look forward ต้องมองไปข้างหน้า จักรยานและความรัก ก็เช่นกัน

เมื่อวันเสาร์ จขกท. ได้มีโอกาสไปปั่นจักรยาน
ซึ่ง เราก็ไม่คิดว่ามันจะเกี่ยวกับเรื่องที่เราจะเล่าสักเท่าไหร่
แต่มันดันมาเกี่ยวกันได้อย่างบอกไม่ถูก
ย้อนไปเมื่อประมาณเดือน มีนาคม ของปีนี้ จขกท ได้รู้จักกับคนคนหนึ่ง
ซึ่งเค้าเข้ามาในช่วงที่ทุกอย่างกำลังดี ทุกอย่างกำลัง เหมาะ
และสุดท้าย ก็จากไป เหมือนกับ สายลม
จขกท ก็มาคิดว่าเรา ทำผิดอะไร เราไม่ดีตรงไหน
คิดวนไปวนมา การงานเริ่มเป๋
คิดอยู่นานจนจนรู้สึกว่า ทำไมเค้ามีผลกระทบต่อตัวเรามากขนาดนี้
และค่อยๆดึงสติกลับมา และตั้งหลักได้ในที่สุด
มาคิดทบทวนว่า สิ่งที่มีผลกระทบต่อเรา ไม่ใช่เค้า
แต่เป็นเพราะตัวเราต่างหากที่ทุ่มรักเค้าไปมาก
เหมือนเวลาสาดน้ำใส่ผนังที่สกปรก เรารีบสาดมัน
ยิ่งสาดแรง ยิ่งเลอะ ยิ่งทำให้เราเปียก
และสุดท้ายก็ต้องมาเสียเวลา อีก
สู้สาดช้าๆ สาดเบาๆ ใส่ใจรายละเอียด สุดท้ายมันก็สะอาด

มันคงเหมือนกัน จขกท. ก็คิดอยู่นานเหมือนกัน
แล้วก็พบว่า
เอิ่มมันน่าจะใช่นะ
เราอาจจะรักเค้า โดยที่เค้าไม่ได้รักเราเลยก็ได้
สุดท้าย เราเองที่เจ็บปวดและจมดิ่งอยู่กับความรู้สึกนั้นเอง

จนเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา จขกท ไปงานปั่นงานหนึ่ง
ก็ปั่นจักรยานจากที่พักไปงาน
ด้วยความที่ไม่คิดว่าโลกกลม ก็เจอ คนที่ทำให้ จขกท. ต้องมาเขียนระบายวันนี้
เราไม่ได้ทักกัน เพราะ จขกท ใส่ผ้าปิดหน้า ใส่หมวก
และก็เดินผ่านไปเฉยๆ ในใจคิดว่าเราต้องไปข้างหน้า

ตลอดเวลาของการปั่น จขกท. คิดย่างเดียวว่า ต้องปั่นไปข้างหน้า
เพราะถ้ามัวแต่มองกลับหลังไปเราก็จะมองไม่เห็นสิ่งที่อยู่ข้างหน้า
มองไม่เห็นความสุขข้างทาง
บางครั้ง เราก็ไม่มีทางรู้เลยว่า ตรงทางเลี้ยว หรือทางแยกข้างหน้ามันจะมีอะไรรอเราอยู่
เราจะปั่นผ่านตรงนี้ไหม
เราจะไหวไหม
แต่ไม่ว่ายังไงมาตอนนี้ จขกท. คิดว่าตัวเองพลาดอะไรไปหลายอย่างในช่วงแรก

จนมาคิดได้ตอนนี้ว่า
เราไม่จำเป็นต้องมองข้างหน้าตลอดเวลา
บางครั้งเราก็ต้องมองข้างหลังบ้าง
มองข้างทางบ้าง เก็บความสุขให้ได้ตลอดการเดินทาง
เราไม่รู้หรอกว่า โลกมันจะกลมแค่ไหน

อยากจะบอกใครคนนั้นว่า
เรายืนได้ด้วยตัวของเราแล้วนะ
ถึงแม้ว่าเค้าอาจไม่รู้ก็ตาม

วันนี้ฉันมองไปข้างหน้า โดยไม่มีคราบน้ำตา ของเมื่อวานแล้วนะ

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่