เราเองเป็นอีกหนึ่งคนที่มีความใฝ่ฝัน
ซึ่งเราฝันอยากจะเป็นช่างภาพเก่ง ๆ คนหนึ่ง …
เราได้มีโอกาสมาเรียนต่อด้านภาษาที่ Melbourne
ใครกันนะที่บอกว่าเป็นนักเรียนนอกมันสบาย อยากจะมองแรงจริง ๆ
เรียน 5 วันตั้งแต่เช้าถึงบ่าย
เรียนเสร็จบ่ายก็รีบออกไปทำงานพิเศษ
เลิกงานกลับถึงบ้านเที่ยงคืน
การบ้านก็ต้องทำ หนังสือก็ต้องอ่าน จะขาดเรียนที attendance ก็ตามหลอกหลอน
วันหยุดเหรอ ตื่นนอนก็ปาเข้าไปเกือบบ่าย อาบน้ำกินข้าวเสร็จก็รีบออกไปทำงานพิเศษต่อ
ความเป็นจริงแล้วยอมรับว่าชีวิตที่นี่ผิดจากที่คิดไว้มากเลยล่ะ
ภาระหน้าที่ที่สำคัญกว่าอาจทำให้เราหลงลืมความใฝ่ฝันของตัวเองไป
ช่วงชีวิตของเราในตอนนี้อาจจะพรากเวลาที่ทำให้เราไม่ได้นึกถึงความใฝ่ฝันนั้น
บางทีเราอาจลืมไปชั่วขณะ
แต่ไม่ได้หมายความว่าเราลืมมันไปแล้ว
หรือจำไม่ได้แล้ว ...
เราเหลือบไปมองเห็นกล้องถ่ายรูปที่เราเอาติดตัวมาด้วยตั้งแต่เริ่มมาเรียนต่อที่นี่
มันตั้งอยู่บนโต๊ะที่มีกองหนังสือเรียนเต็มไปหมด แล้วช่วงหลังๆ มานี่ก็เหมือนจะไม่ค่อยใส่ใจมันซักเท่าไหร่
หลังจากมองมันซักพักและคิดอะไรบางอย่างได้
สุดท้ายเราก็เดินไปหยิบกล้องถ่ายรูปนั้นขึ้นมา
…
สิ่งที่เราชอบที่สุด มันคืออะไรนะ ?
ถ้าได้ทำมันเราจะมีความสุขใช่มั้ย ?
นานแค่ไหนแล้วนะที่เราไม่ได้ออกไปถ่ายรูปเลย
แล้วเรากำลังหลงลืมอะไรไปรึเปล่า
จากนั้นเราตัดสินใจเดินออกไปข้างนอกห้อง ชวนรุ่นพี่ซึ่งเป็นเพื่อนร่วมห้องคนนึงออกไปถ่ายรูปเล่น
ในตอนนั้นเราไม่ได้คิดอะไรทั้งนั้น
แค่คิดว่าเราอยากถ่ายรูป
เราต้องออกไปถ่ายรูปแค่นั้นเอง
ก่อนหน้านี้ เราเองยอมรับว่าเราสร้างข้ออ้างที่จะทำมันเหลือเกินทั้ง ๆ ที่เป็นสิ่งที่เราชอบ
และเราคิดว่าต่อไปนี้
เราจะไม่เอาสิ่งต่าง ๆ มาเป็นข้ออ้างอีกต่อไป
เราจะไม่เอาเวลามาเป็นข้ออ้าง
เราจะไม่เอาความเหนื่อยล้ามาเป็นข้ออ้าง
หน้าที่ที่ต้องทำ
เราทำมันให้ดีที่สุดในทุกๆ วัน
ความใฝ่ฝัน
ไล่ตามมันไปเถอะ
ในเมื่อมันเป็นสิ่งที่คุณชอบ ไม่ทำวันนี้ จะทำวันไหน
ใช่มั้ยคะ
ถ้าจะถามถึงการประสบความสำเร็จในสิ่งที่คุณใฝ่ฝัน
เราเองก็อยากจะนำคำพูดดี ๆ ที่พี่สิงโต นำโชค ได้พูดไว้ในรายการ The voice Thailand ว่า
" มีคนถามผมว่าถ้าไม่ประสบความสำเร็จทางด้านดนตรี ชีวิตนี้จะไปทำอะไรต่อ?
ผมก็เลยถามเขากลับไปว่า แล้วอะไรคือคำว่าประสบความสำเร็จทางด้านดนตรี?
ต้องมีชื่อเสียงโด่งดังใช่มั้ย? ต้องมีเพลงฮิตใช่มั้ย?
แบบนี้ใช่มั้ยถึงจะเรียกว่าสำเร็จ ถึงจะมีความสุข?"
"ผมว่าจริงๆ แล้วการที่เราได้ขึ้นมาร้องเพลงบนเวที
การที่เราได้หยิบกีตาร์มาร้องเพลงในร้านอาหาร
ผมว่าสิ่งนี้แหละคือความสำเร็จแล้ว
"ถ้ากลับบ้านไป มีคนถามคุณว่าประสบความสำเร็จมั้ย?
ให้คุณตอบไปเลยว่าประสบความสำเร็จ
ตั้งแต่วันที่กล้าก้าวเข้ามาประกวดบนเวทีแห่งนี้แล้ว
เพราะฉะนั้น ไม่มีเหตุผลเลยที่คุณจะหยุดร้องเพลง
เพียงเพราะไม่ได้ถูกผมเลือกให้เข้ารอบต่อ"
และสำหรับตัวเราเอง แค่นางแบบนายแบบชอบภาพที่เราถ่ายให้
แค่พี่ ๆ เขาพูดว่า ชอบรูปมากเลย รูปสวยมากเลย เราก็ดีใจมากแล้ว
แค่นี้ ตัวเราเองเราถือว่าเราประสบความสำเร็จแล้ว
ตอนนี้เราอาจจะไม่เก่ง ไม่เห็นเป็นไร
เราอาจจะยังถ่ายรูปไม่สวย หรืออาจจะยังไม่มืออาชีพ
ยังมีความรู้ในแขนงนี้ให้เราศึกษาอีกตั้งมากมาย
แค่อย่าหลงลืมที่จะฝึกฝนมันบ้าง
ต่อจากนี้เราเองก็คงเดินตามมันไปเรื่อย ๆ มีความสุขที่ได้ทำมัน แค่นี้ก็พอใจแล้ว
แด่
พ่อและแม่ ผู้ที่ให้กำลังใจ , แรงผลักดัน และการสนับสนุนเรื่อยมา
และ
ทุกคนที่มีความใฝ่ฝัน
---------------------------
กระทู้แรกเลยตื่นเต้น
ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณ นิโคล พี่เบียร์ พี่ฟุ้ง พี่ปุ๋งปิ๋ง พี่แนน มากมากที่ออกไปถ่ายรูปเล่นด้วยกันนะคะ
แล้วก็ขอขอบคุณทุกๆคนที่เข้ามาเยี่ยมชมกระทู้นี้
เขียนผิดพลาดยังไงขออภัยด้วยนะคะ บางทีก็กลัวกระทู้ตัวเองจะขยะ
แบบอีนี่มาเวิ่นเว้อเว้นวรรคอะไรก็ไม่รู้
แต่มีเพื่อนคนนึงบอกว่า เขียนเถอะ ให้ Pantip เป็นเหมือนไดอารี่ของเรา
แล้วเราจะภูมิใจที่ได้บอกเล่าประสบการณ์ดีๆ ให้คนอื่นได้รู้
ถึงพี่ ๆ ที่อาศัยอยู่ที่ Melbourne ไม่ว่าจะเรียนหรือทำงาน ว่าง ๆ ไปถ่ายรูปเล่นกันนะคะ
แล้วก็ สู้ ๆ กับทุกสิ่งที่กำลังเผชิญอยู่ตอนนี้ เรารู้ค่ะว่า ชีวิตเด็กนอกต้องแข็งแรงแค่ไหน
เรื่องภาพถ่าย พี่ๆ เซียนภาพถ่ายบุคคลขาอย่าแสดงความคิดเห็นต่อหนูโหดมากนะคะ
หนูจิตใจอ่อนไหว ไม่ได้ Strong อะไรรรรร 55555555555
แต่ไม่ว่ายังไงก็ขอขอบคุณล่วงหน้าสำหรับทุกคำสอนค่ะ
หนึ่งความใฝ่ฝันที่มี กับการมาเป็นเด็กนักเรียนนอกที่ Melbourne เมื่อมันสวนทางกัน ฉันไม่เป็นไร
ใฝ่ฝันอยากไปท่องเที่ยวรอบโลก
ใฝ่ฝันถึงอาชีพในอนาคต
ความสำเร็จ
ร่ำรวย
หน้าที่การงาน
ความรักที่สวยงาม
ครอบครัวที่สมบูรณ์
...
ซึ่งเราฝันอยากจะเป็นช่างภาพเก่ง ๆ คนหนึ่ง …
เราได้มีโอกาสมาเรียนต่อด้านภาษาที่ Melbourne
ใครกันนะที่บอกว่าเป็นนักเรียนนอกมันสบาย อยากจะมองแรงจริง ๆ
เรียน 5 วันตั้งแต่เช้าถึงบ่าย
เรียนเสร็จบ่ายก็รีบออกไปทำงานพิเศษ
เลิกงานกลับถึงบ้านเที่ยงคืน
การบ้านก็ต้องทำ หนังสือก็ต้องอ่าน จะขาดเรียนที attendance ก็ตามหลอกหลอน
วันหยุดเหรอ ตื่นนอนก็ปาเข้าไปเกือบบ่าย อาบน้ำกินข้าวเสร็จก็รีบออกไปทำงานพิเศษต่อ
ความเป็นจริงแล้วยอมรับว่าชีวิตที่นี่ผิดจากที่คิดไว้มากเลยล่ะ
ภาระหน้าที่ที่สำคัญกว่าอาจทำให้เราหลงลืมความใฝ่ฝันของตัวเองไป
ช่วงชีวิตของเราในตอนนี้อาจจะพรากเวลาที่ทำให้เราไม่ได้นึกถึงความใฝ่ฝันนั้น
บางทีเราอาจลืมไปชั่วขณะ
แต่ไม่ได้หมายความว่าเราลืมมันไปแล้ว
หรือจำไม่ได้แล้ว ...
เราเหลือบไปมองเห็นกล้องถ่ายรูปที่เราเอาติดตัวมาด้วยตั้งแต่เริ่มมาเรียนต่อที่นี่
มันตั้งอยู่บนโต๊ะที่มีกองหนังสือเรียนเต็มไปหมด แล้วช่วงหลังๆ มานี่ก็เหมือนจะไม่ค่อยใส่ใจมันซักเท่าไหร่
หลังจากมองมันซักพักและคิดอะไรบางอย่างได้
สุดท้ายเราก็เดินไปหยิบกล้องถ่ายรูปนั้นขึ้นมา
…
สิ่งที่เราชอบที่สุด มันคืออะไรนะ ?
ถ้าได้ทำมันเราจะมีความสุขใช่มั้ย ?
นานแค่ไหนแล้วนะที่เราไม่ได้ออกไปถ่ายรูปเลย
แล้วเรากำลังหลงลืมอะไรไปรึเปล่า
จากนั้นเราตัดสินใจเดินออกไปข้างนอกห้อง ชวนรุ่นพี่ซึ่งเป็นเพื่อนร่วมห้องคนนึงออกไปถ่ายรูปเล่น
ในตอนนั้นเราไม่ได้คิดอะไรทั้งนั้น
แค่คิดว่าเราอยากถ่ายรูป
เราต้องออกไปถ่ายรูปแค่นั้นเอง
ก่อนหน้านี้ เราเองยอมรับว่าเราสร้างข้ออ้างที่จะทำมันเหลือเกินทั้ง ๆ ที่เป็นสิ่งที่เราชอบ
และเราคิดว่าต่อไปนี้
เราจะไม่เอาสิ่งต่าง ๆ มาเป็นข้ออ้างอีกต่อไป
เราจะไม่เอาเวลามาเป็นข้ออ้าง
เราจะไม่เอาความเหนื่อยล้ามาเป็นข้ออ้าง
หน้าที่ที่ต้องทำ
เราทำมันให้ดีที่สุดในทุกๆ วัน
ความใฝ่ฝัน
ไล่ตามมันไปเถอะ
ในเมื่อมันเป็นสิ่งที่คุณชอบ ไม่ทำวันนี้ จะทำวันไหน
ใช่มั้ยคะ
ถ้าจะถามถึงการประสบความสำเร็จในสิ่งที่คุณใฝ่ฝัน
เราเองก็อยากจะนำคำพูดดี ๆ ที่พี่สิงโต นำโชค ได้พูดไว้ในรายการ The voice Thailand ว่า
" มีคนถามผมว่าถ้าไม่ประสบความสำเร็จทางด้านดนตรี ชีวิตนี้จะไปทำอะไรต่อ?
ผมก็เลยถามเขากลับไปว่า แล้วอะไรคือคำว่าประสบความสำเร็จทางด้านดนตรี?
ต้องมีชื่อเสียงโด่งดังใช่มั้ย? ต้องมีเพลงฮิตใช่มั้ย?
แบบนี้ใช่มั้ยถึงจะเรียกว่าสำเร็จ ถึงจะมีความสุข?"
"ผมว่าจริงๆ แล้วการที่เราได้ขึ้นมาร้องเพลงบนเวที
การที่เราได้หยิบกีตาร์มาร้องเพลงในร้านอาหาร
ผมว่าสิ่งนี้แหละคือความสำเร็จแล้ว
"ถ้ากลับบ้านไป มีคนถามคุณว่าประสบความสำเร็จมั้ย?
ให้คุณตอบไปเลยว่าประสบความสำเร็จ
ตั้งแต่วันที่กล้าก้าวเข้ามาประกวดบนเวทีแห่งนี้แล้ว
เพราะฉะนั้น ไม่มีเหตุผลเลยที่คุณจะหยุดร้องเพลง
เพียงเพราะไม่ได้ถูกผมเลือกให้เข้ารอบต่อ"
และสำหรับตัวเราเอง แค่นางแบบนายแบบชอบภาพที่เราถ่ายให้
แค่พี่ ๆ เขาพูดว่า ชอบรูปมากเลย รูปสวยมากเลย เราก็ดีใจมากแล้ว
แค่นี้ ตัวเราเองเราถือว่าเราประสบความสำเร็จแล้ว
ตอนนี้เราอาจจะไม่เก่ง ไม่เห็นเป็นไร
เราอาจจะยังถ่ายรูปไม่สวย หรืออาจจะยังไม่มืออาชีพ
ยังมีความรู้ในแขนงนี้ให้เราศึกษาอีกตั้งมากมาย
แค่อย่าหลงลืมที่จะฝึกฝนมันบ้าง
ต่อจากนี้เราเองก็คงเดินตามมันไปเรื่อย ๆ มีความสุขที่ได้ทำมัน แค่นี้ก็พอใจแล้ว
แด่
พ่อและแม่ ผู้ที่ให้กำลังใจ , แรงผลักดัน และการสนับสนุนเรื่อยมา
และ
ทุกคนที่มีความใฝ่ฝัน
กระทู้แรกเลยตื่นเต้น
ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณ นิโคล พี่เบียร์ พี่ฟุ้ง พี่ปุ๋งปิ๋ง พี่แนน มากมากที่ออกไปถ่ายรูปเล่นด้วยกันนะคะ
แล้วก็ขอขอบคุณทุกๆคนที่เข้ามาเยี่ยมชมกระทู้นี้
เขียนผิดพลาดยังไงขออภัยด้วยนะคะ บางทีก็กลัวกระทู้ตัวเองจะขยะ
แบบอีนี่มาเวิ่นเว้อเว้นวรรคอะไรก็ไม่รู้
แต่มีเพื่อนคนนึงบอกว่า เขียนเถอะ ให้ Pantip เป็นเหมือนไดอารี่ของเรา
แล้วเราจะภูมิใจที่ได้บอกเล่าประสบการณ์ดีๆ ให้คนอื่นได้รู้
ถึงพี่ ๆ ที่อาศัยอยู่ที่ Melbourne ไม่ว่าจะเรียนหรือทำงาน ว่าง ๆ ไปถ่ายรูปเล่นกันนะคะ
แล้วก็ สู้ ๆ กับทุกสิ่งที่กำลังเผชิญอยู่ตอนนี้ เรารู้ค่ะว่า ชีวิตเด็กนอกต้องแข็งแรงแค่ไหน
เรื่องภาพถ่าย พี่ๆ เซียนภาพถ่ายบุคคลขาอย่าแสดงความคิดเห็นต่อหนูโหดมากนะคะ
หนูจิตใจอ่อนไหว ไม่ได้ Strong อะไรรรรร 55555555555
แต่ไม่ว่ายังไงก็ขอขอบคุณล่วงหน้าสำหรับทุกคำสอนค่ะ
ภาพที่ 1- 4 Graffiti Lane
ภาพที่ 5 และ 8 Flinder st station
ภาพที่ 6 และ 7 Chaina town
ภาพที่ 1 Graffiti Lane
ภาพที่ 2 Dockland
ภาพที่ 3 Swonton St.
ภาพที่ 4 ถึงภาพสุดท้าย Flinder st station