สวัสดีค่าาาา เราเอง เรานี่แหละ ไม่งงเนอะ จำกันได้ใช่เปล่า
เราจะคิดว่าจำได้แล้วกันนะ แฮร่

วันนี้เราพามาปล่อยเบลอ แบบเบลอโคตรๆ ที่สุราษฎร์ธานี
คือทริปนี้เบลอมาก งงมาก มาได้ไง มาทำไร อมย อ้าวแม่นหยังงงงง
เริ่มจากรุ่นน้องในเฟสจ้า นางแชร์โปรโมชั่นตั๋วเครื่องบิน ราคาถูกกว่าทานพิซซ่า
ผมเห็นเท่านั้นแหละครับ นั่งกดๆ เลื่อนๆดู เหยดดดดดดด ตั๋วไปกลับสุราษฎร์ฯ แค่ 1,000 บาท
ลั่น ลั่น ลั่นทันที เลือกเป้าหมาย กรอกชื่อ และหยิบบัตรขึ้นมากรอก กดตกลง
เฮ้ยยยยย ลั่นจริงจัง ไม่คิดไม่ไรเลย ว่าจะไปไหนยังไง ไม่มีแผน
จองเรียบร้อย ส่ง bookings ให้ชะนีเพื่อนสนิทดู นางตอบกลับมา ไปอีกละ
เอ่าเมิงงงดู ตั๋วโคตรถูก ไปกลับพันเดียว ควรไปป่ะล่ะ
เออ ไป เมิง ไป ไป ปายยยยยยยยยยยยยยย
หลังได้ตั๋วเรียบร้อย แอบวางแผนเงียบๆว่าเราจะไปเขื่อนเชี่ยวหลาน ยังไงมาครั้งนี้ต้องได้ไปวะ
เห็นเค้าว่าสวย เงียบสงบ ไม่มีสัญญาณมือถือ
และที่สำคัญค่าเรือแพงมว๊าก ถ้าไปคนเดียวน่ะนะ
เพราะว่าจะต้องเหมาลำไป ก็เริ่มที่ 2,000-3,500 บาท แล้วแต่ระยะทาง
เราติดต่อแพลุงคมไว้ เห็นว่าเป็นแพของอนุรักษ์ ราคา 800 บาท
รวมอาหาร3 มื้อ เที่ยง เย็น และเช้าค่ะ
พี่พัชรีลูกสาวลุงคมถามเราว่า จะจองเรือไว้เลยมั้ย ค่าเรือ 3,500 บาท
หน้าผม ( ꒪҇൧̑ ꒪҄ꐦ)✧ เป็นแบบนี้ตอนได้ยินราคาเรือ
เลยบอกพี่พัชรีไปว่า ยังไม่จองดีกว่าค่ะ เดี๋ยวหนูลองไปท่าเรือแล้วขอแจมกรุ๊ปอื่น
(คือไม่เคยไปไง คิดว่าแพแต่ละที่เนี่ย อยู่ใกล้ๆกัน)
พี่พัชรีบอก ยากนะ พี่ว่าจองไปเลยดีกว่า
แล้ววันที่หนูไปเนี่ย มีแค่แขกฝรั่งด้วย ไม่รู้เค้าจะให้จอยเรือมั้ย
เราก็ยังยืนกรานคำเดิม ว่าเราขอไปดูหน้างานก่อนแล้วกันค่ะ พ่วนนนน คักแท่ะวะ
วางแผนเฉพาะคืนแรก คืนต่อไปก็ว่าไปตามหน้างานแหละค่ะ ท่านผู้ชม
09.11.15
เราเดินมาถึงสนามบินดอนเมือง ตีสี่ยี่สิบนาที
check in โหลดกระเป๋าเรียบร้อย (สายการบิน Thai lion air)
เราก็เดินเข้า Gate เพื่อมาหาอะไรลองทานก่อน subway
คือตัวเลือกที่ดีที่สุดในเวลานั้น (อยากทานนี่ เหตุผลง่ายๆ ฮ่าๆ)
เมื่อซื้อเสร็จเรียบร้อย เราก็เดินไป gate 41 ค่ะ นั่งทานและรอเวลา

เครื่องออกประมาณ 06:00 น. เราหลับมาเกือบตลอดทาง หลับคอหัก
มารู้สึกตัวตอนเครื่องLandingพอดี เจ็ดโมงสิบนาทีเห็นจะได้
ลงจากเครื่อง เข้าห้องน้ำทำธุระส่วนตัว รับกระเป๋า
และเดินเบลอออกมาหน้าสนามบิน ยืนงงๆ สักพัก
เดินกลับเข้ามาในสนามบินค่ะ มุ่งหน้าหาประชาสัมพันธ์สาวสวย
สอบถามเรียบร้อย ได้ความว่า เราต้องนั่งรถเข้าไปในเมือง
ไปตลาดเกษตร2 เพื่อต่อรถตู้ไปท่าเรืออีกที
โดยเราขึ้น shuttle bus ของบริษัท phantip travel ค่ะ

สอบถามพี่คนขับ เค้าบอกลงที่บริษัทเลย แล้วเข้าไปติดต่อ ที่บ.มีรถตู้ไปท่าเรือ

ค่า shuttle bus 100 บาทค่ะ รถจะรอผู้โดยสารจนเต็มคันก่อน
รถที่เราขึ้นออกเวลา 07:45 น. มาถึงที่หน้าบ. พันทิพย์ 08:30 น.
เราเดินเข้าไปติดต่อ ค่ารถ 200 บาทค่ะ เพราะคิดค่าบริการในการเรียกรถตู้ด้วย
ถ้าอยากได้ราคาที่ถูกกว่านี้ ให้เดินคิวไปตลาดเกษตรเอง ซึ่งไม่ไกล
เราเลือกเดินไปตลาดเกษตรค่ะ คือแค่ข้ามถนนจากหน้าบ.พันทพย์ เดินนิดเดียวถึงแล้ว
พอเดินเข้าไปในซอย จะมีคิวคอยเรียกตลอดๆว่าจะไปไหนคะ ภูเก็ต หาดใหญ่ สงขลา
เราตะโกนกลับไป จะไปเชี่ยวหลานค่ะ
พี่สาวกวักมือเรียกไวไว เราข้ามถนนไปหาพี่เค้าคะ
ถามราคา ไปท่าเรือ 180 บาท แง่ว ไม 180 บาทอะคะ ไม่ใช่ 150 บาทเหรอ
พี่เค้าบอกว่า 150 ส่งไม่ถึงแพ 180 ส่งลงเรือเลย
แล้ว150 บาทเนี่ย ส่งตรงไหนคะ ไกลมั้ย พี่เค้าบอกก็เดินเหนื่อยนะ ราคาเท่ากันทุกคิวแหละ (อีหลีติ)
อ่าาาาาค่ะ งั้นรับตั๋ว 180 บาทก็ได้ค่ะ ขอรอบเร็วที่สุดนะคะ
เราได้รอบ 09:00 น. ค่ะ ตอนนี้เพิ่งจะ แปดโมงสี่สิบเอง
เราก็เลยนั่งทานอาหารเช้าที่คิวรถตู้เลยค่ะ

คั่วกลิ้ง ไข่ดาว มีผักสดให้ และแกงไตปลาฟรี เผื่ออยากจะคลุกข้าว ราคา 40 บาทค่ะ
09:00 น. รถตู้มาถึงแล้ว ตรงเวลาสุดๆ พี่ที่คิวถือกระเป๋าไปส่งให้ที่รถ

อื้อหื้อออออ คนเต็มคันเชียว ชะนีตัวกระเปี๊ยกอย่างเรา โดนยัดเข้าไปนั่งหลังสุดอีกเลี้ยวววว
ทั้งคัน มีผู้ชายอยู่ 2 คน ผู้โดยสารหนึ่ง และคนขับหนึ่งคน
น้องๆในรถ มาจากม. วลัยลักษณ์ นครศรีฯ จะไปเขื่อนเหมือนกัน เป็นเพื่อนกันทั้งคัน
คุยกันเจี๊ยวจ๊าวเสียงดัง อารมณ์ในตอนนั้น ขำ และพลอยให้คิดถึงสมัยวัยสาวที่ไปเที่ยวกับเพื่อนๆเลยแหละค่ะ

รถตู้มาถึงท่าเรือประมาณ 10:40 น.
เราคุยกับน้องๆนักศึกษาในรถ
ขอแจมเรือได้มั้ย เดี๋ยวเราคุยกับพี่คนขับเอง
ว่าระยะทางที่ต้องไปเพิ่มบวกเท่าไหร่(ยังคงคิดว่าแต่ละแพใกล้กัน)
น้องๆเค้าตกลงค่ะ เอาล่ะ เดินไปสอบถามพี่ขับเรือแล้ว ตื่นเต้นเว้ยยยย
ราคาจะสู้ไหวหรือเปล่าเนี่ยยยย ปรากฏว่า แพที่เราจอง กับของน้องๆ คนละทางเลยค่ะ
ถ้าให้พี่เค้าไปส่งต่อ ก็ 3,000 บาทเห็นจะได้ =͟͟͞͞=͟͟͞͞⁽⁽(०▵०⌯)⁾⁾
ได้ยินดังนั้น ชะนีที่มีใจแน่วแน่ เด็ดขาด และเท่ๆอย่างเรา
หันไปถามเจ้าหน้าที่ของแพที่น้องๆจองทันที
พี่คะ ที่แพของพี่ คืนนี้เต็มหรือยังคะ ฮ่าๆ เมิงแน่มากโบ ห่านป่าเอ้ยยยย อิคนจริง ฮ่าๆๆๆ (≖ᴗ≖ ) แฮร่ อายจัง
พี่เค้าโทรสอบถามให้ค่ะ ยังว่าง เย่ งั้นหนูนอนแพพี่นะคะคืนนี้
แพที่เรานอนคืนนี้เป็นแพคนสุภาพค่ะ ชื่อแพคลองคะ อ่ะ อย่างงดิ
แพคลองคะ คืนละ 1,000 บาท รวมอาหาร สามมื้อเช่นกันค่ะ เที่ยง เย็น และอาหารเช้า เป็นอาหารชุดค่ะ
เราขอแจมเรือกับน้องๆ จ่ายให้น้องไป 300 บาท เย่ ค่าเรือไปกลับของเรา
มาคนเดียวก็ค่าเรือถูกได้นะเออ แค่กล้าพูดกล้าถาม ใจกล้าหน้าหนาหน่อย บ้าหราาา ก็แค่เอาตัวรอดเอง
เราไม่ได้เอาเปรียบใครสักหน่อยเนอะ จริงๆค่าเรือ 2,500 หาร 11 ก็ 217 บาท
แต่เราโตกว่า และอาศัยน้องเค้า เลยอาสาขอออกเยอะกว่าค่ะ
เมื่อตกลงเป็นที่เรียบร้อย เราก็โทรขอยกเลิก และขอโทษพี่พัชรี พี่แกก็เข้าใจ ไม่ได้ว่าอะไร ขอโทษนะคะพี่
ได้เวลาลงเรือแล้วค่ะ

นี่น้องๆ เราลงเรือลำเดียวกันแล้วนะ แฮร่

เรือออกประมาณ 11:00 น. ค่ะ

ระหว่างทางก็เป็นภูเขาน้อยใหญ่ สลับกันเรียงราย สวยมากๆอะ

เสพธรรมชาติ นั่งเรือตากลมไป ถ่ายรูปไปค่ะ

เรือพามาถึงแพคลองคะ 11:55 น. ค่ะ มาถึงก็ลงชื่อผู้เข้าพัก และมาที่ห้องพักค่ะ

เจ้าหน้าที่ของทางแพ ให้เราเลือกได้เลย ว่าอยากนอนหลังไหน

เราเลือกหลังสุดท้ายค่ะ เดินไกลหน่อย แต่คิดว่าวิวน่าจะสวยที่สุด

และนี่คือห้องนอนของเรา

ฟูกปูกับพื้น ไม่มีแอร์ ห้องพัดลม และไม่มีห้องน้ำในตัวค่ะ

นี่คือวิวจากหน้าต่างห้องนอนเราค่ะ อิจฉาใช่ป่ะล่ะ คือดีงาม เล่อค่า

ห้องน้ำเป็นห้องน้ำรวมค่ะ ความสะอาดเราให้ผ่าน ดีงามดาวล้านดวง

อ่อ ลืมบอกไป พอมาถึงแพ ฝนก็ลงเม็ดทันทีเลยค่ะ วิ่งแทบไม่ทัน
เราเก็บกระเป๋า เดินถ่ายรูป และไปรับประทานอาหารกลางวันค่ะ

โต๊ะอาหารของเราค่ะ ฟินอีกละ

นี่คืออาหารมื้อเที่ยงของเรา สำหรับคนเดียวนะคะ
ให้เยอะมากๆ เห็นอย่างนี้แล้ว บอกได้เลยว่า 1,000 บาท เราว่าไม่แพงเลย
พี่จนท. บอกว่า ทานให้หมดนะ ไม่หมด ปรับ 200 บาท เราตอบกลับทันที ว่างั้นปรับได้เลยค่ะ ฮ่าๆ

วิวจากโต๊ะอาหารเราค่ะ ทานไป มองฝนไป อืมมม ไม่เหงาๆ
ทานอาหารเสร็จเรียบร้อย ฝนยังคงตกอยู่

และกิจกรรมที่เราเลือกทำให้เข้ากับบรรยากาศและวิวทิวทัศน์ตรงหน้ามากที่สุด คืออออ
นอนค่ะ เราเดินกลับห้องมานอน ฮ่าๆ เหนื่อยจากการตื่นตั้งแต่ตี3 และการเดินทาง
การนอนหลับพักผ่อน ดูเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับเรา
[CR] ทริปปล่อยเบลอ มาลุ้นเอานะเธอว่าจะเจออะไร ที่สุราษฎร์ธานี
เราจะคิดว่าจำได้แล้วกันนะ แฮร่
วันนี้เราพามาปล่อยเบลอ แบบเบลอโคตรๆ ที่สุราษฎร์ธานี
คือทริปนี้เบลอมาก งงมาก มาได้ไง มาทำไร อมย อ้าวแม่นหยังงงงง
เริ่มจากรุ่นน้องในเฟสจ้า นางแชร์โปรโมชั่นตั๋วเครื่องบิน ราคาถูกกว่าทานพิซซ่า
ผมเห็นเท่านั้นแหละครับ นั่งกดๆ เลื่อนๆดู เหยดดดดดดด ตั๋วไปกลับสุราษฎร์ฯ แค่ 1,000 บาท
ลั่น ลั่น ลั่นทันที เลือกเป้าหมาย กรอกชื่อ และหยิบบัตรขึ้นมากรอก กดตกลง
เฮ้ยยยยย ลั่นจริงจัง ไม่คิดไม่ไรเลย ว่าจะไปไหนยังไง ไม่มีแผน
จองเรียบร้อย ส่ง bookings ให้ชะนีเพื่อนสนิทดู นางตอบกลับมา ไปอีกละ
เอ่าเมิงงงดู ตั๋วโคตรถูก ไปกลับพันเดียว ควรไปป่ะล่ะ
เออ ไป เมิง ไป ไป ปายยยยยยยยยยยยยยย
หลังได้ตั๋วเรียบร้อย แอบวางแผนเงียบๆว่าเราจะไปเขื่อนเชี่ยวหลาน ยังไงมาครั้งนี้ต้องได้ไปวะ
เห็นเค้าว่าสวย เงียบสงบ ไม่มีสัญญาณมือถือ
และที่สำคัญค่าเรือแพงมว๊าก ถ้าไปคนเดียวน่ะนะ
เพราะว่าจะต้องเหมาลำไป ก็เริ่มที่ 2,000-3,500 บาท แล้วแต่ระยะทาง
เราติดต่อแพลุงคมไว้ เห็นว่าเป็นแพของอนุรักษ์ ราคา 800 บาท
รวมอาหาร3 มื้อ เที่ยง เย็น และเช้าค่ะ
พี่พัชรีลูกสาวลุงคมถามเราว่า จะจองเรือไว้เลยมั้ย ค่าเรือ 3,500 บาท
หน้าผม ( ꒪҇൧̑ ꒪҄ꐦ)✧ เป็นแบบนี้ตอนได้ยินราคาเรือ
เลยบอกพี่พัชรีไปว่า ยังไม่จองดีกว่าค่ะ เดี๋ยวหนูลองไปท่าเรือแล้วขอแจมกรุ๊ปอื่น
(คือไม่เคยไปไง คิดว่าแพแต่ละที่เนี่ย อยู่ใกล้ๆกัน)
พี่พัชรีบอก ยากนะ พี่ว่าจองไปเลยดีกว่า
แล้ววันที่หนูไปเนี่ย มีแค่แขกฝรั่งด้วย ไม่รู้เค้าจะให้จอยเรือมั้ย
เราก็ยังยืนกรานคำเดิม ว่าเราขอไปดูหน้างานก่อนแล้วกันค่ะ พ่วนนนน คักแท่ะวะ
วางแผนเฉพาะคืนแรก คืนต่อไปก็ว่าไปตามหน้างานแหละค่ะ ท่านผู้ชม
09.11.15
เราเดินมาถึงสนามบินดอนเมือง ตีสี่ยี่สิบนาที
check in โหลดกระเป๋าเรียบร้อย (สายการบิน Thai lion air)
เราก็เดินเข้า Gate เพื่อมาหาอะไรลองทานก่อน subway
คือตัวเลือกที่ดีที่สุดในเวลานั้น (อยากทานนี่ เหตุผลง่ายๆ ฮ่าๆ)
เมื่อซื้อเสร็จเรียบร้อย เราก็เดินไป gate 41 ค่ะ นั่งทานและรอเวลา
เครื่องออกประมาณ 06:00 น. เราหลับมาเกือบตลอดทาง หลับคอหัก
มารู้สึกตัวตอนเครื่องLandingพอดี เจ็ดโมงสิบนาทีเห็นจะได้
ลงจากเครื่อง เข้าห้องน้ำทำธุระส่วนตัว รับกระเป๋า
และเดินเบลอออกมาหน้าสนามบิน ยืนงงๆ สักพัก
เดินกลับเข้ามาในสนามบินค่ะ มุ่งหน้าหาประชาสัมพันธ์สาวสวย
สอบถามเรียบร้อย ได้ความว่า เราต้องนั่งรถเข้าไปในเมือง
ไปตลาดเกษตร2 เพื่อต่อรถตู้ไปท่าเรืออีกที
โดยเราขึ้น shuttle bus ของบริษัท phantip travel ค่ะ
สอบถามพี่คนขับ เค้าบอกลงที่บริษัทเลย แล้วเข้าไปติดต่อ ที่บ.มีรถตู้ไปท่าเรือ
ค่า shuttle bus 100 บาทค่ะ รถจะรอผู้โดยสารจนเต็มคันก่อน
รถที่เราขึ้นออกเวลา 07:45 น. มาถึงที่หน้าบ. พันทิพย์ 08:30 น.
เราเดินเข้าไปติดต่อ ค่ารถ 200 บาทค่ะ เพราะคิดค่าบริการในการเรียกรถตู้ด้วย
ถ้าอยากได้ราคาที่ถูกกว่านี้ ให้เดินคิวไปตลาดเกษตรเอง ซึ่งไม่ไกล
เราเลือกเดินไปตลาดเกษตรค่ะ คือแค่ข้ามถนนจากหน้าบ.พันทพย์ เดินนิดเดียวถึงแล้ว
พอเดินเข้าไปในซอย จะมีคิวคอยเรียกตลอดๆว่าจะไปไหนคะ ภูเก็ต หาดใหญ่ สงขลา
เราตะโกนกลับไป จะไปเชี่ยวหลานค่ะ
พี่สาวกวักมือเรียกไวไว เราข้ามถนนไปหาพี่เค้าคะ
ถามราคา ไปท่าเรือ 180 บาท แง่ว ไม 180 บาทอะคะ ไม่ใช่ 150 บาทเหรอ
พี่เค้าบอกว่า 150 ส่งไม่ถึงแพ 180 ส่งลงเรือเลย
แล้ว150 บาทเนี่ย ส่งตรงไหนคะ ไกลมั้ย พี่เค้าบอกก็เดินเหนื่อยนะ ราคาเท่ากันทุกคิวแหละ (อีหลีติ)
อ่าาาาาค่ะ งั้นรับตั๋ว 180 บาทก็ได้ค่ะ ขอรอบเร็วที่สุดนะคะ
เราได้รอบ 09:00 น. ค่ะ ตอนนี้เพิ่งจะ แปดโมงสี่สิบเอง
เราก็เลยนั่งทานอาหารเช้าที่คิวรถตู้เลยค่ะ
คั่วกลิ้ง ไข่ดาว มีผักสดให้ และแกงไตปลาฟรี เผื่ออยากจะคลุกข้าว ราคา 40 บาทค่ะ
09:00 น. รถตู้มาถึงแล้ว ตรงเวลาสุดๆ พี่ที่คิวถือกระเป๋าไปส่งให้ที่รถ
อื้อหื้อออออ คนเต็มคันเชียว ชะนีตัวกระเปี๊ยกอย่างเรา โดนยัดเข้าไปนั่งหลังสุดอีกเลี้ยวววว
ทั้งคัน มีผู้ชายอยู่ 2 คน ผู้โดยสารหนึ่ง และคนขับหนึ่งคน
น้องๆในรถ มาจากม. วลัยลักษณ์ นครศรีฯ จะไปเขื่อนเหมือนกัน เป็นเพื่อนกันทั้งคัน
คุยกันเจี๊ยวจ๊าวเสียงดัง อารมณ์ในตอนนั้น ขำ และพลอยให้คิดถึงสมัยวัยสาวที่ไปเที่ยวกับเพื่อนๆเลยแหละค่ะ
รถตู้มาถึงท่าเรือประมาณ 10:40 น.
เราคุยกับน้องๆนักศึกษาในรถ
ขอแจมเรือได้มั้ย เดี๋ยวเราคุยกับพี่คนขับเอง
ว่าระยะทางที่ต้องไปเพิ่มบวกเท่าไหร่(ยังคงคิดว่าแต่ละแพใกล้กัน)
น้องๆเค้าตกลงค่ะ เอาล่ะ เดินไปสอบถามพี่ขับเรือแล้ว ตื่นเต้นเว้ยยยย
ราคาจะสู้ไหวหรือเปล่าเนี่ยยยย ปรากฏว่า แพที่เราจอง กับของน้องๆ คนละทางเลยค่ะ
ถ้าให้พี่เค้าไปส่งต่อ ก็ 3,000 บาทเห็นจะได้ =͟͟͞͞=͟͟͞͞⁽⁽(०▵०⌯)⁾⁾
ได้ยินดังนั้น ชะนีที่มีใจแน่วแน่ เด็ดขาด และเท่ๆอย่างเรา
หันไปถามเจ้าหน้าที่ของแพที่น้องๆจองทันที
พี่คะ ที่แพของพี่ คืนนี้เต็มหรือยังคะ ฮ่าๆ เมิงแน่มากโบ ห่านป่าเอ้ยยยย อิคนจริง ฮ่าๆๆๆ (≖ᴗ≖ ) แฮร่ อายจัง
พี่เค้าโทรสอบถามให้ค่ะ ยังว่าง เย่ งั้นหนูนอนแพพี่นะคะคืนนี้
แพที่เรานอนคืนนี้เป็นแพคนสุภาพค่ะ ชื่อแพคลองคะ อ่ะ อย่างงดิ
แพคลองคะ คืนละ 1,000 บาท รวมอาหาร สามมื้อเช่นกันค่ะ เที่ยง เย็น และอาหารเช้า เป็นอาหารชุดค่ะ
เราขอแจมเรือกับน้องๆ จ่ายให้น้องไป 300 บาท เย่ ค่าเรือไปกลับของเรา
มาคนเดียวก็ค่าเรือถูกได้นะเออ แค่กล้าพูดกล้าถาม ใจกล้าหน้าหนาหน่อย บ้าหราาา ก็แค่เอาตัวรอดเอง
เราไม่ได้เอาเปรียบใครสักหน่อยเนอะ จริงๆค่าเรือ 2,500 หาร 11 ก็ 217 บาท
แต่เราโตกว่า และอาศัยน้องเค้า เลยอาสาขอออกเยอะกว่าค่ะ
เมื่อตกลงเป็นที่เรียบร้อย เราก็โทรขอยกเลิก และขอโทษพี่พัชรี พี่แกก็เข้าใจ ไม่ได้ว่าอะไร ขอโทษนะคะพี่
ได้เวลาลงเรือแล้วค่ะ
นี่น้องๆ เราลงเรือลำเดียวกันแล้วนะ แฮร่
เรือออกประมาณ 11:00 น. ค่ะ
ระหว่างทางก็เป็นภูเขาน้อยใหญ่ สลับกันเรียงราย สวยมากๆอะ
เสพธรรมชาติ นั่งเรือตากลมไป ถ่ายรูปไปค่ะ
เรือพามาถึงแพคลองคะ 11:55 น. ค่ะ มาถึงก็ลงชื่อผู้เข้าพัก และมาที่ห้องพักค่ะ
เจ้าหน้าที่ของทางแพ ให้เราเลือกได้เลย ว่าอยากนอนหลังไหน
เราเลือกหลังสุดท้ายค่ะ เดินไกลหน่อย แต่คิดว่าวิวน่าจะสวยที่สุด
และนี่คือห้องนอนของเรา
ฟูกปูกับพื้น ไม่มีแอร์ ห้องพัดลม และไม่มีห้องน้ำในตัวค่ะ
นี่คือวิวจากหน้าต่างห้องนอนเราค่ะ อิจฉาใช่ป่ะล่ะ คือดีงาม เล่อค่า
ห้องน้ำเป็นห้องน้ำรวมค่ะ ความสะอาดเราให้ผ่าน ดีงามดาวล้านดวง
อ่อ ลืมบอกไป พอมาถึงแพ ฝนก็ลงเม็ดทันทีเลยค่ะ วิ่งแทบไม่ทัน
เราเก็บกระเป๋า เดินถ่ายรูป และไปรับประทานอาหารกลางวันค่ะ
โต๊ะอาหารของเราค่ะ ฟินอีกละ
นี่คืออาหารมื้อเที่ยงของเรา สำหรับคนเดียวนะคะ
ให้เยอะมากๆ เห็นอย่างนี้แล้ว บอกได้เลยว่า 1,000 บาท เราว่าไม่แพงเลย
พี่จนท. บอกว่า ทานให้หมดนะ ไม่หมด ปรับ 200 บาท เราตอบกลับทันที ว่างั้นปรับได้เลยค่ะ ฮ่าๆ
วิวจากโต๊ะอาหารเราค่ะ ทานไป มองฝนไป อืมมม ไม่เหงาๆ
ทานอาหารเสร็จเรียบร้อย ฝนยังคงตกอยู่
และกิจกรรมที่เราเลือกทำให้เข้ากับบรรยากาศและวิวทิวทัศน์ตรงหน้ามากที่สุด คืออออ
นอนค่ะ เราเดินกลับห้องมานอน ฮ่าๆ เหนื่อยจากการตื่นตั้งแต่ตี3 และการเดินทาง
การนอนหลับพักผ่อน ดูเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับเรา