สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 11
เท่าที่ทราบมาคนอายุมากๆในเขตสามจังหวัดมักจะยังมีไม่ตรีกับคนพุทธตามที่เคยเป็นมาแต่ดั้งเดิมครับ พวกมุสลิมที่เกลียดคนพุทธส่วนใหญ่มักจะเป็นคนหนุ่ม วัยรุ่นที่เป็นคนรุ่นใหม่ๆ ซึ่งพวกนี้ประสบการณ์น้อยทำให้หลงเชื่อการสอนศาสนาแบบผิดๆของพวกคลั่งศาสนา
หลวงปู่องค์หนึ่งที่ผมรู้จักบ้านเกิดท่านอยู่ปัตตานีปีก่อนท่านก็เดินทางกลับไปเยี่ยมเยียนบ้านเกิด พอเข้าไปถึงหมู่บ้านพวกเด็กหนุ่มและวัยรุ่นเห็นท่านเข้าเท่านั้นก็เอะอะโวยวายราวกับเกิดเรื่องใหญ่โตและมีทีท่าไม่ค่อยเป็นมิตร แต่พอหลวงปู่ท่านเดินต่อมาจนมาพบกับคนอายุมากหน่อยที่รู้จักกันมาก่อนคนเหล่านั้นก็ทักทายท่านเป็นอย่างดีไม่มีทีท่ารังเกียจแต่อย่างใด ยังคงมีมิตรภาพไม่แบ่งแยกเขาแยกเราเหมือนสมัยก่อน
หลวงปู่องค์หนึ่งที่ผมรู้จักบ้านเกิดท่านอยู่ปัตตานีปีก่อนท่านก็เดินทางกลับไปเยี่ยมเยียนบ้านเกิด พอเข้าไปถึงหมู่บ้านพวกเด็กหนุ่มและวัยรุ่นเห็นท่านเข้าเท่านั้นก็เอะอะโวยวายราวกับเกิดเรื่องใหญ่โตและมีทีท่าไม่ค่อยเป็นมิตร แต่พอหลวงปู่ท่านเดินต่อมาจนมาพบกับคนอายุมากหน่อยที่รู้จักกันมาก่อนคนเหล่านั้นก็ทักทายท่านเป็นอย่างดีไม่มีทีท่ารังเกียจแต่อย่างใด ยังคงมีมิตรภาพไม่แบ่งแยกเขาแยกเราเหมือนสมัยก่อน
แสดงความคิดเห็น
ภาพสุดประทับใจ มิตรภาพ2ศาสนา"บังมะ"วัย68 ช่วย"หลวงตา"ขณะบิณฑบาตที่ปัตตานี(คลิป)
เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ท่ามกลางเหตุรุนแรงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ แต่มิตรภาพการช่วยเหลือกันระหว่างชาวไทยที่นับถือศาสนาอิสลามกับพระสงฆ์ชาวพุทธในพื้นที่ยังมีให้เห็น จนกลายเป็นภาพสุดประทับใจท่ามกลางความหลากหลายของเชื้อชาติศาสนา โดยเฉพาะเขตเทศบาลเมืองปัตตานี ก่อนนี้เคยเห็นข่าว นายอุเซ็ง แวหลง หรือ บังเซ็ง อายุ 79 ปี คอยปั่นจักรยานสามล้อรับส่งพระวีระ จิตตธัมโม หรือ หลวงตาวีระ อายุ 75 ปี จากวัดตานีนรสโมสร หรือวัดกลาง ออกบิณฑบาตไปตามชุมชนทุกๆ เช้า แต่หลายเดือนมานี้ บังเซ็งป่วย และจากอายุมาก ร่างกายไม่แข็งแรง จึงเลิกอาชีพปั่นสามล้อและการช่วยเหลือหลวงตา
แต่มิตรภาพต่างศาสนาไม่ได้ยุติลงเมื่อภาพอันสุดประทับใจที่ห่างหายไปนานหลายเดือนได้กลับมาให้ชาวเมืองปัตตานีได้พบเห็นคุ้นตาอีกครั้ง เมื่อ นายมะ แวหามะ หรือ บังมะ อายุ 68 ปี ชาวไทยมุสลิม ได้ขอเข้ามาช่วยเหลือ คอยรับส่งหลวงตาจากวัด รับบิณฑบาตจากญาติโยมเขตเทศบาลเมืองปัตตานี โดยภาพชินตา เนื่องจาก หลวงตาอายุมาก เดินเหินไม่ค่อยสะดวก แต่ยังคงทำกิจสงฆ์ มีบังมะทำหน้าที่ปั่นสามล้อตามรับสิ่งของบิณฑบาตไว้บนรถสามล้อ หลังเสร็จกิจจะปั่นสามล้อกลับไปส่งหลวงตาที่วัด ได้รับแบ่งปันสิ่งของและค่าเหนื่อยจากการปั่นสามล้อเป็นการตอบแทนให้กับมิตรไมตรีต่อกันด้วยความรู้สึกถ้อยทีถ้อยอาศัยให้เกียรติกันและกัน อีกทั้งภาพที่ผู้คนทั่วไปได้พบเห็นนั้นต่างบอกในทางเดียวกันว่าเป็นภาพที่ดีเป็นภาพสุดประทับใจ เพราะศาสนาทุกศาสนาไม่ได้สอนให้มีการแบ่งชนชั้นและมีความแตกแยกกัน
ด้าน นายมะ แวหามะ หรือ บังมะ อายุ 68 ปี กล่าวว่า อยู่ในประเทศไทย เราทุกคนก็เป็นคนไทยเหมือนกัน ต่างกันก็ตรงแค่การนับถือศาสนา เช่น ยามคนไทยที่นับถือศาสนาอิสลาม ไปเสียชีวิตอยู่ต่างประเทศ เขาก็จะบอกว่าคนไทยที่เสียชีวิต ส่วนที่มาช่วยเหลือรับส่งหลวงตาออกบิณฑบาตนั้น เพราะบังเซ็งไม่สบาย จึงอาสาจะมาช่วยเหลือ ตอนนี้ยิ่งรู้สึกว่าสนิท ผูกพัน เพราะหลวงตาเป็นคนใจกว้าง ช่วยเหลือเกื้อกูลตลอด แม้กระทั่งตอบแทนค่าเหน็ดเหนื่อยจากการปั่นสามล้อรับส่ง ส่วนใครจะมองว่าไม่เหมาะสม มาช่วยเหลือคนต่างศาสนา โดยเฉพาะกับพระสงฆ์ด้วยนั้น มองว่าไม่เกี่ยวกัน เพราะเคยสอบถามเพื่อนสมัยเรียนที่ตอนนี้เขาเป็นครูสอนศาสนาแล้ว เพื่อนบอกว่าเราแค่ช่วยเหลือ รับจ้างปั่นสามล้อรับส่ง ไม่ได้กราบไหว้บูชา จึงไม่ได้ขัดต่อหลักศาสนาอิสลาม
เครดิต มติชนออนไลน์ http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1447123241