สวัสดีค่ะ เราเองก็เป็นหนึ่งในบรรดาแม่ลูกอ่อน ที่ต้องเลี้ยงลูกเองตลอด 24 ชม. ทำให้ไม่สามารถออกไปทำงานหาเงินได้ แล้วลำพังรายได้จากสามีก็ไม่ค่อยจะพอใช้ ใครเคยคิดเหมือนเราบ้างมั้ยคะ เช่น ทำไมไม่มีที่ไหนเค้าจ้างทำงานแล้วให้เอาลูกไปเลี้ยงได้ด้วยบ้างหรือบางครั้งก็มีคำพูดจากคนรอบข้างหรือสามีว ยังไม่ต้องคิดจะไปทำอะไรหรอก เ แค่เลี้ยงลูกให้ดีๆก็พอแล้ว แต่คชก็เคยเป็นจ.ที่คุณสามีนึกถึงมีแต่คชจ.ของลูก แล้วชั้นล่ะ??? ชั้นเองเป็นผู้หญิง แค่มีลูกก็อ้วนเผละแล้ว แต่หนังหน้าชั้น ยังไงก็ควรจะได้รับการบำรุงบ้าง ชั้นยังไม่อยากรีบเป็นป้าอย่างสมบูรณ์แบบหรอกนะ แต่ แต่ แต่ ครั้นจะพูดไปก็กลัวจะมีคำพูดกลับมาว่า มีลูกแล้วก็ควรจะสนใจแต่ลูกสิ ไม่ใช่จะมัวมาห่วงสวยอีก ก่อนจะมีครอบครัวก่อนจะมีลูก เชื่อว่าแม่ๆหลายคนเคยเป็น working women ตัวฉกาจ ทั้งหาเงินเก่งทั้งแต่งตัวเก่ง แล้วพอมาถึงจุดๆนี้ กลับทำอะไรไม่ได้ซักอย่าง ได้แต่ก้มหน้าก้มตาเลี้ยงลูก หัวยุ่งตัวเหม็น ไม่เหลือคราบสาวมาดเนี้ยบแถมอารมณ์ขันที่เคยมีก็หายไป เดินผ่านกระจกที ตกใจนึกว่าป้าที่ไหนมาอยู่ในกระจก มองชัดๆ อุ๊ยตายชั้นเองนี่หว่า .อย่ากระนั้นเลย .หาอะไรทำเถอะ จะได้มีเงินมีรายได้ของตัวเอง เวลาจะใช้อะไรส่วนตัวจะได้ไม่ต้องรู้สึกประดักประเดิด .
แต่...แล้วจะทำอะไรดีล่ะ 1.หาสมัครงาน - สมัครได้ เค้ารับ แล้วลูกล่ะ??? ไม่มีใครเลี้ยง 2.ไปขายของตามตลาดนัด - แล้วลูกล่ะ??? ทนเห็นลูกต้องมาตรากตรำโดนแดดโดนลม
(หรือบางทีฝน) ก็ทนไม่ได้ สงสารลูก 3.ขายของออนไลน์ - อันนี้เข้าท่า ไม่ต้องออกไปไหน ทำไปเลี้ยงลูกไปได้ด้วย ทางนี้น่าจะตอบโจทย์ได้ดีที่สุดแล้ว แต่...ในความเป็นจริง แล้วจะขายอะไรล่ะ แถมเดี๋ยวนี้คนขายกันเกลื่อน มีทุกสิ่งให้เลือกซื้อ ไหนจะระดับห้างที่โดดเข้ามาจับธุรกิจออนไลน์กันอย่างเป็นล่ำเป็นสัน แล้วหน้าใหม่ไก่อ่อนอย่างเรา จะเอาอะไรไปสู้เค้า แค่เรื่องความน่าเชื่อถือ บรรดาห้างก็เอาไปกินแล้ว ไหนจะพวกรุ่นเก๋าๆที่เค้าทำมาก่อนจนอยู่ตัวอีก แต่อะลองซักตั้ง เอาของไม่ใช้มาขายมือสองนี่แหละ ขายไม่ได้ก็ไม่บาดเจ็บ ลงขายมันถูกๆ ลดแลกแจกแถมมันไปเลยจะได้น่าสนใจ .... ผลออกมา กริบค่ะ เงียบสนิท ไม่มีแมวมาซื้อซักชิ้นเลย เฮ้ออออ...ไม่บาดเจ็บ ใช่ค่ะ แต่มันปวดใจ แล้วช้านจะไปทำอะไรดี(โว้ยยยย) เนี่ยแหละค่ะ สิ่งที่เราเป็น สิ่งที่เรารู้สึก เป็นแบบนี้กันบ้างมั้ยคะ ทีนี้ก็เลยลองเสิร์ชหาไปเรื่อยๆ ดูนู่นนี่นั่นเพื่อหาทางออกให้ชีวิต จนมาคิดดูว่า .ถ้าบรรดาแม่ๆหลายคนต้องทนอึดอัดใจกับสภาพที่เป็นแบบนี้ตามลำพัง ยิ่งพยายามยิ่งไม่มีอะไรคืบหน้า เงินก็หาไม่ได้ แถมต้องจ่ายค่าเน็ตทุกวัน แย่ๆๆ แล้วถ้าหากเรารวมกลุ่มกันล่ะคะ เป็นกลุ่มของแม่ลูกอ่อน เรามารวมกลุ่มกันทำอะไรสักท
อย่าง(ที่ยังไม่รู้ว่าจะทำอะไรดี) การรวมมกลุ่กันจะทำให้เรามีความน่าเชื่อถือมากทขึ้นไหมมทำให้มีศักยภาพเพิ่มขึ้นหรือเปล่า จะดีกว่าไหมถ้าเราจะรวมตัวเพื่อช่วยกันคิดช่วยกันทำตามประสาหัวอกเดียวกัน ลองแชร์ความคิดกันหน่อยมั้ยคะ ว่าน่าจะทำได้ หรือว่ามันจะเป็แค่ความคิดเพ้อๆฝ้นๆของเราเองคนเดียวโดยไม่สามารถทำให้เกิดขึ้นได้จริงๆ *** ีพิมพ์ผิดบ้างคำกระโดดบ้างขออภัยด้วยนะคะ
มีไอเดียนิดหน่อยสำหรับแม่ลูกอ่อนที่อยากหารายได้ แต่ไม่รู้จะไปต่อได้ไหมน่ะค่ะ
แต่...แล้วจะทำอะไรดีล่ะ 1.หาสมัครงาน - สมัครได้ เค้ารับ แล้วลูกล่ะ??? ไม่มีใครเลี้ยง 2.ไปขายของตามตลาดนัด - แล้วลูกล่ะ??? ทนเห็นลูกต้องมาตรากตรำโดนแดดโดนลม
(หรือบางทีฝน) ก็ทนไม่ได้ สงสารลูก 3.ขายของออนไลน์ - อันนี้เข้าท่า ไม่ต้องออกไปไหน ทำไปเลี้ยงลูกไปได้ด้วย ทางนี้น่าจะตอบโจทย์ได้ดีที่สุดแล้ว แต่...ในความเป็นจริง แล้วจะขายอะไรล่ะ แถมเดี๋ยวนี้คนขายกันเกลื่อน มีทุกสิ่งให้เลือกซื้อ ไหนจะระดับห้างที่โดดเข้ามาจับธุรกิจออนไลน์กันอย่างเป็นล่ำเป็นสัน แล้วหน้าใหม่ไก่อ่อนอย่างเรา จะเอาอะไรไปสู้เค้า แค่เรื่องความน่าเชื่อถือ บรรดาห้างก็เอาไปกินแล้ว ไหนจะพวกรุ่นเก๋าๆที่เค้าทำมาก่อนจนอยู่ตัวอีก แต่อะลองซักตั้ง เอาของไม่ใช้มาขายมือสองนี่แหละ ขายไม่ได้ก็ไม่บาดเจ็บ ลงขายมันถูกๆ ลดแลกแจกแถมมันไปเลยจะได้น่าสนใจ .... ผลออกมา กริบค่ะ เงียบสนิท ไม่มีแมวมาซื้อซักชิ้นเลย เฮ้ออออ...ไม่บาดเจ็บ ใช่ค่ะ แต่มันปวดใจ แล้วช้านจะไปทำอะไรดี(โว้ยยยย) เนี่ยแหละค่ะ สิ่งที่เราเป็น สิ่งที่เรารู้สึก เป็นแบบนี้กันบ้างมั้ยคะ ทีนี้ก็เลยลองเสิร์ชหาไปเรื่อยๆ ดูนู่นนี่นั่นเพื่อหาทางออกให้ชีวิต จนมาคิดดูว่า .ถ้าบรรดาแม่ๆหลายคนต้องทนอึดอัดใจกับสภาพที่เป็นแบบนี้ตามลำพัง ยิ่งพยายามยิ่งไม่มีอะไรคืบหน้า เงินก็หาไม่ได้ แถมต้องจ่ายค่าเน็ตทุกวัน แย่ๆๆ แล้วถ้าหากเรารวมกลุ่มกันล่ะคะ เป็นกลุ่มของแม่ลูกอ่อน เรามารวมกลุ่มกันทำอะไรสักทอย่าง(ที่ยังไม่รู้ว่าจะทำอะไรดี) การรวมมกลุ่กันจะทำให้เรามีความน่าเชื่อถือมากทขึ้นไหมมทำให้มีศักยภาพเพิ่มขึ้นหรือเปล่า จะดีกว่าไหมถ้าเราจะรวมตัวเพื่อช่วยกันคิดช่วยกันทำตามประสาหัวอกเดียวกัน ลองแชร์ความคิดกันหน่อยมั้ยคะ ว่าน่าจะทำได้ หรือว่ามันจะเป็แค่ความคิดเพ้อๆฝ้นๆของเราเองคนเดียวโดยไม่สามารถทำให้เกิดขึ้นได้จริงๆ *** ีพิมพ์ผิดบ้างคำกระโดดบ้างขออภัยด้วยนะคะ