[CR] บันทึกฉบับย่อ จากพื้นดินสู่ยอดดอยหลวงเชียงดาว

สวัสดีค่าสมาชิกพันทิป ช่วงนี้ก็ถึงฤดูกาลปีนเขา ปีนดอยกันแล้ว หลายๆ คนคงจะวางแผนอยู่ว่าจะไปที่ไหนดี ส่วนเราเพิ่งไปกลับมาค่ะ ปีนี้เราเลือกไปที่ดอยหลวงเชียงดาว ดอยที่สูงเป็นอันดับที่สามของประเทศไทย แต่เดี๋ยว...กระทู้นี้เราไม่ได้มารีวิวรูปสวยๆ นะคะ(รูปจากมือถือทั้งนั้นค่า สวยตามสภาพ) แต่...เราจะมาเล่าประสบการณ์จากดอยหลวงเชียงดาวกัน วันหนึ่งทางอุทยานจะอนุญาตให้นักท่องเที่ยวขึ้นได้ 150 คนต่อวันนะคะ ใครวางแผนจะไปต้องจองล่วงหน้าค่ะ

ทริปนี้เราไปกัน 5 สาวค่ะ และด้วยความขี้เกียจติดต่อเองเราเลยเลือกที่จะจองผ่านรีสอร์ทค่ะ เป็น package ขึ้นดอย 3 วัน 2 คืน ส่วนราคาไม่แพงค่ะใครอยากทราบให้หลังไมค์มาถามนะคะ โดยราคานี้รวมค่าไกด์ ลูกหาบ ค่าเข้าอุทยาน ค่าอาหาร 6 มื้อ ค่ารถรับ-ส่ง และน้ำดื่ม

ก่อนขึ้นดอยหนึ่งวันเราเลือกจะไปนอนพักที่รีสอร์ทที่เราฝากให้จองทริปให้ค่ะก็คือ The Teak resort รีสอร์ทเล็กๆ น่ารัก อบอุ่น เป็นกันเอง ได้เห็นวิวทางด้านหน้าของดอยหลวงเชียงดาวด้วยนะ ใจเราก็คิดพรุ่งนี้ล่ะฉันจะไปพิชิต ยิ้ม ใครสนใจลองเข้าไปหาข้อมูลในอินเตอร์เนตดูนะคะ ปล.อาหารรีสอร์ทก็อร่อยค่า


จากในตัวเมืองเชียงใหม่เรามีวิธีเดินทางมาเชียงดาวหลายวิธีนะคะ แต่เรานั่งรถตู้มาค่ะเป็นรถตู้เชียงใหม่-ฝาง แต่เราลงเชียงดาวแต่ท่ารถคือท่ารถท่าตอนนะคะ ใครเลือกนั่งรถตู้มาให้โทรจองล่วงหน้าสักอาทิตย์ค่ะ เพราะเราไม่ได้จองล่วงเกือบไม่มีที่นั่ง แต่ก็ยังโชคดี รถตู้ไปขึ้นที่ด้านหลังของท่ารถช้างเผือกนะคะ เบอร์รถตู้ 053-211-577 ค่ารถ 150 บาทนั่งรถไปประมาณ 1.30 ชม ถึงท่ารถท่าตอนทางรีสอร์ทก็ให้รถมารับค่า

วันรุ่งขึ้นนัดไกด์มารับที่รีสอร์ท 8.30 น. นั่งรถไปที่ทางขึ้นดอยประมาณ 1.30 ชม ก็ถึงค่ะ ทางขึ้นนี่ไม่ธรรมดานะคะ เป็นถนนลูกรังขึ้นดอย สวนกันลำบาก น่าจะเป็นกระบะกับโฟร์วิลที่ขึ้นได้  นั่งไปก็เด้งดึ๋งๆ ก้นระบมตั้งแต่ขึ้นรถไปทางขึ้นแล้วค่ะ 55 ลืมบอกไปเราไปขึ้นทางเด่นหญ้าขัดนะคะไม่ใช่ปางวัว ไกด์แนะนำค่ะว่าเดินขึ้นทางเด่นหญ้าขัด แล้วลงทางปางวัว สองทางนี้ต่างกันตรงนี้ทาเด่นหญ้าขัดเดินไกลกว่า แต่เดินสบายกว่า ทางปางวัวเดินใกล้กว่า แต่ชันกว่ามาก ระยะทางต่างกันประมาณ 2 km แต่หลังจากเราลงมาแล้วเราว่าขึ้นลงทางเด่นหญ้าขัดน่าจะเวิร์คกว่า แต่วิวสองทางไม่เหมือนกันนะคะ คนละบรรยากาศ ก่อนจะเดินขึ้นดอยก็มองหาไม้ไผ่ขนาดพอดีตัวเรา คนที่เดินลงมาก่อนเราเค้าวางทิ้งไว้ จำเป็นมากๆเหมือนกัน นอกจากจะช่วยพยุงน้ำหนักแล้วป้องกันการบาดเจ็บเข่าด้วย พอลงมาถึงข้างล่างก็วางไว้ให้คนอื่นๆ ได้ใช้แบ่งๆ กันไป

ทางเดินที่ดอยหลวงเชียงดาวเป็นดินโคลนค่ะ เดินแล้วค่อนข้างลื่น เราถามไกด์เค้าบอกว่าเป็นแบบนี้ทั้งปีเพราะว่าเงาเขามันบังแดด แถมกลางคืนก็เจอน้ำค้างอีก เพราะฉะนั้นเดินต้องระวังกันมากๆ นะคะ รองเท้าก็เลือกที่มีดอกยางดีๆ หน่อย เรามีสภาพรองเท้ากับขากางเกงให้ดูอันนี้แค่สภาพจากขาขึ้น แต่เราเห็นไกด์กับลูกหาบใช้ของจีนแดงคู่ละ 100 บาทค่ะเค้าว่าซื้อได้จากร้านขายของชำแถวๆ  เชียงดาว เราว่าดีกว่ารองเท้าที่เราใช้เป็นหลายเท่า เพราะล้มก้นกระแทกหลายรอบเชียว เว้นแต่ว่าใครความสามารถในการบาลานซ์ตัวสูง 555


เวลาผ่านไปสี่ชั่วโมงกว่าๆ ก็มาถึงจุดกางเต๊นท์ที่เรียกว่าอ่านสลุง บอกเลยว่าจุดนี้ดีใจมาก แต่!! อย่าคิดว่าดอยหลวงจะเหมือนดอยอื่นๆ ที่ไหนได้ถ้าอยากดูพระอาทิตย์ขึ้นหรือพระอาทิตย์ตกต้องปีนเขาอีก จุดนี้ร้องในใจเบาๆ "พระเจ้า"

แต่เอาเถอะมาถึงจุดนี้แล้วเราก็ห้ามพลาดล่ะนะ เย็นวันนี้เราทั้งห้าตัดสินใจเดินขึ้นไปดูพระอาทิตย์ตกกันต่อที่ยอดดอยหลวงเชียงดาว และทางขึ้นก็ไม่ธรรมดา เต็มไปด้วยหินทั้งลื่นและชัน แต่ละสเต๊ปก็สูง บอกเลยว่าผู้หญิงตัวเล็กๆ แบบเรานี่ท่าสไปเดอร์แมนมาเลย 555 ค่อยๆ เกาะไป แถมยังเดินแบบแถวตอนเรียงหนึ่งก็ยาวกันไป ในหัวนี้นึกถึงแต่ถุงมือ คือหินมันแหลมอ่ะค่ะ แต่พอขึ้นไปถึงแล้วไม่เสียใจเลยนะวิวสวยมาก มีเด็กผู้ชายสี่ขวบเดินขึ้นมาด้วยนะคะ น่ารักเก่งมากๆ


พระอาทิตย์ตกก็รีบเดินลงมาก่อนที่จะมืดแต่ก็ไม่ทันค่ะ พวกเราพกไฟฉายไปค่ะ แต่เราแนะนำไฟฉายกบที่ติดที่หัวนะคะเพราะทางลงเราต้องใช้มือเกาะค่ะ ไม่งั้นหน้าคว่ำแน่ๆ มาถึงที่เต๊นท์ก็ได้เวลาอาหารพอดี ไม่มีภาพอาหารให้ดูนะคะอาหารมาอยู่ตรงหน้าขนาดนี้บอกเลยว่าไม่คิดถึงรูปค่ะ แถมมืดอีก กินกันอย่างเดียว  มื้อนึงก็สองสามอย่างค่ะ ยกตัวอย่างต้มยำไก่ ไข่เจียว ผัดผักบุ้ง ยำปลากระป๋อง แกงจืดตำลึงเต้าหู้ไข่ ไข่พะโล้ ฯลฯ พวกเราคุยกันว่าอาหารที่ไกด์เตรียมให้ดีกว่าเราหาทานเองด้านล่างอีก ใครบอกว่าขึ้นดอยจะผอม เราพูดได้คำว่าเดียวว่าไม่!! 55

ทานอาหารเสร็จก็ทำธุระส่วนตัวกันค่ะ ห้องน้ำนี่ก็ส้วมหลุม ไกด์เล่าว่าเจ้าหน้าที่ก็จะมาขุดหลุมไว้ลึกประมาณ 2 เมตรได้ ความสูงนี่เรากะด้วยสายตาที่มองผ่านหลุมอย่างรวดเร็ว 55 มีหลายหลุมอยู่นะคะ ใกล้ๆ เต็มก็ขุดหลุมใหม่ หัวเราะเพราะฉะนั้นใครไปช่วงที่หลุมใกล้เต็มนี่อาจจะลำบากหน่อยค่ะ เตรียมทิชชู่เปียกไปเยอะๆ ที่ผ้าปิดจมูกด้วยก็ดีจำเป็นมากๆ เวลาเข้าห้องน้ำค่ะ(เราไม่ได้เอาไป ระทมมาก) แล้วเพราะเรามีน้ำจำกัด จะใช้น้ำล้างมือล้างหน้าอาจจะลำบากหน่อย พวกเราใช้น้ำแค่แปรงฟังค่ะ ทิชชู่เปียกก็เอาแบบที่ใช้เช็ดหน้าได้ด้วย แต่เราพกน้ำแร่ฉีดหน้าไปค่ะ ส่วนใหญ่แล้ไกด์เค้าใช้น้ำทำอาหาร แล้วก็ดื่มค่ะ พวกอุปกรณ์ทำอาหารเค้าใช้วิธีเอาน้ำเช็ดค่ะ ไม่ได้ใช้น้ำยาล้างจานล้างนะคะถ้าใครไม่สบายใจก็พกของเราไปใช้ส่วนตัวได้ค่ะ ส่วนพวกแก้วน้ำเค้าจะให้ไว้เลยใบนึงใช้ดื่ม แปรงฟัง ทุกอย่างเลยคืนวันกลับทีเดียว

วันต่อมาตื่นตีสี่กว่าๆ เพื่อไปดูพระอาทิตย์ขึ้นที่กิ่วลม พูดได้คำเดียวว่าลื่นและชันกว่าตอนไปดูพระอาทิตย์ตก แผลมาเต็มขาเลยจ้า และก็ยังคงคิดถึงถุงมืออีกตามเคย ใช้เวลาเดินประมาณชั่วโมงนึงค่ะ ก็ถึงบนยอด สวยสมใจมากค่ะ เจอทะเลหมอกนี่พีคเลย ไกด์เอาพวกโอวัลตินกาแฟขึ้นไปให้เราดื่มด้านบนด้วย ได้บรรยากาศมาก slow life อย่างแท้จริง อากาศหนาวๆ ดื่มเครื่องอุ่นๆ ฟินมากจ้า โดยส่วนตัวเรา เราชอบวิวบนกิ่วลมมากว่ายอดดอยหลวงเชียงดาว




อยู่บนกิ่วลมดื่มด่ำธรรมชาติสามชั่วโมง พวกเราก็เดินลงมาค่ะ ลงมาถึงก็ไม่รีรอรีบทานข้าวกันเลยทีเดียว หิวมากค่ะ จากนั้นก็พักผ่อนคุยกัน เล่นเกมส์ รอขึ้นไปยอดดอยเชียงดาวไปดูพระอาิทตย์ตกอีกรอบค่ะ ตอนแรกเรากะจะไม่ขึ้นรอบสองแต่สุดท้ายก็ขึ้นค่ะ สรุปว่าไม่ผิดหวังพระอาทิตย์สวยกว่าวันแรกมากๆ เลย วันนี้ไกด์ขึ้นไปกับเราด้วยค่ะ แนะนำดอกไม้เยอะมาก แต่เราไม่ค่อยอินกับดอกไม้เท่าไร จะชื่อไม่ได้ค่อยได้ค่ะ 555 แต่ถ้าใครชอบพวกพฤกษศาสตร์ แนะนำให้มาที่นี่เลยค่ะเยอะมาก แต่ละเดือนก็ไม่เหมือนกันอันนี้คือจากคำบอกเล่าของไกด์นะคะ



ขาลงทีมเราลงทางปางวัวใช้เวลาประมาณ 3 ชม. ค่ะลื่นและชันจริงๆ เห็นไกด์ว่ามีคนล้มจนแขนหักยังไงถ้าใครไปก็เดินด้วยความระมัดระวังนะคะ ไม่ต้องรีบ หาที่เกาะไว้เวลาเจอจุดที่ชันมากๆ ค่ะ ยังไงก็ปลอดภัยไว้ก่อน ลงมาถึงทางไกด์เตรียมน้ำอัดลมไว้ให้พวกเราดื่มกัน สดชื่นมากค่ะ 555 แล้วก็อำลาดอยหลวงเชียงดาวอย่างสมบูรณ์


สำหรับคนที่อยากโทรศัพท์สามารถขึ้นไปใช้ได้ที่ยอดดอยหลวงและกิ่วลมนะคะ มีสัญญาณอยู่

และถ้าใครอยากติดต่อไกด์ที่พาเราไปสามารถหลังไมค์มาขอเบอร์ได้ค่ะ เราว่าเค้าดีเลยค่ะ เต็มที่มากคือเค้าตั้งใจดูแลทีมเรามากค่ะ บางจุดเราไม่อยากไปเพราะว่าเรากลัวความสูง ก็เรียกมาเดินพาไปดูเพราะเค้าเห็นว่าวิวสวย แถมกลัวพวกเราผอมลงมามั้งค่ะ ถามตลอดเวลาว่าอยากทานอะไรมั้ย เอาอาหารเพิ่มมั้ย พวกเราต้องคอยบอกว่าทำน้อยๆ หน่อย แต่ได้คำถามกลับมาว่าผมทำอาหารไม่อร่อยเหรอ 555 เค้าทำอาหารอร่อยค่ะ ใช้ได้เลย แต่อาหารเหลือทุกมื้อ เสียดายของมากค่ะ

หลายครั้งที่เงยหน้าขึ้นไปดูยอดดอยที่เราปีนขึ้นไป เราคิดเสมอว่าเราปีนขึ้นไปได้ยังไงทั้งๆ ที่เป็นคนกลัวความสูง แต่สุดท้ายเราก็ชนะใจตัวเองปีนขึ้นไปได้ ความสวยงามบางอย่างย่อมแลกมาด้วยความลำบากบ้างในบางครั้ง และมันก็จะเป็นความสวยงามที่ไม่มีวันลืมเช่นกัน สุดท้ายนี้ ฉันจะไม่ลืมเธอ ดอยหลวงเชียงดาว เยี่ยมหัวใจ
ดอก Forget Me Not


ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านค่ะ
ชื่อสินค้า:   ดอยหลวงเชียงดาว
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่