะมีรสเค็มเป็นเอกลักษณ์ กลิ่นหอม ช่วยเจริญอาหารเติมข้าวกันให้แม่บ้านยิ้มแฉ่งเมื่อกับข้าวขายดีเป็นเทน้ำเทท่า
เมื่ออาทิตย์ลาลับ ความมืดกลืนกลายฟ้าเปลี่ยนสี บทสวดมนต์บายศรีสู่ขวัญดังแว่วมาจากศาลาประชาคมของหมู่บ้าน บนโต๊ะพร้อมแล้วสำหรับพานบายศรีใบตองที่สวยงาม สายสิญจน์สีขาวห้อยระโยงระยางไปรอบพื้นที่ ข้าวตอก ดอกไม้จากผู้เฒ่าผู้แก่โปรยปรายลงมาก่อนที่จะผูกข้อมือรับขวัญ บรรยากาศที่ขรึมขลังและอบอุ่นผ่านพ้นไปด้วยขวัญจิตที่สุขและสงบ จากนั้นก็มีปิดท้ายด้วยโชว์รำที่ถ่ายทอดท่วงท่ามาจากทับหลังของปราสาทเมืองต่ำและปราสาทพนมรุ้ง
ใต้หมอกบางๆในรุ่งเช้าของบ้านโคกเมือง ตลาดที่เมื่อเย็นวานเคยคึกคักเช้าส่างกลับคึกคักยิ่งกว่า ลุงป้าเดินขวักไขว่จ่ายตลาดต่อรองราคากันเป็นกิจวัตร พระภิกษุเดินบิณฑบาตรผ่านตลาด ผ่านปราสาท ผ่านบารายก่อนจะเลี้ยวเข้าวัดเพื่อทำกิจของสงฆ์ต่อไป วันนี้เริ่มต้นขึ้นด้วยบุญจากการตักบาตรและอากาศยามเช้าที่อัดแน่นเต็มปอด
เช้าวันนี้ที่ปราสาทเมืองต่ำ บรรยากาศยังคงสงบเงียบ ดอกบัวในสระภายในปราสาทที่เพิ่งจะโผล่พ้นน้ำอวดกลีบดอกสีสดล่อชันโรง นกเขาบ้านที่ใช้ร่มเงาของมณฑปพักผ่อนเมื่อช่วงคืนวานก็กำลังพองขนเรียกสาวที่อยู่ใกล้ๆ แต่นอกอาณาเขตของปราสาท ใต้ต้นฉำฉาที่ดอกร่วงโรยราย สองยายหลานขยับตัววิถีต่ำ เคลื่อนเก็บฝักเมล็ดพวกนี้ไปให้วัวที่บ้านเป็นอาหารว่าง
เมื่อเดินเล่นสบายอารมณ์แล้ว ในศูนย์ทอผ้าของหมู่บ้านก็ยังมีการทอผ้ามัดหมี่ ทั้งปั่น ย้อม ทอ แล้วยังมีผ้ามากมายให้เลือกสรร แต่ละผืนความยากง่ายแตกต่างกัน แต่ที่เหมือนกันคงมาจากความตั้งใจของกลุ่มแม่บ้าน ที่ทุกขั้นตอนละเอียดละออและใส่ใจเพื่อให้ได้ผ้าผืนงามออกมาดีที่สุด การใส่จินตนาการลงไปในแต่ละผืน บ้างก็จดจำมาจากลวดลายบนทับหลังปราสาท บ้างก็ใช้สัตว์ที่เป็นเอกลักษณ์ของจังหวัดเอง
บ้านโคกเมืองนอกจากจะมีผ้าทอที่สามารถซื้อเป็นของที่ระลึกแล้ว ที่นี่ยังมีข้าวภูเขาไฟขึ้นชื่อ นั่นคือข้าวหอมมะลิที่ปลูกกันบริเวณรอบๆหมู่บ้าน ซึ่งดินที่ใช้ในการเจริญเติบโต มาจากดินภูเขาไฟรอบๆบริเวณนี้ ผลิตภัณฑ์ข้าวของที่นี่จึงมีเอกลักษณ์พิเศษไม่เหมือนใคร หรือจะเลือกเสื่อทอมือที่มีลวดลายปราสาทแปลกตาก็สามารถเลือกชมได้ และอื่นๆที่น่าสนใจไม่น้อยไปกว่ากันก็คือแปลงผักอินทรีย์ ที่มีบวบ ฟักแฟง ขนาดใหญ่โตสมบูรณ์ให้ได้เดินดูกันอีกด้วย
บ้านโคกเมือง ทุกวันนี้ยังคงรอต้อนรับนักท่องเที่ยวให้มาเยี่ยมเยียน ด้วยไมตรีจิตและการบริการที่ดีเยี่ยม ที่นี่ยังจะคงอยู่และเดินทางไปพร้อมกับกาลเวลา
สำหรับการเดินทางในครั้งนี้ สนับสนุนโดยกรมการท่องเที่ยว ในโครงการส่งเสริมและพัฒนาโฮมสเตย์ไทยเพื่อสร้างคุณค่าและมูลค่าเพิ่มทางการท่องเที่ยว ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2558
[SR] [Life&Rest] ย่ำเท้าผ่านกาลเวลา... ท่องหาวิถีบนภูเขาไฟ... โฮมสเตย์บ้านโคกเมือง
ถนนสีดำคดเคี้ยวและตรงดิ่งเป็นเส้นทางเข้าสู่หมู่บ้านเล็กๆ ทุ่งนาแห้งกรังที่รอเวลาหน้าฝนจะกลับมาชุ่มชื้นอีกครั้ง แม้ฤดูร้อนที่อบระอุแสนยาวนานยังคงดำเนินต่อเนื่องไปจนถึงเดือนพฤษภาคม แต่ก็ยังมีสถานที่พักพิงหลบไอแดดมากด้วยน้ำใจไมตรี ซึ่งเป็นจุดหมายปลายทางในครั้งนี้ ซุกซ่อนอยู่ใต้เงาหลืบของภูเขาไฟที่ดับสนิท แอบแนบอิงกับปราสาทหินประวัติศาสตร์ และพร้อมจะต้อนรับดูแลตลอดเวลาที่อยู่ ณ ที่แห่งนี้
บ้านโคกเมือง เป็นหมู่บ้านเล็กๆในจังหวัดบุรีรัมย์ แต่มากด้วยประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม เพราะเพียงแค่เดินจากตลาดใจกลางหมู่บ้านเพียง 1 นาที เสมือนได้ย้อนอดีตไปกว่าพันปี เมื่อปราสาทหินเมืองต่ำ หนึ่งในเทวสถานที่สำคัญและสูงส่งของอาณาจักรขอมในอดีต
ชุมชนโคกเมือง ประกอบด้วย 4 หมู่บ้าน ที่รวมตัวกันเปิดเป็นโฮมสเตย์ต้อนรับนักท่องเที่ยวเรื่อยมาตั้งแต่ปี 2549 จนได้รับรางวัล หมู่บ้าน OVC (OTOP Village Champion) ประเภทหมู่บ้านท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม เพราะด้วยความเอาใจใส่ในงานบริการ และความเป็นกันเองของผู้คนในหมู่บ้าน ซึ่งไม่ว่าจะเดินไปทางไหน อากาศจะร้อนเพียงใด เมื่อได้อยู่ที่นี่จะเย็นกายเย็นใจเสมอ
ชาวบ้านที่บ้านโคกเมืองแห่งนี้ มีรากเหง้าเดิมจากลาวและเขมร ซึ่งมีเอกลักษณ์ทางภาษาพูดที่เป็นภาษาเฉพาะ โดยภาษาเขมรที่พูดกันนั้น จะมีความแตกต่างกับเขมรทางกัมพูชาอยู่พอสมควร หากมีโอกาสเดินเล่นที่ตลาด แอบฟังคุณตาคุณยายคุยกัน จะรู้ได้ว่าคนที่นี่พูดจากันฟังแล้วเป็นทำนองให้เพลินหูอยู่พอสมควร
หลังจากที่เดินทางมาถึงบ้านโคกเมือง ก็ได้รับการต้อนรับอย่างดีจากเจ้าบ้าน มีมาลัยดอกไม้ต้อนรับ และยังได้มีโอกาสไปเดินเล่นที่ตลาดเย็นของหมู่บ้านอีกด้วย ของดีของเด็ดในช่วงฤดูร้อนของที่นี่หนีไม่พ้นไข่มดแดง 10 บาท 20 บาท ใส่ถุงรอคิดเมนูสารพัด ซึ่งวันนั้นก็ได้เมนูยำไข่มดแดง ให้ได้ลิ้มลอง
หลังจากแยกย้ายกันเก็บสัมภาระกันตามบ้านหลังต่างๆ ก็พบว่าโฮมสเตย์ที่นี่สะอาดสะอ้าน เหมาะแก่การเข้าพักอย่างยิ่ง หากคิดจะเดินเล่นรอบๆหมู่บ้านก็สะดวก มีสถานที่ท่องเที่ยวห่างจากตลาดเพียงแค่หนึ่งนาที เราก็อยู่กันตรงหน้าปราสาทหินเมืองต่ำแล้ว
มื้อเย็นเติมพลังหลังจากกรำการเดินทางมาไกล กุ้งจ่อม ยำไข่มด- แกงจืดลูกกรอก ปลาน้ำจืดทอด ไข่เจียวไข่มดแดงและแจ่วบองกับผักเคียงสารพัด กุ้งจ่อม อาหารขึ้นชื่อของอำเภอประโคนชัย ที่ทำมาจากกุ้งตัวเล็กๆ ที่ผ่านการดองจะใช้น้ำปลาดองและคลุกข้าวคั่ว เมื่อผ่านการปรุงแล้วจะมีหน้าตาละม้ายคล้ายกับคั่วกลิ้ง แต่รสชาติจะมีรสเค็มเป็นเอกลักษณ์ กลิ่นหอม ช่วยเจริญอาหารเติมข้าวกันให้แม่บ้านยิ้มแฉ่งเมื่อกับข้าวขายดีเป็นเทน้ำเทท่า
เมื่ออาทิตย์ลาลับ ความมืดกลืนกลายฟ้าเปลี่ยนสี บทสวดมนต์บายศรีสู่ขวัญดังแว่วมาจากศาลาประชาคมของหมู่บ้าน บนโต๊ะพร้อมแล้วสำหรับพานบายศรีใบตองที่สวยงาม สายสิญจน์สีขาวห้อยระโยงระยางไปรอบพื้นที่ ข้าวตอก ดอกไม้จากผู้เฒ่าผู้แก่โปรยปรายลงมาก่อนที่จะผูกข้อมือรับขวัญ บรรยากาศที่ขรึมขลังและอบอุ่นผ่านพ้นไปด้วยขวัญจิตที่สุขและสงบ จากนั้นก็มีปิดท้ายด้วยโชว์รำที่ถ่ายทอดท่วงท่ามาจากทับหลังของปราสาทเมืองต่ำและปราสาทพนมรุ้ง
ใต้หมอกบางๆในรุ่งเช้าของบ้านโคกเมือง ตลาดที่เมื่อเย็นวานเคยคึกคักเช้าส่างกลับคึกคักยิ่งกว่า ลุงป้าเดินขวักไขว่จ่ายตลาดต่อรองราคากันเป็นกิจวัตร พระภิกษุเดินบิณฑบาตรผ่านตลาด ผ่านปราสาท ผ่านบารายก่อนจะเลี้ยวเข้าวัดเพื่อทำกิจของสงฆ์ต่อไป วันนี้เริ่มต้นขึ้นด้วยบุญจากการตักบาตรและอากาศยามเช้าที่อัดแน่นเต็มปอด
เช้าวันนี้ที่ปราสาทเมืองต่ำ บรรยากาศยังคงสงบเงียบ ดอกบัวในสระภายในปราสาทที่เพิ่งจะโผล่พ้นน้ำอวดกลีบดอกสีสดล่อชันโรง นกเขาบ้านที่ใช้ร่มเงาของมณฑปพักผ่อนเมื่อช่วงคืนวานก็กำลังพองขนเรียกสาวที่อยู่ใกล้ๆ แต่นอกอาณาเขตของปราสาท ใต้ต้นฉำฉาที่ดอกร่วงโรยราย สองยายหลานขยับตัววิถีต่ำ เคลื่อนเก็บฝักเมล็ดพวกนี้ไปให้วัวที่บ้านเป็นอาหารว่าง
เมื่อเดินเล่นสบายอารมณ์แล้ว ในศูนย์ทอผ้าของหมู่บ้านก็ยังมีการทอผ้ามัดหมี่ ทั้งปั่น ย้อม ทอ แล้วยังมีผ้ามากมายให้เลือกสรร แต่ละผืนความยากง่ายแตกต่างกัน แต่ที่เหมือนกันคงมาจากความตั้งใจของกลุ่มแม่บ้าน ที่ทุกขั้นตอนละเอียดละออและใส่ใจเพื่อให้ได้ผ้าผืนงามออกมาดีที่สุด การใส่จินตนาการลงไปในแต่ละผืน บ้างก็จดจำมาจากลวดลายบนทับหลังปราสาท บ้างก็ใช้สัตว์ที่เป็นเอกลักษณ์ของจังหวัดเอง
บ้านโคกเมืองนอกจากจะมีผ้าทอที่สามารถซื้อเป็นของที่ระลึกแล้ว ที่นี่ยังมีข้าวภูเขาไฟขึ้นชื่อ นั่นคือข้าวหอมมะลิที่ปลูกกันบริเวณรอบๆหมู่บ้าน ซึ่งดินที่ใช้ในการเจริญเติบโต มาจากดินภูเขาไฟรอบๆบริเวณนี้ ผลิตภัณฑ์ข้าวของที่นี่จึงมีเอกลักษณ์พิเศษไม่เหมือนใคร หรือจะเลือกเสื่อทอมือที่มีลวดลายปราสาทแปลกตาก็สามารถเลือกชมได้ และอื่นๆที่น่าสนใจไม่น้อยไปกว่ากันก็คือแปลงผักอินทรีย์ ที่มีบวบ ฟักแฟง ขนาดใหญ่โตสมบูรณ์ให้ได้เดินดูกันอีกด้วย
บ้านโคกเมือง ทุกวันนี้ยังคงรอต้อนรับนักท่องเที่ยวให้มาเยี่ยมเยียน ด้วยไมตรีจิตและการบริการที่ดีเยี่ยม ที่นี่ยังจะคงอยู่และเดินทางไปพร้อมกับกาลเวลา
สำหรับการเดินทางในครั้งนี้ สนับสนุนโดยกรมการท่องเที่ยว ในโครงการส่งเสริมและพัฒนาโฮมสเตย์ไทยเพื่อสร้างคุณค่าและมูลค่าเพิ่มทางการท่องเที่ยว ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2558
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น