ตามที่กระทู้ก่อน ๆ ได้พูดถึงเรื่องน้ำตกแม่โถไว้หลายครั้ง มาคราวนี้จึงมีโอกาสได้เดินทางไปเพื่อชมน้ำตกที่สวยงามมากแห่งหนึ่งของประเทศไทย และเนื่องจากเป็นเส้นทางศึกษาธรรมชาติป่าปิดที่ต้องมีเจ้าหน้าที่นำทาง ซึ่งป่าในอุทยานแห่งชาติขุนแจแห่งนี้เป็นป่าดิบเขาที่มีความอุดมสมบูรณ์สูงมาก ที่นี่สัตว์ป่ายังชุกชุม และเจ้าหน้าที่ไม่ได้ทำการสำรวจมาเส้นทางไปน้ำตกมากกว่า 3 ปีแล้ว

และทริปนี้ไม่ได้ไปแค่คนเดียวเหมือนครั้งก่อน ๆ ได้รับเกียรติจากดีเจจอมยุ่งแห่งคลื่น 94 EFM สหายร่วมอุดมการณ์ผู้รักในธรรมชาติและการล่องไพรมาร่วมในการเดินทางครั้งนี้ด้วยครับ

ที่นี่มีดอกไม้อยู่ชนิดหนึ่งที่ขึ้นที่น้ำตกแบบนี้ สวยงามมากครับ ผมไม่มั่นใจว่าชื่อของมันถูกต้องหรือไม่ แต่ค่อนข้างมั่นใจว่าอยู่ในประเภท ดอกเทียน จะกล่าวต่อในรายละเอียดต่อไป แต่ตอนนี้จะขอเล่าตั้งแต่เริ่มต้นก่อนครับ
เริ่มจากการติดต่ออุทยานแห่งชาติขุนแจก่อน โดยหลัก ๆ แล้วนักท่องป่าก็จะมาขึ้นดอยลังกาหลวงกัน ซึ่งดอยลังกาหลวงนี้เป็นต้นน้ำของน้ำตกแม่โถแห่งนี้นั่นเอง ดอยลังกาหลวงนั้นเป็นดอยที่มีความสูงเกิน 2,000 เมตรครองอันดับความสูงที่ 5 ของประเทศไทย เป็นอีกหนึ่งสถานที่แนะนำหากใครต้องการเดินป่าสายทรหดกัน เพราะต้องใช้เวลาเดินทางไปกลับประมาณ 4 วัน 3 คืนครับ ในครั้งนี้ผมจึงเลือกเดินทางแบบไปวันเดียวกลับ ณ น้ำตกแม่โถ แต่การเดินป่าเพื่อไปชมน้ำตกไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด ซึ่งจะกล่าวต่อไป
การติดต่อกับอุทยานแห่งชาติควรเผื่อเวลาติดต่อล่วงหน้ากันสักนิด เนื่องจากที่ทำการค่อนข้างอับสัญญาณ ทั้งหมายเลข VoIP และโทรศัพท์มือถือตามในเว็บไซต์ของอุทยานแห่งชาตินั้นโทรติดได้ค่อนข้างยากครับ ต้องพยายามติดต่อเรื่อย ๆ และเจ้าหน้าที่อุทยานที่สามารถนำทางไปน้ำตกแห่งนี้ได้นั้นมีเพียงท่านเดียว เนื่องจากเป็นผู้คุ้นเส้นทางที่สุด เมื่อนัดแนะกับเจ้าหน้าที่ได้แล้วซึ่งแนะนำว่าควรนัดและไปถึงอุทยานแห่งชาติเวลาประมาณ 8.00 น.ครับ เพราะว่าหลังจากนั้นต้องนั่งรถกระบะขับเคลื่อนสี่ล้อของทางอุทยานเข้าไปที่ปากทางเดินเข้าน้ำตกกันอีกประมาณ 45 นาที จึงเริ่มเดินเท้าเข้าป่ากัน ระหว่างทางก็ต้องเตรียมอาหารกลางวันเข้าไปทาน ระยะเวลาที่ใช้ในการเดินทั้งหมดไปกลับประมาณ 4-5 ชั่วโมง รวมเวลานั่งรถแล้วก็ใช้เวลาประมาณ 6 ชั่วโมงครับขึ้นอยู่กับว่าเราจะใช้เวลาอยู่ในน้ำตกนานหรือไม่ ระยะทางไปกลับอยู่ที่ประมาณ 8 กิโลเมตร แต่เป็นพื้นที่ป่าที่ค่อนข้างรก ร่องทางปิดบางช่วงและทางชันเป็นระยะ จึงควรต้องออกตัวกันตั้งแต่เช้า (ระยะทางเดินทางจากตัวเมืองเชียงใหม่ถึงอุทยานแห่งชาติขุนแจอยู่ที่ประมาณ 65 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง โดยใช้ทางหลวงหมายเลข 118 เป็นเส้นทางเดียวกับที่จะไปจังหวัดเชียงรายครับ)
หลังจากที่พบกับเจ้าหน้าที่แล้วก็ได้เวลาออกเดินทาง ผมขอข้ามช่วงนั่งรถของเจ้าหน้าที่เข้ามาถึงปากทางเดินแล้วเริ่มกันที่การเดินเท้าเข้าสู่น้ำตกกันเลยครับ ในบริเวณทางเข้าน้ำตกนั้น เคยเป็นที่อยู่อาศัยของชาวเขามาก่อน ซึ่งหลังจากที่ทางการจัดพื้นที่สำหรับอยู่อาศัยใหม่ ชาวบ้านแถบนี้จึงได้รื้อถอนและย้ายกันไปหมดแล้ว ในเส้นทางเดินป่าช่วงแรกนั้น เป็นทางเดินรถเก่าที่รถไม่สามารถเข้าได้แล้ว ซึ่งการเดินก็ยังสบาย ๆ อยู่ครับ ต้นไม้ที่ขึ้นบริเวณนี้จะเป็นสนสามใบสลับกับพันธุ์ไม้อื่น ๆ เมื่อเดินได้สักพักเราก็จะเข้าสู่โซนป่าชั้นในกัน

ข้างทางในการเดินเราก็จะพบกับวิวทิวเขาอันสวยงามแบบนี้ครับ

ลูกสนตกอยู่ทั่วบริเวณระหว่างทางเดิน

ภาพทางเดินในป่าชั้นนอกครับ มีเจ้าหน้าที่นำทางเดินฉับ ๆ ก้าวขาอย่างไว สังเกตได้ว่าต้นไม้แต่ละต้นนั้นสูงมาก

ที่นี่พบใบไม้ผลัดใบเปลี่ยนเป็นสีแดงในโซนป่าชั้นนอกครับ ซึ่งแปลกสำหรับป่าดิบเขาซึ่งเป็นป่าไม่ผลัดใบ

ดอกผกากรองดอกไม้สีสวยหวาน ๆ พบได้ทั่วไปในเมืองก็นิยมปลูกกันครับ

พบพืชพันธุ์หลากหลาย

เห็ดพบตามขอนไม้ทั่วไป

เริ่มเข้าโซนชั้นในกันบ้างครับ

พบดอกไม้สีม่วงสวยงามระหว่างทาง

ดีเจจอมยุ่งนักลุยป่าของเรายังไหวสบาย ๆ ครับ
หลังจากที่เราเดินเข้ามาในป่าโซนชั้นใน การเดินก็เริ่มยากและต้องระมัดระวังมากขึ้นเรื่อย ๆ ร่องทางก็เริ่มหายไป ซึ่งพอมาถึงจุดที่เป็นธารน้ำตามรูปด้านล่างก็จะต้องลุยป่าแบบก้ม ๆ คลาน ๆ กันเลยทีเดียวครับ

จากจุดนี้เราจะต้องเดินข้ามธารน้ำไป

เจ้าหน้าที่อุทยานฯ บอกว่า "เราจะตรงไปน้ำตกโดยใช้เส้นทางนี้" ผมนี่มองไปรอบ ๆ สงสัยว่าตรงไหนคือเส้นทางที่ว่า หลังพูดจบพี่แกเดินฉับ ๆ มุดเข้าไปในดงตามที่เห็นแบบในรูป และนี่คือส่วนหนึ่งของการเดินป่าในครั้งนี้ครับต้องไปในทางแบบนี้เป็นระยะกว่า 500 เมตรได้อีกทั้งที่พื้นยังมีความชื้นและมีทากทำให้เพิ่มความลำบากเข้าไปอีกระดับ
ช่วงการเดินทางที่ยากลำบากที่สุดก็ได้สิ้นสุดลงหลังจากหลุดออกมาจากจุดที่รกทึบแล้วก็จะเดินไปตามขอบทางของธารน้ำได้แล้วครับหลังจากที่เดินไปอีกสักพักก็มาถึงน้ำตกชั้นที่ 1 ซึ่งสวยงามมากครับ

ทางเดินตามธารน้ำก่อนถึงน้ำตกชั้นแรก

น้ำตกแม่โถชั้นที่ 1

น้ำตกแม่โถชั้นที่ 1 ในแนวตั้งบ้าง
น้ำตกแม่โถแต่ละชั้นนั้นจะอยู่ติด ๆ กันเลยครับ ระยะห่างไม่ทิ้งกันมาก และก็มาถึงชั้นที่สองที่มีความกว้างมากพอสมควรครับ และที่นี่ก็ได้พบกับดอกเทียน

น้ำตกแม่โถชั้นที่ 2

ถ่ายภาพดอกไม้ที่มีฉากหลังเป็นน้ำตกบ้าง หากมีขึ้นเยอะ ๆ คงงดงามไม่แพ้ดอกลิ้นมังกรสีชมพูที่น้ำตกหมันแดงแน่นอนครับ

ถ่ายรูปดีเจจอมยุ่งมุมเท่กับน้ำตกบ้าง
สำหรับดอกไม้ชนิดนี้นั้นหากข้อมูลไม่ผิดนั้นจะอยู่ใน Genus: Impatiens Family: Balsaminaceae มีมากกว่า 1000 ชนิดทั่วโลก สำหรับประเทศไทยนั้น มีมากกว่า 80 ชนิด เป็นพืชล้มลุกเฉพาะถิ่นซึ่งในแต่ละพื้นที่ก็จะมีชื่อเรียกที่แตกต่างกันไปครับ เช่น เทียนธารา ก็จะพบที่ดอยสุเทพ เทียนกาญจนบุรี ก็จะพบเฉพาะที่กาญจนบุรี ซึ่งสีสันของดอกเทียนนั้นก็จะแตกต่างกันไปในแต่ละพื้นที่ครับ จะขอเรียกดอกชนิดนี้ตามชื่ออุทยานแห่งชาติก่อนว่า ดอกเทียนขุนแจนะครับ ผิดพลาดอย่างไรต้องขออภัยไว้ด้วย

น้ำตกแม่โถชั้นที่ 2 ระหว่างเดินขึ้นไปที่ชั้นที่ 3

น้ำตกแม่โถชั้นที่ 3

สำหรับชั้นที่ 4 นั้นไม่สวยงามเท่าใดนักจึงถ่ายมากับดอกเทียนแทนครับ
และก็มาถึงจุดหมายปลายทางครับ สำหรับน้ำตกแม่โถ ชั้นที่ 5 ซึ่งมีความสูงประมาณ 40 เมตรตามข้อมูลของอุทยานแห่งชาติครับ เป็นน้ำตกที่มีความงดงามมาก ละอองน้ำจากความแรงของน้ำตกฟุ้งไปทั่ว ทำให้บริเวณรอบ ๆ อากาศเย็นสบาย และนี่เป็นจุดสิ้นสุดการเดินทาง ซึ่งในความเป็นจริงแล้วยังมีชั้นที่ 6 และชั้นที่ 7 เหนือขึ้นไปอีก แต่ไม่สามารถไปต่อได้แล้วครับเพราะทางขึ้นไปเป็นต้องปีนผาขึ้นไปค่อนข้างอันตราย หลังจากได้ชื่นชมกับธรรมชาติอย่างเต็มอิ่มแล้วจึงได้เดินทางกลับครับ เชิญชมภาพความสวยงามของน้ำตกกันเลยครับ
ก่อนจบทริปนี้ขอปิดท้ายเรื่องเล่าจากป่ากันสักหน่อยครับ สำหรับอุทยานแห่งชาติขุนแจแห่งนี้ มีสัตว์ป่าชุกชุมมาก แม้แต่ในปัจจุบันยังสามารถพบหมีควายได้ในป่าชั้นใน ซึ่งระหว่างทางที่เราเดินไปนั้นได้ยินเสียงนก ลิง กระรอก (ตัวใหญ่มาก) ร้องตลอดทางครับ และก็ยังพบกับรอยเท้าของหมูป่าอีกด้วย ซึ่งนับได้ว่าป่าแห่งนี้ยังสมบูรณ์อยู่มาก อีกทั้งพืชพันธุ์อุดมสมบูรณ์สมกับเป็นป่าดิบเขาอีกด้วย ระหว่างทางแม้จะเป็นช่วงปลายฝนแล้วก็ยังพบทากอีกด้วยการไปควรเตรียมความพร้อมให้ดีครับ และฝากไว้สำหรับการที่เราจะช่วยรักษาผืนป่าไว้ ส่วนหนึ่งที่เราทำได้ก็คือ การไม่เก็บพันธุ์ไม้ป่าออกมา และไม่ทิ้งขยะไว้ เราควรเก็บเพียงภาพไว้เป็นความทรงจำ และทิ้งไว้เพียงรอยเท้า เพื่อให้ป่าที่สมบูรณ์ตกทอดไปยังลูกหลานของเราภายภาคหน้าได้มาชมกันต่อไปครับ
น้ำตกแม่โถ ตั้งอยู่ที่ บ้านแม่โถ อุทยานแห่งชาติขุนแจ ต.แม่เจดีย์ใหม่ อ. เวียงป่าเป้า จ. เชียงราย 57260 โทรศัพท์ 053-163364 (VoIP) , 084-366 5213
เดินป่าที่ป่าปิด เส้นทางสู่น้ำตกแม่โถ อุทยานแห่งชาติขุนแจ จังหวัดเชียงราย
และทริปนี้ไม่ได้ไปแค่คนเดียวเหมือนครั้งก่อน ๆ ได้รับเกียรติจากดีเจจอมยุ่งแห่งคลื่น 94 EFM สหายร่วมอุดมการณ์ผู้รักในธรรมชาติและการล่องไพรมาร่วมในการเดินทางครั้งนี้ด้วยครับ
ที่นี่มีดอกไม้อยู่ชนิดหนึ่งที่ขึ้นที่น้ำตกแบบนี้ สวยงามมากครับ ผมไม่มั่นใจว่าชื่อของมันถูกต้องหรือไม่ แต่ค่อนข้างมั่นใจว่าอยู่ในประเภท ดอกเทียน จะกล่าวต่อในรายละเอียดต่อไป แต่ตอนนี้จะขอเล่าตั้งแต่เริ่มต้นก่อนครับ
เริ่มจากการติดต่ออุทยานแห่งชาติขุนแจก่อน โดยหลัก ๆ แล้วนักท่องป่าก็จะมาขึ้นดอยลังกาหลวงกัน ซึ่งดอยลังกาหลวงนี้เป็นต้นน้ำของน้ำตกแม่โถแห่งนี้นั่นเอง ดอยลังกาหลวงนั้นเป็นดอยที่มีความสูงเกิน 2,000 เมตรครองอันดับความสูงที่ 5 ของประเทศไทย เป็นอีกหนึ่งสถานที่แนะนำหากใครต้องการเดินป่าสายทรหดกัน เพราะต้องใช้เวลาเดินทางไปกลับประมาณ 4 วัน 3 คืนครับ ในครั้งนี้ผมจึงเลือกเดินทางแบบไปวันเดียวกลับ ณ น้ำตกแม่โถ แต่การเดินป่าเพื่อไปชมน้ำตกไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด ซึ่งจะกล่าวต่อไป
การติดต่อกับอุทยานแห่งชาติควรเผื่อเวลาติดต่อล่วงหน้ากันสักนิด เนื่องจากที่ทำการค่อนข้างอับสัญญาณ ทั้งหมายเลข VoIP และโทรศัพท์มือถือตามในเว็บไซต์ของอุทยานแห่งชาตินั้นโทรติดได้ค่อนข้างยากครับ ต้องพยายามติดต่อเรื่อย ๆ และเจ้าหน้าที่อุทยานที่สามารถนำทางไปน้ำตกแห่งนี้ได้นั้นมีเพียงท่านเดียว เนื่องจากเป็นผู้คุ้นเส้นทางที่สุด เมื่อนัดแนะกับเจ้าหน้าที่ได้แล้วซึ่งแนะนำว่าควรนัดและไปถึงอุทยานแห่งชาติเวลาประมาณ 8.00 น.ครับ เพราะว่าหลังจากนั้นต้องนั่งรถกระบะขับเคลื่อนสี่ล้อของทางอุทยานเข้าไปที่ปากทางเดินเข้าน้ำตกกันอีกประมาณ 45 นาที จึงเริ่มเดินเท้าเข้าป่ากัน ระหว่างทางก็ต้องเตรียมอาหารกลางวันเข้าไปทาน ระยะเวลาที่ใช้ในการเดินทั้งหมดไปกลับประมาณ 4-5 ชั่วโมง รวมเวลานั่งรถแล้วก็ใช้เวลาประมาณ 6 ชั่วโมงครับขึ้นอยู่กับว่าเราจะใช้เวลาอยู่ในน้ำตกนานหรือไม่ ระยะทางไปกลับอยู่ที่ประมาณ 8 กิโลเมตร แต่เป็นพื้นที่ป่าที่ค่อนข้างรก ร่องทางปิดบางช่วงและทางชันเป็นระยะ จึงควรต้องออกตัวกันตั้งแต่เช้า (ระยะทางเดินทางจากตัวเมืองเชียงใหม่ถึงอุทยานแห่งชาติขุนแจอยู่ที่ประมาณ 65 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง โดยใช้ทางหลวงหมายเลข 118 เป็นเส้นทางเดียวกับที่จะไปจังหวัดเชียงรายครับ)
หลังจากที่พบกับเจ้าหน้าที่แล้วก็ได้เวลาออกเดินทาง ผมขอข้ามช่วงนั่งรถของเจ้าหน้าที่เข้ามาถึงปากทางเดินแล้วเริ่มกันที่การเดินเท้าเข้าสู่น้ำตกกันเลยครับ ในบริเวณทางเข้าน้ำตกนั้น เคยเป็นที่อยู่อาศัยของชาวเขามาก่อน ซึ่งหลังจากที่ทางการจัดพื้นที่สำหรับอยู่อาศัยใหม่ ชาวบ้านแถบนี้จึงได้รื้อถอนและย้ายกันไปหมดแล้ว ในเส้นทางเดินป่าช่วงแรกนั้น เป็นทางเดินรถเก่าที่รถไม่สามารถเข้าได้แล้ว ซึ่งการเดินก็ยังสบาย ๆ อยู่ครับ ต้นไม้ที่ขึ้นบริเวณนี้จะเป็นสนสามใบสลับกับพันธุ์ไม้อื่น ๆ เมื่อเดินได้สักพักเราก็จะเข้าสู่โซนป่าชั้นในกัน
ข้างทางในการเดินเราก็จะพบกับวิวทิวเขาอันสวยงามแบบนี้ครับ
ลูกสนตกอยู่ทั่วบริเวณระหว่างทางเดิน
ภาพทางเดินในป่าชั้นนอกครับ มีเจ้าหน้าที่นำทางเดินฉับ ๆ ก้าวขาอย่างไว สังเกตได้ว่าต้นไม้แต่ละต้นนั้นสูงมาก
ที่นี่พบใบไม้ผลัดใบเปลี่ยนเป็นสีแดงในโซนป่าชั้นนอกครับ ซึ่งแปลกสำหรับป่าดิบเขาซึ่งเป็นป่าไม่ผลัดใบ
ดอกผกากรองดอกไม้สีสวยหวาน ๆ พบได้ทั่วไปในเมืองก็นิยมปลูกกันครับ
พบพืชพันธุ์หลากหลาย
เห็ดพบตามขอนไม้ทั่วไป
เริ่มเข้าโซนชั้นในกันบ้างครับ
พบดอกไม้สีม่วงสวยงามระหว่างทาง
ดีเจจอมยุ่งนักลุยป่าของเรายังไหวสบาย ๆ ครับ
หลังจากที่เราเดินเข้ามาในป่าโซนชั้นใน การเดินก็เริ่มยากและต้องระมัดระวังมากขึ้นเรื่อย ๆ ร่องทางก็เริ่มหายไป ซึ่งพอมาถึงจุดที่เป็นธารน้ำตามรูปด้านล่างก็จะต้องลุยป่าแบบก้ม ๆ คลาน ๆ กันเลยทีเดียวครับ
จากจุดนี้เราจะต้องเดินข้ามธารน้ำไป
เจ้าหน้าที่อุทยานฯ บอกว่า "เราจะตรงไปน้ำตกโดยใช้เส้นทางนี้" ผมนี่มองไปรอบ ๆ สงสัยว่าตรงไหนคือเส้นทางที่ว่า หลังพูดจบพี่แกเดินฉับ ๆ มุดเข้าไปในดงตามที่เห็นแบบในรูป และนี่คือส่วนหนึ่งของการเดินป่าในครั้งนี้ครับต้องไปในทางแบบนี้เป็นระยะกว่า 500 เมตรได้อีกทั้งที่พื้นยังมีความชื้นและมีทากทำให้เพิ่มความลำบากเข้าไปอีกระดับ
ช่วงการเดินทางที่ยากลำบากที่สุดก็ได้สิ้นสุดลงหลังจากหลุดออกมาจากจุดที่รกทึบแล้วก็จะเดินไปตามขอบทางของธารน้ำได้แล้วครับหลังจากที่เดินไปอีกสักพักก็มาถึงน้ำตกชั้นที่ 1 ซึ่งสวยงามมากครับ
ทางเดินตามธารน้ำก่อนถึงน้ำตกชั้นแรก
น้ำตกแม่โถชั้นที่ 1
น้ำตกแม่โถชั้นที่ 1 ในแนวตั้งบ้าง
น้ำตกแม่โถแต่ละชั้นนั้นจะอยู่ติด ๆ กันเลยครับ ระยะห่างไม่ทิ้งกันมาก และก็มาถึงชั้นที่สองที่มีความกว้างมากพอสมควรครับ และที่นี่ก็ได้พบกับดอกเทียน
น้ำตกแม่โถชั้นที่ 2
ถ่ายภาพดอกไม้ที่มีฉากหลังเป็นน้ำตกบ้าง หากมีขึ้นเยอะ ๆ คงงดงามไม่แพ้ดอกลิ้นมังกรสีชมพูที่น้ำตกหมันแดงแน่นอนครับ
ถ่ายรูปดีเจจอมยุ่งมุมเท่กับน้ำตกบ้าง
สำหรับดอกไม้ชนิดนี้นั้นหากข้อมูลไม่ผิดนั้นจะอยู่ใน Genus: Impatiens Family: Balsaminaceae มีมากกว่า 1000 ชนิดทั่วโลก สำหรับประเทศไทยนั้น มีมากกว่า 80 ชนิด เป็นพืชล้มลุกเฉพาะถิ่นซึ่งในแต่ละพื้นที่ก็จะมีชื่อเรียกที่แตกต่างกันไปครับ เช่น เทียนธารา ก็จะพบที่ดอยสุเทพ เทียนกาญจนบุรี ก็จะพบเฉพาะที่กาญจนบุรี ซึ่งสีสันของดอกเทียนนั้นก็จะแตกต่างกันไปในแต่ละพื้นที่ครับ จะขอเรียกดอกชนิดนี้ตามชื่ออุทยานแห่งชาติก่อนว่า ดอกเทียนขุนแจนะครับ ผิดพลาดอย่างไรต้องขออภัยไว้ด้วย
น้ำตกแม่โถชั้นที่ 2 ระหว่างเดินขึ้นไปที่ชั้นที่ 3
น้ำตกแม่โถชั้นที่ 3
สำหรับชั้นที่ 4 นั้นไม่สวยงามเท่าใดนักจึงถ่ายมากับดอกเทียนแทนครับ
และก็มาถึงจุดหมายปลายทางครับ สำหรับน้ำตกแม่โถ ชั้นที่ 5 ซึ่งมีความสูงประมาณ 40 เมตรตามข้อมูลของอุทยานแห่งชาติครับ เป็นน้ำตกที่มีความงดงามมาก ละอองน้ำจากความแรงของน้ำตกฟุ้งไปทั่ว ทำให้บริเวณรอบ ๆ อากาศเย็นสบาย และนี่เป็นจุดสิ้นสุดการเดินทาง ซึ่งในความเป็นจริงแล้วยังมีชั้นที่ 6 และชั้นที่ 7 เหนือขึ้นไปอีก แต่ไม่สามารถไปต่อได้แล้วครับเพราะทางขึ้นไปเป็นต้องปีนผาขึ้นไปค่อนข้างอันตราย หลังจากได้ชื่นชมกับธรรมชาติอย่างเต็มอิ่มแล้วจึงได้เดินทางกลับครับ เชิญชมภาพความสวยงามของน้ำตกกันเลยครับ
ตากล้องขอมีรูปตัวเองบ้าง
ก่อนกลับก็ต้องขอถ่ายภาพกับพี่โด่ง เจ้าหน้าที่ผู้นำทางเราเข้ามาถึงน้ำตกครับ
ก่อนจบทริปนี้ขอปิดท้ายเรื่องเล่าจากป่ากันสักหน่อยครับ สำหรับอุทยานแห่งชาติขุนแจแห่งนี้ มีสัตว์ป่าชุกชุมมาก แม้แต่ในปัจจุบันยังสามารถพบหมีควายได้ในป่าชั้นใน ซึ่งระหว่างทางที่เราเดินไปนั้นได้ยินเสียงนก ลิง กระรอก (ตัวใหญ่มาก) ร้องตลอดทางครับ และก็ยังพบกับรอยเท้าของหมูป่าอีกด้วย ซึ่งนับได้ว่าป่าแห่งนี้ยังสมบูรณ์อยู่มาก อีกทั้งพืชพันธุ์อุดมสมบูรณ์สมกับเป็นป่าดิบเขาอีกด้วย ระหว่างทางแม้จะเป็นช่วงปลายฝนแล้วก็ยังพบทากอีกด้วยการไปควรเตรียมความพร้อมให้ดีครับ และฝากไว้สำหรับการที่เราจะช่วยรักษาผืนป่าไว้ ส่วนหนึ่งที่เราทำได้ก็คือ การไม่เก็บพันธุ์ไม้ป่าออกมา และไม่ทิ้งขยะไว้ เราควรเก็บเพียงภาพไว้เป็นความทรงจำ และทิ้งไว้เพียงรอยเท้า เพื่อให้ป่าที่สมบูรณ์ตกทอดไปยังลูกหลานของเราภายภาคหน้าได้มาชมกันต่อไปครับ
น้ำตกแม่โถ ตั้งอยู่ที่ บ้านแม่โถ อุทยานแห่งชาติขุนแจ ต.แม่เจดีย์ใหม่ อ. เวียงป่าเป้า จ. เชียงราย 57260 โทรศัพท์ 053-163364 (VoIP) , 084-366 5213