ทั้งชีวิต เราต่างก็มีเรื่องราวมากมายสินะ... แต่เชื่อว่าไม่ว่าใคร ก็ต้องเกลียดการจากลา ไม่ว่าจะด้วยรอยยิ้มหรือน้ำตาก็ตาม
คิดว่าเราแปลกมั้ย ถ้าเราไม่อยากที่จะสนิทกับใครเลย ไม่อยากจะรู้สึกดี หรือเป็นเพื่อนกับใครอีกแล้ว เพราะว่าไม่อยากที่จะเจ็บปวดตอนจากลากัน
เช่น การจากลาติดตัวเรามาตั้งแต่เราเด็กๆแล้วค่ะ ตอนป.6ก็ต้องจากลากับเพื่อนๆที่อยู่ด้วยกันมาหลายปีตั้งแต่อนุบาลยันป.6 พอม.1ก็ไปกันคนละทิศละทางแล้ว จบม.3ก็ต้องกระจัดกระจายแยกย้ายกันอีก ม.6ก็เหมือนกัน แยกไปมา จากลากันไปอีก จบมหาวิทยาลัยก็เช่นกัน... ชีวิตมันก็มีแต่แบบนี้ ไม่เคยมีใครคิดบ้างเหรอคะ?
กีฬาสีก็เหมือนกัน พอจบ น้องแสตนต้องแยกย้ายกับพี้สตาฟฟ เชียร์ลีดเดอร์ที่มารวมกันก็แยกย้ายไป
ไม่มีใครคอยอยู่กับเราตลอดเวลา
ตอนเราตายก็ต้องจากลา สุดท้ายชีวิตไม่ว่าจะทำอย่างไร ก็ต้องจบด้วยการจากลาอยู่ดีน่ะแหละ.... นะคะ
ชีวิตมันก็แค่....การจากลาที่มาเป็นชุดๆเท่านั้นไม่ใช่เหรอ?
คิดว่าเราแปลกมั้ย ถ้าเราไม่อยากที่จะสนิทกับใครเลย ไม่อยากจะรู้สึกดี หรือเป็นเพื่อนกับใครอีกแล้ว เพราะว่าไม่อยากที่จะเจ็บปวดตอนจากลากัน
เช่น การจากลาติดตัวเรามาตั้งแต่เราเด็กๆแล้วค่ะ ตอนป.6ก็ต้องจากลากับเพื่อนๆที่อยู่ด้วยกันมาหลายปีตั้งแต่อนุบาลยันป.6 พอม.1ก็ไปกันคนละทิศละทางแล้ว จบม.3ก็ต้องกระจัดกระจายแยกย้ายกันอีก ม.6ก็เหมือนกัน แยกไปมา จากลากันไปอีก จบมหาวิทยาลัยก็เช่นกัน... ชีวิตมันก็มีแต่แบบนี้ ไม่เคยมีใครคิดบ้างเหรอคะ?
กีฬาสีก็เหมือนกัน พอจบ น้องแสตนต้องแยกย้ายกับพี้สตาฟฟ เชียร์ลีดเดอร์ที่มารวมกันก็แยกย้ายไป
ไม่มีใครคอยอยู่กับเราตลอดเวลา
ตอนเราตายก็ต้องจากลา สุดท้ายชีวิตไม่ว่าจะทำอย่างไร ก็ต้องจบด้วยการจากลาอยู่ดีน่ะแหละ.... นะคะ